เพลงฉ่อยชาววัง

วันพฤหัสบดีที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2566

ก้าวไกล ใครคืออัจฉริยะ ผู้อยู่เบื้องหลังการวางแผนสู่ความสำเร็จ


สามก๊ก เป็นเรื่องแต่ง 95% ผมแค่เปรียบเทียบให้เข้าใจง่าย เท่านั้น อย่าถามว่า คนนั้นคือใครในสามก๊ก  

นิยายที่อิงชื่อคนประวัติศาสตร์ ให้สนุก 

อย่าหลงกับดักผู้ประพันธ์ ล่อกวนตง



สี่นักการเมืองที่อาจารย์ชื่นชอบ

1. ศิธา (พี่ปุ่น)จูล่ง แก้ปัญหาเฉพาะหน้าเก่ง ปฎิภาณไหวพริบดีมาก เป็นนักรบที่เก่งวางแผนครบทุกครั้งชนะทุกครั้งไม่เคยแพ้เลย คือไม่ได้รู้แค่ว่าตัวเองมีไพ่อะไรในมือแต่รู้ว่าในมือของฝ่ายตรงกันข้ามมีไพ่อะไร เพราะฉลาดและจดจำได้ว่าคุณทิ้งไพ่อะไรคุณกำลังมีไพ่อะไรในมือ พูดง่ายๆคือเดาว่าในมือคุณมีไพ่อะไร
พี่ปุ่นจึงเปรียบเสมือนจูล่งผู้ชาญฉลาดคุณเล่นไพ่กับเขาคุณแพ้แน่นอนเลย 100 ครั้งคุณอาจจะชนะไม่ถึง 20 ครั้งแล้วคุณก็ถือว่ามีเกียรติมากที่ได้เล่นไพ่กับเขา เป็นสุดยอดของนักดีเบตที่หาตัวจับยากมาก มีปฏิภาณไหวพริบดีมากถ้าคุณส่งลูกกระจ๊อกไปดีเบตกับพี่ปุ่นมีแต่ตายกับตาย 


2. ชัชชาติ (ทริป) ซุนกวน รอบรู้ รู้ข้อดีข้อเสียของคนยุคเก่าและคนยุคใหม่ มีความรอบรู้ทันสมัย ศึกษารุ่นพ่อรุ่นพี่ แตกต่างกับจูล่งเพราะมีทีมเป็นของตัวเองมีกองกำลังเป็นของตัวเองเป็นหนึ่งในผู้นำของสามก๊ก ที่เก่งทั้งบู๊ทั้งบุ๋น ใช้คนได้เก่ง รอบรู้ศาสตร์ทุกแขนง

มีความจำเป็นเลิศเข้าใจยุทธวิธีที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ เป็นคนเก่งจริงคือเรียนก็เก่งด้วย เพราะมันมีแนวโน้มว่าบางคนเรียนเก่งแต่ทำงานไม่เก่งแต่คนนี้ทั้งเรียนเก่งและทำงานเก่งทั้งขยัน มีการวางแผนและเตรียมงานก่อนที่จะลงเลือกตั้งผู้ว่าอย่างน้อยถึง 2 ปีมีการไปดูงานต่างประเทศ ไปสอบถามว่า แบบนี้ถ้ามีปัญหาเขาทำยังไงกัน เช่นการจัดการขยะ การจัดการกับสวนสาธารณะในเมืองที่เขาพัฒนาแล้วเขาดูแลกันอย่างไร? เราจึงเห็นงานที่ออกมาจากผลงานอาจารย์ชัชชาติเกิดจากการทำการบ้านมาอย่างดี (อันนี้ความเห็นผู้เขียน)การจัดกระบวนทัศน์ในการหาเสียงใช้คนได้ถูกงาน เวลาประชุมทุกครั้งข้อมูลตั้งแต่ต้นประชุมจนถึงการจบประชุมจะไม่มีผิดเลยมีการผิดพลาดตรงไหนจะรีบแก้ได้ทันทีตอบคำถามได้ตลอดเวลาและไม่ว่าใครหรือผู้เชี่ยวชาญคนไหนมาอธิบายข้อมูลที่ยุ่งยากซับซ้อนก็สามารถเข้าใจได้โดยง่ายเพราะว่าทำการบ้านมาแล้วและทุกอย่างอยู่ในหัว

อาจารย์มีการเน้นพูดถึงว่าการกินน้อยมื้อทำให้สุขภาพแข็งแรงคงจะหมายถึงว่าคุณชัชชาติก็คงจะไม่ทานเยอะ
3. โทนี่ ทักษิณ ชินวัตร อาจารย์เปรียบว่าโทนี่เหมือนโจโฉ เป็นนักการเมืองที่ประสบความสำเร็จที่สุดในเมืองไทย  พูดถึงบุคลิกของโจโฉหมายถึงโทนี่ถ้าคุณไปถามคนจีนเขาจะบอกว่าเป็นผู้บริหารที่ดีที่สุดในสามก๊กไม่ฉะนั้นทำไมถึงมีผู้มาสวามิภักดิ์กับพรรคโจโฉมากขนาดนั้นเหรอ แต่สิ่งที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์มากที่สุดของโจโฉก็คือโจโฉยอมทำผิด 1 ส่วนเพื่อให้ได้เกิดประโยชน์ 4 ส่วน ยอมให้มีคนตาย 1 หมู่บ้านเพื่อที่จะเซฟคนทั้งจังหวัด ทำให้เกิดข้อวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการกระทำที่ถูกต้องหรือเปล่า บางคนก็ชอบบางคนก็ไม่ชอบ และนโยบายเหล่านี้ทำให้เกิดการแบ่งขั้วทางการเมือง แต่สิ่งที่ต้องยอมรับคือเสียงส่วนมากชอบโจโฉ นโยบายจัดการบริหารเกี่ยวกับระบบเศรษฐกิจที่ลงไปถึงรากหญ้านโยบายที่ชาวบ้านบอกว่าจับต้องได้ คือชาวบ้านรู้สึกได้เลยว่าเศรษฐกิจมันดีขึ้นชาวบ้านมีเงินเข้ามามากขึ้น ทั้งนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรคตอนหาเสียงมีแต่คนหัวเราะเยาะว่าทำไม่ได้ 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์โอ้โหอันนี้กระตุ้นเศรษฐกิจถึงรากหญ้าเลย เงินทุนดอกเบี้ยต่ำอันนี้สำหรับ sme  

จากนั้นอาจารย์พูดถึงโทนี่ติดตามรายการของอาจารย์แล้วก็รับฟังการวิจารณ์และนำไปปฏิบัติด้วย ทักษิณฝากแกนนำของพรรคเพื่อไทยมาบอกอาจารย์ว่าได้ติดตามฟังรายการของอาจารย์ทุกคลิป และยังใจกว้างขอร้องให้อาจารย์วิจารณ์พรรคเพื่อไทยด้วย ถ้าทำอะไรไม่ถูกต้องไม่ดี

มีคลิปที่ออกมาก่อน1 สัปดาห์ของอาจารย์พอคุณทักษิณฟังก็ Twitter เลยว่าเพื่อไทยไม่ร่วมมือกับพรรคพลังประชารัฐแน่นอน  (ซึ่ง อาจารย์วิจารณ์ไว้ว่าถ้าทำอย่างนั้นก็คือโง่สุดๆ ) จากนั้นวันต่อมา…ท่าทีของพรรคเพื่อไทยที่ร่วมมือกับก้าวไกลก็จะชัดเจนมั่นคงไม่มีคลุมเครืออีกต่อไป และการที่คุณโทนี่เป็นคนใจกว้างยอมรับการวิพากษ์วิจารณ์แสดงว่าเป็นนักประชาธิปไตยตัวจริง ไม่ปิดกั้นความเห็นต่าง ถือว่าเป็นนักการเมืองที่ประสบความสำเร็จมากในการดึงมวลชน 


ถึงตรงนี้หลายคนก็บอก “เอ๊ะยังมีใครอีกคนหนึ่งที่เก่งกว่าคุณทักษิณชินวัตรอีกเหรอ?


มีครับ เพราะเก่งจนคุณทักษิณต้องยอมรับ เก่งจนคุณทักษิณต้องตะลึง คนๆนั้นคือ… ใครกันนะ?? เขาคือบัณฑิตคนหนึ่งซึ่งมีฐานะเป็นชนชั้นกลางไม่ได้ร่ำรวยมากมายเหมือนอาจารย์นี่แหละ เขาเคยอยู่ในหอพักที่อยู่ตรงกันข้ามกับหอพักของอาจารย์ในซอยกิ่งเพชรพญานาคนี่แหละ เรียนโรงเรียนเดียวกันมหาลัยเดียวกัน แต่ว่ามีอุดมการณ์ทางการเมืองที่แน่วแน่และ มีแนวคิดที่ดีเป็นประโยชน์  และสามารถ ช่วงชิงมวลชนได้มหาศาล 

แต่ว่าแนื่องจากตัวเองไม่มีตังค์ นักการเมืองคนนี้เปรียบเสมือนเป็นขงเบ้ง (จูกัดเหลียง)
(จูกัดเหลียง มีชื่อในภาษาจีนกลางว่า จูเก่อ เลี่ยง ชื่อรอง ขงเบ้ง หรือในภาษาจีนกลางว่า ข่งหมิง เป็นรัฐบุรุษและนักยุทธศาสตร์การทหารชาวจีน ดำรงตำแหน่งอัครมหาเสนาบดีแห่งรัฐจ๊กก๊กในยุคสามก๊ก ได้รับการยอมรับว่าเป็นนักยุทธศาสตร์ที่ประสบความสำเร็จที่สุดในยุคสามก๊ก)
เมื่อไม่มีตังค์ แต่มีอุดมการณ์ ขงเบ้งจึงต้องไปหาเล่าปี่ (ซึ่งก็คือคุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ)บอกว่า “เฮ้ยเล่าปี่เรามีแนวคิดการเมืองแบบนี้ เรามาทำพรรคการเมืองใหม่กันไหม? เล่าปี่เห็นด้วยและมาเป็นผู้นำพรรคซึ่งก็คือพรรคอนาคตใหม่ และคุณต้องไม่ลืมนะว่าเล่าปี่นั้นให้ความเคารพ จูกัดเหลียง หรือขงเบ้งอย่างชนิดที่เรียกว่าสั่งการแทนได้ และแนวคิดนั้นก็คือพรรคอนาคตใหม่ซึ่งประสบความสำเร็จมากในการเลือกตั้งปี 2562 อย่างชนิดที่ไม่มีใครคาดคิด ด้วยสติปัญญาของจูกัดเหลียงคนนี้ ก่อนจะลงสส.ปาร์ตี้ลิสหรือจะลงส.ส. เขตไหนก็ขึ้นอยู่กับจูกัดเหลียง แต่ว่าจูกัดเหลียงยังอยู่หลังม่านไม้ไผ่ไม่แสดงตน จนกระทั่งพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ ซึ่งก็ไม่ผิดคาดของคนที่มีสติปัญญาระดับจูกัดเหลียง และมันถึงเวลาที่จะออกมาจากหลังม่านไม้ไผ่ออกมาให้สาธารณชนได้เห็นหน้า นั่นคือยืนอยู่ในตำแหน่งเลขาธิการของพรรคใหม่ที่ชื่อว่าพรรคก้าวไกล และไม่ว่าผู้นำพรรคจะเป็นเล่าปี่หรือเล่าเสี้ยน แต่ทุกคนก็รู้กันดีว่า ผู้นำตัวจริง คือจูกัดเหลียง  ชัยธวัช ตุลาธน (ต๋อม)ผู้นี้
(เล่าเสี้ยน หรือชื่อในภาษาจีนกลางว่า หลิว ช่าน มีชื่อรองว่า กงซื่อ เป็นจักรพรรดิพระองค์ที่สองและพระองค์สุดท้ายของรัฐจ๊กก๊กในยุคสามก๊ก เมื่อขึ้นครองราชย์ขณะพระชนมายุ 16 พรรษา ได้ทรงมอบหมายราชการแผ่นดินให้อยู่ในการดูแลของอัครมหาเสนาบดีจูกัดเหลียงและราชเลขานุการลิเงียม)


จูกัดเหลียง  ชัยธวัช เขาคือผู้วางแผนทุกอย่างและทุกคนก็เห็นแล้วว่าก้าวไกลประสบความสำเร็จสูงมากในการเลือกตั้งปี 66 โจโฉหรือโทนี่ วู๊ดซัม ยังยอมรับว่าชัยธวัชเก่งมากเก่งกว่าเขา

จูกัดเหลียง  ชัยธวัช กระโดดมาประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว โดยที่ทุนรอนหรือพลพรรคมีน้อยมาก ถ้าเปรียบเทียบในวงการภาพยนตร์เขาก็เป็นเหมือนผู้กำกับที่มีฝีมือและได้รับมอบหมายให้มาสร้างหนังกำกับหนังที่มีทุนน้อยมาก และไม่มีปัญญาจ้างดารานักแสดงที่ดังๆประชาชนรู้จัก ดารานั้นล้วนแต่หน้าใหม่ทั้งนั้นอาศัยฝีมือกำกับการแสดงอย่างเดียว เรียกว่าเป็นนักปั้นดาราไม่ว่าจะเอาใครมาเป็นพระเอก เป็นนางเอกทุกคนก็ตีบทแตกหลายคนได้เกิดจากภาพยนตร์ที่เขาสร้าง จะต้องเป็นผู้กำกับที่เก่งจริงๆที่จะทำได้ขนาดนี้ ในที่นี้ในพรรคก้าวไกลเขาต้องอาศัยอุดมการณ์,ยุทธศาสตร์และเพราะเขามีสติปัญญาที่เป็นเลิศ และด้วยโลก Social Media ในปัจจุบันนี้ด้วย

ถึงตรงนี้อาจารย์ออกตัวว่า…อาจารย์รู้จักคนเยอะเพราะมี Connection อาจารย์รู้ข้อมูลจริงจึงกล้าออกมาพูดในคลิปอย่างตรงไปตรงมาและอาจารย์ไม่ได้สนับสนุนพรรคใดพรรคหนึ่งเป็นพิเศษแต่อาจารย์สนับสนุนนโยบายเป็นหลัก ใครมีนโยบายที่ดีอาจารย์ก็สนับสนุนถ้านโยบายไม่ดีอาจารย์ก็วิจารณ์ และนักการเมืองหลายๆคนก็อยากให้อาจารย์พูดถึงส่วนดีของพรรคของเขา อาจารย์บอกว่าคุณต๋อมชัยธวัฒน์นี้เป็นคนมาบอกเป็นคนแรกว่า “อาจารย์ถ้าพรรคผมทำอะไรไม่ดีช่วยบอกผมหน่อย” แต่ส่วนมากอาจารย์จะวิจารณ์ส่วนตัวก่อนที่จะวิจารณ์ในที่สาธารณะ เช่นเรื่องค่าแรง 450 บาทอาจารย์บอกว่าให้ไปถามหอการค้าให้ดีก่อนที่จะมาประกาศว่าจะขึ้นค่าแรง 450 บาทเพราะอาจารย์ไม่รู้ว่าสถานการณ์การจ้างงานในเมืองไทยเป็นอย่างไรแต่ไม่รู้ว่าเป็นดวงหรือโชคช่วยที่พรรคเพื่อไทยดันมาประกาศ 600 บาทเสียก่อนเพราะฉะนั้นถ้า 450 ทำไม่ได้ก็ไม่ใช่เป็นจำเลยอันดับ 1 (ฮ่าๆๆ ) เพราะจำเลยอันดับ 1 นั้นเพื่อไทยรับไปแล้ว 600 บาท  


ถ้าพูดถึงภาพยนตร์ไม่ว่าพระเอกจะเป็นใครแสดงได้ดีแค่ไหน ผลงานก็ขึ้นอยู่กับผู้กำกับการแสดงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมเขาไม่ได้ให้เนื่องจากพระเอกแต่เขาให้ผู้กำกับการแสดง 


แล้วทำไมผู้กำกับไม่มาเป็นพระเอกเสียเองมันเป็นไปไม่ได้เพราะว่ามันคนละงานกันมีความถนัดกันคนละด้าน คนเขาอยากจะเห็นพระเอกหน้าตาแบบนี้มีคาแรคเตอร์แบบนี้ มีการศึกษาแบบนี้ ขณะที่ผู้กำกับก็คัดเลือกพระเอกมาอย่างดี

อาจารย์ปิดท้ายว่าสักวันหนึ่งอาจารย์อยากจะเห็นต๋อม ชัยธวัช ตุลาธน นั่งในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และนั่นก็คือข้อผิดพลาดที่ไม่ยอมใส่ชื่อตัวเองเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี


ทุกคนมีจุดอ่อนและอาจารย์ก็เคยเตือนจุดอ่อนของชัยธวัชหลายๆครั้งบอกว่าให้ทำ IF เขาก็ไม่ยอมทำบอกว่านักการเมืองนะควบคุมไม่กินอาหารค่ำไม่ได้ เขาก็ต้องอดอาหารเช้าแทน 


ถ้าคุณรู้จักคุณต๋อมชัยธวัชดีคุณจะรู้ว่าเวลาเขาพูดเขาจะพูดด้วย logic ไม่พูดด้วยอารมณ์เป็นคนที่ไม่มีอารมณ์ก็คือไม่แสดงอารมณ์ออกเลย ไม่ว่าอีกฝั่งจะพูดยั่วยุให้โกรธอย่างไรก็ตาม เขาจะนิ่งอาจจะยิ้มบ้างเล็กๆน้อยๆ ถ้าไปนำแสดงเองหนังมันก็น่าเบื่อ คนเขาอยากดูนักแสดงที่ขึงขัง เอามันมีเสน่ห์ เพราะว่าบทฟัดเหวี่ยงกับฝ่ายตรงกันข้ามนั้นได้รับมอบหมายแล้ว มีทั้งวิโรจน์ / โรม / ณัฐวุฒิ

/ คุณเจี๊ยบ อมรัตน์.  ส่วนบทผู้นำที่ดูดีมีเสน่ห์ คุณพิธาก็รับบทนี้ไป และเขาจะพยายามให้สัมภาษณ์น้อยที่สุดเท่าที่จำเป็นและ ให้สัมภาษณ์เฉพาะจุดที่มันเป็นยุทธศาสตร์ของพรรค ที่ไม่มีใครรู้มากไปกว่าตัวเอง คุณจะสังเกตว่าเวลามีคนสัมภาษณ์คนอื่นในพรรคก็จะพูดเป็นเรื่องๆไปเป็นจุดๆที่เกี่ยวข้องกับตัวเองเท่านั้น มีแต่คุณต๋อมชัยธวัชที่ให้สัมภาษณ์ในนามของพรรค 


    
ฟังคลิปได้แต่ยิ้มเลยครับ คนไทยกำลังได้รับความสุข ความเจริญ รอเวลาคุณพิธา แสดงบทผู้นำที่เยี่ยมยอดให้เห็น แล้วอาจารย์มาวิเคราะห์การเมืองไทยต่อนะครับ




ชอบการ วิเคราะห์​ของ อาจารย์มาก 🧡👍 ตอนคุณชัยธวัช บอกว่า ก้าวไกล จะได้ ส.ส. รวมกัน ประมาณ 160 เสียง.มีแต่คนหัวเราะ


รู้จัก ชัยธวัธ ครั้งแรก ตอนปราศัยใหญ่ครั้งสุดท้าย 12 พ.ค. เห็นแล้ว senses มันบอกทันทีนี่คือ คนที่ฉลาดที่สุด จนวันที่วิโรจน์มาออกรายการเฮียสอ หลังจากชนะแล้ว วิโรจน์บอกว่า ชัยธวัธ คือกุนชือ เป็นมันสมองของพรรค เรานี่ดีใจที่ senses เราไม่ผิด



ชอบอาจารย์พูดมาก ๆ มีเหตุผลทุกอย่าง มีการศึกษา มีความเป็นกลาง ถูกต้อง ความคิดเฉลียวฉลาด ดูออกว่าอะไรถูกผิด



คนรุ่นเก่ายังหนีไม่พ้นระบบอุปภัมถ์ ยังพอใจอยู่ภายใต้ระบบราชการ นิยมยกย่องตระกูลผู้สูงศักดิ์  ถึงจะทำชั่วมาแค่ไหน ก้อยังได้รับ



เหมือนเล่าปีตอนจะโดนหลอกไปแต่งงานแล้วโดนควบคุมตัวจากง่อก๊ก เจอซ้อนแผนจดหมายสามฉบับของพรรคก้าวไกล คือไม่รอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการ แต่เริ่มทำงานเลย ทำให้คนทั่วไปรู้เลยว่านี้คือมติของประชาชน ประกาศออกไปตั้งแต่วันแรกเลยว่าคือนายกคนที่ 30 และจะเป็นนายกของทุกคนไม่ว่าเลือกหรือไม่เลือก

 





ความเคารพบูชาเสมอ พร้อมให้อภัยได้ทุกเมื่อ ตราบใดที่คนมีเงินเอาชนะคำตัดสินของศาลได้  ต่อสู้คดีโดยไม่ต้องเข้าคุก เหมือนทุกวันนี้ สังคมก้อยังแบ่งแยกดีชั่วไม่ออกอยู่ดีครับ


เทปเต็มอจ. ลอย

https://www.youtube.com/watch?v=OIhwA016OhE

1 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณที่ตามลิ้งค์มาอ่านนะคะ ไม่มีอะไรจะทำให้ บล็อกเกอร์ (แอดมิน ดีใจเท่ากับ มีคนอ่านแชร์ความคิดเห็นนะคะ

    ตอบลบ