รัฐยิวระดมพล-ถล่มตลาดกาซาต่อ สหรัฐฯ “ประณาม” แต่รีบ “ส่งกระสุน”
นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ประกาศชัดไม่ยอมรับข้อตกลงหยุดยิงที่ห้ามอิสราเอลเดินหน้าทำลายเครือข่ายอุโมงค์ใต้ดินในฉนวนกาซาของนักรบฮามาสให้สิ้นซาก นอกจากนั้นเขายังเรียกระดมทหารกองหนุนเพิ่มอีก 16,000 นายเตรียมพร้อมขยายการบุกภาคพื้นดิน
ส่วนทางอเมริกาแม้ด้านหนึ่งตำหนิการโจมตีค่ายผู้ลี้ภัยยูเอ็นในกาซา แต่อีกด้านกลับอนุมัติการจัดหากระสุนเพิ่มให้รัฐยิว ขณะเดียวกัน ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนสหประชาชาติประณามอย่างเหลืออดต่อการโจมตีโรงเรียนของยูเอ็นว่า รัฐยิวจงใจละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ
วารีนา ปุญญาวัณน์
กลับหน้าหลัก
สภาคองเกรสสหรัฐฯ อนุมัติงบประมาณฉุกเฉิน 225 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 7,230 ล้านบาท) เพื่อเสริมระบบป้องกันขีปนาวุธ “ไอรอนโดม” (Iron Dome) ของอิสราเอล วานนี้(1) โดยเตรียมส่งให้ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ลงนามเพื่อมีผลบังคับใช้เป็นกฎหมาย
ตอบลบสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯ ลงมติ 395-8 เสียงให้จัดสรรงบประมาณอุดหนุนระบบป้องกันขีปนาวุธอิสราเอล หลังจากที่วุฒิสภาโหวตผ่านร่างกฎหมายนี้อย่างเป็นเอกฉันท์เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้า
งบประมาณก้อนนี้จะถูกนำไปใช้จัดส่งขีปนาวุธเพิ่มเติมไปยังรัฐยิว หลังจากที่กองทัพอิสราเอลได้ระดมยิงขีปนาวุธใส่ฉนวนกาซาเพื่อตอบโต้จรวดพิสัยใกล้ของกลุ่มฮามาสในการสู้รบนองเลือดตลอดช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา
ร่างงบประมาณฉบับก่อนหน้านี้ไม่ผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภาในวันพฤหัสบดี(31) เนื่องจาก ส.ว.รีพับลิกันคัดค้านการนำงบก้อนใหญ่ไปใช้อุดหนุนมาตรการรับมือวิกฤตผู้อพยพบริเวณพรมแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโก
อย่างไรก็ดี ทั้ง 2 สภาได้พิจารณาผ่านร่างงบประมาณอุดหนุนระบบไอรอนโดมของอิสราเอลเป็นการเฉพาะ
ทำเนียบขาวยังไม่แถลงชัดเจนว่าประธานาธิบดี บารัค โอบามา จะลงนามในร่างงบประมาณนี้หรือไม่ แต่สัปดาห์นี้มีเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ หลายคนออกมากล่าวชื่นชมประสิทธิภาพของระบบไอรอนโดม
เนื่องจากงบประมาณดังกล่าวถูกจัดเป็น “งบฉุกเฉิน” เช่นเดียวกับค่าใช้จ่ายเพื่อการบรรเทาทุกข์กรณีเกิดสงครามหรือภัยธรรมชาติ ดังนั้น วงเงิน 225 ล้านดอลลาร์จะถูกรวมเป็นยอดขาดดุลงบประมาณของสหรัฐฯ และไม่ต้องนำเงินส่วนอื่นมาชดเชย
ระบบไอรอนโดมซึ่งมีสหรัฐฯเป็นผู้สนับสนุนหลัก สามารถยิงทำลายขีปนาวุธส่วนใหญ่ที่กลุ่มติดอาวุธฮามาสยิงเข้าไปในดินแดนยิว ซึ่งช่วยให้อิสราเอลสูญเสียน้อยกว่าสงครามครั้งก่อนๆ
ระบบไอรอนโดมผลิตโดย 3 บริษัทคู่สัญญารายใหญ่ของกองทัพอิสราเอล ได้แก่ เอลิสรา กรุ๊ป, อิสราเอล แอโรสเปซ อินดัสตรีส์ และ ราฟาเอล แอดวานสท์ ดีเฟนซ์ ซิสเต็มส์ นอกจากนี้ยังใช้อะไหล่บางชิ้นที่ผลิตโดยบริษัทอาวุธ เรย์ธีออน ของสหรัฐฯ
วิกฤติอูเครนไม่เพียงแต่พัฒนาอย่างรวดเร็วกลายเป็นสงครามเย็นไปแล้วเท่านั้น แต่กำลังจะเป็นสงครามเผชิญหน้าระหว่างสหรัฐฯ + NATO กับรัสเซีย ถ้าสถานการณ์ยังคงดำเนินไปในรูปแบบนี้ โดยศูนย์กลางของสงครามและความขัดแย้งคือดอนบาส์ (Donbass) หรือเขตอุตสาหกรรมทางตะวันออกของอูเครน ซึ่งมีอุตสาหกรรมและทรัพยากรธรรมชาติมาก ประชาชนส่วนใหญ่มีเชื้อสายรัสเซีย พูดภาษารัสเซีย มีเมืองดาเนียตสก์ (Donetsk) อยู่ในเขตดอนบาส์ (Donbass) นี้ ซึ่งเป็นบริเวณที่ MH17 ถูกยิงตก
ตอบลบ