คำแถลงเรื่อง สภาปฏิรูปประเทศ นายกรัฐมนตรี
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
วันพุธที่ ๒๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
พี่น้องประชาชนไทยที่เคารพ
ท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมือง ดิฉันต้องขอขอบคุณนักวิชาการ นักธุรกิจ
และพี่น้องประชาชนผู้ที่มีความหวังดีต่อประเทศและจากหลายภาคส่วนที่ช่วยกันแสดงความคิดเห็นเพื่อหาทางออกจากวังวนแห่งความขัดแย้งให้กับประเทศไทยอันเป็นที่รักยิ่งของเราทุกคน
และจากเวทีเสวนา เวทีสัมมนา หรือการแสดงความคิดเห็นผ่านสื่อมวลชนในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น
ดิฉันประมวลได้ว่าส่วนใหญ่ก็คิดเห็นไปในทิศทางเดียวกัน
โดยเฉพาะในเรื่องที่จะให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจทางการเมือง
และการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐทุกระดับ รวมทั้งการสร้างความเข้มแข็งในทางการเมือง
การพัฒนาการเมือง และการพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
และในหลายเวทีมีการเสนอให้จัดตั้งองค์กรที่จะมาดำเนินการปฏิรูปประเทศ
ซึ่งเมื่อพิจารณาแล้ว
ไม่เป็นการขัดหรือแย้ง
และสามารถที่จะทำคู่ขนานไปกับกระบวนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
ที่จะมีขึ้นในวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗
ตามที่ได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดไว้เป็นที่แน่ชัดแล้ว ดิฉันเห็นด้วยอย่างยิ่งว่า
เมื่อถึงเวลาที่เราต้องช่วยกันพัฒนากลไกที่จะขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศให้เกิดขึ้น
ในโอกาสนี้ดิฉันจึงใคร่ขอเสนอรูปแบบองค์กรที่จะจัดตั้งขึ้นรูปแบบหนึ่ง
โดยอาจจะเรียกว่าเป็น “สภาปฏิรูปประเทศ” พี่น้องประชาชนอาจสงสัยว่า ใครหรือจะมาเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปประเทศ?
ดิฉันขออนุญาตเรียนยืนยันแต่ต้นเลยว่า
สภาปฏิรูปประเทศจะไม่ใช่เวทีของรัฐบาล
ซึ่งรัฐบาลเป็นเพียงผู้จัดตั้งโดยใช้คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีได้รับทราบเพื่อให้เรื่องนี้สามารถเดินหน้าได้ทันที
ทั้งนี้
สภาปฏิรูปประเทศจะเป็นสภาของตัวแทนประชาชนอย่างแท้จริง
โดยการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปประเทศ และจะ
· เริ่มจากการสรรหาตัวแทนประชาชนจากสาขาอาชีพต่างๆ
จำนวน ๒,๐๐๐
คน
· แล้วจึงให้ตัวแทนอาชีพจำนวน ๒,๐๐๐ คนดังกล่าว
เลือกผู้ที่จะเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปประเทศจำนวน ๔๙๙ คน
คุณสมบัติ
หลักเกณฑ์ วิธีการสมัคร การสรรหา การคัดเลือก และการแต่งตั้งตัวแทนวิชาชีพ
ตลอดจนการเลือกสมาชิกสภาปฏิรูปประเทศในขั้นตอนต่างๆนั้น
จะถูกกำหนดโดยคณะกรรมการที่มีองค์ประกอบดังนี้
๑. ผู้บัญชาการทหารสูงสุด
หรือผู้แทนซึ่งผู้บัญชาการทหารสูงสุดแต่งตั้งจากผู้ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารบก
ผู้บัญชาการทหารเรือ หรือผู้บัญชาการทหารอากาศ เป็นกรรมการ
๒. หัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่าซึ่งที่ประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงเลือกจำนวน
๒ คน เพื่อเป็นกรรมการ
๓. เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เป็นกรรมการ
๔. อธิการบดีของสถาบันอุดมศึกษาของรัฐซึ่งที่ประชุมอธิการบดีแห่ง
ประเทศไทยเลือกจำนวน ๑ คน เป็นกรรมการ
๕. ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
หรือผู้แทน เป็นกรรมการ
๖. ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
หรือผู้แทน เป็นกรรมการ
๗. ประธานสมาคมธนาคารไทย
หรือผู้แทน เป็นกรรมการ
๘. ประธานและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอีก
๒ คน
ซึ่งคณะกรรมการที่กล่าวถึงเบื้องต้นเป็นผู้เสนอชื่อ
คณะกรรมการชุดนี้จะมีกรรมการรวมทั้งสิ้น ๑๑ คน
สำหรับหน้าที่ของสภาปฏิรูปประเทศ
ดิฉันขอเสนอดังนี้
๑. ศึกษาและจัดทำข้อเสนอการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญซึ่งอาจรวมถึงการจัดเตรียมร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ
๒. ศึกษาและจัดทำข้อเสนอการปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
ศึกษาและจัดทำข้อเสนอการให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วมในการบริหารภาครัฐ
๓. ศึกษาและจัดทำข้อเสนอการจัดให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมหรือการยกเลิกกฎหมาย
กฎ ข้อบังคับ ระเบียบ หรือคำสั่งต่าง ๆ เพื่อให้การเลือกตั้งในทุกระดับ การสรรหา
และแต่งตั้งบุคคลเข้าดำรงตำแหน่งต่าง ๆ
การใช้อำนาจรัฐและการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐเป็นไปอย่างสุจริตและเที่ยงธรรม
๔. ศึกษาและจัดทำข้อเสนอการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการทั้งฝ่ายการเมืองและฝ่ายข้าราชการประจำเพื่อให้การดำเนินการในเรื่องนี้มีประสิทธิภาพ
๕. ศึกษาและจัดทำข้อเสนอการปรับปรุงการกระจายอำนาจ
การสร้างความรู้ความเข้าใจกฎหมาย การเตรียมความพร้อมและสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชนและท้องถิ่น
โครงสร้างการจัดระเบียบบริหารราชการแผ่นดินในทุกระดับ
การปรับปรุงระบบและวิธีการงบประมาณ และการบริหารงานบุคคลภาครัฐ
ทั้งนี้
เมื่อสภาปฏิรูปประเทศได้ดำเนินการในข้อใดเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ให้ทำรายงานเสนอนายกรัฐมนตรี และให้สภาปฏิรูปประเทศเปิดเผยรายงานดังกล่าวต่อสาธารณชน
เพื่อที่จะได้ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องนำไปดำเนินการตามเจตนารมณ์ต่อไป
โดยกรอบของเวลาการดำเนินการขึ้นอยู่กับสภาปฏิรูปประเทศเป็นผู้กำหนดให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด
สำหรับผู้ที่เป็นห่วงถึงความต่อเนื่อง เมื่อมีการเลือกตั้งในวันที่ ๒ กุมภาพันธ์
๒๕๕๗ และมีรัฐบาลหลังการเลือกตั้งแล้วนั้น จะมีการกำหนดไว้ด้วยว่าเมื่อคณะรัฐมนตรีเข้าบริหารราชการแผ่นดิน
ให้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบให้การปฏิบัติงานตามคำสั่งนี้ดำเนินต่อไปอย่างสืบเนื่องตามเจตนารมณ์และแนวทางที่ทุกฝ่ายให้ความเห็นชอบแล้ว
ทั้งหมดที่ดิฉันกล่าวมานั้น
เป็นรูปแบบที่จะนำเสนอเพื่อให้ได้มีการแลกเปลี่ยนถกเถียงหารือ จากทุกฝ่าย
ซึ่งรัฐบาลจะได้รวบรวมนำความคิดเห็นมาปรับปรุงแก้ไขและออกเป็นคำสั่งก่อนสิ้นปีนี้
ซึ่งถ้ามีข้อคิดเห็นลงตัวก็จะสามารถประกาศได้ก่อนสิ้นปีนี้
ดิฉันขอเชิญชวนให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงภาระกิจการปฏิรูปประเทศที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของชาติไทย
และเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคนที่จะต้องช่วยกันทำให้การปฏิรูปประเทศครั้งนี้
เป็นไปเพื่อประโยชน์สุขของพี่น้องประชาชน เพื่อสังคมที่สงบสันติ มีความปรองดอง
รักและสามัคคี และเพื่ออนาคตของลูกหลานของเราต่อไป
ขอบคุณค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น