เพลงฉ่อยชาววัง

วันจันทร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2558

เปลี่ยนสีแบงค์พัน หรือ ยกเลิกแบงค์พัน เพื่อดึงเงินที่ถูกซุกไว้ออกมา.

ความคิดที่น่าสนใจ.....



เปลี่ยนสีแบงค์พัน หรือ ยกเลิกแบงค์พัน เพื่อดึงเงินที่ถูกซุกไว้ออกมา...
ในสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน ที่กระแสเงินสดหมุนเวียน หายไปจากท้องตลาด ทำให้เกิดภาวะ เงินฝืดอย่างรุนแรง ประกอบกับราคาพลังงาน ทั้งน้ำมันดีเซล,ก๊าซ LPG ,ก๊าซ NGV สูงขึ้น
ทำให้สินค้าอุปโภคบริโภค ทยอยปรับราคาสูงขึ้น อย่างต่อเนื่อง ประชาชนทั่วไป ประสบกับความยากลำบาก ทั่วหน้า


สาเหตุหลัก ที่ทำให้กระแสเงินสดหายไป จากท้องตลาด จนเกิดภาวะเงินฝืดอย่างรุนแรง ก็มาจาก การทุจริตคอร์รัปชั่น ของนักการเมือง และข้าราชการประจำ (โดยเฉพาะข้าราชการชั้นผู้ใหญ่)
การคอร์รัปชั่น จะดูดเงินออกจากระบบ เป็นจำนวนมาก โดยเฉลี่ย 25-35% ของเงินงบประมาณหมวดเงินลงทุน หรือประมาณ 200,000 ล้านบาทต่อปี และยิ่งมีการใช้ นโยบายประชานิยม ยิ่งทำให้มีการคอร์รัปชั่นมากขึ้น อย่างนโยบายรับจำนำข้าว ที่ทำให้ขาดทุนมากกว่า 560,000 ล้านบาท
และในจำนวน ที่ขาดทุนเป็นเงิน ที่ถูกนักการเมืองคอร์รัปชั่นไปกว่า 300,000 ล้านบาทเป็นต้น
เกิดคำถามขึ้นว่า เงินจำนวนล้านล้านบาท ที่ถูกนักการเมือง และข้าราชการคอร์รัปชั่นไป ไปอยู่ที่ไหน ซึ่งเส้นทางของเงิน ก็ไปอยู่สองแหล่งคือ 

1. ถูกส่งออกไปนอกประเทศ
2. เก็บไว้ในประเทศ

- เงินที่ถูกส่งออกไปนอกประเทศ ก็จะไปเก็บไว้ตามธนาคาร ที่รับฝากเงิน ที่ไม่ทราบ ที่มาซึ่งธนาคารเหล่านี้ จะอยู่ตามหมู่เกาะในทะเลต่างๆ เช่น หมู่เกาะเคย์แมน หมู่เกาะบริติชเวอร์จิน หมู่เกาะนิวคาลิโดเนีย เป็นต้น
แต่ธนาคารเหล่านี้ จะไม่มีดอกเบี้ยจ่ายให้ เป็นรายเดือน หรือรายปี สำหรับผู้นำเงินไปฝาก แต่จะเก็บเงินค่าธรรมเนียม การรับฝากเงินแทน โดยเก็บในอัตราที่สูงมาก เริ่มจาก 10% จนถึง 30% ของยอดเงินที่นำไปฝาก ให้ธนาคารเก็บรักษาเงินไว้ให้
ส่วนใหญ่แล้ว พวกผู้นำเผด็จการ ที่โกงชาติตนเอง จนมีเงินเยอะมากมายมหาศาล จะชอบไปฝากเงินกับธนาคารเหล่านี้ เพราะไม่สนใจดอกเบี้ย และไม่สนใจว่า จะหักค่าธรรมเนียมเท่าไหร่

- เงินที่เก็บไว้ในประเทศ
ส่วนพวกที่คอร์รัปชั่น ได้เงินไม่มากนัก จะไม่นิยมไปฝากเงิน กับธนาคารพวกนี้ แต่จะเก็บเงิน ที่คอร์รัปชั่นมาได้ไว้เอง

เงินที่นักการเมือง และข้าราชการคอร์รัปชั่นได้ ที่เก็บไว้เองในประเทศ จะเก็บไว้ในรูปเงินสด เป็นส่วนใหญ่ เหมือนอย่างกรณี ที่อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม ที่ถูกโจรปล้นบ้านแล้ว ได้เงินสดไปกว่า 200 ล้านบาทนั้น
ย่อมแสดงให้เห็นว่า เงินที่ได้จากการคอร์รัปชั่น ส่วนใหญ่ถูกเก็บอยู่ในรูปของเงินสด แต่ก็มีบ้าง ที่ถูกเก็บไว้ในรูปทรัพย์สินอื่น ซึ่งต้องเปลี่ยนแปลง เป็นเงินสดได้ง่าย เช่นท องคำ เพชร นาฬิกา (Patek Philippe,Rolex)
ขณะนี้ มีเงินสดที่เป็นธนบัตร ใบละหนึ่งพันบาท ถูกเก็บไว้ในบ้านของนักการเมือง และข้าราชการจำนวนมาก โดยเงินสดเหล่านี้ จะกองอยู่ใน
- ตู้เซฟ
- ตู้เย็น
- กระเป๋าเดินทาง
ฯลฯ
อย่างปลอดภัย ในห้องนิรภัย หรือ ชั้นใต้ดินของบ้านผู้ยิ่งใหญ่เหล่านั้น พอเลิกเล่นการเมือง หรือเกษียณอายุราชการ ก็ค่อยๆทยอยเอาเงินเหล่านี้ ไปซื้อทรัพย์สิน เช่น ที่ดิน แล้วก็ขายที่ดิน เพื่อฟอกเงินที่คอร์รัปชั่นมา ให้กลายเป็นเงินบริสุทธิ์
ดังนั้น วิธีที่จะเอาเงินเหล่านั้น ออกมาโดยการบุกเข้าไป หรือ ขอหมายค้น ก็เป็นเรื่องที่ยากเต็มที หรือ ยากมากๆ แทบเป็นไปไม่ได้เลย
แต่วิธีที่ง่ายที่สุด ที่จะทำให้เงินเหล่านั้น ไหลออกมาจากตู้เซฟ, ตู้เย็น,หรือกระเป๋าเดินทาง ก็คือ ทำให้มันใช้ไม่ได้ หรือ ไร้ค่า เช่น เปลี่ยนสีของมันใหม่ หรือ ยกเลิกมันซะ
โดยเมื่อรัฐบาล ประกาศยกเลิกธนบัตร ฉบับละหนึ่งพันบาทแบบเก่า ให้มาใช้แบบใหม่ เจ้าของเงิน ที่ได้มาจากการคอร์รัปชั่น ก็ต้องนำธนบัตรเหล่านั้น มาเข้าระบบ เพื่อเปลี่ยนเป็นธนบัตรแบบใหม่ ซึ่งถ้าไม่ทำเช่นนั้น เงินที่คอร์รัปชั่นมาเหล่านั้น ก็จะไร้ค่า ใช้เช็ดก้นยังไม่ได้เลย

ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้น เงินที่ถูกซุก อยู่ตามที่ต่างๆ ในประเทศ ก็จะไหลเข้ามาในระบบ กระแสเงินสดหมุนเวียน และสภาพคล่อง ก็จะดีขึ้นทันตาเห็น ภาวะเงินฝืดจะหายไปทันที

ส่วนพวกนักการเมือง และข้าราชการที่คอร์รัปชั่น แล้วเอาเงินที่ซุกไว้มาเข้าระบบ จะจัดการเอาผิดอย่างไร ไม่ขอบอกนะที่นี้ เดี๋ยวไก่ตื่นหมด.!!

วิธีการยกเลิกธนบัตร หรือเปลี่ยนธนบัตรใหม่นี้ หลายประเทศทำแล้ว ประสพความสำเร็จทุกประเทศ แก้ปัญหาสภาพคล่อง แก้ปัญหาคอร์รัปชั่นได้ผลชะงัด เช่น กรณีมาเลเซียที่นายมหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย ในสมัยนั้น ประกาศยกเลิก การใช้ธนบัตรฉบับละ 1,000 ริงกิต เพื่อป้องกันการโจมตีค่าเงินริงกิต และเพิ่มสภาพคล่องในตลาดเงิน ของมาเลเซีย ทำให้มาเลเซียรอดพ้น จากวิกฤตเศรษฐกิจสมัยปี 2540 ไปได้

หลังจากที่พลเอกประยุทธ์ ยึดอำนาจใหม่ๆ มีนายทหารใหญ่ของ คสช.คนหนึ่ง เคยมีแนวความคิดนี้ เพื่อจัดการปราบปราม พวกทุจริตคอร์รัปชั่น แต่แล้วเรื่องก็เงียบหายไป

1 ความคิดเห็น:

  1. บทความนี้ ถูกบล็อกไปหลายครั้ง ทุกครั้งที่ถูกบล็อกก็ต้อง คัดลอกเอามาโพสต์ใหม่ เปลี่ยน วันเวลาโพสต์ จึงจะอ่านได้
    วันนี้มีข่าวการออกแบ้งค์พันใหม่ก็บองเอาไปลิ้งค์ไว้ที่หน้าFacebook Fan Page ก็เจอปัญหาเดิม ต้อง โพสต์ใหม่ วันที่ 17/8/15 จึงอ่านได้

    ตอบลบ