ผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) ลงคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ เห็นชอบข้อตกลงเรื่องการปฏิรูปอียู เพื่อไม่ให้นายกรัฐมนตรี เดวิด คาเมรอน สนับสนุนให้สหราชอาณาจักรออกจากอียูแล้ว หลังจากประชุมกันมาตั้งแต่เมื่อวันพฤหัสบดี...
==============================================
นักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายโดนัลด์ ทัสค์ ประธานสภายุโรป (อีซี) ยืนยันในวันศุกร์ที่ 19 ก.พ. ว่า เหล่าผู้นำของสหภาพยุโรป (อียู) ลงคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ เห็นชอบข้อตกลงเรื่องการปฏิรูปอียู ตามข้อเรียกร้องของนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่เขายื่นเพื่อไม่ให้เขาสนับสนุนเรื่องที่ สหราชอาณาจักร (ยูเอ) จะถอนตัวจากการเป็นสมาชิกของอียู หรือเรียกโดยย่อว่า 'เบร็กซิต' (Brexit) แล้ว
==============================================
นักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายโดนัลด์ ทัสค์ ประธานสภายุโรป (อีซี) ยืนยันในวันศุกร์ที่ 19 ก.พ. ว่า เหล่าผู้นำของสหภาพยุโรป (อียู) ลงคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ เห็นชอบข้อตกลงเรื่องการปฏิรูปอียู ตามข้อเรียกร้องของนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่เขายื่นเพื่อไม่ให้เขาสนับสนุนเรื่องที่ สหราชอาณาจักร (ยูเอ) จะถอนตัวจากการเป็นสมาชิกของอียู หรือเรียกโดยย่อว่า 'เบร็กซิต' (Brexit) แล้ว
ขณะที่ นาง ดาลิอา กรีเบาส์ไกเต ประธานาธิบดีแห่งประเทศลิทัวเนียทวีตข้อความลงบนเว็บไซต์ทวิตเตอร์ว่า "ข้อตกลง #UKinEU เสร็จสิ้น ละครจบแล้ว" เพียงไม่กี่นาทีหลังจากเหล่าผู้นำทั้งชาติสมาชิกอียูทั้ง 28 ประเทศรับประทานอาหารเย็นร่วมกัน หลังพวกเขาเจรจาอย่างตึงเครียดมานานกว่า 30 ชั่วโมง ในเรื่องการปฏิรูปสหภาพยุโรปที่นายคาเมรอนต้องการให้เกิดขึ้นก่อนที่ชาวบริเตนจะลงประชามติซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในวันที่ 23 มิ.ย.นี้ เพื่อชี้ชะตาว่าจะให้ประเทศของพวกเขาเป็นสมาชิกอียูต่อไปหรือไม่
ในเวลาต่อมา นายเดวิด คาเมรอน ออกมาระบุว่า ข้อตกลงปฏิรูปสหภาพยุโรปนี้เพียงพอที่จะให้เขาจะแนะนำให้สหราชอาณาจักรอยู่ในอียูต่อไป โดยเขาจะนำข้อตกลงซึ่งให้สถานะพิเศษแห่งสหราชอาณาจักรนี้ ส่งให้คณะรัฐมนตรีของเขาพิจารณาในวันเสาร์นี้ (20 ก.พ.)
ทั้งนี้ ทำเนียบนายกรัฐมนตรีอังกฤษระบุว่า ข้อตกลงอียู-ยูเครวมไปถึงการหยุดพักการจ่ายเงินสวัสดิการบางอย่างแก่แรงงานผู้อพยพ เป็นเวลานานสุด 7 ปี ขณะที่ประเด็นสำคัญซึ่งถูกต่อต้านมากมายอย่าง การควบคุมการจ่ายเงินสิทธิประโยชน์เด็กแก่แรงงานผู้อพยพในกรณีที่ลูกของพวกเขาอยู่ในประเทศบ้านเกิด จะถูกเพิ่มเข้าไปในผู้ขอรับสิทธิประโยชน์ที่มีอยู่แล้วตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นไป และเพิ่มแก่ผู้ขอรับสิทธิประโยชน์รายใหม่ทันทีที่มีการบังคับใช้กฎหมายใหม่
นอกจากนี้ ข้อตกลงยังทำให้สหราชอาณาจักรมีสถานะพิเศษโดยไม่มีพันธะผูกพันกับสหภาพการเมืองใด (political union) ทั้งยังสามารถออกกฎหมายฉุกเฉินต่างๆ เพื่อปกป้องนครลอนดอน (City of London) จากข้อบังคับทางการเงินใดๆ ที่ออกโดยกลุ่มยูโรโซนด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น