สังคมนี้แก้ปัญหาปลายเหตุกันมาตลอดสภาพมันถึงได้ยุ่งเหยิงมาจนถึงทุกวันนี้
--------------------------------------------------------------------------------------------
เหมือนแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งไม่ใช่ต้นเหตุแห่งปัญหาเลยก็พยามดันทุรังจะแก้มันแต่กฏกติกา
สันดานคนที่อาสาเข้ามาเป็นนักการเมืองอันเป็นต้นเหตุไม่แก้
--------------------------------------------------------------------------------------------
เหมือนแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งไม่ใช่ต้นเหตุแห่งปัญหาเลยก็พยามดันทุรังจะแก้มันแต่กฏกติกา
สันดานคนที่อาสาเข้ามาเป็นนักการเมืองอันเป็นต้นเหตุไม่แก้
เหมือนกรณีชาวนา ต้นเหตุปัญหาจริง ๆ ไม่แก้ขนาดมาผูกคอตายหน้าที่ทำเนียบสมัยนาย ชวน เพือสะท้อนต้นตอปัญหาของพวกเขา จนป่านนี้ก็ยังย่ำอยู่ที่เดิมไม่เปลี่ยนแปลง แล้วมันจะไปแก้อะไรได้อย่าง จีรังยั่งยืน ตามสัญญาประชาคมที่ให้ไว้
ท่านใช้วิธีเดียวกันเลย หว่านเม็ดเงินมันไม่งอกหรอกเจ้านาย..นั่นซิมีปัญญากันแค่นี้ก้อจบข่าว..
ท่านใช้วิธีเดียวกันเลย หว่านเม็ดเงินมันไม่งอกหรอกเจ้านาย..นั่นซิมีปัญญากันแค่นี้ก้อจบข่าว..
ท่านจะกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ ชาวบ้านเขาไม่คิดแบบนั้นค่ะ เขาจะเทียบท่านกับทักษิณ แล้วเขาก็จะสรุปว่าท่าน แย่กว่าทักษิณ
กี่ยุคกี่สมัย
ก็ต้องประชานิยมกับฐานเสียงใหญ่ 18 ล้านคนนี้
หากจริงใจกับชาวนาจริง
ก่อนอื่นเลยต้องห้ามโฆษณาปุ๋ยเคมี และสารกำจัดศัตรูพืชทั้งหมด
และเริ่มเก็บภาษีนำเข้าสินค้ากลุ่มนี้ ที่ถูกยกเลิกไปเมื่อปี 2534
(โดย รมช. เกษตร ที่ทำงานให้กับยักษ์ใหญ่ทางการเกษตร)
แล้วเอาภาษีนี้มาตั้งกองทุนช่วยชาวนาแบบยั่งยืน
โดยเฉพาะปัญหาเรื่องที่ดินทำกิน
และต้องสอนให้เขายืนอยู่ได้ด้วยตนเอง
โดยมีรัฐช่วยสนับสนุนเชิงนโยบายอย่างจริงใจ
ไม่ใช่กดไว้ใต้อุ้งตีนชั่วกัปกัลป์แบบนี้กล้ากันไหมเล่า ???
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น