เผย 3 เดือน คสช.อนุมัติงบไปแล้วรวม 3.68 แสนล้าน
การเข้ามาบริหารประเทศในครั้งนี้เผย 3 เดือน คสช.อนุมัติงบไปแล้วรวม 3.68 แสนล้าน
1ก.ย.2557 เปิดงบประมาณ คสช. 3 เดือน อนุมัติแล้ว 38 รายการ 3.68 แสนล้าน จ่ายจำนำข้าวมากสุด 9.2 หมื่นล้าน ช่วยสวนยาง 1.2 หมื่นล้าน สร้างพิพิธภัณฑ์ไม้มีค่า ใน ทบ. 2.4 พันล้าน ให้ สตช.สร้างโรงพัก 5.8 พันล้าน ซื้ออาวุธ 2.6 พันล้าน แก้น้ำท่วม 1.7 หมื่นล้าน ให้กทม.ระบายน้ำ 2 หมื่นล้าน กองทุนหมู่บ้าน 2.6 หมื่นล้าน ให้ อปท. 8.5 พันล้าน แต่ห้ามนำไปใช้ดูงานเด็ดขาด ให้ กปภ.ปรับปรุงระบบขาดแคลนน้ำ 1.8 หมื่นล้าน
เว็บไซต์ Thaigov.go.th ของทำเนียบรัฐบาล ได้มีการเผยแพร่การอนุมัติงบประมาณ ภายหลังจากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้ทำการยึดอำนาจการปกครอง ทั้งรายการปกติในปี 2557 และการอนุมัติงบค้างจ่ายต่อเนื่องมาจากปี 2556 รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น งบผูกพันข้ามปี และการปรับเปลี่ยนรายการงบประมาณ จากจำนวน 12 ครั้ง ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธาน และการประชุมคณะกรรมการระดับหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ และการประชุมระดับกระทรวงต่างๆ ในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา รวม 38 รายการ วงเงิน 368,133.95 ล้านบาท โดยแยกเป็นรายการพบว่า
1.อนุมัติงบประมาณเพื่อจ่ายเงินค้างชำระหนี้ของชาวนา ในโครงการจำนำข้าว วงเงิน 92,431 ล้านบาท
2.อนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉิน หรือจำเป็น เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้านการเกษตรปี 2555-2557 วงเงิน 5,498.9 ล้านบาท
3.อนุมัติงบกลาง จากรายการงบกลางเพื่อสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อช่วยแผ่นดินไหวในจังหวัดเชียงราย วงเงิน 449 ล้านบาท แบ่งเป็นงบประมาณช่วยเหลือสถานศึกษาที่ได้รับผลกระทบเป็นจำนวนเงิน 322 ล้านบาท และสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ วงเงิน 127 ล้านบาท
4.อนุมัติงบประมาณช่วยชาวสวนยาง 2 โครงการ วงเงิน 12,000 ล้านบาท แบ่งเป็น เพื่อช่วยเหลือการปลูกยางทั้งระบบจำนวนเงินงบประมาณ 6,600 ล้านบาท มีเกษตรกรที่ได้รับประโยชน์ประมาณ 100,000 ราย และโครงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรรมชาติ ซึ่งเป็นโครงการตกค้างในการให้ความช่วยเหลือตั้งแต่ปี 2555 และปี 2556 จนถึงปัจจุบัน มีผู้ประสบภัยทางธรรมชาติประมาณ 580,000 กว่าราย และวงเงินอีก 5,400 กว่าล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางธรรมชาติ
5.อนุมัติงบกลางประจำ ปี 2557 โครงการก่อสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์ไม้มีค่า เพื่อใช้เป็นสถานที่เก็บรวบรวมสมบัติอันล้ำค่าของแผ่นดิน ให้อนุชนรุ่นหลังได้เรียนรู้ และภาคภูมิใจในความเป็นไทย บริเวณหอประชุมกองทัพบก ถนนนครราชสีมา วงเงิน 2,455 ล้านบาท
6.อนุมัติงบประมาณ เพื่อสมทบค่าเบี้ยประกันภัยนาข้าวปี 2557 วเงิน 2,292 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือชาวนาฤดูกาลผลิต 2557/58 โดยลดดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อการผลิตให้เกษตรปลูกข้าวนาปีลงร้อยละ 3 ต่อปี รายละไม่เกิน 50,000 บาท
7.อนุมัติใช้เงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน จำนวน 2 โครงการ 400 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการสนับสนุนทุนการศึกษาวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีอนุรักษ์พลังงานปี 2557 วงเงิน 200 ล้านบาท และโครงการสนับสนุนทุนการศึกษาวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานทดแทนปี 2557 วงเงิน 200 ล้านบาท โดยทั้ง 2 โครงการอยู่ใน 23 โครงการ ที่ทางคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) เสนอให้ทบทวน และทางคณะอนุกรรมการกลั่นกรองงบประมาณของกองทุนอนุรักษ์พลังงานที่มีปลัดกระทรวงพลังงานเป็นประธาน พิจารณาเรียบร้อยแล้วว่าเป็นโครงการที่เป็นประโยชน์จึงให้ดำเนินการต่อไป
8.อนุมัติงบประมาณสำหรับกระจายผลไม้ออกนอกแหล่งผลิต วงเงิน 163 ล้านบาท เช่น ลำไยจาก 8 จังหวัดภาคเหนือ จำนวน 74.5 ล้านบาท เงาะ และลองกอง จากภาคตะวันออก จำนวน 51 ล้านบาท มังคุด และลองกอง จากภาคใต้ จำนวน 37.5 ล้านบาท
9.อนุมัติงบประมาณ เพื่อช่วยเหลือปัจจัยการผลิตเพื่อแก้ปัญหาราคายางพารา ระยะสั้น วงเงิน 6,160 ล้านบาทให้แก่เกษตรกร 112,253 ราย เพื่อช่วยเหลือปัจจัยการผลิตครัวเรือนละไม่เกิน 25 ไร่ในอัตราไร่ละ 2,520 บาท เฉพาะที่เปิดกรีดแล้ว ขณะที่ระยะยาว จะสนับสนุนให้มีการเพิ่มปริมาณการใช้ยางพาราในประเทศ ควบคู่ไปกับการลดต้นทุนการผลิต
10.อนุมัติงบกลาง ให้กรมประมงแก้ไขปัญหาเร่งด่วนและลดความสูญเสียของสินค้ากุ้งทะเลจากกลุ่มการตายด่วน วงเงิน 96 ล้านบาท
11.อนุมัติตามกรอบงบประมาณเดิม ของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพื่อการปรับปรุงปรับทัศนียภาพ และอาคารสถานที่ภายในทำเนียบรัฐบาล จำนวน 252 ล้านบาท
12.อนุมัติงบกลาง โครงการสนับสนุนงบกลางช่วยการศึกษาทางไกล ขยายผลการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ของกระทรวงศึกษาธิการ จำนวน 15,441 โรงเรียนทั่วประเทศวงเงิน 1,300.6ล้านบาท
13.อนุมัติงบประมาณ ให้ ขสมก. กู้เงินเพื่อนำไปชำระค่าน้ำมันเชื้อเพลิง และค่าเหมาซ่อมสำหรับปีงบประมาณ 2558 จำนวน 4,401 ล้านบาทเศษ แบ่งเป็น ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง 2,870 ล้านบาทเศษ และค่าเหมาซ่อม 1,531 ล้านบาทเศษ เพื่อแก้ปัญหาการขาดสภาพคล่องทางการเงิน และให้เกิดการประหยัดดอกเบี้ยจ่ายกรณีผิดนัดชำระหนี้
14.อนุมัติงบ ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สร้างโรงพัก 8,357 ล้านบาท แต่มีงบเก่าอยู่ 2,459 ล้านบาท ดังนั้น จะเหลือที่ต้องอนุมัติใหม่เพียง 5,898 ล้านบาท (จำนวนโรงพักทั่วประเทศ 375 แห่ง) สำหรับอาคารอีก 215 หลังนั้น ต้องใช้วงเงินประมาณ 4,000 กว่าล้านบาท ซึ่งจะต้องตั้งคำของบประมาณในปีงบประมาณ 2558
15.อนุมัติงบประมาณที่ผูกพันไว้แล้ว ให้สำนักงานป้องกันการฟอกเงิน หรือ ปปง. ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานขององค์กร วงเงิน 200 ล้านบาท
16.อนุมัติงบประมาณเพื่อซื้ออาวุธ เป็นงบผูกพัน รวม 2,588 ล้านบาท (ผูกพัน 4 ปี)
17.อนุมัติงบประมาณเพื่อการแก้ไขปัญหาน้ำ ให้ทันสิ้นปีงบประมาณ 2557 และกันไว้ใช้ในปี 2558 วงเงิน 17,000 ล้านบาท โครงการส่วนใหญ่เป็นโครงการเกี่ยวกับการขุดลอกคูคลอง เพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้ง
18. อนุมัติงบประมาณให้กรุงเทพมหานคร (กทม.) สร้างระบบระบายน้ำ วงเงิน 20,000 ล้านบาท จำนวน 16 โครงการ เช่น โครงการที่เป็นการบูรณาการเพื่อแก้ปัญหากับพื้นที่รอยต่อในจังหวัดใกล้เคียงเป็นหลัก โดยในส่วนของการก่อสร้างโครงการใหญ่ คือ อุโมงค์ระบายน้ำ และโครงการเร่งด่วนที่สามารถบูรณาการการป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดใกล้เคียงทั้งจังหวัดสมุทรปราการ และจังหวัดนนทบุรี
19.อนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ปรับปรุงถนน 3 จังหวัดชายแดนใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ วงเงิน 835.9 ล้านบาท โดยเป็นงานก่อสร้างถนนซึ่งใช้ยางธรรมชาติผสมยางมะตอยในการปูผิวถนน รวมทั้งสิ้น 37 สายทาง ระยะทาง 164.97 กิโลเมตร ระยะเวลาในการปฏิบัติงาน 360 วัน
20.อนุมัติงบประมาณ เพื่อช่วยเหลือชาวประมง และปศุสัตว์ ปี 2557 ในพื้นที่ 68 จังหวัด วงเงิน 5,498 ล้านบาท
21.อนุมัติงบประมาณ รายการงบกลางปี 2557 เพื่อซ่อมแซมท่าเรือหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ 115 ล้านบาท
22.อนุมัติงบประมาณผูกพันข้ามปี (2558-2561) เพื่อสร้างศูนย์รังสีบำบัด โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ วงเงิน 1,200 ล้านบาท
23.อนุมัติแผนงานและกรอบงบประมาณปี 2557-2558 แก้ปัญหามาบตาพุด 8 แผนงาน เพื่อดูแลโรงงาน จัดการขยะ ปรับปรุงผังเมือง จัดระเบียบจราจร ปรับปรุงด้านสาธารณูปโภค วงเงิน 677 ล้านบาท
24.อนุมัติงบประมาณเพื่อปรับปรุงเรือนจำภูเก็ต 1,104.6 ล้านบาท
25.อนุมัติให้กองทัพบกก่อหนี้ผูกพันข้ามปี (2557-2561) สำหรับก่อสร้างอาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ 2,599 ล้านบาท
26.อนุมัติงบประมาณ ตามที่กรมการทหารช่างขอให้อนุมัติหนี้ผูกพันข้ามปี (2557-2559) ในโครงการจัดสร้างโครงการตรวจวินิจฉัยผ่าตัด และรักษาพยาบาล อาคารภูมิศิริมังคลานุสรณ์ 1,738 ล้านบาท
27.อนุมัติงบประมาณ โครงการค้ำประกันสินเชื่อ สำหรับผู้ประกอบการ OTOP และวิสาหกิจชุมชน วงเงินไม่เกิน 1,600 ล้านบาท จะให้เบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2558 และปีต่อๆ ไป
28.อนุมัติจัดสรรเงินงบประมาณปี 2558 จำนวน 82,403 ล้านบาท ให้ ธ.ก.ส. เพื่อชำระคืนดอกเบี้ย และเงินต้นจากแหล่งเงินกู้ที่สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กู้มาให้ ธ.ก.ส. เพื่อใช้ในโครงการรับจำนำข้าว รวมถึงการใช้ดอกเบี้ยในส่วนเงินที่กู้ยืม ธ.ก.ส. มาใช้ในโครงการรับจำนำ 92,000 ล้านบาท และภาระดอกเบี้ยอีกกว่า 2,200 ล้านบาท ชดเชยดอกเบี้ยในโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวในปี 2557
29.อนุมัติงบประมาณเพื่อสนับสนุนโครงการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง 26,000 ล้านบาท (มีเงินทุนสะสม 34,000 ล้านบาท)
30.อนุมัติปรับเปลี่ยนรายการงบประมาณ โดยสั่งยุติกองทุนพัฒนาศักยภาพหมู่บ้านแล้วโยกงบประมาณ 5,700 ล้านบาท ไปรวมกับการสั่งยุติกองทุนช่วยเหลือผู้ประกอบการในชุมชน ซึ่งมีงบประมาณ 1,225 ล้านบาท รวมเป็น 6,925 ล้านบาท ไปใช้ในโครงการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) แทน
31.อนุมัติปรับเปลี่ยนรายการงบประมาณ โดยชะลอการใช้เงินกองทุนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ วงเงิน 596 ล้านบาท และโอนงบประมาณไปยังโครงการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) หรือกองทุน สสว. แทน
32.คสช. เห็นชอบ ร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายค่าตอบแทน เงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว และเงินช่วยเหลือสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กระทรวงมหาดไทย สาระสำคัญ คือ ปรับอัตราเงินค่าตอบแทนของสมาชิก อส. เพิ่มขึ้น ในอัตราร้อยละ 5 มีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2554 โดยระยะเวลาการปรับขึ้นเงินค่าตอบแทน ระหว่างวันที่ 1 เมษายน 2554 ถึง 31 ธันวาคม 2554 ปรับใหม่ เป็นอัตราขั้นต่ำ 8,610 บาท และอัตราขั้นสูง 12,285 บาท และตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2555 เป็นต้นไป อัตราขั้นต่ำ 9,000 บาท อัตราขั้นสูง 12,285 บาทเช่นเดิม นอกจากนั้น ยังเห็นชอบการจ่ายเงินตอบแทนพิเศษให้แก่พนักงานการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ กนอ. ที่มีเงินเดือนเต็มขั้นสูงของระดับตำแหน่ง ภายใต้วงเงินรวมไม่เกินร้อยละ 4 ของฐานเงินเดือน รวมของพนักงานที่มีเงินเดือนเต็มขั้น โดยเงินตอบแทนพิเศษเป็นเงินที่ได้รับนอกเหนือจากเงินเดือน และจะไม่นำไปเป็นฐานในการคำนวณสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับเงินเดือน
33.อนุมัติให้กระทรวงการต่างประเทศเบิกจ่ายเงินเพื่ออุดหนุนกองทุนความร่วมมืออาเซียนบวกสาม จำนวน 30,000 ดอลลาร์สหรัฐ สืบเนื่องจากที่มีการตั้งกองทุนความร่วมมืออาเซียนบวกสามมาตั้งแต่เดือนเมษายน 2552 ประเทศไทย และประเทศสมาชิกอาเซียนทั้งหมดได้ให้เงินอุดหนุนเมื่อเริ่มต้นประเทศละ 30,000 ดอลลาร์สหรัฐ โดยจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ สนับสนุนเงินอุดหนุนด้วยประเทศละ 9 แสนดอลลาร์สหรัฐ ต่อมา ที่ประชุมสุดยอดอาเซียนสมัยพิเศษเมื่อปี 2555 และที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนบวกสาม ครั้งที่ 14 ปี 2556 มีมติเห็นชอบให้ประเทศสมาชิกสมทบเงินอุดหนุนเพิ่มเติม โดยประเทศไทยต้องสมทบเงิน จำนวน 30,000 ดอลลาร์สหรัฐ
34.อนุมัติงบประมาณ วงเงิน 5,938.25 ล้านบาท ภายใต้แผนพัฒนายางทั้งระบบ ระยะ 10 โดยมาตรการเร่งด่วนระยะสั้น ให้อนุมัติงบกลางปี 57 จำนวน 977.75 ล้านบาท เพื่อยกระดับราคายาง โดยเพิ่มสภาพคล่องของตลาด และเพิ่มมูลค่าคุณภาพผลผลิตรวมถึงส่งเสริมสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ยางพารา 15,000 ล้านบาท
35.อนุมัติงบประมาณ 8,500 ล้านบาท ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือ อปท. เพื่อสนับสนุนงานพัฒนาท้องถิ่น ทั้งเรื่องการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานถาวร การส่งเสริมอาชีพ การท่องเที่ยว ซึ่งจัดสรรให้ อปท.ละ 1 ล้านบาท ซึ่งหัวหน้า คสช. ได้ห้ามนำเงินงบประมาณนี้ให้บุคลากรท้องถิ่นนำไปใช้ศึกษาดูงานเป็นอันขาด
36.อนุมัติงบประมาณ 18,000 ล้านบาท ให้การประปาส่วนภูมิภาค ไปปรับปรุงงานทั้งระบบ โดยเฉพาะในพื้นที่ขาดแคลน เช่น เกาะสมุย
37.เห็นชอบในหลักการแผนการลงทุน โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุดที่ 1 ของการเคหะแห่งชาติในกรอบวงเงินลงทุนรวมประมาณ 3 หมื่นกว่าล้านบาท รวม 38 โครงการ จำนวน 16,146 หน่วย วงเงินลงทุนรวมประมาณ 9,577 ล้านบาท เงินอดหนุนรวม 1,249 ล้านบาท และเงินกู้ภายในประเทศ 7,113 ล้านบาท และเงินรายได้ของการเคหะ 1,214 ล้านบาท ซึ่งได้มอบหมายให้กระทรวงการคลัง จัดการและค้ำประกันเงินกู้ และเห็นชอบวงเงินอุดหนุนของรัฐบาล จำนวน 1,249 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี 2554 ที่เห็นชอบพลิกฟื้นองค์กรการเคหะแห่งชาติ โดยทางการเคหะแห่งชาติ ได้จัดทำแผนการลงทุนเสนอให้ ครม. พิจารณาเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2556
38.อนุมัติตามคณะกรรมการส่งสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs ) อนุมัติงาน สสว. ทั้งยุทธศาสตร์ส่งเสริม SMEs ระยะเร่งด่วนปี 2558 รวม 4 ยุทธศาสตร์ 13 โครงการ วงเงิน 726.7 ล้านบาท มุ่งบูรณาการภาครัฐ พัฒนา SMEs ตามวงจรธุรกิจ สร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้า-บริการ พร้อมกำหนด SMEs กลุ่มเป้าหมายที่จะส่งเสริมในปี 2558-2559 เพื่อเป็นรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจไทย
วารีนา ปุญญาวัณน์
กลับหน้าหลัก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น