ลำดับเหตุการณ์ การเมืองไทย ประจำปี 2553
3 มกราคม 2553
นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ ผู้สมัคร ส.ส. จากพรรคเพื่อไทย ชนะ นางคมคาย อุดรพิมพ์ จากพรรคภูมิใจไทย ในการเลือกตั้งซ่อมมหาสารคาม ฝ่ากระแสวิชามารทั้งซื้อเสียง,ใช้อำนาจรัฐและใช้ใบปลิวชั่วใส่ร้ายหากเพื่อไทยชนะทักษิณจะกลับมาล้มสถาบัน เผยทักษิณเกาะติดสถานการณ์ระทึกตลอดวัน ก่อนหน้านี้ พรรคภูมิใจไทยของนายเนวินแพ้การเลือกตั้งซ่อมต่อพรรคเพื่อไทยทั้งที่สกลนคร และศรีสะเกษ
5 มกราคม 2553
ครม. ที่มี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นั่งเป็นประธาน ได้อนุมัติเงิน 247 ล้านบาท ซื้ออุปกรณ์ควบคุมการชุมนุม หรือ ปราบม็อบ ซึ่งกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน หรือ กอ.รมน. อ้างเหตุ ปีนี้จะมีม็อบเกิดขึ้นบ่อยครั้ง จึงจำเป็นต้องมีอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานสากลมารับมือ ด้านนายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกรัฐบาล เปิดเผยรายละเอียดว่า การอนุมัติมี 2 รายการใหญ่ ๆ
รายการแรก เป็นของกองรักษาความสงบกองทัพบก 25 กองร้อย (กองร้อยละ 150 นาย) เป็นเงิน 70,893,750 บาท มีโล่ใส, กระบอง, หมวกนิรภัย และชุดเกราะ อย่างละ 3,750 ชิ้น
รายการที่ 2 อีก 40 กองร้อย เป็นเงิน 177,877,500 บาท ประกอบด้วย โล่ใส, กระบอง, หมวกนิรภัย และชุดเกราะอย่างละ 6,000 ชิ้น
ลูกระเบิดขว้างแก๊สน้ำตา 5,200 ลูก เครื่องยิงแก๊สน้ำตา 260 เครื่อง ลูกระเบิดยิงแก๊สน้ำตา 5,200 ลูก เสื้อสะท้อนแสง 1,300 ตัว กระสุนยาง 487,500 นัด
ชุดสวมปากลำกล้องยิงกระสุนยางสำเร็จรูปเอ็ม 88 จำนวน 3,250 อัน เครื่องยิงแหบุคคล 130 เครื่อง และกระสุนยางสำหรับปืนลูกซอง (ชนิดทรงตัวด้วยหาง) 39,000 ลูก
7 มกราคม 2553
ที่รัฐสภา นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา แถลงกรณีที่แนวร่วมประชาธิปไตยแห่งชาติ (นปช.) ประกาศจะไปชุมนุมที่เขายายเที่ยง จ.นครราชสีมาในวันที่ 11 ม.ค. เพื่อโจมตีการถือครองที่ดินเขายายเที่ยงของพล.อ. สุรยุทธ จุลานนท์ องคมนตรี ได้เปิดเผยว่า อัยการจังหวัดได้ทำหนังสือถึงกรมทรัพยากรธรรมชาติในวันนี้ (7ม.ค.) ไปยังสำนักงานป่าไม้เพื่อให้ปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี 29 เม.ย.2518 กรณี ที่ราษฎรได้รับจัดสรรที่ดินทำกินจะต้องเป็นที่ดินทำกินของราษฎรผู้นั้น กรณีที่ตกทอดจะต้องตกทอดไปยังทายาทโดยธรรมเท่านั้น ไม่มีสิทธิขายหรือโอนให้บุคคลอื่น กรณีเช่นนี้จึงมีผลให้เจ้าของที่ดินทั้ง 150 แปลง และพล.อ.สุรยุทธจะไม่มีสิทธิถือครองที่ดินนี้ต่อไป พร้อมทั้งปกป้องว่า พล.อ. สุรยุทธ ไม่มีความผิด
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวมันไม่ง่ายแบบนั้นพล.อ.สุรยุทธ์ ทำผิดกฎหมายมาหลายปีจะคืนที่ดินแล้วจบกันคงไม่ได้ เพราะในทางกฎหมายถือว่าได้ทำความผิดสำเร็จไปแล้ว ดังนั้นพล.อ.สุรยุทธ์ ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามกฎหมายด้วยสถานะความเป็นองคมนตรีและสถานะ ของผู้มีคุณธรมและจริยธรรม นอกจากนี้พล.อ.สุรยุทธ์ต้องแสดงความรับผิดชอบมากกว่าการคืนที่คือ 1 . ต้องทบทวนว่าเหมาะสมว่าจะดำรงตำแหน่งองคนตรีต่อไปหรือไม่ 2.มีความชอบธรรมที่จะดำรงตำแหน่งประธานมูลนิธิอนุรักษ์ผืนป่าเขาใหญ่หรือไม่ เพราะพล.อ.สุรยุทธ์ ทำตัวเป็นสมภารกินไก่วัดครอบครองป่าสงวนเสียเอง และ3.มีความสง่างามเพียงพอที่จะเป็นผู้มีคุณธรรมจริยธรรมอย่างที่เคยเป็นมา หรือไม่
11 มกราคม 2553
21.15 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้วิดีโอลิงก์มายังกลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดง ที่เขาที่ยายเที่ยง โดยกล่าวว่า ขอชื่นชมสปิริตคนเสื้อแดง เดิมคาดว่าจะมา 3-4 พันคน แต่เอาจริงมาเต็มไปหมด แสดงว่ารักความเป็นธรรม รักประชาธิปไตย ที่มากันมากเพราะทนไม่ไหวต่อความอยุติธรรมของบ้านเมือง วันที่ 10 มกราคม นั่งฟังประชุมแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติที่พัทลุง ชาวบ้านบอกว่าคนใต้ทนไม่ไหวแล้วจะออกมาเรียกร้องความยุติธรรมเหมือนเสื้อแดง
"พวก เราขึ้นมาเพราะต้องการทำความจริงให้ชัด เพราะโกหกคนทั้งโลกตลอดเวลา พวกเราจะสู้ด้วยความจริงและความเป็นธรรม ที่ประเทศไม่มีสันติก็เพราะไม่เป็นธรรม ถามว่าเมื่อไหร่จะยุติความไม่เป็นธรรมเสียที ถ้าผมไม่ตายจะเรียกร้องหาความเป็นธรรมให้ถึงที่สุด ไม่มียอมแพ้ ไม่ย่อท้อ ตราบใดสังคมไทยไม่เป็นธรรม จะสู้กับพี่น้อง จะเคียงบ่าเคียงไหล่กับพี่น้องจนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม ถ้าพี่น้องบอกว่าจำเป็นแล้วที่จะให้ผมเข้าไป ผมก็จะเข้าไปทันที แต่ก็มีคนบอกว่า ตอนนี้ยังไม่ปลอดภัย"
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า จะปล่อยให้เป็นอย่างนี้ไม่ได้ เอาเงินเข้าซื้อ ให้อำนาจ สื่อก็ไม่เป็นธรรม โดยเฉพาะสื่อทีวีของรัฐ ไม่มีความเป็นธรรมเลย ยิ่งกว่ายุคปฏิบัติเสียอีก ช่อง 11 สมัยตนเป็นรัฐบาลไม่เคยใช้โจมตี แต่ปัจจุบันใช้ในการโจมตี ถ้าปล่อยให้เป็นอย่างนี้ถูกหลานโตขึ้นมาไม่ฉลาดแน่ การต่อสู้ในวันนี้ คือการต่อสู้เชิงสัญลักษณ์ เป็นการสู้กับการเลือกปฏิบัติของกฎหมาย ถ้ายังเป็นอยู่พวกเราจะไม่หยุด จะสู้ต่อไป
"ผู้นำอาเซียนบอกกับผมว่า อภิสิทธิ์และกษิตคุยกับเขาไม่คุยเรื่องอื่นเลยนอกจากไล่ล่าผมอย่างเดียว เขาอึดอัดมาก ก็เลือกตั้งที่ไรอภิสิทธิ์แพ้ทุกทีจึงได้ตามล่าอย่างนี้ ขอให้เก็บร่างกายและจิตใจให้แข็งแกร่ง จะต่อสู้ต่อไปจนกว่าจะได้ประชาธิปไตยกลับคืนมา ขอบคุณในการต่อสู้ที่ทุ่มเท ทั้งร่างกายและจิตใจ จะสู้ไม่มีหยุดจนกว่าจะได้ประชาธิปไตยและความเป็นธรรมกลับคืนมา"
12 มกราคม 2553
08.00 น. กลุ่มคนเสื้อแดง ที่ปักหลักชุมนุมบริเวณตรงข้ามบ้านพักเขายายเที่ยงของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรีและอดีตนายกรัฐมนตรี เปิดหมู่บ้านสองมาตรฐาน ประกอบด้วยบ้าน 3 หลัง โดยร่วมกันชักธงสู่ยอดเสาพร้อมร้องเพลงชาติไทย
10.00น. คนเสื้อแดงเริ่มทยอยเข้าร่วมการชุมนุมมากกว่า 10,000 คน ซึ่งมากกว่าที่ตำรวจสันติบาลคาดว่าจะมีไม่เกิน 5,500 คน โดยขบวนรถคนเสื้อแดงทยอยมาเรื่อยๆ ทั้งจากทางกรุงเทพฯ และเส้นทางจากสายอีสาน สถานที่จอดรถสามารถจอดด้านล่างเป็นลานกว้าง มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเฝ้ารถให้ด้วย และมีรถสองแถวบริการจากตีนเขาขึ้นบนเขา ส่งถึงหน้าเวทีปราศัยของคนเสื้อแดงเลย
แหล่งข่าวใกล้ชิดของ พล.อ.สุรยุทธ์ เปิดเผยว่า พล.อ.สุรยุทธ์ ยินดีคืนที่ดินเขายายเที่ยงให้กรมป่าไม้เพื่อยุติปัญหาทั้งหมด เพราะไม่อยากให้เกิดปัญหาแตกแยกกันมากกว่านี้ แต่เบื้องต้นต้องรอให้กรมป่าไม้ทำรายละเอียดแจ้งมาให้ทราบเสียก่อนว่าจะให้ ทำอย่างไร ส่วนการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ไปรวมตัวกันเรียกร้องอยู่ที่เขายาย เที่ยงที่อยู่บริเวณหน้าบ้านพักของ พล.อ.สุรยุทธ์ นั้น พล.อ.สุรยุทธ์ ไม่ได้ว่าอะไร เพราะถือเป็นสิทธิที่กลุ่มคนเสื้อแดงสามารถทำได้
“พล.อ.สุรยุทธ์ สามารถทำตามข้อเรียกร้องของกลุ่มคนเสื้อแดงได้เรื่องเดียว คือ การคืนที่ดินเขายายเที่ยงให้กับกรมป่าไม้เท่านั้น แต่เรื่องที่ให้ลาออกจากตำแหน่งองคมนตรีคงทำไม่ได้ เนื่องจาก พล.อ.สุรยุทธ์ ไม่มีความผิดอะไรถึงขึ้นจะต้องลาออกจากตำแหน่งองคมนตรี ปัญหาเรื่องที่ดินกับตำแหน่งมันคนละเรื่อง อย่านำมารวมกัน เพราะจะทำให้สังคมเกิดความสับสน ทั้งนี้ มองว่าการชุมนุมของคนกลุ่มเสื้อแดงมีนัยทางการเมือง โดยพยายามนำเรื่องที่ดินที่เขายายเที่ยงของ พล.อ.สุรยุทธ์ มาเป็นประเด็น เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับกรณีที่ดินรัชดาฯ ของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกคำพิพากษาของศาลฎีกาตัดสินจำคุก 2 ปี” แหล่งข่าวใกล้ชิด พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าว
นาย จตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย และแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) แถลงข่าวถึงกรณีนปช.ชุมนุมบริเวณหน้าบ้านพักของพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรีและอดีตนายกรัฐมนตรี ที่เขายายเที่ยง อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ว่า ขอให้รังวัดบ้านพักหลังดังกล่าวที่พล.อ.สุรยุทธ์แจ้งว่าครอบครองที่เดิน 21 ไร่ หากวัดได้พอดีเท่าที่แจ้ง ตนจะยอมลาออกจากตำแหน่ง ส.ส. แต่หาก พล.อ.สุรยุทธ์ครอบครองเกินที่แจ้งไว้ พล.อ.สุรยุทธ์จะต้องลาออกจากตำแหน่งองคมนตรี
19 มกราคม 2553
09.06น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล ทำพิธีเปิดพรรคการเมืองใหม่ (ก.ม.ม.) พรรคการเมืองใหม่เลือกใส่เสื้อสีเขียวอ่อน ส่วนผู้สนับสนุนที่เข้าร่วมงานเช่น นายชัยอนันต์ สมุทวณิช กุนซือคนสำคัญของนายสนธิที่หนุนให้ใช้นโยบายขวาจัดและกล่าวหาฝ่ายประชาธิปไตยว่าจะเปลี่ยนประเทศเป็นสาธารณรัฐ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ จากพรรคประชาธิปัตย์ และเคยขึ้นเวทีพันธมิตร พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายพิภพ ธงไชย นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ และแกนนำพันธมิตรฯ พล.อ.ปานเทพ ภูวนาทนุรักษ์ อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม อดีตหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการ คมช. นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว. นอกจากนี้ยังมี พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ และหัวหน้าพรรคมาตุภูมิ นายวิทยา แก้วภราดัย ประธานวิปรัฐบาลคนใหม่ นำตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์ มาร่วมแสดงความยินดีอีกด้วย รวมทั้งนายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์
11.00 น. พรรคเพื่อไทยแถลงข่าวเปิดตัวอดีตนายทหาร จปร.รุ่น 9 สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยอย่างเป็นทางการ จำนวน 25 นาย ซึ่งเหตุผลที่อดีตนายทหารเหล่านี้ตัดสินใจมาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยเพราะเขามองว่าเวลานี้บ้านเมืองมีสองมาตรฐาน ไม่มีความยุติธรรม ขณะที่พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่จะสร้างความสงบสุขให้กับประชาชนได้ อย่างไรก็ตามการที่มีอดีตนายทหารซึ่งผ่านสนามรบและมีความจงรักภักดีเข้ามา ร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยจำนวนมาก เป็นเรื่องพิสูจน์ได้อย่างดีว่าพรรคเพื่อไทยไม่ได้ทรยศชาติอย่างที่มีบางคนกล่าวหา
22 มกราคม 2553
นสพ.ไทยเรดนิวส์ ชี้แจงกรณีถูกรัฐบาลแจ้งจับ ๒ ข้อหา คือ
๑) กระทำผิดต่อ พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. ๒๕๕๐ ว่า ไม่จดแจ้งการพิมพ์ ตามมาตรา ๒๕ ที่ตราว่า “ผู้ใดออกหนังสือพิมพ์โดยพนักงานเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้รับจดแจ้งตามมาตรา ๑๑ ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน ๖ เดือน ปรับไม่เกิน ๑๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” และ
๒) กระทำผิดต่อมาตรา ๙ ที่ กำหนดว่า “ให้ผู้พิมพ์ ส่งสิ่งพิมพ์ ตามมาตรา ๘ จำนวน ๒ ฉบับให้กับหอสมุดแห่งชาติ ภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันเผยแพร่ แต่หอสมุดฯไม่เคยได้รับนสพ.ฉบับนี้เลย”
...
"แท้จริงแล้ว ข้อกล่าวหาของท่านนั้น เป็นไปตามกฎหมายใหม่ที่มีขึ้นทีหลังในยุคเผด็จการ ที่มีการเปลี่ยนแปลงผู้รับผิดชอบสื่อสิ่งพิมพ์ เป็นหอสมุดแห่งชาติ ด้วยกฎหมายที่เกิดจากอำนาจเผด็จการ ในปี พ.ศ. ๒๕๕๐ ซึ่งเป็นกฎหมายที่ออกโดยสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ที่ผู้แต่งตั้งสมาชิกสภา คือพล อ.สนธิ บุณยรัตกลิน เป็นกฎหมายที่ตราขึ้นแทนกฎหมายเดิม ที่ กรมตำรวจเป็นผู้รับผิดชอบมาก่อน ที่เราได้จดแจ้งไว้ จึงขอว่าท่านไม่ควรใช้กฎหมายนี้ย้อนหลังด้วย เพราะผิดต่อหลักนิติธรรม และหลักการปกครองในระบอบประชาธิปไตย เราขอให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ได้เคารพสิทธิเสรีภาพของคน ตามหลักแห่งการปกครองในระบอบประชาธิปไตยด้วย"
23 มกราคม 2553
แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงระบุว่ามีกลุ่มนายทุนบุกรุกที่ดินเขาดอยดาว จ.จันทบุรี และนำมาจัดสรรในเชิงพาณิชย์ ซึ่ง ป.ป.ช.ได้ชี้มูลความผิดเมื่อปี 2548 แต่จนถึงขณะนี้กรมป่าไม้ไม่กล้ายึดที่ดินคืน เพราะที่ดินดังกล่าวเป็นของธนาคารกรุงเทพ ซึ่งมี พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เป็นประธานที่ปรึกษา
โดยกลุ่มผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ของบริษัทคือกลุ่มกรรณสูต และกลุ่มโสภณพนิช โดยเปิดให้บริการธุรกิจโรงแรมและสนามกอล์ฟเมื่อปี 2536
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบข้อมูลบริษัทจดทะเบียน พบว่า บริษัทดังกล่าวจดทะเบียนนิติบุคคลกับกระทรวงพาณิชย์เมื่อปี 2533 ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท โดยผู้ถือหุ้นหลัก 8 ราย ประกอบด้วย นางสุชาดา ลีสวัสดิ์ตระกูล ,นาย นภดล รมยะรูป(เขยของตระกูลโสภณพนิช เจ้าของแบงก์กรุงเทพ) , นาย ชาลี โสภณพนิช กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ซิตี้เรียลตี้ จำกัด , นาย โชติชัย อรรถวิภัชน์ ,นาย เปรมชัย กรรณสูต , นาง นิจพร จรณะจิตต์ , นาง พิไลจิตร เริงพิทยา และ นาย ยุทธชัย จรณะจิตต์
สนามกอล์ฟสอยดาวฯมีบริษัท จันทบุรีคันทรีคลับ จำกัด เป็นเจ้าของ มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่เลขที่ 49 อาคารเอเซียเสริมกิจ ชั้น 6 ซ.พิพัฒน์ ถ.สีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพ
พลเอกเปรม เป็นประธานที่ปรึกษาธนาคารกรุงเทพในปัจจุบัน และมีรายงานว่าได้มาเป็นประธานพิธีเปิดสนามกอล์ฟแห่งนี้ และทางสนามได้ตั้งห้อง"รัฐบุรุษ"เพื่อเป็นเกียรติไว้ในบริเวณคลับเฮาส์สาม กอล์ฟด้วย
13.00 น. นายขวัญชัย ไพรพนา นายสุพร อัตถาวงศ์ แกนนำ นปช.ขึ้นเวทีปราศรัยเรียกร้องให้เจ้าของสนามกอล์ฟคืนที่ดินให้กับแผ่นดิน มีประชาชนซึ่งบางส่วนมาตั้งแต่คืนวันที่ 22 มกราคม และบางส่วนมาถึงเมื่อเช้าวันที่ 23 มกราคม ปักหลักฟังปราศรัยเต็มพื้นที่ชุมนุมประมาณ 10,000 คน ท่ามกลางสภาพอากาศร้อน และยังมีประชาชนจำนวนหนึ่งที่อยู่บริเวณรอบพื้นที่ชุมนุมเปลี่ยนเสื้อผ้าลง เล่นน้ำที่ไหลมาจากน้ำตกวังกะแพอย่างสบายใจ
ในช่วงบ่ายแกนนำกลุ่มคน เสื้อแดง อาทิ นายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พท.และแกนนำ นปช. มาถึงที่ชุมนุม และขึ้นเวทีปราศรัยโจมตี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ และเจ้าของสนามกอล์ฟสอยดาวฯ แต่อย่างไรก็ตาม แม้จะมีป้ายติดประกาศไว้ว่า สนามกอล์ฟสอยดาวฯปิดให้บริการระหว่างวันที่ 22-24 มกราคม แต่ยังคงมีผู้ที่พักอยู่ในรีสอร์ทมาออกรอบเล่นกอล์ฟตามปกติ และเมื่อมาถึงบริเวณปราศรัยก็หยุดดูพักหนึ่ง ก่อนเล่นกอล์ฟต่อ ส่วนบริเวณรอบๆ สถานที่ชุมนุมมีการ์ดของกลุ่มคนเสื้อแดงที่มีทหารพรานซึ่งเป็นลูกน้องของ พล.ต.ขัตติยะ มาร่วมรักษาความปลอดภัยร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัครของ จ.จันทบุรี ขณะที่ กระทรวงมหาดไทยมีรายงานตัวเลขผู้เข้าร่วมการชุมนุมครั้งนี้ประมาณ 6,000 คน
16.00 น. นายจตุพร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีสนามกอล์ฟบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนว่า มีเอกสารหลักฐานชัดเจนว่า สนามกอล์ฟบนเนื้อที่กว่า 4,012 ไร่ แห่งนี้สร้างทับพื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติ พื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า พื้นที่ป่าสาธารณะ รวมถึงพื้นที่ป่าถาวร เพราะเมื่อดูจากเอกสารภาพถ่ายทางอากาศและเอกสารที่เกี่ยวกับการออกโฉนดและ การซื้อขายที่ดินแห่งนี้ มีการทำนิติกรรมอำพราง
นายจตุพรกล่าวว่า ที่ดินสนามกอล์ฟแห่งนี้ต้องแยกออกเป็น 2 ประเด็นใหญ่ คือ กรณีแรกเรื่องการบุกรุกป่าสงวน 482 ไร่ ซึ่งที่ผ่านมา กรมป่าไม้มาตรวจสอบพบมีการบุกรุกป่าจริง จึงยื่นฟ้องบริษัทสวนจันทบุรีฯ แต่เรื่องยังติดอยู่ที่อัยการจังหวัดจันทบุรี และขณะนี้ไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด จึงอยากถามเจ้าหน้าที่ซึ่งเกี่ยวข้องว่าเหตุใดเรื่องนี้จึงได้ล่าช้า
นายจตุพรกล่าวว่า ส่วนกรณีที่ 2 เป็นเรื่องการฉ้อโกงประชาชน มีกระบวนการออกโฉนดปลอมของนายหน้าขายที่ดินนำไปขายให้ชาวบ้านในราคา 300,000 บาท ซึ่งหลังจากชาวบ้านจ่ายเงินและลงนามมอบอำนาจให้นายหน้าคนดังกล่าวไปแล้ว ก็เกิดกระบวนการปลอมแปลงเอกสารจากชาวบ้านซื้อที่ดินเป็นชาวบ้านขายที่ดิน ก่อนนำไปขายต่อให้ผู้บริหารคนหนึ่งของธนาคารกรุงเทพในราคา 375 ล้านบาท ภายหลังจากวันเซ็นมอบอำนาจของชาวบ้านเพียง 8 วัน และปัจจุบันนายหน้าขายที่ดินคนดังกล่าวได้เสียชีวิตไปแล้วอย่างมีเงื่อนงำ
"เรื่องดังกล่าวเห็นได้ว่ามีการฉ้อโกงชาวบ้าน เนื่องจากชาวบ้านไม่ได้ที่ดิน ต้องสูญเสียเงินและยังถูกกรมสรรพสามิตเรียกเก็บภาษีย้อนหลังอีก 12 ล้านบาท ชาวบ้านจึงได้ยื่นฟ้องต่อศาลแพ่ง หลังจากนั้นจึงถูกกลุ่มผู้มีอิทธิพลเข้ามาคุกคาม ไล่ยิง เผาบ้าน จนชาวบ้านที่เป็นโจทก์ยื่นฟ้องต้องหลบหนีออกนอกพื้นที่ ซึ่งคดีนี้ศาลจะนัดตัดสินในวันที่ 25 กุมภาพันธ์"
นายจตุพรกล่าวว่า อยากตั้งข้อสังเกตว่า การที่อดีตอธิบดีกรมที่ดินออกมาระบุว่า โฉนดที่ดินผืนนี้ถูกต้อง ซึ่งต่อมาได้ดิบได้ดีเป็นถึงรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยในสมัยรัฐบาล คมช. ทำให้เห็นว่าบุคคลนี้มีส่วนเกี่ยวข้องและมีสายสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงกับ พล.อ.เปรม และขณะนี้อธิบดีที่ออกโฉนดสมัยนั้นกำลังถูกตรวจสอบโดย ป.ป.ช. สาเหตุที่มี พล.อ.เปรมเข้ามาเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ เพราะมาเป็นประธานในวันเปิดสนามกอล์ฟ อีกทั้งยังมีห้องที่ชื่อรัฐบุรุษอยู่ในสนามกอล์ฟแห่งนี้ด้วย และที่ผ่านมา พล.อ.เปรมได้มาเล่นกอล์ฟที่นี่หลายครั้ง ประกอบกับหลังจากที่ พล.อ.เปรมพ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ยังได้เป็นที่ปรึกษาของธนาคารกรุงเทพ ซึ่งถือหุ้นใหญ่ของสนามกอล์ฟแห่งนี้
นายจตุพรกล่าวอีกว่า ขอให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบการถือครองที่ดินของ บริษัทสวนจันทบุรี หลังจากนี้ นปช.จะดาวกระจายไปยื่นหนังสือต่อกระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมป่าไม้ กรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรมที่ดิน ให้ตรวจสอบการถือครองที่ดินดังกล่าวเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ และจะขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเข้ามาตรวจสอบกระบวนการกู้เงินมาซื้อที่ดิน ดังกล่าว ส่วนเดือนหน้าจะไปยัง จ.เชียงใหม่ เพื่อทวงพื้นที่ซึ่งบุกรุกป่าสงวนคืนให้กับแผ่นดิน
นางมยุรี เศวตาศัย แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงอยุธยา ซึ่งระดมคนเข้าร่วมชุมนุมที่เขาสอยดาว กล่าวว่า มีตำรวจและหน่วยงานด้านความมั่นคงมาสังเกตการณ์บันทึกภาพ ส่วนตนมีข้อมูลใหม่เกี่ยวกับการบุกรุกที่ดินป่าสงวนของผู้มีอำนาจฝ่ายรัฐบาล และนักการเมือง พร้อมกลุ่มนายทุนซีกรัฐบาลที่บุกรุกสร้างสนามกอล์ฟแห่งหนึ่งใน อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เนื้อที่กว่า 2,000 ไร่ ซึ่งนำเรื่องทั้งหมดเสนอไปให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตรวจสอบ แต่เรื่องยังคงเงียบอยู่ ดังนั้น จะนำข้อมูลทั้งหมดไปส่งมอบให้กับแกนนำ นปช.เปิดโปงตีแผ่ให้สังคมรับทราบต่อไป
21.30 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้วิดิโอลิ้งค์เข้ามายังที่ชุมนุมเขาสอยดาว โดยระบุว่า กลุ่มเสื้อแดงซึ่งเป็นสามัญชนได้ลุกขึ้นมาเปิดโปงอำมาตย์ชนชั้นสูงอย่างไม่ เคยเป็นมาก่อน และเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์อาจยิ่งใหญ่กว่ายุค 14 ตุลาคม ที่ตอนนั้นมีเฉพาะนักศึกษาที่ตื่นตัว แต่ยุคนี้เป็นการตื่นตัวของประชาชนทุกสาขาอาชีพ จึงขอเตือนอำนาจให้คืนความเป็นธรรมให้ประเทศเสีย อย่าไปหลงเชื่อแต่คนแวดล้อมที่าได้ประโยชน์ รวมทั้งสื่อมวลชน ก่อนที่จะถึงวันดีเดย์
การที่อำมาตย์คิดว่าฝ่ายเสื้อแดงจะฝ่อไปเอง ท่านจะแพ้ เพราะนี่เป็นโอกาสสุดท้ายแล้วที่ท่านจะยอม ประชาชนที่ร่วมกันต่อสู้จะไม่สูญเปล่า ผมไม่มีวันเลิกสู้และไม่หวั่นไหว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับผมก็ตาม
พ.ต.ท.ทักษิณยังได้กล่าวชื่นชมเส ธ.แดงด้วย และว่าหากเกิดการปฏิวัติรัฐประหารขึ้นในประเทศไทย ก็พร้อมจะจัดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นขึ้นในต่างประเทศ ประสานกับการต่อสู้ของประชาชนในประเทศไทย
เป็นที่น่าสังเกตว่าประเด็นการจัดตั้ง"รัฐบาลพลัดถิ่น"นี้ พ.ต.ท.ทักษิณเพิ่งกล่าวปราศรัยต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก
ทางด้านนายวีระ มุสิกพงษ์ แกนนำนปช.กล่าวเสริมว่า ตอนนี้มีเสื้อแดงไปตั้งกลุ่มในหลายประเทศทั้งอเมริกา ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย อังกฤษ เยอรมนี ก็เลยเห็นว่า"หรือน่าจะได้เวลาตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นขึ้นในต่างประเทศเสียที"
25 มกราคม 2553
ข่าวประจำพระราชสำนัก
17.44 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออก ณ ห้องประชุม ชั้น 14 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายอักขราทร จุฬารัตน ประธานศาลปกครองสูงสุด นำตุลาการศาลปกครองสูงสุดและตุลาการศาลปกครองชั้นต้น ตำแหน่งตุลาการ ศาลปกครองกลาง เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่
ในการนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสแก่ตุลาการศาลที่เข้าร่วมถวายสัตย์ปฏิญาณ ดังนี้
ในการปฏิญาณนั้นคนรักษา คือคนที่ต้องตัดสินอะไรที่ควรไม่ควร ที่ดี ไม่ดี ท่านที่ปฏิญาณมีความสำคัญอยู่ไม่น้อย ท่านต้องจัดการปัญหาในการปกครองของประเทศให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และท่านมีอำนาจที่จะตัดสิน ที่จะพิพากษา ซึ่งหมายความว่าท่านจะต้องชี้แจงว่าอะไรควร อะไรไม่ควร เป็นงานที่ท่านต้องทำด้วยความละเอียดรอบคอบ และมีความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อให้ประเทศชาติมีความเป็นธรรม
ความเป็นธรรมนี้ก็หมายความว่า ทำอะไรที่เป็นจริง ที่เรียบร้อย ที่จะทำให้ผู้ได้มีความอยู่เย็นเป็นสุข เพราะฉะนั้นงานของท่านก็มีความสำคัญไม่น้อย การพิพากษาเป็นงานของผู้เป็นสมาชิกของศาล จะต้องพิพากษาเพื่อความเป็นธรรม หมายความว่าเป็นอะไรที่เรียบร้อยที่ถูกต้อง ที่ทำให้ทุกสิ่ง ทุกอย่างดำเนินได้ด้วยดี
เพราะฉะนั้นท่านต้องมีหน้าที่สำคัญ และจะต้องทำตามคำพิพากษา คำปฏิญาณที่ท่านได้กล่าวในหน้าที่ของท่านต้องจำว่าท่านได้ปฏิญาณตนว่าจะทำ ทุกสิ่งทุกอย่างด้วยความเป็นธรรม อะไรที่เรียบร้อย ซึ่งเป็นการปฏิบัติไม่ใช่ง่าย เพราะแต่ละคนมีความคิดที่แตกต่าง
การมีความคิดแตกต่างก็มีการตัดสินคดี เพราะการมีคดี คือเป็นเรื่องของคนที่มีความคิดแตกต่างกัน เพราะฉะนั้นท่านต้องมาพิจารณาว่า อะไรที่มีความคิดแตกต่างกัน และให้เห้นว่าอะไรที่ควรจะทำ ที่เป็นกลาง ที่เป็นความจริง ที่เป็นความยุติธรรม
ความยุติธรรมนี้หมายความว่า คน มีติ ใน ธรรม ตัดสินว่าอะไรเป็นธรรม อะไรไม่เป็นธรรม บางเรื่องตัดสินไม่ง่าย เพราะแต่ละคนมีความคิดของตัว ถ้าใครมีทิฐิในทางของตัว ความยุติธรรมแท้จริงไม่ง่าย เพราะแต่ละคนมีความดีหรือที่เรียกว่ายุติธรรมแก่ตัว แท้จริงความยุติธรรมนั้นไม่ได้มีอันหนึ่งอันเดียว มีหลาย แล้วแต่ความต้องการ มีของแต่ละคน แต่ความต้องการของแต่ละคนต้องต่างกัน แต่ท่านจะต้องอยู่ตรงกลาง
บางทีท่านอาจถูกว่าถูกกล่าวว่าเป็นคนที่ ไม่ดี เพราะว่า ไปตัดสินในสิ่งที่ไม่เป็นที่พอใจของอีกฝ่าย แต่ถ้าเราอยู่ตรงกลาง อันนี้คือข้อสำคัญของคนที่ทำหน้าที่รักษาความยุติธรรม ต้องเป็นกลาง ความเป็นกลางนี้ยากมาก เพราะว่าต้องมีความที่เป็นกลางนั้นเอง ท่านต้องไม่ลืมความเป็นกลาง ไม่ลืมความยุติธรรม
ถ้าท่านทั้งหลายได้ทำหน้าที่ของท่าน แต่ถ้าทำไม่ได้ ก็เท่ากับท่านทรยศต่อความยุติธรรม การทรยศ ไม่มีใครอยากจะทำ ท่านอาจถูกมองทำ เป็นความไม่ดี เป็นความน่าเกลียด ฉะนั้นก็ต้องพิจารณาว่า ท่านปฏิญาณว่าจะรักษาความยุติธรรม ก็ต้องทราบว่า ความยุติธรรมนั้นเป็นอย่างไร แต่ละคดีก็มีความยุติธรรมของคดีนั้น ซึ่งถ้าท่านพิจารณา แล้วควรคิดว่าอะไรที่ยุติธรรม อะไรที่เป็นกลาง ท่านก็จะชนะในความจริง
ฉะนั้นท่านต้องรักษาความยุติธรรมนี้และ ปฏิบัติด้วยความกล้าหาญ เหนียวแน่น แต่ถ้าท่านไม่มีความกล้าหาญ ไม่ว่าจะประการใดก็ตาม จะเป็นเรื่องของความไม่ยุติธรรมในตัวท่าน หรือมีความโง่เขลา ควรทำด้วยความฉลาดและทำให้เป็นกลางแท้ๆ อย่างนี้ท่านก็จะได้ทำตามหน้าที่ที่ท่านได้เป็นผู้พิพากษาให้ศาล
ขอให้ท่านพิจารณาให้ดี ทุกสิ่งทุกอย่าง ที่ได้พิจารณา ตามที่ท่านได้ประสาทวิชาของท่าน ทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านได้ตั้งใจปฏิญาณ ต้องให้ทำตรงๆ จะเป็นทางที่ได้ทำหน้าที่แท้จริงของท่าน ก็ขอให้ท่านปฏิบัติงานของท่านต่อไป ด้วยความซื่อสัตย์ ด้วยความฉลาด ด้วยความสามารถที่จะรักษาความยุติธรรม
ก็ขอให้ท่านมีความสำเร็จในกางานการตลอดที่ท่านทำงานและทุกเวลา ทุกเมื่อ จนกระทั่งจะสิ้นชีวิต ต้องรักษาความยุติธรรม ก็ ขอให้สามารถปฏิบัติหน้าที่เป็นการดีของแต่ละท่านและเป็นการดีของประเทศชาติ ทำให้ประเทศชาติมีความสงบสุขได้ ขอให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสำเร็จ ตลอดไป อดทนในหน้าที่ของท่าน ทุกเมื่อจะต้องมีความยุติธรรมอยู่ในตัว ก็ขอให้ความยุติธรรมนี้นำท่านสู่ความสำเร็จ
26 กุมภาพันธ์ 2553
13.30 น. องค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เริ่มอ่านคำพิพากษาในคดีที่ อัยการสูงสุด ยื่นคำร้องขอให้ทรัพย์สินที่ร่ำรวย ผิดปกติและได้มาเนื่องจากการกระทำที่เป็นการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคล และประโยชน์ส่วนรวมของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตกเป็นของแผ่นดินโดยศาลมีคำวินิจฉัยว่า พ.ต.ท. ทักษิณ เป็นเจ้าของหุ้นบริษัทชินคอร์ปที่แท้จริง และใช้อำนาจหน้าที่ระหว่างดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเอื้อประโยชน์ให้แก่บริษัทชินคอร์ป เอไอเอส และชินแซทฯโดยตรง อันมีผลทำให้มูลค่าหุ้นของบริษัทชินคอร์ปสูงขึ้น รวมทั้งได้เงินปันผลจำนวนดังกล่าว จึงมีคำพิพากษา ให้ยึดเฉพาะเงินค่าขายหุ้นส่วนที่เพิ่มขึ้นหลังจากดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และเงินปันผล จำนวนทั้งสิ้น 46,373,687,454.64 บาทให้ตกเป็นของแผ่นดิน และให้คืนทรัพย์สินที่มีมาก่อนจะเข้าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จำนวนทั้งสิ้น 30,247,915,606.31 บาท ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่ยอมรับผลการตัดสินดังกล่าว และอาจจะยื่นเรื่องเพื่ออุทธรณ์ต่อศาลโลกต่อไป
ข้อเท็จจริงเพิ่มเติม
<<< แถลงการณ์ กลุ่ม ๕ อาจารย์ คณะนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ : กรณียึดทรัพย์ทักษิณ >>>
<<< รวมคำแถลงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ภายหลังคำพิพากษาคดียึดทรัพย์ >>>
<<< วิพากษ์คำพิพากษายึดทรัพย์ >>>
<<< คดียึดทรัพย์ฉบับชาวบ้าน:ความเท็จVSความจริง >>>
<<< ข้อเท็จจริงที่ควรรู้ เรื่อง ข้อกล่าวหาทั้งหมดที่ใช้เพื่อหวังยึดทรัพย์ทักษิณ >>>
<<< ข้อเท็จจริงที่ควรรู้ เรื่อง 6 ข้อกล่าวหาที่ใช้ในการยึดทรัพย์ทักษิณ >>>
<<< ข้อเท็จจริงที่ควรรู้ เรื่อง ภาษีสรรพสามิตโทรคมนาคม >>>
8 มีนาคม 2553
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน ยืนยันว่ากลุ่มคนเสื้อแดงจะเข้าร่วมการชุมนุมใหญ่ที่กรุงเทพมหานครในวันที่ 14 มีนาคมนี้ อย่างแน่นอน โดยยึดหลักประชาธิปไตย ไม่สร้างความวุ่นวายให้กับบ้านเมือง โดยการชุมนุมครั้งนี้ยึดหลักสันติวิธี ไม่ใช้ความรุนแรง และได้วางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอย่างรัดกุม
9 มีนาคม 2553
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้อ่านแถลงการณ์ของพันธมิตรฯ ฉบับที่ 4/2553 ว่ารัฐบาลจะต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่กับผู้ชุมนุม เพื่อป้องปรามความรุนแรงทุกรูปแบบ โดยระบุว่ากลุ่มพันธมิตรฯจะไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆในช่วงเวลาดังกล่าว
11 มีนาคม 2553
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รองผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.พิรุณ แผ้วพลสง เสนาธิการทหารบก พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 และ พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมกันแถลงข่าวภายหลังการประชุมกองอำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบ ที่กองบัญชาการกองทัพบก
โดยได้นำชุดควบคุมฝูงชนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งชายและหญิง ชุดสายตรวจ ชุดสายตรวจ ชุดปฏิบัติการพิเศษ หรือหน่วยสวาท ชุดจู่โจมเคลื่อนที่เร็ว หรือชุดปะ ฉะ ดะ เพื่อให้ประชาชนรับทราบเจ้าหน้าที่ของตำรวจที่จะปฏิบัติหน้าที่ในช่วงประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง ระหว่างวันที่ 11-23 มีนาคม พ.ศ. 2553
นายสุเทพ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ที่จะดูแลความสงบเรียบร้อยในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลที่ประกาศ เป็นพื้นที่ความมั่นคง ซึ่งทุกคนไม่พกพาอาวุธ นอกจากอุปกรณ์ป้องกันตัว แต่จะมีเพียงชุดสายตรวจ ชุดสายตรวจ ชุดปฏิบัติการพิเศษหรือหน่วยสวาท ชุดจู่โจมเคลื่อนที่เร็ว หรือชุด ปะ ฉะ ดะ ที่จะมีอาวุธติดตัว เพื่อปฏิบัติหน้าที่ โดยจะมีเครื่องหมายเลขชัดเจน
ทั้งนี้ ชุดแรกที่เข้าควบคุมฝูงชนที่เป็นผู้หญิงก็จะเป็นเจ้าหน้าที่ผู้หญิงและไม่มี อาวุธ ส่วนชุดควบคุมฝูงชนผู้ชายมีเพียงโล่ และกระบอง หากมีบุคคลอื่นแอบอ้างหรือแต่งเครื่องแบบทหาร นอกเหนือจากนี้จะจับดำเนินคดี สำหรับการถวายอารักขาที่บริเวณรอบโรงพยาบาลศิริราช จะอยู่ภายใต้การควบคุมของผู้บัญชาการทหารเรือ และจะมีทหารเรือและทหารบกแต่งเครื่องแบบรักษาความสงบเรียบร้อย โดยใช้กำลังทั้งสิ้น 5 กองร้อย
12 มีนาคม 2553
แกนนำ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน จัดการชุมนุมย่อยในหลายพื้นที่ ได้แก่ ศาลากลางจังหวัดสมุทรปราการ, วงเวียนหลักสี่, แยกดินแดง, สวนลุมพินี, วงเวียนใหญ่, แยกบางนา
13 มีนาคม 2553
กลุ่มผู้ชุมนุมทยอยเดินทางมาที่สะพานผ่านฟ้า ลีลาศ ถนนราชดำเนิน กรุงเทพมหานคร เพื่อร่วมชุมนุมใหญ่ โดยขับรถเป็นคาราวานเข้ากรุง
14 มีนาคม 2553
นายวีระ มุสิกพงศ์ ประธาน นปช.แดงทั้งแผ่นดิน อ่านแถลงการณ์เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภาภายใน 24 ชั่วโมง
"เผด็จการได้เข้าครอบงำประเทศตั้งแต่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549 และยังคงครอบงำต่อมา ด้วยเครื่องมือรัฐธรรมนูญ 2550 องค์กรอิสระต่างแลกฎหมายที่มาจากเผด็จการคณะนั้น รัฐบาลชุดนี้เป็นเครื่องมือชิ้นหนึ่งของการ ครอบงำ เรียกว่า เผด็จการซ่อนรูป ประจักษ์ชัดโดยไม่สงสัยว่ารัฐบาลบริหาร โดยขาดความรู้ ประสบการณ์ และทุจริตคอร์รัปชั่น ก่อความเสียหายต่อประเทศและประชาชน รัฐบาลนี้ขาดความชอบธรรมในการบริหาร เพราะรวบรวมชื่อ ส.ส.สนับสนุนได้ แต่สภาผู้แทนขาดคามรับผิดชอบ หลายบทหลายมาตรา อาทิ มาตรา 301, 302, 291 สภานี้จึงไม่อาจเป็นที่พึ่งอย่างแท้จริงของประชาชน"
นายเพียร ยงหนู ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ การไฟฟ้านครหลวง กล่าวว่ากองทัพต้องวางบทบาทอยู่บนหลักความถูกต้อง ยึดถือความยุติธรรม เพื่อเป็นที่พึ่งของประชาชนตามระบอบประชาธิปไตย ทั้งนี้ สหภาพฯออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ไม่ให้นำกองกำลังทหารหลายกองร้อยออกปฏิบัติการเพื่อควบคุมฝูงชน เพราะจะเป็นการสร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชน และหากมีการใช้กำลังสลายการชุมนุมด้วยวิธีรุนแรง สหภาพฯจะเข้าร่วมต่อสู้กับประชาชนทันที
15 มีนาคม 2553
กลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนไปยังกรม ทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ เพื่อทวงถามคำตอบจากนายกรัฐมนตรี แต่นายกรัฐมนตรีได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ แบล็คฮอร์ค ออกจากบริวณดังกล่าว โดยระบุว่าจะพา นายโสภณ ซารัมย์ ตรวจดูการจราจร ตามเส้นทางต่างๆ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้แถลงข่าวว่า หลังการชุมนุมผ่านมา 3 วันทุกอย่างเรียบร้อยปกติ ซึ่งผู้ชุมนุมมีการยื่นเวลาให้ตนยุบสภาภายใน 24 ชั่วโมง ตนได้เชิญหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลและผู้แทนพรรคร่วมรัฐบาลมาหารือซึ่งเห็นร่วม กันว่าไม่ควรมีการยุบสภา
16 มีนาคม 2553
กลุ่มผู้ชุมนุมเจาะเลือดคนละ 10 ซีซี
16.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มเคลื่อนขบวนออกจากสะพานผ่านฟ้า เพื่อมุ่งหน้านำเลือกที่เจาะได้จากกลุ่มผู้ชุมนุมไปเทบริเวณประตูทำเนียบรัฐบาล ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมได้นำเลือดผสมน้ำเกลือ ใส่ในแกลลอนน้ำขนาด 5 ลิตรจำนวนกว่า 23-24 แกลลอน และทยอยหิ้วเดินทางไปยังทำเนียบรัฐบาล ขณะที่แกนนำกลุ่มนปช.ได้ขึ้นรถบรรทุกติดเครื่องขยายเสียงเคลื่อนไปพร้อมกับกลุ่มผู้ชุมนุม
17.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมได้ทำพิธีเทเลือดที่บริเวณประตูต่างๆ ของทำเนียบรัฐบาล โดยในบริเวณประตู 2 ได้มีพราหมณ์พร้อมกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนเดินทางเข้าประกอบพิธีด้านหน้า บริเวณประตู โดยมีการเทเลือดลงบนพื้นถนนพร้อมทำพิธีสาบแช่งและนำเลือดมาเขียนเป็นอักขระ บนเสาด้านข้างประตู 2 และทำเรื่อยไปจนถึงประตู 8 ซึ่งตั้งอยู่ด้านเลียบคลองผดุงกรุงเกษม โดยจุดเทเลือดสุดท้ายคือ ทางเข้าอาคารสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ซึ่งภายหลังจากเสร็จสิ้นพิธีแกนนำได้ขึ้นประจำรถบรรทุกติดเครื่องขยายเสียง เพื่อเตรียมเคลื่อนขบวนผู้ชุมนุมไปที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ต่อไป
18.45 น. กลุ่มผู้ชุมนุมได้ฝ่าแนวกั้นที่เจ้าหน้าที่นำมากั้นด้านหน้าประตูทางเข้าที่ ทำการพรรคประชาธิปปัตย์ จนสามารถเข้าไปทำพิธีเทเลือดที่บริเวณหน้าบันไดทางขึ้นที่ทำการพรรคได้ สำเร็จ โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้เตรียมเลือดที่เหลือจากการทำพิธีบริเวณทำเนียบรัฐบาล จำนวน 10 แกลลอน มาทยอยเทด้านหน้าที่ทำการพรรคประชาธิปปัตย์ ทั้งนี้ในระหว่างที่มีการทำพิธี ผู้ชุมนุมต่างส่งเสียงโห่ร้องและตะโกนขับไล่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีอย่างต่อเนื่อง ขณะที่แกนนำได้ปราศรัยขอให้ผู้ชุมนุมอยู่ในความสงบก่อนที่จะประกาศให้ผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนกลับไปเวทีหลักที่สะพานผ่านฟ้า
17 มีนาคม 2553
ช่วงเช้า แกนนำกลุ่มผู้ชุนนุมได้ประกาศแนวทางและเส้นทางที่จะใช้เดินทาง เพื่อไปเทเลือดที่บริเวณหน้าบ้านพักของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ซอยสุขุมวิท 31 และเริ่มเคลื่อนขบวนผู้ชุมนุม เวลาประมาณ 11.50 รถปราศรัยของแกนนำได้เดินทางมาถึงสี่แยกด้านหน้าบ้านพักนายกรัฐมนตรี โดยนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง ได้เป็นตัวแทนเดินลงมาบริเวณรั้วลวดหนามพร้อมด้วยภาชนะบรรรจุเลือดประมาณ 5-6 แกลลอน ขณะที่ได้มีฝนตกลงมาอย่างหนัก เพื่อพยายามเจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อจะขอเข้าไปทำพิธีกรรมเทเลือด บริเวณหน้าบ้านของนายกรัฐมนตรี แต่ยังไม่สามารถเข้าไปได้ โดยมี พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 เป็นผู้คุมสถานการณ์ และทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล 5 ได้นำรถบรรทุกเครื่องขยายเสียงมาขอให้ผู้ชุมนุมอย่างสันติและขอให้ตระหนักใน สิทธิของประชาชนที่อาศัยอยู่โดยรอบส่วนหน้าบ้านพักนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้ยังเป็นบ้านพักของบิดานายกรัฐมนตรี ดังนั้นจะทำให้อะไรก็ขอให้อยู่ในกรอบกติกาและคำนึงถึงจารีตประเพณีสังคมไทย ด้วย ขอให้ผู้ชุมุนมจัดตัวแทนมาเจรจาร่วมกันว่าจะเข้าจัดกิจกรรมในจุดใด ตำรวจพร้อมให้ความร่วมมือและอำนวยความสะดวก และขอยืนยันว่าจะไม่ใช้กำลังและความรุนแรงใด ๆ กับผู้ชุมนุม
แต่ในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยอมให้กลุ่มคนเสื้อแดงเข้ามาภายในซอยสุขุมวิท 31 หลังนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำคนเสื้อแดงได้เจรจากับ พล.ต.ต.วิชัย โดย พล.ต.ต.วิชัยได้สั่งให้ตำรวจถอยเป็นระยะทาง 5 เมตร แต่ยังสกัดกั้นไม่ให้ผู้ชุมนุมเข้าถึงรั้วบ้านได้ ซึ่งขณะนี้มีระยะห่างกว่า 200 เมตร ทั้งนี้ได้มีผู้ชุมนุมบางส่วนพยายามบุกปะทะกับเจ้าหน้าที่ที่ตั้งแถวกั้นอยู่ด้วย
อย่างไรก็ดี เมื่อมีการสกัดกั้นไม่ให้กลุ่มม็อบเข้าไปใกล้บ้านพักของนายกรัฐมนตรี กลุ่มผู้ชุมนุมนำโดยนายอริสมันต์ได้ทำการฝ่าวงล้อมของเจ้าหน้าที่ บุกไปถึงหน้าบ้านพักนายกรัฐมนตรี พร้อมเทเลือดกองบนพื้นถนนท่ามกลางฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก โดยนายณัฐวุฒิได้ประกาศบนรถปราศรัยเพื่อขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่เปิดทางให้ กลุ่มคนเสื้อแดงเทเลือดบริเวณดังกล่าวด้วย และมีผู้ชุมนุมบางคนได้ระดมปาถุงบรรจุเลือดและอึเข้าใส่ภายในบ้านพักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเจ้าหน้าที่และบุคคลภายในบ้านได้พยายามนำสายยางมาฉีดน้ำโต้ตอบ
ทั้งนี้หนังสือพิมพ์ Christian Sciene Monitor ของสหรัฐอเมริกา ได้จัดอันดับ 10 การประท้วงสุดพิสดาร ปรากฏว่า การเทเลือดของกลุ่มนปช. ถูกจัดให้เป็นอันดับ 1 ของการประท้วงสุดพิสดาร
20 มีนาคม 2553
กลุ่มผู้ชุมนุมจัดขบวนรถจำนวนมาก โดยเคลื่อนขบวนไปรอบกรุงเทพมหานครตามเส้นทางสายสำคัญต่างๆ แกนนำกลุ่มเสื้อแดงได้กล่าวอ้างว่าตลอดทางมีประชาชนมาให้กำลังใจจำนวนมาก
โดยการเคลื่อนพลจะเคลื่อนไปพร้อมกันทั้งหมด จะไม่มีการดาวกระจาย เริ่มตั้งขบวนตั้งแต่ 10.00 น. หัวขบวนจะอยู่ที่แยกยมราช มีกองทัพมอเตอร์ไซค์ 2,000 คันนำขบวน พร้อมกับทีมนักรบพระองค์ดำ จากนั้นถึงจะเป็นขบวนคนเสื้อแดงทั้งหมด โดยจะเคลื่อนขบวนไปตามถนนเพชรบุรีตัด ใหม่ ถึงแยกอโศกจะเลี้ยวซ้ายเข้าถนนรัชดาภิเษกผ่านแยกฟอร์จูน ไปตามถนนรัชดาฯ จนถึงแยกรัชดาฯ-ลาดพร้าว จะเลี้ยวขวา เข้าถนนลาดพร้าว ตรงไปถึงบางกะปิ ถึงแยกบางกะปิ จะเลี้ยวขวา ไปถึงแยกลำสาลี แล้วจะเลี้ยวขวาอีกครั้ง เข้าถนนรามคำแหง ตรงไปตามถนนรามคำแหง จนถึงแยกพระราม 9 ตรงไปแยกคลองตัน แล้วตรงไปแยกพระโขนง เลี้ยวขวาเข้าถนนพระราม 4 จากนั้นตรงไปจนถึงสีลม แล้วเข้าวงเวียนโอเดียน เยาวราช ผ่านพาหุรัด แล้วเคลื่อนขบวนไปฝั่งธนบุรี ก่อนที่จะกลับเข้าเวทีปราศรัยที่เชิงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ถนนราชดำเนิน ในเวลา 18.00 น. กองบัญชาการตำรวจนครบาลได้ประเมินตัวเลขจำนวนผู้ชุมนุมในวันนี้ไม่น้อยกว่า 100,000 คน รถจักรยานยนต์ ประมาณ 10,000 คัน และรถยนต์ประมาณ 7,000 คัน
นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำคนเสื้อแดง กล่าวถึงการเคลื่อนขบวนของกลุ่มเสื้อแดงว่า เน้นคอนเซปต์ว่าเป็นการขอบคุณและปลูกต้นรักให้แก่คนกรุงเทพฯ ที่ต้อนรับการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่มาจากต่างจังหวัด จึงจะเป็นขบวนที่ผ่อนคลาย ไม่เครียด ไม่มีการปราศรัยทางการเมืองที่เข้มข้น จะเป็นการตีกลอง ร้องเพลงแบบฉิ่งฉาบทัวร์ เพื่อสร้างความสนุกสนาน สลับกับการขึ้นปราศรัยขอบคุณคนกรุงเทพฯ เน้นความรื่นเริงเถิดเทิงไปตลอดการเคลื่อนขบวน
22 มีนาคม 2553
นายวีระ มุสิกพงศ์ ประธาน นปช.แดงทั้งแผ่นดิน อ่านแถลงการณ์เรื่อง "ยืนยันข้อเรียกร้องยุบสภา พร้อมเจรจากับนายกฯ"
"นปช.ยืนยันให้ยุบสภาทันทีเพื่อคืนอำนาจให้ ประชาชน นปช.ไม่มีข้อเรียกร้องอื่นใดนอกเหนือจากนี้ นปช. ยินดีให้มีการเจาจาโดยผู้เจารจาคือผู้มี อำนาจเต็มของแต่ละฝ่าย ฝ่ายรัฐบาลต้องเป็นตัวนายกรัฐมนตรีเท่านั้น เพราะมีอำนาจตัดสินใจยุบสภา เมื่อยุบสภาแล้ว ทุกกลุ่มทุกฝ่ายต้องสลายตัวทันทีเพื่อให้ประเทศชาติกลับสู่ปกติ และต้องเปิดโอกาสให้ทุกพรรคหาเสียงเต็มที่โดยไมมีกีดขวางให้การเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ ยุติธรรมเป็นเครื่องตัดสินความขัดแย้งทางการเมือง ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร ทุกฝ่ายต้องยอมรับ เพื่อให้ประเทศต้องเดินหน้าต่อไปได้"
23 มีนาคม 2553
25 มีนาคม 2553
นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ พร้อมแกนนำคนอื่น อาทิ นายวันชนะ เกิดดี นายเจ๋ง ดอกจิก รวมทั้งผู้ชุมนุมทั้งผู้ชาย ผู้หญิงและเด็กที่สมัครใจได้ทำการโกนศีรษะเพื่อประท้วงนายกรัฐมนตรีและขับ ไล่รัฐบาล รวมทั้งทำพิธีสาปแช่งนายกรัฐมนตรี โดยมีนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงโกนผมให้นายสุพร ขณะที่พระสงฆ์ประมาณ 15 รูป โกนผมให้แก่ผู้ชุมนุม บนเวทีหลักสะพานผ่านฟ้าลีลาศ
27 มีนาคม 2553
คนเสื้อแดงได้เคลื่อนขบวนไปกดดันทหารให้ถอนกำลังกลับกรมกองตามจุดต่างๆ ทั้ง 7 จุด เอเอฟพีระบุว่ามีผู้เข้า ร่วมชุมนุมประมาณ 80,000 คน นอกจากนี้ยังมีการยึดอาวุธปืน ฯลฯ ของทหารจำนวนหนึ่งอีกด้วย แล้วมีการส่งคืนในภายหลัง แต่ยังมีอาวุธสูญหาย ซึ่งทาง ศอฉ. ยังคงกังวลอยู่
28 มีนาคม 2553
นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ และนายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ เข้าเจรจาหารือเรื่องการยุบสภากับประธาน นปช.แดงทั้งแผ่นดิน นพ.เหวง โตจิราการ และนายจตุพร พรหมพันธุ์
29 มีนาคม 2553
มีการเจรจาต่อเนื่องจากเมื่อวาน แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป
3 เมษายน 2553
มีการเคลื่อนขบวนมาปักหลักบริเวณแยกราชประสงค์ ซึ่งเต็มไปด้วยผู้ชุมนุมจำนวนมาก กระจายกันอยู่เต็มผิวจราจร ตั้งแต่แยกประตูน้ำ ด้านหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ต่อเนื่องไปจนถึงถนนราชดำริ โดยพิธีกรบนเวทีแจ้งว่า คืนนี้จะปักหลักชุมนุมข้ามคืน ที่แยกราชประสงค์
7 เมษายน 2553
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
8 เมษายน 2553
ภายหลังที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง มอบหมายให้กระทรวง เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ไปแจ้งให้ไทยคมระงับการแพร่สัญญาณภาพและ เสียงของสถานีประชาชน ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมปักหลักชุมนุมอยู่ที่บริเวณสถานีไทยคม ที่ตั้งอยู่ถนนรัตนาธิเบศร์ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี และสถานีไทยคม ซึ่งตั้งอยู่ถนนสายลาดหลุมแก้ว-วัดเจดีย์หอย อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี เพื่อเรียกร้องให้ยุติการระงับการเผยแพร่สัญญาณ
9 เมษายน 2553
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า องค์กรผู้ สื่อข่าวไร้พรมแดนออกแถลงการณ์ประณามการปิดกั้นสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมพีเพิลแชนแนลและเว็บไซต์ 36 เว็บไซต์ของกลุ่มคนเสื้อแดง โดยระบุว่าการปิดกั้นสื่อมวลชนที่ทั้งเป็นกลางและสื่อที่มีความเห็นไปในทาง เดียวกับฝ่ายค้าน ทำให้อาจเกิดความรุนแรงได้
กลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนไปยังสถานีไทยคม ซึ่งตั้งอยู่ถนน สายลาดหลุมแก้ว-วัดเจดีย์หอย อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี เพื่อเรียกร้องให้ยุติการระงับการเผยแพร่สัญญาณการออกอากาศของสถานีประชาชน โดยได้มีการนำกองกำลังทหารเข้าสลายการชุมนุมด้วยแก๊สน้ำตา แต่ไม่บรรลุผล จากนั้นเหตุการณ์ได้สงบลงภายในเวลา 15 นาที โดยแกนนำพยายามควบคุมมวลชนไม่ให้บุกเข้าไปภายในตัวอาคาร จนกระทั่งมีการเจรจาให้ทหารถอนกำลังเดินแถวออกจากสถานีไทยคม ท่ามกลางเสียงโห่ร้องดีใจของผู้ชุมนุม
นอกจากนี้ได้มีการนำอาวุธที่ได้ยึดมาจากทหาร ที่ประกอบด้วยปืนเอ็ม 16, ปืนลูกซองยาว พร้อมลูกระเบิดแก๊สน้ำตา หมวกกันน็อค เสื้อเกราะ โล่ กระบอง มาให้สื่อมวลชนได้ถ่ายภาพเอาไว้ รวมทั้งยังมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากแก๊สน้ำตาอีกจำนวนหนึ่งจากเหตุการณ์การสลายการชุมนุม หลังจากที่มีการยืนยันว่าทางสถานีประชาชนจะมีการออกอากาศอย่างแน่นอน กลุ่มผู้ชุมนุมจึงเคลื่อนขบวนกลับไปยังที่ตั้ง
22.20 น.ได้มีการเข้าระงับการออกอากาศของทางสถานีอีกครั้ง
10 เมษายน 2553
รัฐบาลได้นำกองกำลังทหารเข้าสลายการชุมนุมของประชาชนบริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ
13.00 น. เจ้าหน้าที่ได้ฉีดน้ำออกจากกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 1 และพยายามปิดประตู พร้อมขึงรั้วลวดหนาม นอกจากนี้มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ได้ใช้แก๊สน้ำตายิงด้วย ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมได้ถอยร่นออกมาบริเวณสนามเสือป่า พยายามปาท่อนไม้และสิ่งของตอบโต้ นอกจากนี้ยังเกิดเสียงดังขึ้นเป็นระยะๆ ซึ่งทราบภายหลังว่าเป็นระเบิดเสียง ทำให้ผู้ชุมนุมแตกตื่นวิ่งหนี
13.10 น. กลุ่มเสื้อแดงได้กลับมารวมตัวอีกครั้ง แกนนำบนรถปราศรัยได้ประกาศว่า นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ กำลังเดินทางตามมา โดยกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนได้เดินเก็บท่อนไม้ที่เหลือจากการจัดงานกาชาดเตรียมพร้อมไว้แล้วด้วย
13.45 น. เกิดเหตุชุลมุนที่แยกพาณิชยการ ใกล้ทำเนียบรัฐบาลและกองทัพภาคที่ 1 โดยเจ้าหน้าที่ทหารได้ใช้น้ำฉีดผู้ชุมนุมที่ปิดล้อมแยกดังกล่าว จากนั้นได้ยิงแก๊สน้ำตา และยิงกระสุนยางใส่ผู้ชุมนุมเป็นระยะ ทำให้กลุ่มคนเสื้อแดงบางคนได้รับบาดเจ็บและแตกฮือสลายการชุมนุมจากแยกพาณิช ยการ จากนั้นทหารนำรถที่กลุ่มผู้ชุมนุมจอดขวางออกนอกพื้นที่ และเดินจากแยกพาณิชยการมุ่งหน้าเข้าถนนราชดำเนิน
14.00 น. ทหารได้ทยอยยึดถนนราชดำเนินได้บางส่วน โดยตรึงกำลังตามสี่แยกต่างๆ ตั้งแต่กอง บัญชาการกองทัพภาคที่ 1 แยกมิสกวัน และสะพานมัฆวานรังสรรค์ ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมต่างถอยร่นไปรวมตัวที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศ และพยายามจอดรถขวางทางเพื่อสกัดทหาร
14.20 น. บริเวณการชุมนุมคนเสื้อแดงบริเวณแยกมิสกวัน โดยทหารได้ใช้แก๊สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุม อย่างไรก็ตามเกิดโต้ล้มทำให้พัดย้อนกลับไปโดนทหารเช่นกันและมีผู้ชุมนุมบาง ส่วนได้ขว้างกลับมาเช่นกัน ทางด้านบริเวณคลองผดุงกรุงเกษมทหารได้รุกคืบฉีดน้ำใส่ผู้ชุมนุมพร้อมกับได้จับผู้ปราศรัยบนเวที ขณะเดียวกันทางผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงได้ปรับขบวนด้วยการใช้พระสงฆ์ออกมาตั้งแนวป้องกันการรุกคืบของทหาร
15.00 น. มีกลุ่มเจ้าหน้าที่ทหารพร้อมปืนลูกซอง ปืนเอ็ม16 พกโล่พร้อมอาวุธครบมือ ได้ยืนตั้งแถวอยู่ตรงบริเวณสวนสาธารณะเชิงสะพานพระปิ่นเกล้า ฝั่งอรุณอมรินทร์
17.50 น. มีเฮลิคอปเตอร์บินวนบริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ และได้มีการปล่อยแก๊สน้ำตาลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ ลงมาเพื่อสลายการชุมนุม ขณะที่แกนนำได้ประกาศให้ผู้ชุมนุมออกมารวมตัวกันที่หน้าเวที พร้อมกับปลุกระดมให้ต่อสู้และดูสถานการณ์ต่อไป ขณะที่ผู้ชุมนุมได้มีการปล่อยลูกโป่งและโคมลอยเพื่อรบกวนการบินของ เจ้าหน้าที่บนเฮลิคอปเตอร์แต่ไม่มีผลแต่อย่างใด แก๊สน้ำตาที่เจ้าหน้าที่ทิ้งลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ตกลงมาที่ด้านหลังเวที ซึ่งมีสื่อมวลชนปักหลักทำข่าวอยู่เป็นจำนวนมากทำให้แตก ตื่นหาที่หลบแก๊สน้ำตา และอีกจุดทิ้งไปที่ด้านหน้าเวทีซึ่งมีผู้ชุมนุมรวมตัวอยู่ค่อนข้างหน้าแน่น
21.00 น. มีการปะทะกันอย่างต่อเนื่อง ระหว่างผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ในบริเวณต่างๆ ใกล้กับที่ชุมนุม เช่น ถนนดินสอ ช่วงวงเวียนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และถนนตะนาว ช่วงแยกคอกวัว ฝั่งเชื่อมต่อถนนข้าวสาร โดยมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 27 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 1,427 ราย
11 เมษายน 2553
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บตามโรงพยาบาลต่างๆ โดยนายสมชาย กล่าวว่าขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะหลีกเลี่ยงไม่ได้
12 เมษายน 2553
10.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมได้เคลื่อนขบวนแห่ศพผู้เสียชีวิตจากการสลายการชุมนุมออกจาก สะพานผ่านฟ้าลีลาศ โดยขบวนประกอบด้วยรถยนต์บรรทุกโลงศพจำนวนทั้งสิ้น 17 คัน พร้อมด้วยขบวนรถจักรยานยนต์และผู้ชุมนุม ที่เดินเท้าตาม ทั้งนี้ในจำนวนโลงศพทั้งหมด 16 โลง มีเพียง 2 โลงที่มีศพอยู่จริงส่วนที่เหลือจะเป็นโลงเปล่าเพราะศพทั้งหมดถูกนำไปชันสูตร ที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งผู้ชุมนุมได้นำธงชาติไทยมาคลุมโลงศพพร้อมรูปผู้เสียชีวิต อย่างไรก็ตามในบริเวณพื้นที่ชุมนุมสะพานผ่านฟ้าลีลาศและแยกราชประสงค์ยังคง มีกลุ่มผู้ชุมนุมปักหลักอยู่และไม่เดินทางร่วมไปกับขบวน เนื่องจากก่อนหน้านี้แกนนำผู้ชุมนุมได้ประกาศให้กลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนปัก หลักอยู่ที่เวทีชุมนุมทั้งสองจุด เพื่อป้องกันการเข้าสลายการชุมนุม
พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากการปะทะกันของเจ้าหน้าที่ทหาร และกลุ่มผู้ชุมนุมเมื่อวันที่ 10 เมษายน ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นผู้ที่จะต้องรับผิดชอบมีคนเดียว คือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เนื่องจากเป็นบุคคลที่ขาดสำนึกความเป็นผู้นำ ปฏิเสธที่จะเข้าใจถึงปัญหาของคนในชาติ ตนไม่เคยพบเห็นการใช้กำลังติดอาวุธเข้าปราบปรามประชาชน ไม่เคยเห็นความรุนแรง และกระทำอย่างขาดความสำนึกเช่นนี้
14 เมษายน 2553
ยุบเวทีใหญ่ที่ผ่านฟ้าเพื่อไปรวมกันที่แยกราชประสงค์ และเปิดเส้นทางจราจร เนื่องจากทางแกนนำไม่ต้องการให้เกิดการปะทะ และเป็นการคืนพื้นที่ให้ตามที่รัฐบาลเรียกร้อง
15 เมษายน 2553
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้แถลงข่าวว่า หลังการชุมนุมผ่านมา 3 วันทุกอย่างเรียบร้อยปกติ ซึ่งผู้ชุมนุมมีการยื่นเวลาให้ตนยุบสภาภายใน 24 ชั่วโมง ตนได้เชิญหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลและผู้แทนพรรคร่วมรัฐบาลมาหารือซึ่งเห็นร่วมกันว่าไม่ควรมีการยุบสภา
การย้ายมาชุมนุมที่แยกราชประสงค์สำนักนายกรัฐมนตรีได้ยื่นคำร้องขอให้ศาล ไต่สวนเพื่ออกมาตรการบังคับให้ผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่ถนนราชดำริ โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงจากการไต่สวนฟังได้ว่าการกระทำของแกนนำทั้ง 5 และผู้ร่วมชุมนุมเป็นการปิดกั้นกีดขวางเส้นทางคมนาคมและการใช้ยานพาหนะของ ประชาชนทั่วไป ส่งผลกระทบต่อธุรกิจสำคัญ รวมทั้งเกิดความเดือดร้อนต่อการประกอบอาชีพ และการดำรงชีวิตของประชาชน จึงเป็นการจำกัดเสรีภาพการเดินทางของประชาชนที่จะใช้เส้นทางสาธารณะและกระทบ ต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพการชุมนุมที่เกินกว่าขอบเขตของรัฐธรรมนูญ ปี 2550 ม.34 และ 63 บัญญัติไว้ ดังนั้นเมื่อ ผอ.รมน.โดย ผอ.ศอ.รส. รับมอบอำนาจให้ปฏิบัติหน้าที่แทน ได้อาศัยอำนาจตาม มาตรา 18 พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 ออกข้อกำหนดและข้อประกาศห้ามแกนนำทั้งห้าและผู้ชุมนุมทั้งหมดออกจากพื้นที่ ที่ชุมนุมแล้ว ข้อกำหนดและประกาศดังกล่าวจึงมีสภาพบังคับอยู่ในตัว และเมื่อมีประกาศใช้แล้วย่อมมีผลบังคับได้ทันที ไม่จำเป็นต้องมาร้องขอให้ศาลออกคำบังคับตามข้อกำหนดดังกล่าวอีก ศาลจึงมีคำสั่งให้ยกคำร้องฝ่ายสนับสนุนการชุมนุม
16 เมษายน 2553
ช่วงเช้าเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยอรินทราช บุกเข้าปิดล้อมโรงแรมเอสซีปาร์ค ล้อมจับแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม ประกอบด้วยนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง, นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์, นายพายัพ ปั้นเกตุ, นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก และนายวันชนะ เกิดดี
โดยนายอริสมันต์ได้โรยตัวออกทางระเบียง โดยมีกลุ่มผู้ชุมนุมกว่า 100 รายคอยให้ความช่วยเหลือได้สำเร็จ หลังจากนั้นนายอริสมันต์นำกลุ่มคนเสื้อแดงไปล้อมเจ้าหน้าที่อีกชั้น ชิงตัวแกนนำคนอื่นๆออกมาได้ในที่สุด และ ได้ทำปิดล้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไปปฏิบัติการในครั้งนี้อีกชั้น และให้กลุ่มผู้ชุมนุมบุกเข้าช่วยเหลือเหล่าแกนนำอีก 5 คนที่เหลือ จนสามารถช่วยเหลือนายสุภรณ์ และนายเจ๋งออกมาได้ อย่างไรก็ตาม ปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ครั้งนี้ ทำให้ทางโรงแรมได้รับความเสียหายบางส่วน ขณะที่การจราจรโดยรอบต้องปิดไปโดยปริยาย
นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำผู้ประสานงานกลุ่มประชาชนพิทักษ์ชาติ และกลุ่มเฟสบุ๊คต้านยุบสภา เดินทางมาให้กำลังใจการปฏิบัติหน้าที่ของทหาร ที่บริเวณด้านหน้า กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์
18 เมษายน 2553
กลุ่มคนเสื้อหลากสี อันประกอบด้วย เครือข่ายประชาชนพิทักษ์ชาติ และเครือข่ายเฟซบุ๊ก เดินทางมารวมตัวกันที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อร่วมเป็นกำลังใจให้รัฐบาลทำหน้าที่ พร้อมทั้งคัดค้านการยุบสภา และแสดงออกไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง
21 เมษายน 2553
พนักงานบริษัทย่านสีลม ได้รวมตัวกันภายใต้ชื่อ เครือข่าย ประชาคมชาวสีลม ออกมาชุมนุมในช่วงเวลาพักเที่ยงต่อต้านการกระทำของกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดง พร้อมทั้งมอบอาหารและน้ำให้กับทหารและตำรวจที่มาดูแลรักษาความปลอดภัย
กลุ่มคนเสื้อแดงรวมตัวชุมนุมบริเวณสถานีรถไฟขอนแก่น อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น เพื่อสกัดไม่ให้ขบวนรถไฟลำเลียงทหาร อาวุธและยานพาหนะกว่า 20 โบกี้ออกจากสถานี เนื่องจากเกรงทหารจะเข้าร่วมสลายการชุมนุมในกรุงเทพฯ
22 เมษายน 2553
ได้เกิดเหตุระเบิด 5 ครั้งบริเวณถนนสีลม โดยครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. ระหว่างที่กลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ แห่งชาติ (นปช.) รวมตัวการชุมนุมอยู่แยกศาลาแดงฝั่งถนนสีลม ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของตำรวจ โดยเสียงระเบิดดังขึ้น 3 ครั้ง ที่บริเวณสถานีรถไฟฟ้าศาลาแดง หลังเสียงระเบิดดังขึ้น ประชาชนที่อยู่บนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสศาลาแดงได้วิ่งหลบหนีออกจากบริเวณดัง กล่าว ขณะที่ด้านล่าง จุดที่มีการชุมนุมของกลุ่มต่อต้านนปช.ก็เกิดความโกลาหลเช่นกัน
20.30 น. ระเบิดลูกที่ 4 ได้ระเบิดขึ้นบริเวณหน้าโรงแรมดุสิตธานี ใต้ทางเดินลอยฟ้าเชื่อมต่อสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส หรือสกายวอล์ก
20.45 น. ระเบิดลูกที่ 5 ก็ระเบิดขึ้นที่หน้าธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาศาลาแดง
ทั้งนี้ เหตุระเบิดที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ผู้บาดเจ็บทั้งหมด 87 คน สาหัส 3 คน โดยผู้บาดเจ็บถูกส่งไปรักษาตัวตามโรงพยาบาลต่าง ๆ โดยรอบบริเวณการชุมนุม มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ 3 คน
24 เมษายน 2553
18.00 น. นายวีระ มุสิกพงศ์ ประธาน นปช.แดงทั้งแผ่นดิน กล่าวบนเวทีปราศรัย โดยกล่าวว่า สืบเนื่องจากการที่กลุ่มนปช.แดงทั้งแผ่นดิน ได้ประกาศจุดยืนและเจตนารมณ์เพื่อปกป้องรักษาทุกชีวิต เพื่อไม่ให้เกิดการบาดเจ็บ และเสียชีวิต ดังเหตุการณ์วันที่ 10 และ 22 เมษายน ที่ผ่านมา ดังนั้น เพื่อความไม่ประมาท นปช.แดงทั้งแผ่นดิน จึงจำเป็นต้องปรับยุทธวิธี เพื่อรองรับสถานการณ์ที่เหมาะสมโดยยังยึดแนวทางที่สันติวิธี
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน กล่าวต่อว่า หลังจากที่ทาง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เลือกที่จะปิดประตูการเจรจากับทาง นปช. ชัดเจนว่า ทางนายกรัฐมนตรีได้ตัดสินใจหันหลังให้แนวทางสันติวิธีเรียบร้อยแล้ว ดังนั้น ขอประกาศโดยชัดเจนว่า นปช.แดงทั้งแผ่นดิน ขอให้นายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภาโดยทันที รวมทั้งยังขอประกาศมาตรการรับมือ โดยยึดแนวทางที่สันติวิธี คือ
1. ขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมถอดเสื้อสีแดง และวางสัญลักษณ์ที่แสดงออกถึงความเป็น นปช. ทิ้งออกตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เพื่อมาเป็นนักรบนอกเครื่องแบบ จนกว่าจะได้รับชัยชนะจนกว่าจะได้รับประชาธิปไตยจากรัฐบาลกลับคืนมา
2. ขออาสาสมัครจักรยานยนต์ไปประจำด่าน ทั้ง 6 ด่าน จำนวนด่านละ 2 พันคัน
3. ขอให้คนเสื้อแดงทั่วประเทศคอยสังเกตการณ์กองกำลังทหาร และตำรวจที่พยายามจะเข้ามาในกรุงเทพฯ หากพบก็ขอให้ยึดปฏิบัติการขอนแก่นโมเดลทันที ยึดแนวทางสันติวิธี
4. ขอให้กลุ่มคนเสื้อแดงกระทำและปฏิบัติตัวอย่างใดก็ได้ตามอิสระเสรี
5. ขอให้พี่น้องเสื้อแดงทุกคนจับกลุ่มย่อยละ 5 คน แลกเบอร์ และทำความรู้จักกันไว้ เพราะเมื่อเกิดสถานการณ์ใดขึ้น จะได้เป็นช่องทางในการสื่อสารถึงกันได้
นายณัฐวุฒิกล่าวอีกว่ามาตรการทั้งหมดนี้ เป็นมาตรการที่เตรียมไว้รับมือกับนายอภิสิทธิ์ เชื่อว่าภายใน 48 ชั่วโมงนี้ นายอภิสิทธิ์ได้เตรียมการที่จะสลายการชุมนุม ดังนั้น จึงขอเชิญชวนพี่น้องเสื้อแดงที่รักประชาธิปไตย ที่อาศัยอยู่ทั่วประเทศ เดินทางเข้ามาชุมนุมที่พื้นที่ราชประสงค์เพื่อประกาศให้นายกรัฐมนตรีได้รู้ ว่าไม่ต้องการรัฐบาลที่มาจากอำมาตย์อีกต่อไปแล้ว และต่อจากนี้ให้เรียกกลุ่มคนเสื้อแดงใหม่ว่า กลุ่มคนไม่มีสี ไม่มีเส้น
25 เมษายน 2553
ความเคลื่อนไหวในรูปแบบ "ขอนแก่นโมเดล" ได้เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ โดยที่จังหวัดอุดรธานี นายวิเชียร ขาวขำ ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ได้เป็นแกนนำคนเสื้อแดงมาตั้งด่านสกัดเจ้าหน้าที่ตำรวจถึง 3 จุด โดยเฉพาะที่อำเภอโนนสะอาด โดยอ้างว่าเพื่อป้องกันชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องในกรุงเทพฯ ในขณะที่วิทยุชมรมคนรักอุดรก็ได้ประกาศเชิญชวนให้มาสกัดการ เคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ พร้อมให้เรียกระดมพลให้เข้าร่วมชุมนุมที่ราชประสงค์ ที่อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ก็มีการตั้งด่านของคนเสื้อแดงเช่นกัน โดยได้ตั้งด่านมาตั้งแต่คืนวันที่ 24 เมษายน นอกจากการตั้งด่านสกัดเจ้าหน้าที่แล้ว บรรดาคนเสื้อแดงยังได้มีการปล่อยลมยางรถทหารและรถตำรวจที่จะมีการเคลื่อน ขบวนเข้ากรุงเทพฯ ด้วย ซึ่งน่าสังเกตว่าในหลายจังหวัดกลุ่มผู้ชุมนุมก็น้อยกว่าเจ้าหน้าที่ แต่กลับไม่สามารถนำกำลังเจ้าหน้าที่มายังส่วนกลางได้
28 เมษายน 2553
09.30 น. นายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน เปิดเผยภายหลังการประชุมแกนนำว่า ในเวลา 10.30 น. จะเคลื่อนขบวนผู้ชุมนุมไปยังตลาดไท เพื่อให้กำลังใจมวลชนคนเสื้อแดงที่ปักหลักอยู่ที่นั่น โดยให้มวลชนที่ต้องการจะร่วมขบวนไปรวมตัวที่ศาลาแดงแล้วร่วมเดินทางไปรถปิคอัพจำนวน 150 คัน เพราะว่าก่อนหน้านี้ได้ข่าวว่าจะมีการขนอาวุธเข้ามาในกรุงเทพฯเพื่อปราบปราม ประชาชนจึงเป็นภารกิจที่เสื้อแดงจะต้องสกัดกั้นเอาไว้
13.00 น. กลุ่มคนเสื้อแดงได้เคลื่อนพลถึงฐานทัพอากาศ ดอนเมืองนายขวัญชัยได้สั่งให้ขบวนหยุดเนื่องจากพบว่า มีตำรวจและทหารตั้ง ด้านสกัดอยู่และให้กลุ่มมอเตอร์ไซค์ไปดูพร้อมให้ถอยกลับมาก่อน โดยทหารมีการเตรียมพร้อมตั้งแถวพร้อมอุปกรณ์ปราบจลาจลและทั้งสองฝ่ายปักหลัก กันอยู่มีช่องว่างห่างกันประมาณ 2 กิโลเมตรทั้งนี้ทหารได้ขอความร่วมกับสื่อมวลชนให้ออกนอกพื้นที่ปฏิบัติงาน หลังจากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมได้เคลื่อนพลออกจากหน้าฐานทัพอากาศดอนเมืองมุ่ง หน้าอนุสรณ์สถานแห่งชาติเรียบร้อยแล้วหลังจาก หยุดเจรจาแล้วไม่เป็นผลและเจ้าหน้าที่ได้ยิงกระสุนยางเข้าใส่ทำให้ผู้ชุมนุมต้องถอยร่น
นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน ได้ขึ้นปราศรัยที่เวทีการชุมนุมสี่แยกราชประสงค์ โดยประกาศขอให้ผู้ชุมนุมไม่ต้องตกใจกับสถานการณ์ที่ดอนเมืองและรังสิต พร้อมกับให้นายขวัญชัยนำมวลชนเดินทางกลับมาตั้งหลักที่ราชประสงค์เพื่อกำหนด ท่าทีกันอีกครั้ง
14.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารได้จับกุมผู้ชุมนุมบริเวณโรงเรียนมัธยมสังคีตวิทยากว่า 10 คน
14.40 น. เจ้าหน้าที่ทหารเริ่มยิงกระสุนยางใส่ผู้ชุมนุมหลายสิบนัดตั้งแต่อนุสรณ์สถาน แห่งชาติถึงโรงเรียนมัธยมสังคีตวิทยาดอนเมืองขณะที่ประชาชนที่จอดรถสัญจรไป มาบนถนนวิภาวดีรังสิตได้ลงมาจากรถเพื่อหาที่ปลอดภัยหลบกระสุนยางของเจ้าหน้าที่
15.00 น. เสียงปืนบริเวณอนุสรณ์สถานแห่งชาติ ซึ่งเป็นจุดปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่และผู้ชุมนุมที่กำลังมุ่งหน้าไปยังตลาดไท ได้สงบลงแล้ว
16.10 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงยอดผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์บริเวณหน้าอนุสรณ์สถานแห่งชาติว่า จากรายงานของสถาบัน การแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ เบื้องต้น มีผู้บาดเจ็บ 16 ราย ในจำนวนนี้ 10 ราย ส่งเข้ารักษาที่โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งมีสาหัส 1 ราย บาดเจ็บที่ช่องทองต้องเข้ารับผ่าตัด และอีก 3 ราย เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลแพทย์ รังสิต ซึ่งก็มีสาหัส 1 รายที่ต้องผ่าตัดเช่นกัน เนื่องจากถูกยิงที่หน้าอก
17.00 น. ที่ถนนวิภาวดี 47 เจ้าหน้าที่ทหารมีการผลักดันกับผู้ชุมนุมรอบที่ 2 ระหว่างนั้นได้มีเจ้าหน้าที่ทหารชุดเคลื่อนที่เร็วขับรถมอเตอร์ไซค์ ลงมาจากโทลล์เวย์ทำให้เจ้าหน้าที่ทหาร ทางด้านล่างเกิดการเข้าใจผิดยิงปืนกระสุนจริงและกระสุนยางเข้าใส่จนทำให้ เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 1 ราย ขณะที่ทหารบางส่วนได้ถอยร่นกลับไปที่หน้าโรงเรียนมัธยมสังคีตวิทยาดอนเมือง ฝั่งขาออกซึ่งขณะนี้ได้เปิดให้บริการแล้ว 1 ช่องทาง เพื่อให้รถขาออกได้เคลื่อนตัวไปได้
สำนักข่าวต่างประเทศ เช่น ซีเอ็นเอ็นและบีบีซีรายงานเหตุการณ์ปะทะกัน ระหว่างเจ้าหน้าที่ทหารและกลุ่มผู้ชุมนุม ที่บริเวณอนุสรณ์สถานแห่งชาติ โดยอ้างว่า เจ้าหน้าที่ศูนย์เอราวัณเปิดเผยมีจำนวนผู้ชุมนุมบาดเจ็บอย่างน้อย 16 รายระหว่างการปะทะกัน ขณะที่มีเจ้าหน้าที่ทหารเสียชีวิต 1 ราย จากกระสุนปืนของเพื่อนทหารพวกเดียวกันเอง โดยทหารคนดังกล่าวคือ พลทหารณรงค์ฤทธิ์ สาละ ถูกยิงเข้าทะลุหมวกเข้าที่ศีรษะเหนือคิ้ว ซึ่งศพยังอยู่ในร้านค้าสวัสดิการภายในอนุสรณ์สถานแห่งชาติ
29 เมษายน 2553
นายพายัพ ปั้นเกตุ แกนนำ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน กล่าวว่าตนได้ไปตรวจสอบภายในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เนื่องจากมีบุคคลอ้างว่าภายในตึกโรงพยาบาลยังมีกำลังทหารพร้อมอาวุธสงคราม และปืนสไนเปอร์อยู่ครบมือ หากไม่ถอนกำลังทหารออกไปให้หมดภายในคืนนี้ ตนพร้อมจะนำสื่อมวลชนและกลุ่มคนเสื้อแดงไปตรวจสอบที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ทันที เพื่อไปขอพื้นที่โรงพยาบาลคืนให้กับประชาชนรวมทั้งในพื้นที่สวนลุมพินีมีเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 7 กองร้อยและในถนนสีลม ไม่ว่าจะเป็นตึกซีพี หรือธนาคารกรุงเทพ สาขาสีลมก็มีกำลังทหารจำนวนมาก ซึ่งภายหลังได้มีการยืนยันออกมาว่า ไม่ได้มีกำลังทหารตามที่ได้ถูกกล่าวอ้างแต่อย่างใด
19.00 น. นายพายัพ พร้อมทีมรักษาความปลอดภัย เดินทางไปถึงโรงพยาบาล เพื่อขอตรวจสอบตึกในโรงพยาบาล เนื่องจากเกรงว่าอาจมีทหารซุ่มอยู่ตามตึก อย่างไรก็ตาม นายพายัพได้เจรจากับเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลจะให้การ์ดเดินแถวเรียงหนึ่ง ตรวจตึก แต่เมื่อเจ้าหน้าที่อนุญาตให้เข้าไป การ์ดเสื้อแดงกลุ่มใหญ่ได้กระจายเข้าค้นทั่วโรงพยาบาล
30 เมษายน 2553
นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน ได้ออกมาขอโทษเหตุการณ์ดังกล่าว โดยอ้างว่าไม่ใช่มติของแกนนำ และเป็นการกระทำไม่เหมาะสม พร้อมทั้งระบุว่ายินดีให้ความสะดวกกับทางโรงพยาบาลในทุกด้าน รวมทั้งจะไม่มีการเข้าไปภายในโรงพยาบาลเพื่อตรวจค้นอีก นอกจากนี้ แกนนำ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน ยังชี้แจงว่าการเข้าไปตรวจค้นโรงพยาบาลเป็นการตอบคำถามของสื่อมวลชน ที่มีข่าวว่าทหารซุ่มอยู่ในอาคาร นายพายัพจึงเข้าไปเพื่อตรวจดูว่ามีทหารอยู่จริงหรือไม่ ตนนึกว่าจะไปแค่กับสื่อ และไม่คิดว่าจะพามวลชนเข้าไปด้วย ต่อจากนี้ขอยืนยันว่า จะห้ามคนเสื้อแดงที่ไม่ได้มีอาการบาดเจ็บ เข้าโรงพยาบาลจุฬาฯ เด็ดขาด โดยยังยึดแนวทางไม่เข้าไปรบกวนโรงพยาบาลหรือสถานที่ราชการ
ขณะที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน แถลงว่า ขออภัยโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ รวมทั้งประชาชน อีกครั้ง ยืนยันจะไม่มีการเข้าไปภายในโรงพยาบาลอีก ขณะเดียวกันชี้แจงเหตุที่เข้าไปตรวจค้นภายในโรงพยาบาลจุฬาฯ เนื่องจากไม่ไว้ใจเจ้าหน้าที่ทหาร พร้อมยอมรับเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของหลายฝ่าย ยืนยันไม่มีความตั้งใจจะสร้างให้เกิดภาพเหมือนเป็นการข่มขู่ อยากให้เข้าใจความรู้สึกของคนที่ตกเป็นเหยื่อ จึงมีความจำเป็นต้องดูแลความปลอดภัยของประชาชนให้ดีที่สุด
ด้านนายพายัพ ปั้นเกตุ อ้างว่า จากการสังเกตการณ์หลายวัน พบว่ามีการเคลื่อนไหวของทหารในโรงพยาบาลจริง จึงต้องการเรียกร้องโรงพยาบาล และบริษัทเอกชนที่มีอาคารสูงรอบพื้นที่การชุมนุม อย่าให้เจ้าหน้าที่ทหารใช้พื้นที่หรือให้ที่พักพิง
2 พฤษภาคม 2553
มติแกนนำ นปช.แดงทั้งแผ่นดินเปิดสองฝั่งให้รถสามารถกลับรถหน้าโรงพยาบาลได้ พร้อมทั้งรื้อบังเกอร์เกาะกลางถนนในตอนบ่าย แต่ไม่ได้ถอยร่นกำลังไปที่แยกสารสินแต่อย่างใด
3 พฤษภาคม 2553
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่ง ประเทศไทยว่าจะมาพูดถึงการคลี่คลายสถานการณ์ ความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ เป็นการสะสมปัญหามาเป็นระยะเวลานานหลายปี ที่สะสมมาทั้งหมดทำให้เกิดความแตกแยกร้าวลึก คำตอบทางการเมืองที่อยากบอกประชาชนในวันนี้ คือการสร้างกระบวนการปรองดองขึ้นมา หากแผนการปรองดองและทำบ้านเมืองให้งสงบสุข การจัดการเลือกตั้งครั้งใหม่ในวันที่ 14 พฤศจิกายน เป็นเป้าหมายที่รัฐบาลพร้อมดำเนินการ โดยแผนปรองดองดังกล่าวมีองค์ประกอบดังนี้
1. ประเทศไทยเราโชคดีที่มีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นที่ยึดเหนี่ยวหลอมรวมคนไทยทั้งชาติ แต่น่าเสียดายที่มีคนกลุ่มหนึ่งดึงสถาบันกษัตริย์ลงมา มีความพยายามดึงสถาบันลงมาสู่ความขัดแย้งทางการเมือง การที่จะทำให้สังคมไทยเป็นปกติสุขต้องช่วยกัน ไม่ให้ดึงสถาบันกษัตริย์ลงมา แผนการ คือ ทุกฝ่ายต้องลงมาช่วยกันทำงานเทิดทูนสถาบันกษัตริย์ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้พระราชทานแก่ประชาชน ไม่ว่าเรื่องรู้รักสามัคคี อยากเชิญชวนทุกฝ่ายมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อไม่ให้ถูกดึงมาเป็นเครื่องมือความขัดแย้งทางการเมือง
2. การปฏิรูปประเทศ เพื่อแก้ไขความขัดแย้งอาจจะถูกมองว่าเป็นการเมือง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจากความไม่เป็นธรรมของเรื่องเศรษฏิจ หลายคนที่มาชุมนุมอาจจะสัมผัสโดยตรงว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ขาดโอกาส ถูกรังแก สิ่งที่เราจะช่วยกันทำ คือ ไม่ปล่อยให้เป็นเหมือนในอดีตที่รัฐบาลก่อนหน้านี้ที่ทำให้ระบบเกิดความไม่ เป็นธรรม
3. ในยุคปัจจุบันสังคมไทยเป็นสังคมข้อมูลข่าวสาร จริงอยู่ที่เราต้องเคารพสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า อำนาจของสื่อถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง อาศัยช่องโหว่ทางกฎหมาย แม้กระทั่งสถานีของรัฐก็ถูกกล่าวหาว่านำไปเสนอให้เกิดความขัดแย้ง สื่อต้องมีเสรีภาพ แม้จะมีอิสระในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่จะไม่สร้างความขัดแย้งภายในประเทศ สร้างความเกลียดชังและนำไปสู่ความรุนแรง
4. หลังจากชุมนุมเคลื่อนไหว มีหลายเหตุการณ์ที่เกิดความรุนแรงและสูญเสีย เกิดข้อสงสัยต่างๆนาๆ ไม่ว่าการสูญเสียเหตุการณ์ 10 เมษายน เหตุการณ์ที่สีลม หรือที่ดอนเมือง กระทบกระเทือนจิตใจประชาชน ทุกเหตุการณ์จำเป็นต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น ต้องมีคณะกรรมการอิสระเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงต่าง ๆ และให้เกิดความเป็นจริงต่อสังคม
5. เกี่ยวกับการเมืองโดยตรง แม้นักการเมืองจะเป็นคนกลุ่มเล็ก แต่เป็นตัวแทนของประชาชน ความขัดแย้งทางการเมืองที่ยาวนานกว่า 4-5 ปีที่ผ่านมา เกิดความรู้สึกไม่เป็นธรรมในหลายด้าน ทั้ง รัฐธรรมนูญ กฎหมายบางฉบับ การลิดรอนสิทธิไม่ว่าจะเป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับการลิดรอน หรือการตัด หรือการเพิกถอนสิทธิ ของผู้ที่เกี่ยวข้องกับวงการเมือง ถึงเวลาเอามาวาง และมีกลไกให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย เรื่องรัฐธรรมนูญ จนถึงความผิดการชุมนุมทางการเมือง ไม่ใช่เกิดความรู้สึกไม่ยอมรับ
4 พฤษภาคม 2553
นายวีระ มุสิกพงศ์ ประธาน นปช.แดงทั้งแผ่นดิน แถลงผลการประชุมแกนนำ นปช.ที่เวทีการชุมนุมสี่แยกราชประสงค์ เกี่ยวกับข้อเสนอแผนการปรองดอง 5 ข้อของนายกรัฐมนตรี หลังใช้เวลาประชุมกว่า 2 ชั่วโมงว่า มีข้อสรุป 4 ข้อประกอบด้วย
1. นปช.ยินดีรับข้อเสนอ แต่ขอให้รัฐบาลไปหาความชัดเจนมาก่อนว่าจะยุบสภาวันไหนคุยกันให้จบเสียก่อน
2. นปช.ต้องการความจริงใจที่รัฐบาลสามารถแสดงออกได้ด้วยการยกเลิกการคุกตาม ทุกรูปแบบ
3. นปช.ไม่ขอนิรโทษกรรมให้แก่ นปช.เองในข้อหาโค่นล้มสถาบันและการก่อการร้ายอย่างเด็ดขาดพร้อมสู้คดี
4. ต้องยุติการนำสถาบันกษัตริย์ลงสู่ความขัดแย้งในทุกมิติ
ขณะที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน แถลงบนเวทีปราศรัยว่า ขอให้ทางรัฐบาลไปหาความความชัดเจนในการยุบสภาต้องระบุวันให้ชัดเจนมาก่อน และแกนนำคนเสื้อแดงไม่ปฏิเสธเข้าร่วมกับแผนโรดแมปเพื่อป้องกันการบาดเจ็บล้ม ตาย ทางกลุ่มคนเสื้อแดงยืนยันว่าเรื่องการนิรโทษกรรม เรื่องการกล่าวหาความผิดก่อนหน้านี้ทางเสื้อแดงไม่ได้กำหนดเป็นเงื่อนไข หากรัฐบาลกล่าวหาว่าคนเสื้อแดงเป็นการก่อการร้ายทางผู้ชุมนุมจะสู้ถึงที่สุด หากกล่าวหาว่าโค่นล้มสถาบันทางเสื้อแดงพร้อมที่จะสู้เช่นเดียวกัน และขอให้เรียกร้องมาตรฐานเดียวกันกับคดีสั่งสังหารประชาชนในเหตุการณ์เดือน เมษายนจะต้องไม่มีการนิรโทษกรรมใดๆเช่นเดียวกัน เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวขอให้ดีเอสไอรับไปเป็นคดีพิเศษแล้ว ดำเนินการต่อไป
7 พฤษภาคม 2553
22.45 น. บริเวณแยกศาลาแดง เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนกราดยิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ยืนเฝ้าที่หน้าธนาคารกรุงไทย สาขาย่อย อาคารซูลิก เฮ้าส์ ถนนสีลม ทำให้กระจกหน้าธนาคารกรุงไทย ใกล้ตู้เอทีเอ็ม แตก 1 บาน มีรอยร้าว มีรูกระสุน 1 รู มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย เบื้องต้นทราบชื่อผู้บาดเจ็บ ได้แก่ ด.ต.วิสูตร บุญยังมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจปจ. สน.บางนา ถูกยิงบาดเจ็บที่หัวไหล่ซ้าย ส.ต.ท.กานต์นุพันธ์ เลิศจันทร์เพ็ญ เจ้าหน้าที่จร. เข้าเวร ปจ.สน.ทุ่งมหาเมฆ ถูกกระสุนยิงเข้าที่ท้อง บาดเจ็บสาหัส แพทย์นำเข้าห้องผ่าตัดช่วยเหลือเป็นการด่วน ด.ต.บรรจบ โยมา อายุ 40 ปี ผบ.หมู่สภ.เกาะทวด จังหวัดนครศรีธรรมราช ถูกยิงเฉี่ยวที่ข้อมือขวา ทั้งหมดถูกนำส่งโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม อีกรายเป็นชายไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 40 ปี รูปร่างท้วม ถูกกระสุนเจาะที่เหนือหัวเข่าซ้าย ถูกนำส่งโรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าคนร้ายน่าจะขับขี่รถจักรยานยนต์ออกมาจาก สีลม และคนซ้อนท้ายได้ใช้ปืนกราดยิง จากถนนฝั่งตรงข้าม บริเวณร้านแมคโดนัลด์ ก่อนจะขับรถหนีออกไปถนนพระรามที่ 4
8 พฤษภาคม 2553
01.00 น. ส.ต.ท.กานต์นุพันธ์ เสียชีวิตลงหลังถูกยิงที่ช่องท้อง อย่างไรก็ตาม รายการข่าวของสถานีโทรทัศน์ ไทยทีวีสีช่อง 3 รายงานว่า มือปืนได้ยิงกราดเข้ามาใส่บริเวณกลางจุดการชุมนุมของชาวสีลม ซึ่งมีประมาณ 20-30 คน ห่างจากร้านกาแฟโอบองแปงประมาณ 10 เมตร
01.25 น. สถานีโทรทัศน์ กองทัพบกช่อง 7 รายงานว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต 1 นาย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 6 ราย ทั้งนี้ แกนนำ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน ได้ออกมาปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกับเหตุที่เกิดขึ้น
01.30 น. ได้เกิดเหตุระเบิดที่บริเวณทางเข้าสวนลุมพินี ประตู 4 ถนนพระรามที่ 4 บริเวณดังกล่าวเป็นด่านตรวจความมั่นคงสนธิระหว่างตำรวจกับทหาร โดยระเบิดได้เกิดขึ้น 3 ครั้งในจุดดังกล่าว เบื้องต้นคาดว่าเป็นชนิดเอ็ม 79 เบื้องต้นมีตำรวจได้รับบาดเจ็บ 4 ราย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ทราบชื่อ ด.ต.เกียรติศักดิ์ อินทรัพย์ทวี ,ส.ต.ต.ณัฐกานต์ โพธิ์น้อย ,จ.ส.ต.เกษม แก้วกุล และจ.ส.ต.วิทยา พรหมสาลี ได้รับบาดเจ็บสาหัส อาการเป็นตายเท่ากัน เนื่องจากถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่บริเวณหน้าอกขวา เลือดตกในและที่โรงพยาบาลรามาธิบดี 1 ราย ทราบชื่อ ด.ต.ชูศักดิ์ แสงเย็น ทั้งหมด เป็นชุดปราบจลาจล สภ.หางน้ำสาคร จ.ชัยนาท มีเจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บอีก 3 นาย ประกอบด้วย จ.ส.อ.มงคล บุเมืองปัก ,พลทหารพีระศักดิ์ บุราธานี ,พลทหารณรงค์ชัย นิตยกุล ทั้งหมดเป็นทหารจากค่ายสุรธรรมพิทักษ์ ร.23 พ.1 จังหวัดนครราชสีมา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำตัวส่งโรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน และจะถูกดำเนินการส่งไปยังโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า จากการตรวจสอบวิถีกระสุนในเบื้องต้น คนร้ายน่าจะยิงวิถีโค้ง ข้ามสะพานลอย น่าจะเป็นการยิงมาจากทางด้านแยกศาลาแดง
ที่เกิดเหตุระเบิด ทางเข้าสวนลุมพินี ประตู 4 นั้นพบรอยระเบิด 3 แห่ง จุดแรกบริเวณกำแพงรั้วของสวนลุมพินี จุดที่สอง บริเวณกลางถนน จุดที่ 3 บนเสาไฟฟ้าใกล้ทางขึ้นสะพานลอยคนข้าม โดยเสาไฟฟ้าบิ่น แตกตรงจุดที่โดนระเบิดสูงจากพื้นประมาณ 7 เมตร โดยแรงระเบิดดังกล่าว ทำให้มีตำรวจ หทารได้รับบาดเจ็บ
05.00 น. จ.ส.ต.วิทยา พรหมสาลี เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ระเบิดที่บริเวณทางเข้าสวน ลุมพินี ประตู 4 โดยถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่บริเวณหน้าอกขวา เลือดตกใน ได้เสียชีวิตลง
12 พฤษภาคม 2553
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ระบุว่า การประชุม ศอฉ.ที่มี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ในฐานะผู้อำนวยการ ศอฉ. เป็นประธาน ได้ติดตามสถานการณ์และรายงานยอดผู้ชุมนุม โดย ศอฉ.จำเป็นต้องใช้มาตรการกดดันผู้ชุมนุมเต็มรูปแบบ เริ่มต้นจากการไม่ใช้กำลัง โดยกำหนดให้มีการตัดน้ำ ตัดไฟ สัญญาณโทรศัพท์ ระบบสาธาณูปโภค การเดินทางสาธารณะต่าง ๆ ทั้งรถโดยสารมวลชน รถไฟฟ้า และการเดินทางทางน้ำ บริเวณคลองแสนแสบ เพื่อปิดการเข้าพื้นที่ชุมนุม 100%
อย่างไรก็ตาม ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงอาจจะได้รับผลกระทบจากมาตรการนี้ โดยทหารที่อยู่ในพื้นที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการเข้า-ออก พื้นที่ดังกล่าว และมาตรการต่าง ๆ จะเริ่มได้ตั้งแต่เที่ยงคืนวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 เป็นต้นไป และจะหารือหน่วยงานเกี่ยวข้องเพิ่มเติมในวันนี้ โดย ศอฉ.ต้องขออภัยประชาชนและทูตประเทศต่าง ๆ ที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าว พร้อมย้ำว่า มาตรการกดดันการเข้าพื้นที่ชุมนุมเต็มรูปแบบเป็นมาตรการขั้นเบาที่สุดแล้ว รวมทั้งได้ประสานกับผู้ประกอบการบริเวณดังกล่าวในเบื้องต้น ส่วนมาตรการหลังจากนี้ยังไม่ขอเปิดเผย
ต่อมา พ.อ.สรรเสริญ ระบุว่า มาตรการกดดันผู้ชุมนุมแยกราชประสงค์เต็มรูปแบบ ในการตัดน้ำ ตัดไฟ ระบบสาธารณูปโภค และการเดินทางสาธารณะ ทั้งทางบกและทางน้ำ ยังไม่ได้ข้อยุติที่ชัดเจน และต้องหารือร่วมกันอีกครั้งในคืนวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 เพื่อกำหนดรายละเอียดว่าจะเป็นพื้นที่ใดบ้าง เพราะบริเวณดังกล่าวมีทั้งโรงพยาบาล และ สถานประกอบการต่างๆ รวมทั้งต้องมีการประเมินผลกระทบว่าระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมและประชาชนที่ไม่ เกี่ยวข้อง กลุ่มใดจะได้รับผลกระทบ และความเดือดร้อนมากกว่า เนื่องจากพบว่ากลุ่มผู้ชุมนุมก็ได้เตรียมมาตรการรองรับในเรื่องการตัดน้ำ ตัดไฟ ส่วนเส้นทางเดินรถเมล์ ใกล้พื้นที่ชุมนุม คงจะมีการพิจารณาให้วิ่งในวงนอกต่อไป และรถแท็กซี่ อาจจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าในบริเวณพื้นที่ชุมนุม
พ.อ.สรรเสริญ ระบุว่า มาตรการดังกล่าวของศอฉ.อาจจะไม่ได้ดำเนินการทันทีในเวลา 24.00 น. วันที่ 12 พฤษภาคม 2553 และอาจจะเลื่อนเป็นวัน13 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 ขึ้นอยู่กับการหารือกำหนดรายละเอียดและข้อสรุปให้เกิดความชัดเจน เนื่องจากมีประชาชนทั่วไปโทรศัพท์เข้ามาสอบถามจำนวนมาก เพราะเกรงจะได้รับความเดือดร้อนจากมาตรการนี้
13 พฤษภาคม 2553
11.30 น. ที่กรม ทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) แถลงผลการประชุม ศอฉ.ช่วงเช้าว่า การกำหนดมาตรการในการปิดล้อมสกัดกั้นพื้นที่บริเวณแยกราชประสงค์อย่างสมบูรณ์ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ เวลา 18.00 น. พื้นที่ที่มีผลกระทบทางด้านเหนือเริ่มตั้งแต่ แยกราชเทวี ไปตาม ถนนเพชรบุรี จนถึงแยกขึ้นทางด่วนเพชรบุรี ทางทิศใต้ ตั้งแต่แยกทางขึ้นด่วนเพชรบุรี ตามถนนวิทยุ จนกระทั่งสี่แยกถนนวิทยุ เรื่อยมาจนถึงถนนพระรามที่ 4 จนถึงแยกสามย่าน และขึ้นเหนือไปบรรจบจุดเริ่มต้นตามถนนพญาไท จนกระทั่งถึงแยกราชเทวี ซึ่งเป็นลักษณะกรอบสี่เหลี่ยม การบริการสาธารณะทุกชนิดทั้ง ไฟฟ้า ประปา การจราจร รถประจำทาง เรือ รถไฟฟ้าบีทีเอส (ไม่จอดรับส่งผู้โดยสารใน 4 สถานี คือ สถานีสยาม สถานีชิดลม สถานีเพลินจิตและสถานีราชดำริ (ปิดให้บริการทุกสถานีเวลา 19.00 น.)) และรถไฟฟ้าใต้ดิน (ไม่จอดรับส่งผู้โดยสารใน 2 สถานี คือ สถานีสีลมและสถานีลุมพีนี (ปิดให้บริการทุกสถานีเวลา 22.00 น.)) จะมีการระงับเริ่มตั้งแต่ 18.00 น. เป็นต้นไป โดยเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องดำเนินการตามขั้นตอนหลักสากลจากเบาไปหาหนัก 7 ขั้นตอน และมีการใช้อาวุธกระสุนจริงด้วย
12.00 น. ที่โรงแรมรามา การ์เดนส์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่าแผนปรองดองนั้นถูกยกเลิกไปเรียบร้อยแล้ว โดยรัฐบาลจะใช้มาตรการตัดน้ำ ตัดไฟ และเคลียร์พื้นที่บริเวณแยกราชประสงค์ให้เร็วที่สุด
14 พฤษภาคม 2553
ศูนย์สิทธิมนุษยชนเอเชียได้ส่งจดหมายเปิดผนึกให้แก่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีไทย เพื่อเตือนให้หยุดใช้กำลังทหารสลายการชุมนุมที่ราชประสงค์ มิเช่นนั้นแล้วนายอภิสิทธิ์จะตกเป็นผู้รับผิดชอบตามมาตรา 25 (3) (a) ของธรรมนูญกรุงโรมว่าด้วยศาลอาญาระหว่างประเทศ ในการจงใจใช้กำลังจู่โจมผู้ชุมนุมที่เป็นประชาชนโดยตรง ซึ่งการใช้กำลังกับผู้ชุมนุม นปช. ที่ราชประสงค์นั้นถือเป็นการกระทำที่ละเมิดต่อมาตราที่ 8 (2) (e) (i) ของ ธรรมนูญกรุงโรมว่าด้วยศาลอาญาระหว่างประเทศ นอกจากเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรียกเลิกการใช้กำลังทหารปราบปรามผู้ชุมนุมแล้ว ศูนย์สิทธิมนุษยชนเอเชียยังได้เสนอให้รัฐบาลไทยกลับมาใช้วิธีการเจรจากับผู้ ชุมนุม เนื่องจากไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ที่มีการสังหารผู้ชุมนุมเช่นวันที่ 10 เมษายน เกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
01.00 น. ดร.สุดา รังกุพันธ์ : ตอนประมาณตี ๑ เมื่อคืน มอไซค์ที่ขับผ่านแนวทหารที่ระดมกันมาหลักร้อยคนพร้อมปืนสงครามบริเวณเวิ้งเมโทรขาออก ถ.เพชรบุรี แค่ผ่านหน้า ทหารมันก็ยิงใส่ แล้วลากหายไป รวม ๓ คน ส่วนอีกรายที่ทดลองสันติวิธีแบบคุณน้าที่เปิดหน้าอก แกเปิดเสื้อและท้าทหารว่า "ยิงเลย" ทหารชั่ว ผู้ไม่มีสันติในกมลสันดานก็ยิงถวาย ล้มลง...เราไม่รู้ชะตากรรมคนทั้ง ๔...ข่าวที่ไม่เป็นข่าวเพราะสื่อคงหลบอยู่ในซอกขาหนีบอำมาตย์
01.50 น. มีผู้วางยาการ์ดเสื้อแดงในกาแฟเข้ารักษา รพ.เลิดสิน 21 ราย
09.40 น. ศูนย์เอราวัณสรุปเหตุการณ์เมื่อคืนบาดเจ็บ 11 ตาย 1 ราย
10.30 น. INN รายงานข่าวเสื้อแดงยึดรถทหาร 3 คันใช้ทรายกรอกถังน้ำมัน
11.30 น. นปช.แถลงเสธ.แดงโดนรัฐบาลสั่งเก็บ ขณะที่ รพ.วชิระเผยผ่าตัดแล้วยังอาการหนัก
12.00 น. บริเวณถนนสาทรเหนือมุ่งหน้าถนนพระรามที่ 4 เจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดการจราจร โดยกำลังเจ้าหน้าที่ทหารได้เคลื่อนพลเข้าแยกวิทยุ ขณะที่มีเสียงปืนดังขึ้นเป็นระยะๆ ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารก็ส่องอาวุธปืนไปตามอาคารสูงต่างๆ ส่วนพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนต่างพากันวิ่งหลบหนีอย่างชุลมุน
12.20 น. TPNEWS รายงานทหารยิงใส่ประชาชนใต้สะพานเบลเยียม และยึดแยกวิทยุคืนจากเสื้อแดงได้
12.30 น. อสมท.รายงานเสื้อแดงเผารถบัสตชด.ที่ถนนวิทยุ
13.30 น. บริเวณหน้าสนามมวยลุมพินี ถนนพระรามที่ 4 เป็นจุดเผชิญหน้ากันระหว่างกองกำลังทหาร และแนวร่วม นปช. โดยมีเสียงปืนยิงดังเป็นระยะ คาดว่าเป็นจากฝ่ายทหารที่ต้องการผลักดันไล่แนวร่วม นปช.ให้พ้นพื้นที่หน้าสนามมวยลุมพินี ที่พยายามรุกคืบเข้ามา ขณะเดียวกัน กลุ่มแนวร่วม นปช.ก็มีการยิงปะทัดยักษ์ และพลุตะไลเข้าใส่กองกำลัง ทหารเช่นกัน
13.55 น. บริเวณหน้าไนท์บาร์ซ่าร์ หลังเกิดเหตุปะทะกันระหว่างกองกำลังทหาร และกลุ่มแนวร่วม นปช. ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว และหลังสิ้นสุดเสียงปืน ทหารรุกคืบเข้ามาใกล้ประชิดแนวร่วม นปช. มากขึ้น
14.00 น. ทหารยิงกระสุนจริงจากสวนลุม มีผู้สื่อข่าวต่างชาติ และช่างภาพมติชนบาดเจ็บ
14.30 น. ชินวัฒน์ หาบุญพาด พูดบนเวที อ้างแกนนำไม่แตก วีระ-ไพจิตร อักษรณรงค์-วิสา-อดิศรแค่ป่วยเลยพัก ยังอยู่แถวๆที่ชุมนุม ขณะที่จรัล ดิษฐาอภิชัยยอมรับทั้งหมดลาออกแล้ว แต่วีระยังทำงานให้ นปช. เจรจากับรัฐบาล
15.00 น. มูลนิธิร่วมกตัญญูรายงานว่ามีผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์สลาย กลุ่ม นปช. ที่บริเวณหน้าบ่อนไก่ ใกล้สนามมวยลุมพินี ถนนพระรามที 4 มีผู้ถูกยิงมาส่งที่โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท 1 ซึ่งขณะนี้เสียชีวิตแล้ว 1 คน ทราบชื่อ นายอินแตง เทศวงษ์ อายุ 33 ปี ถูกยิงเข้าที่หน้าอกด้านขวา
15.20 น. ทหารและกลุ่มคนเสื้อแดงยังมีการปะทะกันบริเวณแยกราชปรารภ เสียงปืนยังคงดังขึ้นเป็นระยะ ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมได้ถอยร่นไปบริเวณแยกประตูน้ำ ถนนราชปรารภทั้งสองฝั่ง และบริเวณสถานีรถไฟฟ้าราชปรารภ
เจ้าหน้าที่ของศูนย์เอราวัณ สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร ได้เปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 12 ราย จากเหตุการณ์ปะทะในช่วงเช้าระหว่างกองทัพและกลุ่มคนเสื้อแดง โดยทหารได้เปิดฉากยิงหลังจากกองทัพประกาศสลายการยึดพื้นที่ของกลุ่มคนเสื้อ แดง
15.30 น. รพ.กล้วยน้ำไทเผยเหตุปะทะแยกบ่อนไก่ ผู้ชุมนุมตาย 1 เจ็บ 6 สาหัส 2 ราย
15.35 น. ทักษิณออกแถลงการณ์ 4 ข้อ
1. ยุติการใช้เจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจ พร้อมอาวุธสงครามร้ายแรง ทำการสลายการชุมนุมของประชาชนโดยทันที และสั่งให้เจ้าหน้าที่กลับกรมกองที่ตั้ง
2. ประกาศยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินที่ประกาศในทุกจังหวัด โดยทันที
3. เปิดการเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุม โดยทันทีเพื่อหาทางออกทางการเมือง โดยสันติวิธี
4. ร่วมเจรจาหาแนวทางปรองดองอย่างแท้จริงกับทุกฝ่ายในชาติ เพื่อให้ประเทศชาติมีประชาธิปไตย และความยุติธรรม และประเทศเดินหน้าต่อไปได้ ทั้งนี้การปรองดองต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของ ความยุติธรรม เมตตาธรรม และความจริงใจ
16.10 น. แกนนำนปช.แถลงมติให้ทหารหยุดยิง เลิกพรก.ฉุกเฉิน มาร์คยุบทันที ไม่ให้รักษาการนายกฯ มาร์ค-เทือกต้องเข้าสู่กระบวนยุติธรรมเช่นเดียวกับนปช.
16.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารประจำการอยู่ที่ราบบ่อนไก่ ถนนพระรามที่ 4 ได้รุกคืบคุมพื้นที่อีกครั้ง ด้วยการกลับมาวางลวดหนาว เพื่อขอคืนพื้นที่ หลังจากกลุ่ม นปช. ได้รุกเข้ามานำออกไปก่อนหน้านี้ โดยตลอดเวลามีเสียงคล้ายปืน และประทัดดังอย่างต่อเนื่อง โดยทหารใช้ยุทธวิธี ทั้งกระสุน และแก๊สน้ำตาช่วยเคลียร์พื้นที่
16.40 น. อนุพงษ์ หน.ศอฉ.ประกาศห้ามเข้าถนนพระราม4 ฝ่าฝืนคุก2ปี
17.30 น. ทหารเพิ่มกำลังยึดประตูน้ำ ณัฐวุฒิเรียกร้องคนใกล้ที่ชุมนุมเข้าร่วมเพื่อกดดันขับไล่อภิสิทธิ์
18.00 น. ปริญญา เทวานฤมิตกุล พูดทางช่อง3เรียกร้องรัฐบาลหยุดยิง เปิดทางนปช.ยุติชุมนุมเอง แล้วเปิดเจรจา
18.00 น. ได้เกิดเหตุปะทะกันบริเวณแยกบ่อนไก่และผู้ชุมนุมถูกยิงเสียชีวิต 1 รายกระสุนเข้าที่ท้ายทอยเสียชีวิตทันที ขณะที่ทหารยังคงปักหลักประเมินสถานการณ์ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
18.19 น. เวทีแจ้ง มีการยิงกระสุนปืนออกมาจากกรมตำรวจ
18.20 น. ที่เวทีคนเสื้อแดง บริเวณสี่แยกราชประสงค์ เกิดเหตุวุ่นวายขึ้นหลังจากเกิดเหตุเสียงดังคล้ายปืนด้านข้างเวทีและระเบิดควันหลังเวที ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 15 คน
18.25 น. นายจตุพรถูก นำตัวลงจากเวที หลังมีการยิงมาที่บริเวณ รปส.
18.40 น. จตุพรกลับบนเวที บอกทีมกฏหมายเสื้อแดงเร่งทำงาน เหตุการณ์ที่รปส.กลับสู่ความปรกติ
18.40 น. เจ้าหน้าที่ทหารได้เคลื่อนรถหุ้มเกราะเข้าไปในสี่แยก ศาลาแดงโดยมาจากถนนวิทยุ ทันที่รถหุ้มเกราะมาถึงก็ได้รับการต่อต้านจากกลุ่มผู้ชุมนุมอย่างหนักทันที ทั้งขว้างขวด ระเบิดขวด ระเบิดควันเข้าใส่ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเปิดเครื่องขยายเสียงเตือนว่าจะนับ 1-3 เท่านั้นและจะปฏิบัติการยิงทันที ทั้งนี้ทันทีที่สิ้นเสียงจากเครื่องขยายเสียงก็ได้ยินเสียงปืนจากทหารบนทาง เดินรถไฟฟ้าทันที พร้อมกับการตอบโต้ของผู้ชุมนุมที่ขว้างระเบิดขวด ระเบิดควันเข้าใส่ เกิดเสียงดังอย่างต่อเนื่อง
18.58 น. พิธีกรแจ้งว่ามี ประชาชนมาจากสมุทรปราการแหกด่านเข้ามาเสริมได้แล้ว
19.00 น. ราย งานจากสื่อต่างประเทศ แสดงความคิดเห็นไปในทิศเดียวกันว่าประเทศไทยกลายเป็น failed state ในขณะที่เวียตนามประธานอาเซียนกำลังดำเนินการกับสหประชาชาติต่อกรณีไทย
19.04 น. นิสิตสินธุ ไพรแจ้งบนเวทีว่าประชาชนจากหลากหลายจังหวัดได้พยายามแหกด่านเข้ามากรุงเทพฯ แล้ว
19.05 น. นิสิตบัดนี้ ได้ยกระดับกลายเป็นสงครามประชาชนแล้ว
19.07 น. โฆษกบนเวทีแจ้งว่าได้มีการยิงปืนจากนักแม่น ปืนที่หน้าผากของผู้ชุมนุมหญิงซึ่งอยู่บริเวณหลังเวทีเสียชีวิต
19.10 น. โฆษกแจ้งว่า อาจจะมีนักแม่นปืนแอบซ่อนบนตึกและขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวตรวจสอบให้ดีก่อน
19.20 น. เกิดเหตุเสียงดังคล้ายระเบิดขึ้นที่บริเวณรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีศาลาแดง และที่บริเวณถนนพระราม 4 จำนวน 5 ลูก อีกทั้งยังมีเสียงคล้ายปืนยิงเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุม ขณะที่ประชาชน และผู้ชุมนุมต่างวิ่งหนีตายโกลาหล
นอกจากนี้ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ได้ถูกกระสุนปืนยิงเข้าที่กะโหลกศีรษะ ได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลหัวเฉียว โดยเดเนียล เชิร์ฟ ผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุเสียงอเมริกา (วีโอเอ) เผยว่ามีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นฝีมือของมือปืนซุ่มยิงหรือสไนเปอร์ ระหว่างที่อยู่ภายในพื้นที่ชุมนุมที่มีการปิดล้อม หลังจาก พล.ต.ขัตติยะ ถูกยิงก็มีเสียงปืนยิงต่อสู้และเสียงระเบิดเกิดขึ้นภายในพื้นที่ปิดล้อมของ กลุ่มผู้ชุมนุมด้วย นอกจากนี้ ได้มีการตัดไฟที่บริเวณสวนลุม และศาลาแดงแล้ว
20.20 น. เกิดเหตุระเบิดถนนราชปรารภสี่แยกประตูน้ำ 4 ลูกทำให้ทหารและประชาชนต้องหลบเข้าไปในตึกใบหยก
20.40 น. บริเวณแยกสวนลุมพินี มีการกระทบกระทั่งกันระหว่างเจ้าหน้าที่กับกลุ่มผู้ชุมนุม หลังจากที่ผู้ชุมนุมนำกรวยสีส้มที่เจ้าหน้าที่นำมาปิดเส้นทางการจราจรออก เพื่อเส้นทางให้ประชาชนสัญจรไปมา พร้อมกับนำกระถางต้นไม้มาขวางประตูทางออกสวนลุมพินีและผลักดันเจ้าหน้าที่ทหารไม่ให้ออกมา จากสวนลุมพินี หลังจากนั้นไม่นานได้มีเสียงปืนดังติดต่อกันหลายนัด เจ้าหน้าที่ยิงกระสุนยางใส่ผู้ชุมนุม ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายรายหนึ่งในนั้นถูกยิงด้วยกระสุนยางเข้าที่ต้นคอ ผู้ชุมนุมได้นำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว โดยมีผู้บาดเจ็บจำนวน 20 ราย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลหัวเฉียว และโรงพยาบาลตำรวจ 1 ราย
หลังจากมีการปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ที่บริเวณแยกศาลาแดง ประตู 2 สวนลุมพินีทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการรื้อแผงจราจร ขว้างปาก้อนอิฐ และสิ่งของจำนวนหลายสิบราย ในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย ถูกยิงเข้าที่เบ้าตาซ้าย ทราบชื่อนายชาติชาย ชาเหลา อายุ 25 ปี เป็นผู้ชุมนุมกลุ่มเสื้อแดง
21.00 น. บริเวณถนนสาทร ปรากฏว่าได้มีเจ้าหน้าที่ทหารซึ่งตั้งอยู่ที่บริเวณถนนพระรามที่ 4 ก่อนถึงสะพานไทยเบลเยี่ยม เจ้าหน้าที่ทหารตั้งแนวป้องกันปิดถนนไม่ให้ประชาชนผ่านเข้าไปที่ถนนพระราม ที่ 4 ตามประกาศของ ศอฉ. เจ้าหน้าที่ทหารได้ยิงกระสุนใส่ประชาชนที่ขับรถไปตามเส้นทางถนนสาทร ช่วงบริเวณแยกไฟแดงซอยสาทร 6 หน้าโรงแรมเอฟเวอร์กรี น จนได้รับบาดเจ็บไป 1 ราย ทราบชื่อ นายปิยะรัตน์ ไม่ทราบนามสกุล อายุ 18 ปี โดยถูกยิงเข้าที่บริเวณตรงตาตุ่มขาด้านขวา ทำให้กระสุนทะลุเจ้าหน้าที่ศูนย์เอราวัณช่วยลำเลียงส่งไปที่โรงพยาบาลตากสิน นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ทหารยังได้ยิงขู่ประชาชนที่ขับรถเข้ามาตามถนนสาทรมุ่ง หน้าถนนพระรามที่ 4
นพ.เพชรพงษ์ กำจรกิจการ ผู้อำนวยการศูนย์เอราวัณ เปิดเผยว่า ตัวเลขเมื่อเวลา 22.00 น. ว่าจำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ทหารเข้ากระชับ พื้นที่การชุมนุมคนเสื้อแดงที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์ จนทำให้เจ้าหน้าที่ทหารตำรวจปะทะกับกลุ่มผู้ชุมนุม มีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งสิ้น 101 ราย เสียชีวิต 7 ราย
ต่อมาสำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่ามีผู้บาดเจ็บ 125 ราย และเสียชีวิต 10 ราย
21.15 น. ไทยรัฐ : ฝรั่งเศสโวยไทยปล่อยนักข่าวถูกยิงเจ็บปางตาย
21.35 น. โฆษก : พี่น้องขอนแก่นรวมตัวศาลากลางหลายพันคน
22.00 น. โฆษก : คนเสื้อแดงหักด่านพระรามสี่ร่วมพันนำโดยแกนนำสหภาพการไฟฟ้า
22.37 น. โฆษก: คนเสื้อแดงหลายพันอยู่หน้าเทศบาลเมืองลำปาง
23.00 น. โฆษก : ด่านประตูน้ำถูกทหาร, การ์ดพันธมิตรฯ , เสื้อน้ำเงินยิงและทำร้ายคนที่เข้าชุมนุมมา
23.19 น. สรุปตัวเลข ผู้เสียชีวิต 8 รายเจ็บ 101 ราย
15 พฤษภาคม 2553
00.00 น. สมยศ พฤกษาเกษมสุข : สามเหลี่ยมดินแดงมีการปะทะกันอีก ลากศพออกมาได้สามคน มีการเผายางเป็นย่อมๆ วัยรุ่นถือไม้ออกมากันมากมาย แท๊กซี่จอดดูเหตุการณ์กันมาก มีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัดแล้ว ราวกับสงครามกลางเมือง ผมเห็นศพถูกนำส่งราชวิถีจนสมองเครียด พยายามจะเข้าไปราชประสงค์ ชูบัตรนักข่าว มันกลับชูปืน M16 บอกว่าไม่ให้เข้าอันตรายถึงชีวิต ผมเห็นนักข่าวคนหนึ่งถูกหามใส่เปลตะโกนบอกว่ายิงกูทำไมกูเป็นนักข่าว
Facebook: มีการรณรงค์ให้ไปชุมนุมกันที่หน้าศาลากลางในวันพรุ่งนี้เช้า
00.15 น. c-box: แท็กซี่เสื่อแดงรวมตัวกันที่ราชปรารภเพื่อปิดล้อมทหาร ขณะเดียวกันฝ่ายทหารได้ยิงปืนสวนออกมา นี้มีผู้บาดเจ็บหลายราย
00.30 น. @tidarat: รายงานจากวิทยุว่ามีการยิงเข้าไปในล็อบบี้โรงแรมอินทรา ประตูน้ำ เบื้องต้นมีผู้บาดเจ็บ
00.30 น. ได้เกิดเหตุมีรถตู้โตโยต้าคอมมิวเตอร์ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ฮค 8561 กรุงเทพมหานคร ขับมาบนถนนราชปรารภ มุ่งหน้าไปทางดินแดง ด้วยความเร็วสูง เมื่อวิ่งมาถึงบริเวณสถานีแอร์พอร์ตลิงก์มักกะสัน ก่อนข้ามทางรถไฟ ได้มีด่านตรวจค้นทหารส่งสัญญาณให้หยุดรถ แต่รถตู้คันดังกล่าวกลับไม่ยอมลดความเร็ว เจ้าหน้าที่จึงใช้อาวุธปืนยิงยางรถยนต์ แต่รถตู้ยังพยายามวิ่งพุ่งชนด่าน ทหารจึงตัดสินใจระดมยิงด้วยกระสุนยางและกระสุนจริงจนรถพรุนไปทั้งคัน ทำให้คนขับตู้เป็นชายวัยกลางคนถูกยิงที่สีข้างขวาได้รับบาดเจ็บสาหัส และได้มีเด็กชายอายุประมาณ 10 ปี ถูกกระสุนลูกหลงเข้าที่หน้าท้องจนไส้แตก อาการสาหัส นอกจากนี้ยังมีคนขับรถแท็กซี่อีก 1 คน ที่รอรถกลับบ้านบริเวณดังกล่าว ถูกยิงเข้าที่ลำตัวบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน เจ้าหน้าที่รีบนำคนเจ็บทั้ง 3 ราย ส่งโรงพยาบาลพญาไท 1 เพื่อช่วยชีวิตอย่างเร่งด่วน
00.35 น. UDDThailand: สามเหลี่ยมดินแดงตัดแยกราชปรารภตึงเครียด นปช. เผายางรถยนต์ มีเสียงปืนดัง
00.42 น. Facebook: ขณะนี้ที่ซอยรางน้ำ เสื้อแดงถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัส ไม่สามารถเข้าไปช่วยได้ กลุ่มคนเสื้อแดงคนอื่นๆ ที่ดินแดงประมาณ200คน พยายามเข้าไปช่วยนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่ทหารยิงสกัดไม่ให้เข้าไปช่วย ข่าวที่ไม่ยืนยันแจ้งเพิ่มเติมว่าทหารจะเก็บศพพร้อมกันในภายหลัง
01.10 น. บอร์ด ประชาไท : มีการสังหารประชาชนบริเวณแยกโรงแรมเซ็นจูรี่ รายงานแจ้งว่ามีทั้งผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต
01.13 น. facebook: นายสรไกร ศรีเมืองปูน ชาวกาฬสิน อายุ 39 ปีพนักงานชิโนไทถูกยิงเข้าทางหัว สมองไหลกระจาย ขาขาด ส่งรพ.ราชวิถี นายสรไกรพยายามจะเดินทางเข้าไปสมทบกับกลุ่มคนเสื้อแดง บนถนนราชปรารถหลบอยู่หลังต้นไม้ แต่พอเดินออกมาก็ถูกยิงพรุนด้วยกระสุนสงครามยังติดต่อญาติไม่ได้ ที่ รพ.ราชวิถี คนเจ็บราว 8 คน ตายแน่ๆ สองคนแล้วเจ้าหน้าที่ยังไม่ยอมให้ข้อมูลและไม่ให้รายละเอียด
รายงานจากแหล่งข่าวที่อยู่บริเวณสามเหลี่ยม ดินแดง แจ้งว่าขณะนี้เสื้อแดงอยู่กันพันกว่าคน สถานการณ์ตึงเครียดมาก ระหว่างนั้นมีเสียงคล้ายระเบิด ลงติดๆ กันสองลูก
01. 30 น. Poomjit: ผู้เสียชีวิตรายที่ 39 นางสาวสันธนา สรรพศรี ถูกยิงแถวราชปรารภ-หมอเหล็ง ศพอยู่รพ.พญาไท 1
06.00 น. ศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉิน กรุงเทพมหานคร หรือ ศูนย์เอราวัณ รายงานว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 157 ราย ถูกนำตัวส่งรักษาตามโรงพยาบาลต่างๆ 15 แห่ง ในจำนวนนี้มีผู้บาดเจ็บสาหัสต้องเข้าห้องไอซียู 7 ราย ส่วนยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุปะทะรอบบริเวณการชุมนุม เพิ่มขึ้นจากเดิม 10 ราย เป็น 17 ราย โดยผู้เสียชีวิตทั้ง 6 ราย นำส่งโรงพยาบาลราชวิถี 3 ราย และโรงพยาบาลพญาไท 1 อีก 3 ราย ทั้งนี้มีผู้เสียชีวิตที่เป็นชาวต่างชาติ 3 ราย
07.10 น. ศูนย์เอราวัณเผย เหตุ14 พ.ค. ตาย 16 เจ็บ 156 ราย
07.30 น. เลขาธิการUN แสดงความเสียใจ วอน 2 ฝ่ายหันหน้าเจรจาหลีกเลี่ยงความสูญเสีย
09.00 น. นัดรวมพลหน้าศาลากลางจังหวัดทั่วประเทศเพื่อช่วยชีวิตผู้ชุมนุมราชประสงค์
09.23 น. คุณบังสุกุล: อำมาตย์พยายามล็อบบี้มหาอำนาจสองประเทศ, การยิงนักข่าวเพราะต้องการปิดภาพความรุนแรง
09.28 น. มีเหตุการยิงกันที่บริเวณด่านสวนลุมฯ
09.30 น. เวทีรปส.: หมอเหวงอ้างว่ากระสุนปืนที่ใช้สังหารเส ธ.แดง มาจากปืน Lapua .308
09.37 น. เวทีรปส.: หมอเหวงเสนอรัฐหยุดยิงทันที ถอนทหารทันที เลิกพรก. ทันที
09.50 น. เวทีรปส.: รัฐห้ามนักข่าวเข้าไปในสถานที่ชุมนุมและด่านทหาร
10.00 น. พบศพบริเวณ หน้าถนนราชปราถภ ใกล้ซอยรางน้ำและโรงแรมเซ็นจูรี่
10.56 น. โฆษก: แท็กซี่สุวรรณภูมิรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศถูกทหารยิงยังไม่ทราบชะตากรรม
10.57 น. โฆษก: ทหารที่ได้รับการปลดประจำการไปแล้วถูกกองทัพ เรียกตัวกลับมาใหม่โดยอ้าง พร ก.ฉุกเฉิน
11.15 น. โฆษก: เสื้อแดงสมุทรปราการที่จะเดินทางมาที่ รปส. ถูกสกัดที่ทางลงทางด่วนเมื่อวานนี้
11.20 น. โฆษก: เสื้อแดงที่บ่อนไก่คุมพื้นที่บริเวณสะพานไทยเบลเยี่ยมได้ แต่ถูกพวกเสื้อเหลืองลอบโจมตีจากที่สูง ขอให้ช่วยกันส่งน้ำอาหารไปช่วยด้วย
12.00 น. เว็บบอร์ดพันทิปประกาศหยุดให้บริการ
วิทยุชุมชนปทุมฯ: ประกาศจะ"ปิดจังหวัดปทุมธานี" หากทหาร รัฐบาลและผู้ที่อยู่เบื้องหลัง ยังไม่ยอมหยุดเข่นฆ่าประชาชน
12.42 น. โฆษก: คนเสื้อแดงที่สามเหลี่ยมดินแดงขาดแคลนน้ำและอาหาร
12.43 น. โฆษก: คนขอนแก่นรวมตัวกันที่ศาลากลางจังหวัด
12.44 น.โฆษก: พล.อ.อภิวันท์นำทีมยื่นหนังสือไปเลขาธิการสหประชาชาติเมื่อวานนี้
13.00 น. ณัฐวุฒิ:
- การตั้งด่านทหารรอบๆการชุมนุมทำให้เกิดการปะทะบาดเจ็บล้มตาย
- เหตุการณ์ตั้งแต่ตอนกลางวันถึงเวลานี้ยังไม่มีอะไรดีขึ้นเลย
- สงครามกลางเมืองอาจจะหลีกเลี่ยงไม่ได้
- การปะทะที่สามเหลี่ยมดินแดงตั้งแต่เช้ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 ราย
- นายอภิสิทธิ์หากยังไม่ยุติปฏิบัติการ เหตุการณ์การเสียชีวิตเพิ่มเติมจะเกิดขึ้นอีก
- สองวันที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิตกว่า 27 ศพ รวมหลายวันก่อนเป็น 50 กว่าศพ
- การกระทำของนายอภิสิทธิ์หน้ามืดไปแล้ว แทนที่จะหยุด ก็คิดว่าจะฆ่าให้หมดไปก่อน
- ขอเรียกร้องให้รัฐบาลโดยเฉพาะนายอภิสิทธิ์ หยุดยิงและถอนกำลังทหารออกไปก่อน ภายในเวลา 5-10 นาทีนี้
- นี่กำลังเป็นวิกฤติครั้งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และถ้าปล่อยไปถึงเวลามืดค่ำ ผมเองก็ไม่ทราบว่าประเทศไทยจะเกิดอะไรขึ้นมาอีก
- เวลานี้ศพของพี่น้องเราส่วนใหญ่ ถูกนำไปวัดตะพาน ราชปรารภ 27 พี่น้องที่เข้าไปก็เข้าไม่ได้เพราะถูกทหารยิง
- หน่วยการ์ดไปสำรวจ พบวัตถุระเบิดบริเวณสวนลุมพินี โดยแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งไปเก็บกู้
- ระเบิดที่ท้ายรถเก๋งที่รามอินทรา ทำให้กรุงเทพฯกลายเป็นแดนมิกสัญญีไปแล้ว
13.14 น. หมอเหวง:
- พี่น้องที่ชุมนุมรอบนอกต้องการเพียงเข้ามาร่วมชุมนุมที่บริเวณรปส.เท่านั้น การบรรยายของนายปณิธาณ เป็นการใส่ร้ายทำให้เข้าใจว่าเขาเหล่านั้นเป็นกองกำลัง
- การกล่าวหาประชาชนมีM16 ขอเรียกร้องหาหลักฐานที่ว่ามีทหารบาดเจ็บด้วยอาวุธปืนดังกล่าว
13.18 น. ณัฐวุฒิ:
- สถานการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นหลังนายอภิสิทธิ์แสดงอาการไม่พอใจ ซึ่งต่อเนื่องด้วยเหตุการณ์การลอบยิงเสธ.แดง การเข้ามาปิดล้อม การเข่นฆ่าประชาชนของทหาร
- การเรียกร้องให้นายสุเทพฯ เข้าสู่ขบวนการต้องทำให้คนตายเพิ่มขึ้นเช่นนี้หรือ
- ข้อเรียกร้องให้มีการหยุดยิงอย่างเด็ดขาดในทันที การเจรจาต่างๆจึงจะเริ่มต้นขึ้นได้
- การฆ่าประชาชนทั้งหมดเกิดขึ้นจากกลไกของรัฐล้วนๆ
13.29 น. โฆษก: คนที่สามเหลี่ยมดินแดนไม่กลัวตาย การเจรจากับทรราชย์จะไม่มีทางเกิดขึ้น
15.00 น. บก.ลาย จุด: มีการรวมกลุ่มของประชาชนที่หน้าพรรคเพื่อไทย เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลยุติการเข่นฆ่าประชาชน
15.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารได้ประกาศขอพื้นที่บริเวณถนนราชปรารภ สี่แยกประตูน้ำคืน โดยขอให้ประชาชนและผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องออกจากพื้นที่โดยทันทีเข้าไป อยู่ในซอยต่างๆ เจ้าหน้าที่ทหารไม่รับรองความปลอดภัย พร้อมกันนั้นพลแม่นปืนก็ได้ขึ้นไป อยู่บนสะพายลอยเพื่อคุ้มกันและรักษาความปลอดภัยให้ทหาร สำหรับบ้านเรือน, โรงแรม และห้างร้านต่างๆบริเวณถนราชปรารภที่มีการปะทะกันตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคมพบว่าได้รับความเสียหายเป็นอย่างมากมี ทั้งรอยกระสุนปืนและระเบิด
15.30 น. หัตถา: เหตุการณ์ที่ราบ 11 ไม่มีสิ่งผิดปรกติใดๆ ทั้งสิ้นตามข่าวที่ลือกัน
16.00 น. เชียงใหม่รวมตัวกันพรุ่งนี้เดินไปยื่นหนังสือสถานทูตอเมริกา
16.30 น. โฆษก: มีการแจ้งว่าถุงอาหารที่อยู่ในที่ชุมนุมถูกวางยา ขอให้ตรวจสอบให้ดีก่อนการรับประทาน
16.55 น. บีบีซี ตีข่าว กรุงเทพฯ เป็นโซนการยิงกระสุนจริง
17.00 น. โฆษก: ทหารพยายามปิดเส้นทางเสบียง ในขณะที่คนเสื้อแดงนับพันก็ปิดกั้นเส้นทางเสบียงของทหารเช่นกัน
รายงานข่าวสองแหล่ง แจ้งว่ามีการยิงบริเวณถนนงามดูพลี มีประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
17.35 น. ข่าว สด เผยภาพที่นักข่าวต่างประเทศถ่ายมือสไนปเปอร์บนตึกชาญอิสสระได้
18.40 น. วิทยากร: ผู้หญิงท้องถูกยิงที่สามเหลี่ยมดินแดงเช้านี้
18.35 น. เนชั่น: จนท.มูลนิธิฯถูกสอยร่วงขณะเข้าช่วยคนเจ็บ
18.45 น. สำนักข่าวไทย : ทหารประกาศให้ถนนพระราม 4 ตั้งแต่สะพานลอยไทยเบลเยี่ยมถึงชุมชนบ่อนไก่ เป็นพื้นที่ใช้กระสุนจริง
อ.ใจ เผยไม่เชื่อมีทหารต่างชาติ "ผมไม่เชื่อว่าอำมาตย์ใช้ทหารต่างประเทศฆ่าคนเสื้อแดง ไม่เชื่อแน่นอน เพราะกองทัพไทยและนายพลไทยมันเลวอยู่แล้ว ฆ่าพวกเรามาไม่รู้กี่รอบตั้งแต่ ๑๔ ตุลา"
19.00 น. ขวัญชัย: ศพเสียชีวิตเพิ่มเติมบริเวณสามเหลี่ยมดินแดงไม่สามารถเข้าไปนำออกมาได้
19.03 น. แหล่งข่าวที่เชื่อ ถือได้แจ้ง มีนักข่าวต่างชาติ 8 คนติดอยู่ที่ซอยราชปรารภ 8 ติดอยู่ในบ้านประชาชน ออกมาไม่ได้ เพราะมีทหารดักอยู่
19.40 น. สนนท.แจ้งว่าจะร่วมชุมนุมกับครูประทีปที่แยกคลองเตยค่ำวันนี้ และจะมีการชุมนุมที่ ม.ราม วันจันทร์ที่ 17
19.50 น. ณัฐวุฒิแถลงข่าว
- การเรียกรองให้หยุดยิงของนปช.ช่วงกลางวันล้มเหลวโดยสิ้นเชิง
- การสังหารของกองกำลังรัฐบาลทำให้ประชาชน ผู้สื่อข่าว รวมถึงเจ้าหน้าที่พยาบาล เสียชีวิต และบาดเจ็บ
- ศอฉ. ได้ออกมาแถลงการณ์ เสมือนกับประสบชัยชนะในสงครามที่ได้กวาดล้างศัตรูให้บาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวน มากทั้งๆที่บุคคลเหล่านั้นเป็นประชาชนมือเปล่า
- ศอฉ. ได้แถลงผลการเสียชีวิตของประชาชน 4 ข้อ ซึ่งไม่ปรากฏเลยว่าเป็นการยอมรับว่าประชาชนที่บาดเจ็บล้มตายเป็นเพราะการยิง กระสุนปืนจากฝ่ายทหาร
- ที่เจ็บปวดที่สุด ศอฉ.แถลงว่า นี่เป็นการปฏิบัติการต่อผู้ก่อการร้าย เพราะไม่มีรายงานใดๆทั้งสิ้นว่าประชาชนมีอาวุธร้ายแรงในมือ
- นี่เป็นการใช้อาวุธสงครามสังหารประชาชนคนไทยอย่างเลือดเย็นที่สุด รุนแรงที่สุด ด้วยรูปแบบที่หนักหนาสาหัสที่สุด มีปฏิบัติการทางทหารทั่วกรุงเทพ มีหน่วยสไนปเปอร์ มีหน่วยจู่โจม ซึ่งทำราวกับว่าประชาชนไม่สามารถไว้ชีวิตเอาไว้ได้
- การใช้กระสุน M79 สามารถใช้ในปืน M203 ได้ ซึ่งถูกประกอบไว้ในปืน M16 ของกองกำลัง ดังนั้นการยิง M79 น่าจะมาจากปืนของทหาร
- ประณามการสังหารประชาชนบริเวณซอยรางน้ำ ซึ่งมี รูป ภาพ แสดงอย่างชัดแจ้ง
- เผยภาพ ของผู้เสียชีวิตเลือดท่วมซึ่งเป็นอาสาสมัครของวชิระพยาบาล ซึ่งออกไปปฏิบัติหน้าที่ดูแลผู้บาดเจ็บ ซึ่งชัดเจนว่าอยู่ในชุดเครื่องแบบพยาบาล พร้อมบัตรพยาบาล
- ทหารไม่ยอมให้ คนเสื้อแดงที่ถูกยิงบาดเจ็บ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล
- ยอดเสียชีวิตกว่า 20 ชีวิตสองวันที่ผ่านมา แต่อภิสิทธิ์เลือกที่จะดำเนินการต่อ โดยทางแกนนำจะดำเนินการในทางนานาชาติ
20.15 น. จตุพร แถลง
- การที่ศอฉ.ออกมาระบุว่าทางผู้ชุมนุมมีผู้ก่อการร้าย 500 เป็นการสื่อให้รู้ว่า จะมีการออกใบอนุญาตฆ่าจำนวน 500 ใบ
- ผู้เสียชีวิตทั้งหมดถ้าเป็นผู้ก่อการร้ายจริง ทำไมจึงไม่มีศพทหารแม้แต่รายเดียว
- การที่ออกข่าวว่า M 79 มาจากคนเสื้อแดงนั้น ข้อเท็จจริงคือ ทำไมจึงไม่ทำให้มีทหารบาดเจ็บเลย แต่เชื่อว่าการยิง M79 ดังกล่าวเป็นการออกใบอนุญาตฆ่าประชาชนเท่านั้น
- ความตายที่เกิดขึ้น ทุกชีวิตเป็นมือเปล่า
- ความตายและความบาดเจ็บเป็นการอธิบายทั้งหมดว่าใครใช้อาวุธปราบปรามเข่นฆ่า ประชาชน ไม่ว่าจะมีการออกทีวีมาแก้ตัวอย่างไรก็ตาม
- การสังหารฆ่าประชาชนเป็นเพราะการไม่ต้องการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของคนสั่งการ
- ขอยืนหยัด เพื่อทวงความยุติธรรมกับทุกชีวิต ที่นายอภิสิทธิ์สั่งฆ่าอย่างเหี้ยมโหด และยัดข้อหาก่อการร้าย "เราเป็นหนี้ชีวิตทุกชีวิตที่พลีชีพ ทั้งเมื่อวานนี้ วันนี้ และไม่รู้อีกกี่วัน"
- เราขอเพียงเศษเสี้ยวของความจริง ความยุติธรรม มอบให้กับคนที่ตายไป "พวกผมที่มีชีวิต จะสู้ต่อไป เป็นหน้าที่ของเราที่ต้องทวงหาความยุติธรรม ไม่ว่าจะเป็นสวรรค์หรือนรก"
20.35 น. ข่าว CNN ยันคนเสื้อแดงไม่มีอาวุธ แต่ทหารใช้ปืนสไนปเปอร์ยิงประชาชน
21:49 น. อบริจิ้น: รพ.จุฬาฯห้ามสื่อเข้า
22:02 น. อบริจิ้น: แดงอุดรไม่หวั่นพรก.ฉุกเฉินรวมพลทุ่งศรีเมือง
22.09 น. อบริจิ้น: บชน.จะขอปิดถนนเพิ่มอีกหลายสาย
22.48 น. อบริจิ้น: สมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าอาวาสวัดชนะสงครามแถลงขอบิณฑบาต ชีวิตประชาชน
22.55 น. จตุพร: ส.น.ลุมพินีถูกทหารถล่มด้วยM79 แล้ว 7 ลูก หลังเมื่อวานได้ช่วยสกัดททหารที่ทำการสังหารประชาชน
23.15 น. จตุพร: ยืนยันโรงแรมเซ็นจูรี่ไม่ได้ใช้เป็นฐานของทหาร
23.18 น. บอร์ด ประชาไท : เรียกร้องให้แกนนำช่วยดูแลแนวหน้าที่บ่อนไก่ เปรยมี ส.ส. อ้างเป็นเสื้อแดงมาป่วนไม่เข้าท่า
23.47 น. โฆษก: อย่าเชื่อข่าวลือเกี่ยวกับความรุนแรงบริเวณซอยเพชรบุรี คนเสื้อแดงจะไม่มีการดำเนินการใดๆบริเวณดังกล่าวทั้งสิ้น
23.52 น. บก.ลาย จุด: ทหารแจ้งให้นักข่าวออกจากพื้นที่แยกศาลาแดง ณ ตอนนี้ คาดว่าอาจมีปฏิบัติการอะไรบางอย่างในอีกไม่กี่นาทีต่อจากนี้
24.00 น. ศูนย์เอราวัณ กรุงเทพมหานคร รายงานรายชื่อผู้เสียชีวิต จากเหตุการณ์ทหารกระชับพื้นที่การชุมนุมของ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน ตลอดช่วง ตั้งแต่วันที่ 14-15 พฤษภาคม ว่ามีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 24 ราย และได้รับบาดเจ็บ 187 ราย
16 พฤษภาคม 2553
02.00 น. มีการรวมตัวกันของประชาชนที่หน้าที่ทำการพรรคเพื่อไทย สะพานเหลืองประมาณ 300 คน
06.00 น. 'กำปั้น'นักร้องวงบาซูถูกยิงขณะออกมาสูบบุหรี่ระเบียงคอนโดซอยรางน้ำ ส่วนน้าชาย(หรือเพื่อน)ของเขาตาย คาดสไนเปอร์สอย (ข่าวดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 ช่วงบ่ายๆ)
06.30 น. วัดปทุมวนาราม (อยู่หลังเซ็นทรัลเวิลด์) ประกาศเป็นเขตอภัยทาน หรือเขตห้ามฆ่า ผู้ชุมนุมเข้ามาลี้ภัยได้ แต่ห้ามมีอาวุธ
06.39 น. UDDThailand : เด็ก 10 ขวบที่ถูกยิงไส้ทะลักเมื่อคืนที่เกิดเหตุการณ์ทหารยิงรถตู้นั้น บัดนี้เสียชีวิตแล้วครับ ที่รพ. พญาไท1
07.00 น. รายงานผู้เสียชีวิตวานนี้ 24 ศพ ตาย198 แทบทั้งหมดเป็นผู้ประท้วงและชาวบ้าน ไม่มีทหาร แสดงว่าไม่มีการ"ปะทะ"แต่ทหารเลือกยิงตามความพอใจ
08.29 น. VoiceTV : เสธ.แดงอาการทรุดความดันลด-ไตวาย
09.28 น. โฆษก: เจ้าหน้าที่จากประเทศสหรัฐฯ มาเยี่ยมที่หลังเวที
09.32 น. CNN ออกข่าวต่อเนื่องว่ายอดผู้เสียชีวิตสูงขึ้นไม่หยุด
09.41 VoiceTV เผยยอดผู้เสียชีวิตจากการชุมนุมใน รบ.อภิสิทธิ์(ในขณะนี้) เป็นที่สองจากยุคถนอม
09.50 น. PPT ให้สมญานามอภิสิทธิ์ว่า "the Butcher of Bangkok" หรือ เพชรฆาตแห่งกรุงเทพฯ
10.00 น. หมอเหวง: นปช.ยืนอยู่บนเส้นทางสันติ ปฏิเสธสงครามกลางเมือง อภิสิทธิ์ต้องหยุด ผมเชื่อว่าพรุ่งนี้(17)มันยังสลายเราไม่ได้
facebook: ศาลาแดงฝนตก เงียบ ยังไม่มีการปะทะหลังทหารถอยไปอยู่ตามซอกซอยสีลม มีแต่บังเกอร์ตั้งตลอดแนว ปชช.ต้องเดินเท้า ร้านรวงปิด
10.20 น. ประกาศจากโรงพยาบาลราชวิถี ชายไทยไม่ทราบชื่อ 2 ศพ
10.40 น. บก.ลายจุด: เวทีย่อยที่คลองเตยยังคงดำเนินการอยู่อย่างต่อเนื่องโดย สนนท. และ ครูประทีป และบ่ายนี้จะเปิดเวทีย่อยที่ดินแดง
11.00 น. ร่างแถลงการณ์ถึงองค์กรต่างประเทศ หยุดสังหารประชาชน (ร่วมลงชื่อได้ที่ pokpongl@gmail.com)
11.58 น. ก่อแก้วเผย ศอฉ. เตรียมใช้ระเบิด ยิงรถถังลูกละล้าน ทำลายตู้คอนเทนเนอร์ประชุมของแกนนำแดง ก่อนหน้านี้พาสื่อค้นเวที ปราศจากอาวุธตามการใส่ร้ายของ ศอฉ.
12.00 น. กลุ่มสิทธิมนุษย์ชนศึกษาออกแถลงการณ์ อภิสิทธิ์ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง
12.20 น. มติชน : 55 ส.ว. ปรามรัฐบาลหยุดทหารยิงประชาชน
13.00 น. สปริงนิวส์เผย ชุมชนบ่อนไก่ถูกตัดน้ำ ตัดไฟ มีหญิงชราป่วยอยู่ที่บ้าน ออกไปหาหมอไม่ได้ สภาพบ้านที่ขาดน้ำ ขาดไฟ
13.50 น. ณัฐวุฒิพาสตรีที่มาขายของมาแถลงข่าว พบว่าถูกด่านทหารค้น คลำตัวทั้งตัว ปล้นเงิน 2,500 บาท ตบหน้า และก่อนปล่อยให้กราบเท้าทหาร 3 ครั้ง
13.55 น. ณัฐวุฒิ: ขอให้พี่น้องที่ อยู่รอบๆชุมนุม และที่ประจำด่าน ได้โปรดรับรู้ว่า
1. ศอฉ. ออกโทรทัศน์ ว่าจะประกาศเคอร์ฟิว์ ซึ่งจะทำให้พื้นที่อยู่ภายใต้อำนาจของทหาร ซึ่งอาจจะไม่แน่นอนว่า อาจจะมีการบล็อกพื้นที่เหมือนเดิม หรือว่าจะใช้กำลังเข้ามาสลายการชุมนุม ณ ที่นี้ หากท่านใด คนใด กลุ่มใด ประสงค์จะเดินทางออกจากที่ชุมนุม หรือเดินทางออกไป การ์ดทุกด่านจะไม่มีการทักท้วงหวงห้าม ท่านสามารถตัดสินอิสระได้ทันที หากท่านประสงค์ปักหลักต่อสู้ด้วยมือเปล่า ด้วยสันติวิธี ไม่มีความรุนแรง ตามจุดยืนที่ประกาศ ท่านก็มีสิทธิ์ มีเสรีภาพ ที่จะต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ จนถึงที่สุดเช่นเดียวกัน
2. ผมได้ให้ทีมงานไปตรวจสอบรอบบริเวณ แล้วพบว่า มีพี่น้องเราที่ตั้งใจมาปักหลักต่อสู้ แต่ด้วยว่าภาระทางครอบครัว ทำให้มีความจำเป็นนำเด็กเล็กมาบนเวทีนี้ด้วย ต้องกราบเรียนท่านที่มีบุตรหลานเด็กเล็ก หากรัฐบาลประกาศเคอร์ฟิวส์ ขอให้ท่านที่มีบุตรหลาน ท่านสามารถปฏิบัติได้โดยการนำบุตรหลานออกไปจากที่ชุมนุม หากท่านประสงค์จะนำ บุตรหลานออกจากพื้นที่ชุมนุม ท่านสามารถทำได้อย่างอิสระ หากตัวท่านประสงค์ร่วมอยู่ในการชุมนุม ผมก็หวังใจว่า ท่านจะนำลูกหลานเด็กเล็ก ไปพักอยู่ในสถานที่ปลอดภัย ให้เขารู้ว่าจะไม่มีการนำสวัสดิการของเด็กไปเป็นเครื่องต่อรอง ขอให้ท่านนำไปบริเวณวัดปทุมวนาราม ซึ่งเราเชื่อว่าที่นั่นจะทำให้ลูกหลานของท่านปลอดภัย
3. แกนนำจะมีการประชุม ประเมินสถานการณ์ และสรุปท่าทีในการขับเคลื่อนในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้ กราบเรียนพี่น้องว่า หากท่านประสงค์จะปักหลักต่อสู้ด้วยกัน ยืนหยัดด้วยกันที่นี่ สู้ด้วยสันติวิธี ด้วยเลือดเนื้อ จิตวิญญาณอิสระ ขอให้ท่านเตรียมการให้พร้อมทันที ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ใครยังไม่ได้กินข้าวกินปลา หากินเสีย ร่างกายใครเหน็ดเหนื่อยอ่อนเพลีย ให้งีบพักผ่อน หลังจากนั้นหากท่านตัดสินใจเด็ดขาด รวมตัวหน้าเวที เพื่อฟังมาตรการเด็ดขาดจากแกนนำที่จะประกาศให้ท่านต่อไป ท่านใดคิดอ่านอย่าง ใดเป็นเสรีภาพของท่าน ตัดสินใจได้เลย
14.30 น. ที่บริเวณบ่อนไก่ ถนนพระรามที่ 4 แนวร่วม นปช.ยังคงระดมยางรถยนต์เข้ามาบริเวณดังกล่าวจำนวนมาก โดยใช้วิธีขนใส่รถกระบะ จากนั้นได้นำมาจุดไฟเผาขวางเต็มพื้นที่ถนนพระราม 4 เกิดกลุ่มควันดำหนาทึบ ขณะที่มีฝนตกลงมาเพียงเล็กน้อย ทำให้ต้องปิดการจราจรบริเวณดังกล่าวอย่างถาวร
พบช่างภาพจากสถานีประชาชนได้รับบาดเจ็บ จากเหตุการณ์ในบริเวณแยกบ่อนไก่ โดยถูกยิงที่เกราะอ่อนขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่ ทำให้เกิดอาการจุดเสียดยังไม่สามารถลุกขึ้นมาทำการรักษาพยาบาลได้ ทราบชื่อคือ นายพุทธิพงศ์ ชูแสง
15.00 น. เมื่อ วานนี้ (15พ.ค.) องค์กรมนุษยชน HRW ออกมาเรียกร้องให้ รบ.ประกาศยกเลิศเขตการใช้กระสุนจริง
แบรด อดัมส์ ผู้อำนวยการแห่งหน่วยงานฮิวแมนไรท์วอช ประจำกรุงนิวยอร์ก ชี้ว่าการประกาศใช้เขตใช้กระสุนจริงของรัฐบาลไทย เพื่อใช้ต่อสู้กับกลุ่มผู้ประท้วงคนเสื้อแดง เป็นสิ่งที่ล่อแหลมอันตราย โดยการประกาศเขตดังกล่าว ทำให้รัฐบาลไทยเสี่ยงที่จะเขยิบเข้าสู่การละเมิดสิทธิมนุษยชนของพลเรือน ซึ่งจะทำให้ทหารคิดอย่างตื้น ๆ ว่า เขตใช้อาวุธจริงก็คือเขตยิงกระสุนได้อย่างอิสระ โดยเฉพาะเมื่อความรุนแรงขยายตัว ทั้งที่พื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตชุมชนชาวบ้าน และรัฐบาลไทยจะต้องตระหนักว่า มีประชาชนคนธรรมดาอาศัยอยู่ที่นี่ด้วย ไม่ใช่แต่เฉพาะผู้ประท้วงเท่านั้น
15.13 น. พบ ฮ.บินบริเวณอนุสาวรีย์ชัย
15.18 น. เสื้อ แดงที่เข้าราชประสงค์ไม่ได้ ยังคงปักหลักที่พระรามสี่หน้าพรรคเพื่อไทย
15.30 น. ไทยรัฐ: พรรคร่วมรัฐบาลเดินเกม บีบนายกฯไขก๊อก
โฆษก: มีพลแม่นปืนซุ่มอยู่บนตึกQhouse สาธร
16.00 น. Red Intelligence - ภาพการปะทะกันบริเวณบ่อนไก่ ยังมีการยิงอย่างต่อเนื่องจากทหารที่ซ่อนตัวบนตึกกำลังก่อสร้างหน้าสนามมวย ลุมพินี มีผู้ถูกยิงหลายคน รถพยาบาลวิ่งออกทุก 5 นาทีบางครั้งใช้เวลากว่าชั่วโมงจึงสามารถรับคนเจ็บออกมาได้ เฮลิคอปเตอร์บินสังเกตการณ์ตลอดเวลา
16.30 น. โฆษก - มีการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัย ซึ่งยังต้องการเครื่องเสียงที่นั่น
16.40 น. โฆษก:
- จะมีพระภิกษุสวดมนต์ที่อนุสาวรีย์ชัยฯเวลาเย็น 6 โมง
- ที่มุกดาหารมีการชุมนุมที่ศาลากลาง
- ให้ระวังการนั่งมอเตอร์ไซต์รับจ้างในบริเวณที่ชุมนุม
17.00 น. อริสมันต์:
- เมื่อคืนนี้ได้มีการตั้งเวที 3 จุดดินแดง, คลองเตย, และอนุสาวรีย์ชัยฯ
- ในเวลานี้ที่ต่างจังหวัดมีการตั้งเวทีขึ้นเพื่อที่จะกดดันรัฐบาลว่าไม่มี ความชอบธรรม วันนี้อภิสิทธิ์เป็นทรราชย์เต็มตัวแล้ว การเข่นฆ่าประชาชนยังไม่ยุติ
- ขณะนี้ความไม่พอใจต่อรัฐบาลอภิสิทธิ์กำลังลุกลามไปทั่วประเทศแล้ว
17.05 น. โฆษก: ที่บริเวณพระแม่มารีแถวดินแดง มีทหารอยู่จำนวนมาก แต่คนเสื้อแดงสามารถสะกัดกั้นได้
17.30 น. ศอฉ. แถลงทางทีวียังไม่ถึงเวลาประกาศเคอร์ฟิว เพราะยังคุมสถานการณ์ได้ แต่การปิดล้อมราชประสงค์ยังทำต่อไป
18.40 น. 106 องค์กรออกแถลงการณ์ร่วมรัฐหยุดยิงเดี๋ยวนี้
19.00 น. ชมรมฟ้าใหม่ เผยภาพการลุกฮือที่จังหวัดอุบลวันนี้ และภาพการชุมนุมในงานศพวีรชนเมื่อวานนี้
19.50 น. คนออสเตรเลียร่วมกับคนไทยในซิดนีย์ร่วมออกมาประท้วงอภิสิทธิ์ด้วยการเรียก ร้องให้ รบ.ออสเตรเลียกดดัน รบ.ไทยด้วยการตัดความสัมพันธ์ทางการทูตทั้งหมด เนื่องจากความโหดร้ายป่าเถื่อนของนายอภิสิทธิ์
17 พฤษภาคม 2553
01.00 น. มีผู้ขับรถกระบะโตโยต้า วีโก้ วิ่งด้วยความเร็วมาจากซอยคอนแวนต์ผ่านหน้าอาคารซีพีทาวเวอร์ เข้าไปยังถนนสีลม ระหว่างนั้นมีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด และเกิดการยิงต่อสู้กันขึ้นระหว่างผู้ที่อยู่ในรถกับทหารที่คุมพื้นที่อยู่ ริมถนน จนรถกระบะก็เสียหลักพุ่งชนรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จอดอยู่บริเวณข้างทาง หน้าธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ จากนั้นได้มีผู้นำคนเจ็บ 2 ราย ส่งโรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน ทราบชื่อภายหลังว่า จ่าอากาศเอกพงศ์ชลิต ทิพยานนทการ อายุ 51 ปี ได้รับบาดเจ็บถูกยิงที่ศีรษะ และเรืออากาศตรีอภิชาติ ช้งย้ง อายุ 26 ปี ได้รับบาดเจ็บที่มือ ทหารทั้ง 2 ราย สังกัดอากาศโยธิน กองทัพอากาศ โดยรายงานข่าวแจ้งว่า จ่าอากาศเอกพงศ์ชลิต ได้เสียชีวิตแล้ว คาดว่าเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นเพราะความเข้าใจผิด
11.00 น. บีบีซี ออกข่าวเพิ่มเติม “รัฐบาลไทยยิงแม้กระทั่งผู้บริสุทธิ์มือเปล่า”
12.15 น. ณัฐวุฒิ เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์หยุดยิง หลังผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 35 ราย และผู้บาดเจ็บจำนวนมาก
12.20 น. จตุพร ขอบคุณองค์กรต่างๆ, วุฒิสภา 55 คน, องค์กรต่างประเทศ ที่ขับเคลื่อนเรียกร้องให้มีการหยุดฆ่าประชาชน
- ทาง ศอฉ. เดิมทีจะกระชับปิดล้อมให้เข้มข้นยิ่งขึ้น แต่ล่าสุดมีแผนโยนแก๊สน้ำตาจากเฮลิคอปเตอร์
- ถึงฆ่าคนหมดราชประสงค์ ดินแดง บ่อนไก่ คลองเตย ลานพระบรมรูปฯ บ้านเลขที่ 111 ปัญหาก็จะไม่จบ
- ขบวนการจัดฉากไปปล้น7/11แล้ววางตีนตบเอาไว้เป็นของรัฐบาลเพื่อเป็นข้ออ้างใน การจัดการกับคนเสื้อแดง
- สื่อมวลชนมีอิสระจะไปในพื้นที่ชุมนุมได้ทั้งหมดเพื่อพิสูจน์ความจริง
- ทางนปช.ยืนอยู่ในที่พร้อมจะเจรจาเพื่อไม่ให้มีการสูญเสียชีวิตประชาชนเพิ่มเติม
12.36 น. ณัฐวุฒิให้รัฐหยุดยิง นปช.จะชวนพี่น้องหยุดการชุมนุมรอบๆ กรุงเทพฯ แล้วการเจรจาจะเริ่มต้นได้
12.45 น. จตุพรแจ้งว่าประธานวุฒิสภาได้ส่งตัวแทนไปราบ11เพื่อไปยื่นหนังสือให้หยุดยิง หลังจากนั้นจะเดินทางมาที่ราชประสงค์
13.30 น. โฆษก: มีการรวมตัวกันของประชาชนที่แหลมฉบัง อุดรฯ เชียงใหม่ ขอนแก่น มหาสารคาม ฯลฯ
15.00 น. ถึงเส้นตายศอฉ.ขีดเส้นให้ผู้ชุมนุมออกจากราชประสงค์ แต่ผู้ชุมนุมที่ปักหลักอยู่พากันร้องเพลงและเต้นรำ สะท้อนขวัญกำลังใจที่ดี
15.30 น. ผ่านเส้นตายไปครึ่งชั่วโมง ยังไม่มีการเข้าปราบปราม พระสงฆ์ขึ้นสวดมนต์บนเวที และบางรูปได้กล่าวขอพึ่งพระบารมีในหลวง
16.13 น คนสนิท"สมศักดิ์"ออกแถลงการณ์นามสมาคมรัฐศาสตร์ มก.ให้พรรคร่วมถอนตัว-ส.ส.ลาออก
17.00 น. แกนนำนปช.แถลงที่เวทีราชประสงค์ เผย USA , UN จ่อยื่นมือ
- มีผู้เสียชีวิตแล้ว65ชีวิต หากไม่หยุดยิงยังฆ่าต่ออภิสิทธิ์คงได้ฉายานายกฯ100ศพ
- มีการตั้งเวทีชุมนุมอื่นเพิ่มเติม ทั้งดินแดง,คลองเตย และที่อื่นๆ
- มีสัญญาณรัฐบาลUSA UNจะเข้ามาช่วยคลี่คลายสถานการณ์ เรารอการติดต่ออยู่ แต่หากผ่านคืนนี้ไม่ได้รับการติดต่อ พรุ่งนี้เช้าจะหาทางออกอื่นๆเพิ่มเติม
- นปช.ยังหวังทางออกด้วยการเจรจากับรัฐบาล โดยหวังว่าพรุ่งนี้จะมีทางออกอย่างชัดเจน
17.16 น. ตำรวจเข้าเจรจากับนางประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ แกนนำนปช.ซึ่งตั้งเวทีปราศรัยที่แยกคลองเตย แต่ไม่สำเร็จ ครูประทีปยังขึ้นเวทีให้คนมาชุมนุม ทั้งนี้พื้นที่การชุมนุมบริเวณคลองเตยเริ่มทำหลังคากันแดดกันฝนแล้ว
17.50 น. มหาลัยเที่ยงคืนออกแถลงการณ์เรียกร้องให้สหประชาชาติเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จ จริงการใช้อำนาจของรัฐบาลไทยตาม "1503 Procedure"
18.05 น. ผู้สื่อข่าวภาคสนามรายงานผ่านวิทยุเยอรมันว่า ขณะนี้มีการนำเอารถน้ำมันออกมาจากปั๊ม ปตท.ที่บ่อนไก่ ซึ่งสื่อของรัฐบาลกล่าวหาว่าเป็นฝีมือคนเสื้อแดง ขอยืนยันว่าไม่ใช่การกระทำของคนเสื้อแดง แต่เป็นการกระทำของฝ่ายรัฐบาลเพื่อสร้างสถานการณ์ความรุนแรงเช่นเดียวกับรถ แก๊สเมื่อสงกรานต์ปีที่แล้ว เพราะที่ปั๊มน้ำมันนั้น เสื้อแดงไม่สามารถเข้าไปได้ เพราะทหารยิงตลอดเวลา
19.00 น. นปช.แดง ชลบุรี ทยอยเข้าชุมนุมทางเข้านิคมฯ แหลมฉบัง ชลบุรี - นปช.ฉะเชิงเทรา เริ่มการปราศัยใกล้ศาลากลางจังหวัด รอสัญญาณการเคลื่อนไหวหลักจากส่วนกลาง
19.10 น. รายงานจากSMS - มือปืนซุ่มยิงอยู่บนชั้นดาดฟ้าตึกที่กำลังก่อสร้าง ถัดจากตึกลุมพินีทาวเวอร์
19.50 น. รายงานจาก Michael Yon ผู้สื่อข่าวที่บังเอิญอยู่ในโรงแรมดุสิตเมื่อคืนนี้ พร้อมภาพความเสียหายจากระเบิดM79
20.00 น. New Mandala ตีตราความรุนแรงที่เกิดขึ้นในกรุงเทพฯครั้งนี้ว่า " Bangkok: This is a massacre" หรือ "กรุงเทพฯ: นี่คือการสังหารหมู่" โดยกล่าวว่าถ้าไม่นับกรณีคนชุดดำในเหตุการณ์10เม.ย.แล้ว คนเสื้อแดงล้วนแต่ต่อสู้ด้วยมือเปล่าทั้งสิ้นแต่ต้องถูกฆ่าสังหารอย่าง เหี้ยมโหดมากกว่า29คนในสองสามวันที่ผ่านมา
20.20 น. คุณคำเกิ่ง เผยภาพบริเวณบ่อนไก่ช่วงเย็นพร้อมแจ้งว่า "ผู้ชุมนุมสามารถรุกคืบถึงตึกลุมพินีเทาเวอร์แล้ว โดยมีผู้ถูกยิงที่หัว 1 ราย"
20.25 น. บก.ลายจุดแสดงความเห็น "เช็คกับมวลชนนอกราชประสงค์แล้ว ยืนยันว่าหลังจากราชประสงค์แตก ไม่มีใครยอมหยุด จะเริ่มต้นเริ่มเวทีใหญ่ในสถานที่อื่นอีกครั้ง ทุกฝ่ายกำลังเตรียมการแผนสองแล้ว โมเดล พ.ค.35"
18 พฤษภาคม 2553
00.20 น. ข่าวไม่ยืนยันจากเว็บบอร์ดประชาไท ถึงการเตรียมการสลายการชุมนุมกลุ่มย่อย เช่นที่ บ่อนไก่ คลองเตย ดินแดง ตอนเช้ามืดวันนี้
00:24 น. นปช.รวมตัวสะพานเหลือง ตั้งเวทีปราศรัย อ้างเข้าราชประสงค์ไม่ได้
00:28 น. เวทีอนุสาวรีย์บอกเลิก ตี 1 ตอนนี้ยังปราศรัย สลับดนตรี การ์ด นปช.คุมเข้ม ได้ยืนเสียงปะทะจาก ราชปรารภ เป็นระยะ
00.50 น. Guardian ออกบทความชี้ว่าอภิสิทธิ์เตรียมยื่นข้อเสนอที่จะถูกปฏิเสธ เพื่อจะได้เป็นข้ออ้างในการเข่นฆ่าครั้งต่อไป นอกจากนี้ยังชี้ว่านายอภิสิทธิ์หมดภาพความเป็นคนสุภาพและไม่ทุจริตไปแล้ว แต่ได้ภาพเป็นคนเหี้ยมโหดเพราะสั่งการฆ่าครั้งใหญ่สุดในรอบ50ปี
01.00 น. รายงานจากเฟซบุ๊คแจ้งว่า สถานีไทยคม แคราย คนล้นหลามมาก
01.20 น. ภาพข่าวจากบีบีซีแสดงให้เห็นการยิงประชาชนโดยทหารใช้อาวุธปืนร้ายแรง
การชุมนุมที่มหาลัยรามคำแหงช่วงคืนที่ผ่านมา มีรายงานว่า มีเสียงปืนไล่ยิงประมาณ 6-7 นัดมาจากทางศูนย์หนังสือ ม.รามฯ เข้าใส่ผู้ชุมนุมหมอบหนีอุตลุต
06.00 น. บก.ลายจุด - เช้ามืด 18 พ.ค. 53 มีเหตุก่อความวุ่นวายเพื่อสร้างสถานการณ์ให้ นปช. ตกเป็นจำเลยโดยมีการเผาอาคารและทุบทำลายร้านค้าธนาคารโดยสามารถจับตัวผู้ก่อเหตุเป็นเด็กอายุ 14 ปีระหว่างที่ นปช . จะเข้าไประงับเพลิงก็ถูกขู่ไม่ให้เข้ามา เพราะมีระเบิดลูกเกลี้ยง
'ดีเจอ้น'ชัยนรินทร์ วิทยุชุมชนคนแท็กซี่ รายงานว่าได้ไปปราศรัยกับกลุ่มผู้ชุมนุมลาดพร้าวตรงข้ามห้างอิมพีเรียล ผู้เข้าร่วม1500คน เป็นเวทีเปิด ให้พี่น้องที่อยากแสดงความรู้สึกมาพูด มีพี่ผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าความรู้สึกว่า"ได้เห็นการเสียชืวิตของคนเสื้อแดงที่ถูกทหารยิงในวัน ที่ 16 พ.ค. แล้วเสียใจอย่างยิ่งรัฐบาลสั่งให้ทหารเข่นฆ่าประชาชนทำไม เราเพียงแค่แสดงออกทางการเมืองของเราอย่างปกติธรรมดา ทำไมต้องฆ่าเรา ..." ทางเวทีนี้จะคงดำเนินต่อไป มีการตั้งทีวีหลายจุดในบริเวณเพื่อฟังการถ่ายทอดสด ที่เวทีราชประสงค์สลับสับเปลี่ยนกับเวทีปราศรัย
07.00 น. หัวหน้าฝ่ายสิทธิมนุษยชน UN เรียกร้องให้รัฐบาลและผู้ประท้วงอดกลั้น และเปิดเจรจายุติการปะทะ
08.00 น. CNN เสนอรายงานข่าวคนกรุงเทพฯรู้สึกตัวเองตกเป็นตัวประกันในบรรยากาศสงครามทหาร ตำรวจเต็มเมือง เครื่องบินเฉียดหัวไปมา ธุรกิจปิดตาย ขณะที่หงา คาราวาน เผยแพร่เพลงที่เรียกร้องสันติภาพให้คนกรุงผ่านรายการเรื่องเล่าเช้านี้ช่อง3 โดยระบุผู้ชุมนุม"บ้าสี"และเป็น"กบฎ"
08.50 น. Guardian ชี้ว่า ประเทศไทยส่งสัญญาณเบื้องต้นแห่งการเป็น "รัฐล้มเหลว" (failed state)
09.30 น. มีวัยรุ่นจุดไฟเผาอาคารร้างย่านดินแดง ผู้ชุมนุมได้จับตัวไว้และช่วยกันดับเพลิงไม่ให้ลุกลามไปหาอพาร์ตเม้นต์และ ธนาคารข้างเคียง
10.30 น. แกนนำนปช.เวทีราชประสงค์แถลงข่าว
- ขอให้รัฐบาลสั่งหยุดยิง จะได้พาผู้ชุมนุมรอบนอกเช่นที่ดินแดงเข้ามาเวทีราชประสงค์ แต่ไม่ใช่ว่าแกนนำนปช.ไปสั่งการให้มีการก่อเหตุรุนแรงใดๆ
- มีมติเห็นชอบแนวทางสว.เป็นตัวกลางเจรจายุติศึก ขอให้ประธานสว.ดำเนินการได้เลย
- เรื่องณัฐวุฒิโทรหากอร์ปศักดิ์ ก็เพราะอยากให้หยุดยิง ไม่เกี่ยวกับว่าใครโทรไปหรือใครโทรมา ถือเป็นเรื่องหยุมหยิมที่ฝ่ายรัฐยกมาโจมตี
- มีข่าววอร์รูมปชป.บอกว่าตาย 69 ราย ต่ำกว่าเป้า 200-500 ศพ ซึ่งน่าตกใจ ขอประณาม
- ขอเชิญชาวไทยไว้ทุกข์ผู้เสียชีวิตด้วยการติดปลอกแขนดำเริ่มตั้งแต่วันนี้
12.00 น. พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช สว.เผยสว.เริ่มประสานงานเจรจา 2 ฝ่าย บ่ายนี้จะประชุมแนวทางทำงาน
15.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมเตรียมจัดประท้วงเชิงสัญลักษณ์ "เปลือยเพื่อชีวิต" ใต้ทางด่วนบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง เวลา 16.00 น. วันนี้
64 สว.เรียกร้องรัฐบาลเข้าร่วมโต๊ะเจรจา แต่ยังไม่มีคำตอบ อย่างไรก็ตามมีข่าว อภิสิทธิ์ยืนกร่านในที่ประชุมครม.ว่านปช.ต้องยุติชุมนุมก่อน จึงจะเปิดเจรจา
15.30 น. รายงานจาก เฟซบุ๊ค แจ้งว่าจะมีการจัดตั้งเวที แห่งใหม่บริเวณ เลียบทางด่วนใกล้อิมพีเรียลลาดพร้าว
16.20 น. สาทิตย์ วงศ์หนองเตย แถลงในนามศอฉ.ว่า อภิสิทธิ์ชี้แจงประธานวุฒิสภาจุดยืนของรัฐบาลจะเจรจาก็ต่อเมื่อ นปช. ยุติการ ชุมนุมก่อน และยุติการก่อการร้าย
16.40 น. องค์กรนิรโทษสากล(สหรัฐฯ) ออกแถลงการณ์ให้ทหารไทยหยุดยิงประชาชนทันที โดยอ้างว่าจากหลักฐานที่ปรากฏชัดจำนวนมากว่าทหารได้ฆ่าประชาชนที่ปราศจาก อาวุธ "สิ่งนี้เป็นการละเมิดหลักสิทธิมนุษยชน" "เป็นเรื่องยอมรับไม่ได้ภายใต้กฏหมายระหว่างประเทศที่อนุญาตให้การใช้อาวุธ ปืนเป็นมาตรการสุดท้าย"
17.50 น. แกนนำนปช.แถลงให้ประธานวุฒิฯประสานแจ้งรัฐบาลถอนกำลังทหารก่อน แล้วนปช.จึงจะเจรจากับรัฐบาล ขณะที่ก่อนหน้านี้รัฐบาลตั้งเงื่อนไขให้ยุติชุมนุมก่อนแล้วจึงจะเจรจา
19.00 น. เฟซบุ๊ค: สามเหลี่ยมดินแดงมืดตื้อ มืดจนน่าใจหาย ด่านท้ายสุด (ด่านที่4) ก่อนจะถึงเวทีปราศรัย ซึ่งตั้งอยู่อีกประมาณ 300 เมตรถัดไป มีการ์ดจำนวนมาก พวกเขาส่วนหนึ่งเป็นแท็กซี่และมอเตอไซค์รับจ้าง อาวุธที่มีคือบั้งไฟเล็ก และพลุ และยางรถยนต์ รัฐและทหารรู้ดีถึงข้อเท็จจริงนี้
20.10 น. ส.ว.ปรากฏตัวที่เวที นปก. บอกว่าทนนิ่งเฉยกับการเสียชีวิตของประชาชนจำนวนมากไม่ได้
20.12 น. ข้อเรียกร้องจาก ส.ว.พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวาณิช
1. อยากให้รัฐบาลปรับแนวของกองทัพให้ออกจากประชาชนเพื่อไม่ให้มีการปะทะ
2. เรียกร้องให้ทางกลุ่มคนเสื้อแดงได้ยุติโดยเด็ดขาดการกระทำที่นำไปสู่การ ยั่วยุ การปะทะ การเสียเลือดของไม่ว่าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด
3. ให้สมาชิกวุฒิสภาเป็นตัวกลางประสานระหว่างนปก.และฝ่ายรัฐบาล เพือให้เกิดการเจรจาเพื่อยุติความขัดแย้งต่างๆ
แกนนำทุกคนพร้อมที่จะให้มีการหยุดยิงทั่วกรุงเทพฯ เรียกร้องให้พี่น้องเสื้อแดงที่อยู่ในพื้นที่ต่างๆ ที่ล้อมรอบ รปส. ที่บ่อนไก่ ศาลาแดง ลุมพินี อนุสาวรีย์ ดินแดง ที่ราชปรารภ เข้าสู่ขบวนการเจรจา หยุดความรุนแรงตั้งแต่นี้ไป และเรียกร้องผ่านประธานวุฒิสภาไปยังรัฐบาล ที่จะให้เจ้าหน้าที่ไม่ใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุมในทุกกรณี ให้ทุกฝ่ายกลับไปสู่โต๊ะเจรจาอีกครั้ง เข้าสู่กระบวนการเจรจาอีกครั้ง และยุติความขัดแย้งอย่างสันติ ซึ่งเป็นความเห็นของแกนนำทุกคน (มีเสียงโห่ร้องของประชาชน ในเชิงไม่เห็นด้วย เพราะโกรธที่ ส.ว.บอกว่ารัฐบาลไม่ได้จงใจฆ่าประชาชน )
20.20 น. ณัฐวุฒิ - ขอเรียนพี่น้องประชาชนว่า การดำเนินการทั้งหมดจะไม่ดำเนินไปเพื่อชัยชนะหรือความพ่ายแพ้ การดำเนินการทั้งหมดจะไม่มีการนิรโทษกรรมทุกๆ กรณี แต่การเจรจาทำไปเพื่อยุติความสุญเสีย ความรุนแรง ส่วนเรื่องคดีความจากทุกฝ่ายจะว่ากันไปตามข้อเท็จจริงพยานหลักฐาน ฝ่ายเสื้อแดงถ้าผิดก็จะรับผิดชอบทุกกรณี แต่สิ่งใดที่นายอภิสิทธิ์ สุเทพ หรือส่วนงานใด ถ้าผิดก็ต้องรับผิดชอบทั้งในและต่างประเทศเช่นกัน (หลังจากนั้นประชาชนในที่ชุมนุมโห่ร้องให้มีการยุบสภา)
20.35 น. ณัฐวุฒิ - การเจรจาจะไม่ใช่การไม่เอาผิดกับคนผิด แต่การเจรจาจะเป็นการยุติความสูญเสีย เราต้องทำให้ดีที่สุดเพื่อไม่ให้พี่น้องเจ็บเพิ่ม การหาความยุติธรรมให้กับคนตายเป็นเรื่องใหญ่ แต่เราต้องหยุดการฆ่าเสียก่อน การทวงถามความยุติธรรมให้กับพี่น้องเรา จะหยุดไม่ได้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ทุกอย่างยังต้องเดินหน้าต่อไป
20.45 น. จตุพร -"ขอให้ทุกจุดเตรียมพร้อม" "เรามาไกลเกินที่จะยอมจำนน เราเจรจาเพื่อให้เขาหยุดฆ่า แต่ไม่ใช่การเจรจาเพื่อการยอมแพ้ ขอให้รู้ไว้ด้วย" "พี่น้องที่อยู่ต่างจังหวัดท่านตัดสินใจเอง จะเคลื่อนทัพอย่างไร ตัดสินใจเอง หลังจากนี้อะไรจะเกิด ก็ให้มันเกิด"
20.58 น. ณัฐวุฒิ - ในระหว่างที่ส.ว.เสนอตัวเป็นตัวกลางเจรจาหยุดยิง แต่พรุ่งนี้เช้าตี 5 รัฐบาลคุยกันภายในว่าจะเอาจริง
22.30 น. ข้อมูลจากแหล่งข่าวของแกนนำแจ้งว่า ตี 5 จะสลายรุนแรง - Media Alert: We have been advised by our sources that a final crackdown against the red-shirt movement at Ratchaprasong will commence at 5am tomorow, Wednesday May 19, 2010. แหล่งที่มาของเราแจ้งว่าปราบปรามจะเป็นอันตรายมาก สำหรับคนที่เวที Ratchaprason Our sources inform us that this crackdown will be extremely dangerous for people at the Ratchaprason stage.
สื่อใด ๆ ในบริเวณใกล้เคียงของพระราม / อุปสรรคศาลาแดงจะกระตุ้นให้ใช้ความระมัดระวังมากและรักษาที่เหมาะสมและระยะ ทางจากสิ่งกีดขวาง Any media in the vicinity of the Rama IV / Sala Daeng barricade are urged to exercise extreme caution and maintain and reasonable distance from the barricade.
23.00 น. เฟซบุ๊ค - ที่สามเหลี่ยมดินแดง ผู้สื่อข่าวสามารถเข้าไปได้ถึงแนวด่านชั้นที่ 4 เท่านั้น ขณะที่วิ่งเข้าไปที่แนวหลังยางรถยนต์ การ์ดร้องเตือน "ระวังด้วย กระสุนตกมาถึงตรงนี่หลายครั้งแล้ว" ด่านชั้นที่ 3 (ประมาณ100เมตรถัดไป) โดนยิงเป็นระยะ ตลอด2ชั่วโมงที่อยู่ตรงนั้นมีคนถูกยิงตาย2คน "โผล่หัวออกไป ยิงทันที" การ์ดบอก
23.50 น. คนไทยในต่างแดน ส่งจม.เปิดผนึกถึงพระสงฆ์ไทย ร้องขอความเป็นธรรมและช่วยกันห้ามการฆ่าคนด้วยกันเอง
19 พฤษภาคม 2553
00.00 น. จตุพรบอกบนเวทีว่า สื่อไทยย้ายไปรายงานข่าวสนามกีฬาแห่งชาติ ส่วนนักข่าวต่างประเทศยืนยันอยู่ในพื้นที่การชุมนุม และพร้อมรายงานข่าวไปทั่วโลก
00.10 น. ทหารตรึงกำลังวางชุดแม่นปืนถนนจุฬาฯ 12 เส้นทางลัดเข้าราชประสงค์บีบพื้นที่ถนนอังรีดูนังต์ขยับใกล้ม็อบบรรยากาศ ตั้งแต่ช่วงเย็นถึงค่ำทหารได้นำกำลังเข้าตรึงพื้นที่ในถนนจุฬาฯ 12 มากขึ้นและตั้งด่าน ตรวจค้นรถทุกคันที่วิ่งผ่านเข้าออกและมีการนำกระสอบทรายตั้งเป็นแนวบังเกอร์ ที่ปากทางเข้าถนนจุฬาฯ 12 ตัดถนนบรรทัดทองพร้อมวางชุดแม่นปืนประจำจุดประทับปืนติดกล้องหันหน้าออกไป ทางถนนพระราม 4
01.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณสามเหลี่ยมดินแดง มีการ์ด นปช. ถูกจับตัวขึ้นรถตู้ไม่ทราบฝ่ายไม่ทราบสังกัดไปหนึ่งคนนอกจากนี้มีผู้บุคคลได้นำกาแฟมาแจกการ์ดต่อมาผู้ดื่มมีอาการอาเจียนอย่างรุนแรงขณะนี้นำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว
02.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีเสียงปืนดังขึ้นบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง มีผู้บาดเจ็บ 1 ราย
ทวิตเตอร์ ของฐปนีย์เอียดศรีชัยนักข่าวช่อง 3 แจ้งว่ามีเสียงระเบิดคล้ายเอ็ม 79 บริเวณ ซ.ไก่งามดูพลีบ่อน 1 ลูก มีรายงานผู้บาดเจ็บกู้ภัยทำงานลำบากเพราะมืดและอันตรายมาก
03.00 น. รถหุ้มเกราะประจำจุดศาลาแดง-สารสิน
03.30 น. มือมืดเปิดฉากเผาแบงก์ไทยพาณิชย์ ปทุมธานี
03.45 น. คนร้ายยิงเอ็ม 79 ถล่มแบงก์กรุงเทพสาขาแพร่
05.00 น. ทหารรุกคืบบีบพื้นที่เริ่มยุทธการสลายการชุมนุม
05.30 น. ทหารปะทะเดือด นปช. เสียงปืนสนั่นศาลาแดง-สารสิน
07.00 น. หลังจากวุฒิสภาเสนอเป็นตัวกลางเจรจาโดยนปช. เข้าร่วมกระบวนการแล้ว แต่รัฐบาลแข็งกร้าวให้ยุติชุมนุมก่อนจึงจะเจรจาเช้านี้กองกำลังทหารพร้อมรถ สายพานลำเลียงเคลื่อนบีบเข้าใกล้เวทีราชประสงค์และพูดผ่านโทรโข่งให้สลายตัว ภายใน 15 นาที
นักข่าวอิตาลีถูกยิงเสียชีวิตและบาดเจ็บอีกหลายคน
07.30 น. มือมืดยิงเอ็ม79ถล่มชุมชนบ่อนไก่สร้างความปั่นป่วน
08.00 น. รถหุ้มเกราะและทหารบุกรื้อสิ่งกีดขวางสวนลุมพินี
08.10 น. ทหารใช้รถถังชนบังเกอร์เสื้อแดงฝั่งศาลาแดง ขณะที่เวทีราชประสงค์บนเวทีมีการร้องเพลงและเล่นตลก ผู้ชุมนุมพากันเฮฮา สะท้อนขวัญกำลังใจเข้มแข็ง
08.15 น. ทหารเคลียร์พื้นที่หน้าสวนลุมพินี-ศาลาแดงได้แล้ว
08.20 น. กอร์ปศักดิ์ เลขานายกฯ กร้าวที่ประธานวุฒิสภาเป็นคนกลางเจรจาไม่มีประโยชน์แล้ว ให้ยุติชุมนุมเดี๋ยวนี้เท่านั้น
08.30 น. เสธ.อู้ คีย์แมน สว. เผยการเจรจาล้มเหลวแล้ว รัฐบาลไม่ยอมขึ้นโต๊ะเจรจา แต่จะปฏิบัติการทางทหารและเชื่อว่าจะทุ่มกำลังให้จบในวันนี้ และคงยากจะหลีกเลี่ยงความสูญเสีย เพราะผู้ชุมนุมยอมตาย
08.50 น. ทหารสามารถใช้รถสายพานลำเลียงหุ้มเกราะฝ่าเข้าไปจากด่านศาลาแดงได้แล้วยึด สวนลุมได้เรียบร้อย
จ.ส.100 รายงาน: ถ.ลำลูกกาคลอง 5 ทางขึ้นวงแหวนตะวันออก นปช.เผายาง ตร.ห้ามรถผ่านแล้ว รถทุกคันต้องกลับออกทั้งหมด
รอยเตอร์ รายงานพบผู้เสียชีวิตแล้ว จากปฏิบัติการแยกศาลาแดง
09.00 น. ทหารเข้ามาในถนนราชดำริ ห่างจากหลังเวที 500 เมตร มีการยิงใส่คนเสื้อแดงและมีหน่วยซุ่มยิงไปซุ่มอยู่บนสถานีรถไฟฟ้า
ช่อง 3 - กลุ่มผู้ชุมนุมถอยร่นเกือบไกล้เวที แต่ที่เวทียังมีกิจกรรมปรกติ
09.10 น. พลเอกเลิศรัตน์ รัตนวานิช ให้สัมภาษณ์ผ่าน TPBS ว่าครั้งนี้น่าจะเป็นการปะทะกันครั้งสุดท้าย เนื่องจากหากยาวนานกว่านี้ อาจจะเป็นอันตรายต่อชีวิตทหาร!?
09.20 น. บีบีซีรายงานว่า ทหารยิงปืนและใช้ระเบิดแก๊สน้ำตาเพื่อสลายผู้ชุมนุม ขณะที่ฝ่ายผู้ชุมนุมเผายางทำให้เกิดควันดำตลบไปทั่วบริเวณ มีรายงานผู้บาดเจ็บแล้วอย่างน้อย 5 ราย
ด้านเอพีรายงานว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากมีผู้เสียชีวิต แล้วอย่างน้อย 39 ราย บาดเจ็บกว่า 300 ราย ในช่วงการปะทะที่ดำเนินมา 7 วัน ทางรัฐบาลปฏิเสธข้อเสนอล่าสุดของกลุ่มเสื้อแดงที่ขอเจรจา โดยยืนกรานว่า ผู้ชุมนุมต้องสลายตัวก่อน
09.35 น. ที่แยกสารสิน มีกลุ่มผู้ชุมนุม นปช.ถูกยิงเสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อ นายวัฒนชัย เอี่ยมนาค โดยถูกยิงที่แยกสารสิน จากการตรวจสอบพบ มีบาดแผลถูกยิงที่หน้าอก
สำนักข่าวเอพีรายงานข่าวด่วนระบุว่า ช่างภาพของเอพีได้เห็นนักข่าว 3 คน ถูกยิง ระหว่างปฎิบัติการของทหารในกรุงเทพฯ และดูเหมือนว่า จะมีนักข่าว 1 รายเสียชีวิต
10.00 น. สามเหลี่ยมดินแดง มีการยิงปืนถูกชาวบ้าน 1 คน เป็นผู้หญิงถูกยิงฟุบ ต้องใช้เวลาครู่ใหญ่ก่อนนำร่างออกมาได้ ขณะนี้สามารถนำตัวขึ้นมอเตอร์ไซค์ นำส่งรพ.แล้ว
ช่อง 9 - ทลายด่านย่อยสารสิน จับการ์ดนปช. 12 คน ตรวจพบอาวุธคือ "ตะไล"
10.05 น. สถานการณ์ที่บริเวณบ่อนไก่ ยังคงมีเสียงปืนรัวอยู่ มี จนท.ตำรวจ ตรึงกำลังอยู่ เพื่อรักษาความปลอดภัยให้รถไฟฟ้าใต้ดิน และมี ฮ. บินวน อยู่เป็นระยะ มีประชาชนจับกลุ่มกระจายอยู่ตามท้องถนน ไม่มีการเผาตึกสูงตามข่าวลือ รายงานสดจากสปริงค์นิวส์
10.10 น. แยกบ่อนไก่ เกิดเพลิงไหม้รุนแรงที่อาคารพานิชย์ติด ธ.กสิกรไทย รถดับเพลิงไม่สามารถเข้าไปได้ เนื่องจากอยู่จุดกึ่งกลางที่ปะทะ
10.15 น. คนเสื้อแดงนนทบุรี กำลังทยอยมารวมตัวกันที่สถานีไทยคม แคราย
10.30 น. ไฟไหม้ที่ธนาคารกสิกรไทยพระรามสี่เหลืออีกเพียง 10 เมตรจะถึงปั๊มปตท . แล้ว
ที่โรงแรมแมนดาริน เหตุปะทะมีเสียงปืนดังและทหารยิงแก๊สน้ำตาใส่ มีหญิงหนึ่งคนบาดเจ็บ รถฉุกเฉินพาไป รพ.แล้ว
10.40 น. รถดับเพลิงมาถึงหน้าธนาคารกสิกรแล้ว ขณะที่ควันหน้า รพ.จุฬา เริ่มจะบางลงแต่ยังคงมีอยู่ ทหารรุกคืบจากศาลาแดง ตรึงกันอยู่ที่แยกสารสิน
มีคนสุมยางเผาหน้า ธ.นครหลวงไทย สาขาสยามเซ็นเตอร์ แต่มีการช่วยกันดับแล้ว
แยกศาลาแดง พบผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย อยู่หลังแนวบังเกอร์ยางรถยนต์ เป็นชายอายุประมาณ 20 ปี ผูกผ้าพันสีแดง คาดเป็นการ์ด นปช.
สามย่าน มีเสียงดังคล้ายระเบิด 1 ครั้ง ทหารปิดถนนพระราม 4 เข้าแยกสามย่าน ทหารบอกประชาชนให้หาที่กำบัง เพราะจะมีปฏิบัติการยิงแล้ว
10.40 น. ส.ส.เพื่อไทยยื่นถอดถอนนายกรัฐมนตรี รองนายกฯนายสุเทพ เทือกสุบรรณ
10.45 น. ที่ขอนแแก่น มีการชุมนุมทั้งสิ้นสามจุดได้แก่ บริเวณสวนรัชฎา หน้าศาลากลางขอนแก่น ซึ่งมีทหารตำรวจตรึงกำลังเข้มงวด อีกสองจุดได้แก่บริเวณบึงแก่นนคร และสถานีแดงในเมืองขอนแก่น ทั้งสามจุดเป็นการชุมนุมโดยสงบ
แยกศาลาแดง ทหารเริ่มรุกคืบเข้าไปช้าๆ เนื่องจากมีสิ่งกีดขวางมาก ทหารจึงเดินเท้าเข้าไป มีการยิงปืนจากทหารเข้าไปเป็นระยะๆ ยังไม่สามารถตรวจสอบผู้บาดเจ็บเสียชีวิตได้
10.55 น. เวทีราชประสงค์ยังปักหลักสู้
ขณะที่กลุ่มเคลื่อนไหวสันติภาพเชิญชวนนัดชุมนุมเรียกร้องสันติภาพ กำหนดการ 12.30 น. พร้อมกันที่ประตูใหญ่สหประชาชาติถนนราชดำเนิน ,13.00 น. บทสวด ภาวนา 3 ศาสนาเพื่อสันติภาพประชาธิปไตยและอุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิตจากความรุนแรง บทสวด ภาวนา ๓ ศาสนาเพื่อสันติภาพ ประชาธิปไตยและอุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิตจากความรุนแรง
11.00 น. ม็อบเทน้ำมันสกัดทหารเข้าพื้นที่
11.05 น. ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ จะขึ้นเวทีปราศรัย แต่นายวรวุฒิ วิชัยดิษฐ์ โฆษกเวที ประกาศขอร้องอย่าขึ้นมาให้รักษาชีวิตไว้ เพื่อต่อสู้เพราะมีคุณค่ามากกว่าเขา พร้อมประกาศจะอยู่บนเวทีต่อไป
11.10 น. ภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่สามารถยึดพื้นที่โดยรอบของสวนลุมพินีไว้ได้ จากการเข้าตรวจที่เกิดเหตุโดยรอบ ได้พบศพผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นชาย อยู่ที่ด้านหลังแนวบังเกอร์ ในสภาพที่ถูกยิงเข้าบริเวณศรีษะ รายแรก สวมชุมดำ รายที่สองไม่สวมเสื้อ ทั้งนี้ ศพของบุคคลทั้งสองถูกพบที่ถนนราชดำริ คาดว่าเป็นการ์ด นปช.หลังแนวรั้วกั้นที่เจ้าหน้าที่ทหารได้ทะลวงเข้ามาสำเร็จแล้ว อยู่ตรงกันข้ามกับตึก สก. โรงพยาบาลจุฬาฯ
ณัฐวุฒิและแกนนำขึ้นประกาศบนเวทีให้ผู้ชุมนุมที่สมัครใจออกไปยังพื้นที่ ชุมนุมเพราะไม่ต้องการให้ผู้ชุมนุมเป็นโล่ห์มนุษย์เหมือนรัฐบาลกล่าวหา ส่วนแกนนำจะลงไปนั่งนิ่งๆ รอการจับกุม ส่วนใครจะสู้ต่อ จะพยายามให้ความปลอดภัย
12.00 น. แกนนำเสื้อแดง ‘อริสมันต์-นพ.เหวง-นายสุภรณ์’ หนีตาย
เสื้อแดงขอนแก่นเข้ายึดศาลากลางยื่นคำขาดให้รัฐบาลหยุดฆ่าผู้ชุมนุมราชประสงค์ โฆษกเวทีราชประสงค์พูดมีเสื้อแดงหลายจังหวัดโทรเข้ามาบอกจะเข้ายึด ศาลากลางและอาจเผาสัญลักษณ์อำนาจรัฐหากรัฐบาลไม่หยุดฆ่า
12.15 น. ณัฐวุฒิร้องเพลงรักคนเสื้อแดงและนักสู้ธุลีดินอยู่ด้านล่างเวทีขณะที่บนเวที ไม่มีใครเพราะเกรงทหารจะยิง
13.00 น. พล.อ. เลิศรัตน์เผย จตุพร ติดต่อให้เป็นคนพาเข้ามอบตัวกับตำรวจช่วงบ่ายส่วน วิทยา บุรณศิริ วิปฝ่ายค้านยืนยันข่าวนี้
13.20 น. มติแกนนำ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน ตัดสินใจประกาศยุติการชุมนุม พร้อมทั้งยอมเข้ามอบตัว กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยในเวลาดังกล่าว แกนนำ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน คนสำคัญคือ นายจตุพร พรหมพันธุ์, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย เป็นต้น ต่างขึ้นบนเวทีแยกราชประสงค์
โดยนายจตุพร เริ่มกล่าวเป็นคนแรกว่า 'ชีวิตของพวกผมเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่นี่เป็นชีวิตของคนอื่น พวกผมรอด แต่พี่น้องต้องตาย ถ้าเขาขยับมาถึงเวที ผมรู้ว่า พี่น้องพร้อมพลีชีพ ไม่รู้กี่ชีวิต เราร่วมทุกข์ร่วมสุขมายาวนานที่สุด และก็รู้กันว่า อีกไม่รู้กี่ชีวิตที่ต้องตาย ถ้าศอฉ.บุกมาถึงที่นี่ พี่น้องก็ยอมพลีชีพกันทุกคน ผมยอมไม่ได้ ฉะนั้น วันนี้ไม่ใช่ยอมจำนน แต่ไม่ต้องการให้พี่น้องเราต้องเสียชีวิตอีกแล้ว ทนความตายของพี่น้องไม่ได้อีกต่อไป พวกผมเพื่อนๆ จะเดินทางไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผมรู้ว่าพี่น้องขมขื่น ทุกคนที่ขึ้นมาที่นี่ เราไม่รู้จะพูดกับพี่น้องกันอย่างไร เพราะหัวใจพี่น้องเลยความตายกันมาทุกคน วันนี้ เราหยุดความตาย แต่ยังไม่หยุดการต่อสู้ เพราะตอนนี้ยังตายอยู่เรื่อยๆ เรามาช่วยหยุดความตาย หัวใจการต่อสู้ไม่เคยหมด เราไม่ได้ทรยศ กว่าจะมาถึงเวที ไม่รู้อีกกี่ร้อยชีวิต เรามาหยุดความตายกันเถิด
จากนั้น นายณัฐวุฒิ กล่าวเป็นคนต่อมาว่า "เราขอยุติเวทีการชุมนุมแต่เพียงเท่านี้ แต่การต่อสู้ยังไม่ยุติ การต่อสู้ยังต้องเดินหน้าไปตามกระบวนการประชาธิปไตยต่อไป เราไม่อาจต้านทานความอำมหิตนี้ได้อีก ขอให้พี่น้องเดินออกไปทางสนามศุภชลาศัย การ์ดจะดูแลให้พี่น้องเดินทางกลับด้วยความสงบ และปลอดภัย"
สำหรับแกนนำที่เข้ามอบตัวกับตำรวจทันที ตามลำดับประกอบด้วย นายขวัญชัย ไพรพนา ตามด้วยนายจตุพร ซึ่งก้มลงกราบที่หน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภายใน สตช. และคนสุดท้าย คือนายณัฐวุฒิ โดยก่อนเข้ามอบตัว นายณัฐวุฒิ กล่าวผ่านเครื่องขยายเสียง หน้า สตช. อีกครั้งว่า "ขอให้พี่น้องเสื้อแดงเดินทางกลับบ้าน ส่วนจุดยืนยังเหมือนเดิม ไม่ต้องห่วงว่าแกนนำทุกคนจะสูญสิ้นอิสรภาพ เนื่องจากความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เป็นความผิดเพียงเล็กน้อย ขอให้วางใจ ถ้าเสร็จภารกิจนี้ และได้รับความไว้วางใจจากมวลชนเหมือนเดิม จะกลับมาเป็นแกนนำเหมือนเดิม แต่ถ้ามวลชนไม่ไว้ใจอีกแล้ว ก็จะกลับมาเป็นคนเสื้อแดง ที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยเหมือนเดิม
13.53 น. ภายหลังแกนนำ นปช.ประกาศยุติการชุมนุมที่เวทีราชประสงค์ ยังคงมีเสียงดังคล้ายประทัดยักษ์ดังอยู่อย่างต่อเนื่องจากบริเวณเชิงสะพาน ไทย-ญี่ปุ่น ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหาร มีท่าทางผ่อนคลายขึ้นแต่ยังอยู่ในสภาพเตรียมพร้อม ท่ามกลางเสียงคล้ายเสียงปืนดังขึ้นเป็นระยะ และมีเสียงปืนดังจากฝั่งทหาร จำนวน 2 นัด
14.00 น. พันเอกสรรเสริญ แก้วกำเนิด ประกาศชัยชนะ โดยระบุว่าการกดดันของ ศอฉ. ทำให้แกนนำผู้ก่อการร้ายยอมเข้ามอบตัว ทหารได้ยุติปฏิบัติการทางทหารโดยภาพรวม
แกนนำทยอยเข้ามอบตัวที่ สตช., ศอฉ. สั่ง ทหาร-ตำรวจหยุดปฏิบัติการรุกคืบ หลังควบคุมสถานการณ์ภาพรวมไว้ได้ เตือนประชาชนให้ออกนอกพื้นที่ โดยไปรวมตัวที่สนามศุภชลาศัยพร้อมส่งกลับบ้าน
บริเวณสามแยกคลองเตยมีเสียงปืนจากการปะทะดังขึ้นอย่างต่อเนื่องแต่ยังไม่ ทราบว่าฝ่ายใดเป็นผู้ยิง และยังไม่มีรายงานของผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากแกนนำเสื้อแดงมอบตัว ที่สร้างความไม่พอใจให้แก่ผู้ชุมนุมเป็นอย่างมาก ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่เสียใจที่แกนนำทิ้งประชาชนที่ร่วมต่อสู้กันมา จึงไม่ยอมรับกับการตัดสินใจดังกล่าว พร้อมกับผู้ชุมนุมบางคนได้ขว้างปาสิ่งของขึ้นไปบนเวที
แดงเชียงใหม่ บุกจวนผู้ว่าฯ เผายาง-ปาประทัดยักษ์และขวดน้ำมันเข้าใส่ ไม่พอใจแกนนำนปช.มอบตัว
14.15 น. เกิดเหตุจราจลย่อย ณ หน้าโรงพยาบาลตำรวจ สตช. และ ย่านบ่อนไก่ โดยกลุ่มผู้ชุมนุมที่ไม่พอใจการประกาศยุติการชุมนุมโดยแกนนำ โดยมีการทำลายข้าวของ เผาตู้โทรศัพท์ และนำรถขยะมาจอดรวมกัน ในขณะเดียวกันบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิกลุ่มเสื้อแดงได้รวมตัวกันอย่างล้นหลาม แต่ยังไม่มีการกระทำรุนแรงใดๆ มีเพียงแต่การพูดยั่วยุแสดงความไม่พอใจจากกลุ่มเสื้อแดง รวมถึงมีการนำยางรถยนต์และยางอลูมิเนียมมากั้นเป็นเขตมิให้ตำรวจและทหารเข้าถึง
การต่อต้านรัฐบาลที่ย่านสามเหลี่ยมดินแดงยังดำเนินต่อไป ขณะที่ผู้ชุมนุมย่านราชประสงค์ที่ไม่ยอมสลายตัวได้กลายเป็นมวลชนที่โกรธแค้น เผาทำลายทรัพย์สิน ส่งผลให้ท้องฟ้ากรุงเทพฯปกคลุมไปด้วยควันเพลิง
14.19 น . พล.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.น.เผยทางตำรวจมีอำนาจควบคุมตัวแกนนำตาม พรก.ฉุกเฉินได้ 30 วัน โดยจะให้ดีเอสไอแจ้งข้อกล่าวหากับแกนนำ ถ้าหากแกนนำคนใดมีคดีอาญาติดตัวก้ต้องเข้าสู่กระบวนการและเมื่อสิ้นสุดพรก.ฉุกเฉินก็จะมีการขออำนาจศาลฝากขังต่อ
14.20 น. นปช.เผายางกลางพหลโยธินทั้งสองฝั่ง หน้าเซียร์รังสิต นำยางรถยนต์มาวางกองตั้งกลางถนนพหลโยธินทั้งฝั่งขาเข้าและขาออก บริเวณหน้าห้างเซียร์ รังสิต และจุดไฟเผา ส่งผลให้การจราจรติดขัดเป็นอย่างมาก
14.25 น. สถานการณ์บริเวณสามเหลี่ยมดินแดงยังมีการปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุมกับทหาร ทั้งการเผายางก็มีต่อเนื่อง รวมถึงเสียงปืนและเสียงระเบิด รวมถึงอาคารบริเวณดังกล่าวซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับ ธ.นครหลวงไทย ได้เกิดไฟไหม้ ขึ้น ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าถึงพื้นที่ค่อนข้างยากลำบาก
14.28 น. มีกลุ่มบุคคลไม่ทราบฝ่าย บุกเข้าทุบกระจก บริเวณชั้น 1 อาคารห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ฝั่งศูนย์การค้า ZEN แล้วลอบเข้าไปวางเพลิงภายใน จนทำให้มีกลุ่มควัน และเปลวไฟพวยพุ่งออกมา มีการขว้างระเบิดเพลิงและเผายางบริเวณตัวอาคารและยังมีการยิง M79 ไปยังตัวอาคารของห้างอีกด้วย โดยในเวลาเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้างสรรพสินค้าแพลทตินัมบริเวณประตูน้ำเกิดกลุ่มควันและได้ยินเสียงระเบิด
14.29 น.ไฟลุกไหม้ศาลากลางจังหวัดขอนแก่นหลังใหม่ ซึ่งเป็นศูนย์ราชการและสถานที่ทำงานของหน่วยงานราชการหลักในขอนแก่น นอกจากนั้นยังมีการเผาทำลายรถยนต์ของประชาชนที่จอดอยู่บริเวณศาลากลางไปจำนวน 4 คัน โดยมีไฟลุกไหม้ทั้งหมด พร้อมกับมีเสียงระเบิดดังออกมาจากศาลากลางอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 100 นายได้ถอยร่นออกมาข้างศาลาเนื่องจากเกรงจะได้รับอันตราย ส่วนรถดับเพลิงของเทศบาลนครขอนแก่นขณะนี้ ยังไม่สามารถเข้ามาได้ เนื่องจากถูกคนเสื้อแดงปล่อยลมยางและทุบทำลายรถ พังเสียหาย ในขณะที่ตำรวจปราบจราจลพยายามนำทางเพื่อนำรถดับเพลิงเข้าไป แต่ไม่สามารถนำเข้าได้ ส่งผลให้ไฟลุกไหม้ศาลากลางอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะส่งผลให้เกิดความเสียหายอย่างมากหลังเพลิงสงบลง.
14.30 น. ทักษิณออกแถลงการณ์ว่าเขาไม่ได้เป็นแกนนำเสื้อแดงและคนเสื้อแดงก็ไม่ได้ เคลื่อนไหวในนามของเขา เขาเชื่อมั่นในสันติวิธีปราศจากความรุนแรงและหวังให้ยุติการใช้อาวุธ (ข่าว CNN )
มีกลุ่มคนบุกเผาสำนักงานเทศบาลนครอุดรธานี และศาลากลาง จ.อุดรธานี (หลังเก่า) โดยขณะนี้มีรถดับเพลิงจากเทศบาล ต.หนองบัว จำนวน 2 คันเข้าฉีดสกัด แต่ไม่สามาถระงับเพลิงได้ โดยไฟได้ลุกลามเสียหายเกือบทั้งหลัง
ได้มีกลุ่มคนบุกเข้าไปในอาคารมาลีนนท์ ซึ่งเป็นที่ทำการของสถานีโทรทัศน์ทีวีสึช่อง3 โดยมีชายที่มีผ้าปิดหน้าถือกระดาษหนังสือพิมพ์ติดไฟเข้าไปในตัวอาคารชั่น1ที่เป็น ที่ทำการของ ธ.กรุงเทพ โดยกลุ่มควันเริ่มหนาแน่น อีกทั้งรถที่จอดบริเวณหน้าอาคารก็ได้รับความเสียหายจากการเผาเป็นจำนวนกว่า 10 คัน ทางด้านพนักงานและเจ้าหน้าที่ต่างวิ่งหนีออกทางด้านหลังของตัว อาคาร
กทม.ระดมรถดับเพลิงเข้าควบคุมเพลิงหลายจุดทั่ว กทม.
14.34 น. ผู้ชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิประกาศไม่ยอมรับการยุติการชุมนุมจากแกนนำ โดยระบุว่าเป็นอิสระจากกลุ่มแยกราชประสงค์ มีการจอดรถแท็กซี่ รถจักรยานยนต์ และมีไทยมุงบางส่วนที่ทำให้การจราจรติดขัดอยู่บ้าง แต่รถก็สามารถวิ่งได้ นอกจากนี้ กลุ่มผู้ชุมนุมได้ปักหลักอยู่โดยหันหน้าไปทางแยกดินแดง ผู้ชุมนุมต่างก็ควบคุมตนเองไม่ได้ และไม่มีใครสามารถควบคุมสถานการณ์ได้
14.35 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้ว่าแกนนำนปช.ได้ประกาศยุติการชุมนุม และได้เข้ามอบตัวแล้วก็ตาม แต่เหตุการณ์โดยรอบบริเวณแยกราชประสงค์ก็ยังไม่สงบ โดยเฉพาะแยกสามย่านบริเวณถนนพระรามที่ 4 เชิงสะพานไทย-ญี่ปุ่น ซึ่งมุ่งหน้าไปยังหัวลำโพง ซึ่งผู้ชุมนุมได้นำรถเมล์ร่วมบริการมาจอดขวางถนนเอาไว้ ซึ่งในขณะนี้ได้มีการจุดไฟเผารถเมล์คันดังกล่าวแล้ว ทำให้เจ้าหน้าที่ทหาร ซึ่งรักษาการในบริเวณดังกล่าวต้องกลับมาอยู่ในสภาพที่เตรียมความพร้อมรับ สถานการณ์ความวุ่นวายที่อาจจะเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
14.57 น. เผาจวนผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่
15.00 น. ศอฉ.ประสาน ตม.ห้ามแกนนำไปต่างประเทศ
15.20 น. เกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ใกล้ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
15.30 น. ทักษิณ ทวีตชมแกนนำมอบตัว
15.45 น. ผู้ประท้วงไปเรียกร้องสำนักงาน UN ที่สะพานมัฆวานช่วยได้รับแจ้งว่าค่ำวันนี้สำนักงานใหญ่องค์การสหประชาชาติจะ จัดประชุมด่วนการละเมิดสิทธิมนุษยชนในไทยใครมีหลักฐานภาพถ่ายให้นำมามอบให้ ที่สำนักงานสหประชาชาติสะพานมัฆวาน
15.50 น. มีกลุ่มคนประมาณ 100 คน จุดไฟเผาสถานี NBT ที่ขอนแก่น
16.00 น. การก่อจลาจลที่ไม่มีแกนนำลุกลามไปทั่วประเทศ ขณะทีวีที่ช่อง 3 หยุดแพร่ภาพหลังจากผู้ประท้วงบุกเผา โดยกล่าวหาว่าสื่อมวลชนเสนอข่าวบิดเบือน
16.00 น. ศปภ. ยันเผากรุงไม่ต่ำกว่า 15 จุด
16.05 น. เกิดข่าวลือว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เตรียมก่อรัฐประหาร โดยอ้างเหตุรักษาความสงบจากผู้ก่อการร้าย
16.05 น. ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ออกประกาศห้ามออกนอกเคหสถานในเวลากลางคืน โดยนายกรัฐมนตรีได้ออกข้อกำหนดต่อไปนี้
1. ห้ามมิให้บุคคลใดในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ออกนอกเคหสถานตั้งแต่เวลา 20.00 น. วันที่ 19 พฤษภาคม ถึงเวลา 06.00 น. วันที่ 20 พฤษภาคม
2. ให้พนักงาน และเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ปฏิบัติหน้าที่ในเขตพื้นที่ และระยะเวลาที่กำหนด
3. ให้ประชาชนที่อยู่ในเขตพื้นที่กลับเข้าสู่เคหสถาน และไม่ออกมายังพื้นที่ที่กำหนด เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ และได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการ ศอฉ.กำหนดพื้นที่ และรายละเอียดเพิ่มเติมตามสมควรแก่เหตุ และในเวลาต่อมา ศอฉ. ได้ประกาศห้ามออกนอกเคหสถานในพื้นที่ปริมณฑลและจังหวัดอื่นเพิ่มเติม ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
16.40 น. ฮ. บินรับ พนง. ช่อง 3 หลังไฟโหมติดชั้น 6 ออกไม่ได้ ทีวีจอดำ
16.50 น. ไฟไหม้ Zen เซ็นทรัลเวิร์ลด์ ถึงชั้น 2 แล้ว
สามย่านยังตึงเครียด จนท. เพิ่มกำลังใช้รถหุ้มเกราะเข้าพื้นที่คุมสถานการณ์
17.00 น. อาคารมาลีนนท์ดับไฟได้แล้วแล้ว
17.10 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน จ.อุบลราชธานี มีการเผาอาคารศาลากลางจังหวัดอุบลฯ ขณะนี้คืนพื้นที่แล้ว ผู้ชุมนุมเดินทางกลับไปรวมตัวกันที่สถานนีวิทยุชุมชนเสียงประชาชน เพื่อป้องกันเจ้าหน้าที่เข้าบุกยึด มีรายงานผู้บาดเจ็บ 6 คน ถูกนำส่งโรงพยาบาลแล้ว บาดเจ็บสาหัสอยู่ในห้อง ICU จำนวน 2 คน หนึ่งในนั้นเป็นหญิง
18.00 น. มีรายงานว่าขณะนี้เพลิงได้ลุกไหม้ห้างเซ็นทรัลเวิร์ด ทั้งตึกแล้ว
อภิสิทธิ์สั่งเด็ดขาดทุกเครือข่ายปิดให้บริการอินเตอร์เน็ตไร้สายระงับใช้ การ BB เซอร์วิสทุกเครือข่าย เนื่องจากเป็นการสื่อสารอย่างดีในการกระจาย ข่าวสารสถานการณ์ต่างๆ และสร้างความไม่มั่นคงของประเทศ และจะเปิดให้บริการอีกครั้งอย่างไม่มีกำหนด
ประชาชนนับพันลุกฮือปิดสะพานนวรัตน์เผาจวนผู้ว่าฯ วอด ตำรวจทหารรัว M16 ยิงกราดประชาชนไม่มีใครบาดเจ็บรถดับเพลิงมา โดนผู้ชุมนุมขวางปล่อยลมยางรถ
ไฟไหม้ ธนาคารกรุงเทพ สาขาพระราม 3
19.00 น. เวทีย่อยทั้งหมดในกทม. ยุติหมดแล้ว
21.00 น. กทม.เผยมีจุดไฟไหม้ทั้งสิ้น 27 จุด ในช่วงเวลานี้ รวมทั้งห้างZEN ที่เซ็นทรัลเวิลด์ ที่ยังเข้าไปสำรวจไม่ได้ เพราะยังมีเหตุปะทะ
21.30 น. มีผู้ทวิตเผยแพร่ภาพผู้บาดเจ็บในวัดปทุมวนาราม และตายเพราะไม่สามารถไปโรงพยาบาลได้ ขอความช่วยเหลือจากหน่วยพยาบาลหรือหน่วยช่วยเหลือด่วน
22.50 น. มีคนอื่นที่ไม่ใช่เสื้อแดงในวัดปทุมฯ ทำตัวคล้ายเป็นเสื้อแดง แต่เข้ามาสืบว่าใครเป็นการ์ดหรือแกนนำระดับย่อยในกลุ่ม เพื่อชี้เป้าให้ทหารเข้าจัดการ โดยเป็นข้อสังเกตจากนักข่าวคนหนึ่ง ที่ยังอยู่ในวัดแห่งนั้น
23.00 น. คุณปลื้ม"เกมโอเวอร์สำหรับทักษิณเพราะทั้งเขาและคนเสื้อแดงล้วนไม่มีความชอบธรรมเชิงกฏหมายแล้ว ในขณะที่ศัตรูของเซ็นทรัล ธ.กรุงเทพฯ และบีอีซี ได้ประโยชน์ลองพิจารณาดูสักแป๊บแล้วจะตระหนักถึงจิ๊กซอว์ตัวนี้"
รายงานช่วงบ่ายแจ้งว่า"ยูเอ็นเข้ามาแทรกแซงกิจการในแต่ละประเทศไม่ได้ถ้า รัฐบาลไม่ยินยอม แต่หากเป็นประเด็นสิทธิมนุษยชนนั้นสามารถเข้ามาดูแลได้ ในเย็นวันนี้ที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติจะมีการประชุมด่วนเกี่ยวกับสถานการณ์ การละเมิดสิทธิในประเทศไทย"นายโฮมายุนงกล่าว
23.15 น. รายงานจาก face book แสดงภาพรถพยาบาลเข้าถึงบริเวณวัดปทุมฯ แล้ว ข้อมูลล่าสุด ตาย 9 คน บาดเจ็บออกมารพ. แล้ว 5 คน อีก 2 คนที่เหลือ ขออยู่ที่วัดต่อ ทั้งวัดมีอยู่ประมาณ 3 พันคน
23.30 น. 30 องค์กรออกแถลงการณ์ “ยุบ สภา” ยังเป็นแนวทางแก้วิกฤตการเมือง “รัฐประหาร” ไม่ใช่ทางออก แถลงการณ์ จากนิสิต
20 พฤษภาคม 2553
01.00 น. CTW ไหม้ต่อเนื่อง 10 ช.ม. ยังไม่หยุด สยามไหม้ทั้งแถบยังไม่หยุดลมแรง
02.00 น. ร้าน 7-11 ฝั่งไทยคมและศาลากลางนนท์ถูกทุบและโดยขโมยของ
02.00 น. สมบัติ บุญงามอนงค์: "สิ่งที่เราจะได้เห็นต่อจากนี้ คือ ระบบความยุติธรรมของคนชั่ว ก็ในเมื่อไม่สามารถใช้ระบบความยุติธรรมของคนดีได้แล้ว คนกลุ่มหนึ่งก็แสวงหาความยุติธรรมในแบบของคนชั่ว ประเทศนี้ทำลายระบบนิติรัฐ นิติธรรมจนคนที่ถูกกี่ขี่ กระทำ ลุกขึ้นมาเขียนระบบยุติธรรมให้ตัวเขาเองแล้ว"
09.20 น. รองประธาน สส . ได้เปิดเผยว่า มีเด็ก ผู้หญิง คนแก่ หลงเหลืออยู่ 600 คน ขณะที่มีคนร้ายยิงปืนลงมาจากสถานีรถไฟฟ้าทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 9 ราย แต่จนบัดจนนี้ศอฉ . ก็ยังไม่อนุญาต ให้เอารถมารับกลับ (ข่าวสปริงนิวส์สัมภาษณ์สดรองประธานสส.)
09.40 น. 35 จุดควบคุมเพลิงได้แล้ว แต่ที่ธนาคารกรุงเทพฯสะพานเหลือง, เซ็นทรัลเวิรด์, บิ๊กซีราชดำริ, เซ็นเตอร์วันยังมีเพลิงอยู่
10.00 น. แม้ไม่มีเวทีย่อยแล้ว แต่คนยังไปรวมตัวกันที่ห้าง Big C ลาดพร้าว แต่ไร้แกนนำ ไม่มีแม้โทรโข่ง เอาแต่นั่งปรับทุกข์กัน
10.50 น. ดีเจอ้นรายงาน -- จากการพูดคุยจากป้าเสื้อแดงท่านหนึ่งที่ติดอยู่ที่วัดปทุมวนารามซึ่งเข้าไป หลบภัยล่าสังหารของทหารนั้นผู้ที่เข้าไปหลบภัยหวาดกลัวเป็นอย่างมากไม่ต้อง การรับการช่วยเหลือจากรัฐบาลต้องการ เพียงความช่วยเหลือจากคนเสื้อแดงหรือพรรคเพื่อไทยเท่านั้นผมได้ประสานไปยัง เพื่อนท่านหนึ่งซึ่งมีความสามารถในการประสานความช่วยเหลือนี้ได้ซึ่งล่าสุด ตำรวจหน่วยอินทราชและพลร่มหญิงได้เข้าไปช่วยเหลือและพรรคเพื่อไทยเป็นผู้ดำเนินการเรื่องแล้วนี้เรียบร้อยแล้ว
11.00 น. นายสมบัติชี้ว่าการออกมาพูดของนายปณิธานที่กล่าวว่าผู้เสียชีวิต 6 คนที่วัดปทุมฯ เกิดจากผู้ไม่หวังดีเป็นการตอแหล
11.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สตช. ขณะนี้ผู้ชุมนุมหลายพันคนที่รวมตัวกันบริเวณวัดปทุมฯ ได้มารวมตัวกันจนเต็มพื้นที่แล้วและมีการจัดแยกออกเป็นภูมิภาคจากนั้นจะเดินเท้าออกไปทางประตูติด ถ.อังรีดูนังต์ เพื่อเดินเท้าต่อไปที่สนามศุภชลาศัย โดยในเบื้องต้นคาดว่า ส.ส.พรรคเพื่อไทย จะนั่งรถไปส่งด้วย
12.00 น. ก่อแก้ว พิกุลทอง โพสต์ผ่าน face book ว่าจะเข้ามอบตัวพร้อมนายวีระมุสิกพงศ์ที่ กองปราบฯ "เราไม่ได้พ่ายแพ้เราไม่ได้ยอมจำนน วันนี้เราปลุกคนทั้งโลกให้มาสนใจในปัญหาที่เกิดขึ้นในประเทศไทยขอขอบพระคุณผู้เสียสละทุกท่านความกล้าหาญของท่านจะเป็นที่จดจำตลอดไปผมดีใจและภูมิใจที่ได้ต่อสู้เคีบงบ่าเคียงไหล่มาด้วยกันเราจะไม่ หยุดการต่อสู้จนกว่าความถูกต้องจะกลับคืนสู่ประเทศไทย"
ประกาศเคอร์ฟิว 20-22พ.ค. เวลา 3 ทุ่มถึงตี 5
12.20 น. สมบัติ บุญงามอนงค์ - เชิญร่วมกิจกรรมสันติวิธี "หยุดฆ่า หยุดเผา หยุดรัฐบาลอภิสิทธิ์" บ่าย 3-6 โมงเย็น ใต้ด่วนลาดพร้าว 71
12.55 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.55 น. นายวีระ มุสิกพงศ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และนพ.เหวง โตจิราการ แกนนำนปช. เดินทางถึงกองบังคับการปราบปราม ถ.พหลโยธิน เพื่อมอบตัวแล้ว โดยนายวีระใส่เสื้อเชิ้ตสีฟ้า และสวมเสื้อแขนยาวสีแดงคลุมทับอีกชั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนายวีระ และนพ.เหวง ยังคงมีสีหน้ายิ้มแย้ม
13.00 น. วีระ มุสิกพงศ์ ฝากถึงแดงแท้ ยึดสันติอหิงสาในการต่อสู้ เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย ยันคนเสื้อแดงไม่เป็นพิษเป็นภัยแก่ประเทศชาติ-สถาบัน แกนนำ นปช. เปิดเผยก่อนเดินทางไปที่ควบคุมตัวใน อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ว่า ขอฝากสื่อมวลชนที่จะนำข่าวสารไปสู่พี่น้องประชาชนทั่วประเทศรวม ถึงคนเสื้อแดงว่าวันนี้ที่ตนสวมเสื้อแดงก็เพื่อยืนยันว่าคนเสื้อแดงไม่เป็นพิษเป็นภัยแก่ประเทศชาติ-สถาบันทุกสถาบัน แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วง 2-3 วัน ที่ผ่านมาเป็นโศกนาฏกรรมก็ขอฝากไปยังพี่น้องที่เป็นเสื้อแดงแท้ให้ยึดมั่นในแนวทางสันติอหิงสาในการต่อสู้เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย
13.30 น. แดงกาฬสินธุ์ประกาศยุติความเป็นคนไทยตั้งโต๊ะรับคืนบัตรประชาชนเป็นสัญลักษณ์ในการต่อสู้เพื่อความสงบ , ที่มุกดาหารฮือเผาศาลากลางทั้งเก่าและใหม่ , แดงเชียงใหม่เผารถดับเพลิงเทศบาลยิ่งวุ่นหนักหลังประกาศเคอร์ฟิว และ ที่ อุดรธานี ทหารส่งหน่วยลาดตระเวนเขตเทศบาล
14.00 น. ที่อุบลราชธานีมีการปิดล้อมมหาวิทยาลัยราชภัฎ
18.00 น. อดีตรมว. ต่างประเทศออสเตรเลียวิเคราะห์ว่าตราบใดที่กลุ่มผู้ใช้แรงงานและเกษตรกรยัง คงรวมตัวเคลื่อนไหวได้อย่างมีประสิทธิภาพรัฐบาลไทยชุดปัจจุบันก็จะไม่ให้ สิทธิในการเลือกตั้งครั้งใหม่แก่พวกเขาซึ่งนั่นจะส่งผลให้ ความตึงเครียดของสังคมไทยยังคงดำรงอยู่ต่อไป อดีตรมว.ต่างประเทศออสเตรเลียวิเคราะห์ว่า ตราบใดที่กลุ่มผู้ใช้แรงงานและเกษตรกรยังคงรวมตัวเคลื่อนไหวได้อย่างมี ประสิทธิภาพ รัฐบาลไทยชุดปัจจุบันก็จะไม่ให้สิทธิในการเลือกตั้งครั้งใหม่แก่พวกเขา ซึ่งนั่นจะส่งผลให้ความตึงเครียดของสังคมไทยยังคงดำรงอยู่ต่อไป
19.00 น. ขู่วางระเบิด ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่
20:50 น. รัฐบาลฝรั่งเศสขวาง "ทักษิณ" แสดงปาฐกถาวิกฤตการเมืองไทย และทักษิณ ได้ออกจากปารีสไปลอนดอนแล้ว
21.30 น. เพลิงไหม้ตึกกลาง ซ. ราชวิถี 1 ทะลุซอยรางน้ำหน่วยดับเพลิงไม่กล้าเข้าชาวบ้านไม่กล้าออกหวั่นโดนยิงรอ ประสานทหารรับตัวเข้าไปรับตัว
22.00 น. เกิดเหตุเพลิงย่านคลองเตยไหม้
22.00 น. สถานการณ์ที่เชียงใหม่: ช่วงเวลา 21.30-22.30 น. โดยรวมท้องถนนเชียงใหม่ยังพลุกพล่าน / พบวัยรุ่นลักลอบเผาหญ้าข้างทางแถววงแหวนแม่เหี๊ยะห่าง LPG ปั๊ม 200-300 ม. รถดับเพลิงมาฉีดน้ำดับได้ทัน / ร้านเหล้าริมถนนต่างๆเท่าที่พบเห็นยังเปิดบริการตามปกติ / แต่บางเส้นรถราวิ่งบางตาเห็นได้ชัดเช่นเส้นหางดง / แยกแอร์พอร์ตพลทหารเป็น 10 แบกอาวุธสงครามรักษาการณ์ / 7-11, ปั๊มน้ำมันปิดหน้ากันถ้วนหน้า
23.00 น. ข่าวจากประเทศเบลเยี่ยม แจ้งว่า รัฐบาลประเทศเบลเยี่ยมสั่งให้บริษัทส่งออกอาวุธหยุดส่งอาวุธให้ไทยโดยให้ เหตุผลว่ามีปัญหาทางการเมือง
Rudy Demotte ประธานแคว้น Wallon สั่งระงับการส่งออกอาวุธจากแคว้น Wallon ไปยังราชอาณาจักรไทย หลังจากเฝ้าสังเกตการณ์วิกฤตการเมืองนี้มาตลอด ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจเมื่อช่วงวันหยุดยาวเทศกาล Ascension ทั้งนี้จำนวนใบอนุญาต บริษัท หรือสัญญาไหนบ้างนั้นไม่มีใครทราบ เพราะเป็นความลับ
แต่บริษัท FN Herstal (บริษัทส่งออกอาวุธหลักของแคว้นนี้) ออกมาบอกว่า เพิ่งจะรับทราบคำสั่งนี้อย่างเป็นทางการเมื่อวันอังคาร (18 พ.ค.) ที่ผ่านมา และได้แขวนสัญญาการค้าอาวุธไว้แล้ว เราเคารพคำสั่งนี้ และเราจะเฝ้ารอต่อไป
3 มกราคม 2553
นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ ผู้สมัคร ส.ส. จากพรรคเพื่อไทย ชนะ นางคมคาย อุดรพิมพ์ จากพรรคภูมิใจไทย ในการเลือกตั้งซ่อมมหาสารคาม ฝ่ากระแสวิชามารทั้งซื้อเสียง,ใช้อำนาจรัฐและใช้ใบปลิวชั่วใส่ร้ายหากเพื่อไทยชนะทักษิณจะกลับมาล้มสถาบัน เผยทักษิณเกาะติดสถานการณ์ระทึกตลอดวัน ก่อนหน้านี้ พรรคภูมิใจไทยของนายเนวินแพ้การเลือกตั้งซ่อมต่อพรรคเพื่อไทยทั้งที่สกลนคร และศรีสะเกษ
5 มกราคม 2553
ครม. ที่มี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นั่งเป็นประธาน ได้อนุมัติเงิน 247 ล้านบาท ซื้ออุปกรณ์ควบคุมการชุมนุม หรือ ปราบม็อบ ซึ่งกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน หรือ กอ.รมน. อ้างเหตุ ปีนี้จะมีม็อบเกิดขึ้นบ่อยครั้ง จึงจำเป็นต้องมีอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานสากลมารับมือ ด้านนายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกรัฐบาล เปิดเผยรายละเอียดว่า การอนุมัติมี 2 รายการใหญ่ ๆ
รายการแรก เป็นของกองรักษาความสงบกองทัพบก 25 กองร้อย (กองร้อยละ 150 นาย) เป็นเงิน 70,893,750 บาท มีโล่ใส, กระบอง, หมวกนิรภัย และชุดเกราะ อย่างละ 3,750 ชิ้น
รายการที่ 2 อีก 40 กองร้อย เป็นเงิน 177,877,500 บาท ประกอบด้วย โล่ใส, กระบอง, หมวกนิรภัย และชุดเกราะอย่างละ 6,000 ชิ้น
ลูกระเบิดขว้างแก๊สน้ำตา 5,200 ลูก เครื่องยิงแก๊สน้ำตา 260 เครื่อง ลูกระเบิดยิงแก๊สน้ำตา 5,200 ลูก เสื้อสะท้อนแสง 1,300 ตัว กระสุนยาง 487,500 นัด
ชุดสวมปากลำกล้องยิงกระสุนยางสำเร็จรูปเอ็ม 88 จำนวน 3,250 อัน เครื่องยิงแหบุคคล 130 เครื่อง และกระสุนยางสำหรับปืนลูกซอง (ชนิดทรงตัวด้วยหาง) 39,000 ลูก
7 มกราคม 2553
ที่รัฐสภา นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา แถลงกรณีที่แนวร่วมประชาธิปไตยแห่งชาติ (นปช.) ประกาศจะไปชุมนุมที่เขายายเที่ยง จ.นครราชสีมาในวันที่ 11 ม.ค. เพื่อโจมตีการถือครองที่ดินเขายายเที่ยงของพล.อ. สุรยุทธ จุลานนท์ องคมนตรี ได้เปิดเผยว่า อัยการจังหวัดได้ทำหนังสือถึงกรมทรัพยากรธรรมชาติในวันนี้ (7ม.ค.) ไปยังสำนักงานป่าไม้เพื่อให้ปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี 29 เม.ย.2518 กรณี ที่ราษฎรได้รับจัดสรรที่ดินทำกินจะต้องเป็นที่ดินทำกินของราษฎรผู้นั้น กรณีที่ตกทอดจะต้องตกทอดไปยังทายาทโดยธรรมเท่านั้น ไม่มีสิทธิขายหรือโอนให้บุคคลอื่น กรณีเช่นนี้จึงมีผลให้เจ้าของที่ดินทั้ง 150 แปลง และพล.อ.สุรยุทธจะไม่มีสิทธิถือครองที่ดินนี้ต่อไป พร้อมทั้งปกป้องว่า พล.อ. สุรยุทธ ไม่มีความผิด
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวมันไม่ง่ายแบบนั้นพล.อ.สุรยุทธ์ ทำผิดกฎหมายมาหลายปีจะคืนที่ดินแล้วจบกันคงไม่ได้ เพราะในทางกฎหมายถือว่าได้ทำความผิดสำเร็จไปแล้ว ดังนั้นพล.อ.สุรยุทธ์ ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามกฎหมายด้วยสถานะความเป็นองคมนตรีและสถานะ ของผู้มีคุณธรมและจริยธรรม นอกจากนี้พล.อ.สุรยุทธ์ต้องแสดงความรับผิดชอบมากกว่าการคืนที่คือ 1 . ต้องทบทวนว่าเหมาะสมว่าจะดำรงตำแหน่งองคนตรีต่อไปหรือไม่ 2.มีความชอบธรรมที่จะดำรงตำแหน่งประธานมูลนิธิอนุรักษ์ผืนป่าเขาใหญ่หรือไม่ เพราะพล.อ.สุรยุทธ์ ทำตัวเป็นสมภารกินไก่วัดครอบครองป่าสงวนเสียเอง และ3.มีความสง่างามเพียงพอที่จะเป็นผู้มีคุณธรรมจริยธรรมอย่างที่เคยเป็นมา หรือไม่
11 มกราคม 2553
21.15 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้วิดีโอลิงก์มายังกลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดง ที่เขาที่ยายเที่ยง โดยกล่าวว่า ขอชื่นชมสปิริตคนเสื้อแดง เดิมคาดว่าจะมา 3-4 พันคน แต่เอาจริงมาเต็มไปหมด แสดงว่ารักความเป็นธรรม รักประชาธิปไตย ที่มากันมากเพราะทนไม่ไหวต่อความอยุติธรรมของบ้านเมือง วันที่ 10 มกราคม นั่งฟังประชุมแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติที่พัทลุง ชาวบ้านบอกว่าคนใต้ทนไม่ไหวแล้วจะออกมาเรียกร้องความยุติธรรมเหมือนเสื้อแดง
"พวก เราขึ้นมาเพราะต้องการทำความจริงให้ชัด เพราะโกหกคนทั้งโลกตลอดเวลา พวกเราจะสู้ด้วยความจริงและความเป็นธรรม ที่ประเทศไม่มีสันติก็เพราะไม่เป็นธรรม ถามว่าเมื่อไหร่จะยุติความไม่เป็นธรรมเสียที ถ้าผมไม่ตายจะเรียกร้องหาความเป็นธรรมให้ถึงที่สุด ไม่มียอมแพ้ ไม่ย่อท้อ ตราบใดสังคมไทยไม่เป็นธรรม จะสู้กับพี่น้อง จะเคียงบ่าเคียงไหล่กับพี่น้องจนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม ถ้าพี่น้องบอกว่าจำเป็นแล้วที่จะให้ผมเข้าไป ผมก็จะเข้าไปทันที แต่ก็มีคนบอกว่า ตอนนี้ยังไม่ปลอดภัย"
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า จะปล่อยให้เป็นอย่างนี้ไม่ได้ เอาเงินเข้าซื้อ ให้อำนาจ สื่อก็ไม่เป็นธรรม โดยเฉพาะสื่อทีวีของรัฐ ไม่มีความเป็นธรรมเลย ยิ่งกว่ายุคปฏิบัติเสียอีก ช่อง 11 สมัยตนเป็นรัฐบาลไม่เคยใช้โจมตี แต่ปัจจุบันใช้ในการโจมตี ถ้าปล่อยให้เป็นอย่างนี้ถูกหลานโตขึ้นมาไม่ฉลาดแน่ การต่อสู้ในวันนี้ คือการต่อสู้เชิงสัญลักษณ์ เป็นการสู้กับการเลือกปฏิบัติของกฎหมาย ถ้ายังเป็นอยู่พวกเราจะไม่หยุด จะสู้ต่อไป
"ผู้นำอาเซียนบอกกับผมว่า อภิสิทธิ์และกษิตคุยกับเขาไม่คุยเรื่องอื่นเลยนอกจากไล่ล่าผมอย่างเดียว เขาอึดอัดมาก ก็เลือกตั้งที่ไรอภิสิทธิ์แพ้ทุกทีจึงได้ตามล่าอย่างนี้ ขอให้เก็บร่างกายและจิตใจให้แข็งแกร่ง จะต่อสู้ต่อไปจนกว่าจะได้ประชาธิปไตยกลับคืนมา ขอบคุณในการต่อสู้ที่ทุ่มเท ทั้งร่างกายและจิตใจ จะสู้ไม่มีหยุดจนกว่าจะได้ประชาธิปไตยและความเป็นธรรมกลับคืนมา"
12 มกราคม 2553
08.00 น. กลุ่มคนเสื้อแดง ที่ปักหลักชุมนุมบริเวณตรงข้ามบ้านพักเขายายเที่ยงของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรีและอดีตนายกรัฐมนตรี เปิดหมู่บ้านสองมาตรฐาน ประกอบด้วยบ้าน 3 หลัง โดยร่วมกันชักธงสู่ยอดเสาพร้อมร้องเพลงชาติไทย
10.00น. คนเสื้อแดงเริ่มทยอยเข้าร่วมการชุมนุมมากกว่า 10,000 คน ซึ่งมากกว่าที่ตำรวจสันติบาลคาดว่าจะมีไม่เกิน 5,500 คน โดยขบวนรถคนเสื้อแดงทยอยมาเรื่อยๆ ทั้งจากทางกรุงเทพฯ และเส้นทางจากสายอีสาน สถานที่จอดรถสามารถจอดด้านล่างเป็นลานกว้าง มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเฝ้ารถให้ด้วย และมีรถสองแถวบริการจากตีนเขาขึ้นบนเขา ส่งถึงหน้าเวทีปราศัยของคนเสื้อแดงเลย
แหล่งข่าวใกล้ชิดของ พล.อ.สุรยุทธ์ เปิดเผยว่า พล.อ.สุรยุทธ์ ยินดีคืนที่ดินเขายายเที่ยงให้กรมป่าไม้เพื่อยุติปัญหาทั้งหมด เพราะไม่อยากให้เกิดปัญหาแตกแยกกันมากกว่านี้ แต่เบื้องต้นต้องรอให้กรมป่าไม้ทำรายละเอียดแจ้งมาให้ทราบเสียก่อนว่าจะให้ ทำอย่างไร ส่วนการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ไปรวมตัวกันเรียกร้องอยู่ที่เขายาย เที่ยงที่อยู่บริเวณหน้าบ้านพักของ พล.อ.สุรยุทธ์ นั้น พล.อ.สุรยุทธ์ ไม่ได้ว่าอะไร เพราะถือเป็นสิทธิที่กลุ่มคนเสื้อแดงสามารถทำได้
“พล.อ.สุรยุทธ์ สามารถทำตามข้อเรียกร้องของกลุ่มคนเสื้อแดงได้เรื่องเดียว คือ การคืนที่ดินเขายายเที่ยงให้กับกรมป่าไม้เท่านั้น แต่เรื่องที่ให้ลาออกจากตำแหน่งองคมนตรีคงทำไม่ได้ เนื่องจาก พล.อ.สุรยุทธ์ ไม่มีความผิดอะไรถึงขึ้นจะต้องลาออกจากตำแหน่งองคมนตรี ปัญหาเรื่องที่ดินกับตำแหน่งมันคนละเรื่อง อย่านำมารวมกัน เพราะจะทำให้สังคมเกิดความสับสน ทั้งนี้ มองว่าการชุมนุมของคนกลุ่มเสื้อแดงมีนัยทางการเมือง โดยพยายามนำเรื่องที่ดินที่เขายายเที่ยงของ พล.อ.สุรยุทธ์ มาเป็นประเด็น เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับกรณีที่ดินรัชดาฯ ของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกคำพิพากษาของศาลฎีกาตัดสินจำคุก 2 ปี” แหล่งข่าวใกล้ชิด พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าว
นาย จตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย และแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) แถลงข่าวถึงกรณีนปช.ชุมนุมบริเวณหน้าบ้านพักของพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรีและอดีตนายกรัฐมนตรี ที่เขายายเที่ยง อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ว่า ขอให้รังวัดบ้านพักหลังดังกล่าวที่พล.อ.สุรยุทธ์แจ้งว่าครอบครองที่เดิน 21 ไร่ หากวัดได้พอดีเท่าที่แจ้ง ตนจะยอมลาออกจากตำแหน่ง ส.ส. แต่หาก พล.อ.สุรยุทธ์ครอบครองเกินที่แจ้งไว้ พล.อ.สุรยุทธ์จะต้องลาออกจากตำแหน่งองคมนตรี
19 มกราคม 2553
09.06น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล ทำพิธีเปิดพรรคการเมืองใหม่ (ก.ม.ม.) พรรคการเมืองใหม่เลือกใส่เสื้อสีเขียวอ่อน ส่วนผู้สนับสนุนที่เข้าร่วมงานเช่น นายชัยอนันต์ สมุทวณิช กุนซือคนสำคัญของนายสนธิที่หนุนให้ใช้นโยบายขวาจัดและกล่าวหาฝ่ายประชาธิปไตยว่าจะเปลี่ยนประเทศเป็นสาธารณรัฐ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ จากพรรคประชาธิปัตย์ และเคยขึ้นเวทีพันธมิตร พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายพิภพ ธงไชย นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ และแกนนำพันธมิตรฯ พล.อ.ปานเทพ ภูวนาทนุรักษ์ อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม อดีตหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการ คมช. นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว. นอกจากนี้ยังมี พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ และหัวหน้าพรรคมาตุภูมิ นายวิทยา แก้วภราดัย ประธานวิปรัฐบาลคนใหม่ นำตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์ มาร่วมแสดงความยินดีอีกด้วย รวมทั้งนายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์
11.00 น. พรรคเพื่อไทยแถลงข่าวเปิดตัวอดีตนายทหาร จปร.รุ่น 9 สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยอย่างเป็นทางการ จำนวน 25 นาย ซึ่งเหตุผลที่อดีตนายทหารเหล่านี้ตัดสินใจมาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยเพราะเขามองว่าเวลานี้บ้านเมืองมีสองมาตรฐาน ไม่มีความยุติธรรม ขณะที่พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่จะสร้างความสงบสุขให้กับประชาชนได้ อย่างไรก็ตามการที่มีอดีตนายทหารซึ่งผ่านสนามรบและมีความจงรักภักดีเข้ามา ร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยจำนวนมาก เป็นเรื่องพิสูจน์ได้อย่างดีว่าพรรคเพื่อไทยไม่ได้ทรยศชาติอย่างที่มีบางคนกล่าวหา
22 มกราคม 2553
นสพ.ไทยเรดนิวส์ ชี้แจงกรณีถูกรัฐบาลแจ้งจับ ๒ ข้อหา คือ
๑) กระทำผิดต่อ พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. ๒๕๕๐ ว่า ไม่จดแจ้งการพิมพ์ ตามมาตรา ๒๕ ที่ตราว่า “ผู้ใดออกหนังสือพิมพ์โดยพนักงานเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้รับจดแจ้งตามมาตรา ๑๑ ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน ๖ เดือน ปรับไม่เกิน ๑๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” และ
๒) กระทำผิดต่อมาตรา ๙ ที่ กำหนดว่า “ให้ผู้พิมพ์ ส่งสิ่งพิมพ์ ตามมาตรา ๘ จำนวน ๒ ฉบับให้กับหอสมุดแห่งชาติ ภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันเผยแพร่ แต่หอสมุดฯไม่เคยได้รับนสพ.ฉบับนี้เลย”
...
"แท้จริงแล้ว ข้อกล่าวหาของท่านนั้น เป็นไปตามกฎหมายใหม่ที่มีขึ้นทีหลังในยุคเผด็จการ ที่มีการเปลี่ยนแปลงผู้รับผิดชอบสื่อสิ่งพิมพ์ เป็นหอสมุดแห่งชาติ ด้วยกฎหมายที่เกิดจากอำนาจเผด็จการ ในปี พ.ศ. ๒๕๕๐ ซึ่งเป็นกฎหมายที่ออกโดยสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ที่ผู้แต่งตั้งสมาชิกสภา คือพล อ.สนธิ บุณยรัตกลิน เป็นกฎหมายที่ตราขึ้นแทนกฎหมายเดิม ที่ กรมตำรวจเป็นผู้รับผิดชอบมาก่อน ที่เราได้จดแจ้งไว้ จึงขอว่าท่านไม่ควรใช้กฎหมายนี้ย้อนหลังด้วย เพราะผิดต่อหลักนิติธรรม และหลักการปกครองในระบอบประชาธิปไตย เราขอให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ได้เคารพสิทธิเสรีภาพของคน ตามหลักแห่งการปกครองในระบอบประชาธิปไตยด้วย"
23 มกราคม 2553
แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงระบุว่ามีกลุ่มนายทุนบุกรุกที่ดินเขาดอยดาว จ.จันทบุรี และนำมาจัดสรรในเชิงพาณิชย์ ซึ่ง ป.ป.ช.ได้ชี้มูลความผิดเมื่อปี 2548 แต่จนถึงขณะนี้กรมป่าไม้ไม่กล้ายึดที่ดินคืน เพราะที่ดินดังกล่าวเป็นของธนาคารกรุงเทพ ซึ่งมี พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เป็นประธานที่ปรึกษา
โดยกลุ่มผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ของบริษัทคือกลุ่มกรรณสูต และกลุ่มโสภณพนิช โดยเปิดให้บริการธุรกิจโรงแรมและสนามกอล์ฟเมื่อปี 2536
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบข้อมูลบริษัทจดทะเบียน พบว่า บริษัทดังกล่าวจดทะเบียนนิติบุคคลกับกระทรวงพาณิชย์เมื่อปี 2533 ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท โดยผู้ถือหุ้นหลัก 8 ราย ประกอบด้วย นางสุชาดา ลีสวัสดิ์ตระกูล ,นาย นภดล รมยะรูป(เขยของตระกูลโสภณพนิช เจ้าของแบงก์กรุงเทพ) , นาย ชาลี โสภณพนิช กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ซิตี้เรียลตี้ จำกัด , นาย โชติชัย อรรถวิภัชน์ ,นาย เปรมชัย กรรณสูต , นาง นิจพร จรณะจิตต์ , นาง พิไลจิตร เริงพิทยา และ นาย ยุทธชัย จรณะจิตต์
สนามกอล์ฟสอยดาวฯมีบริษัท จันทบุรีคันทรีคลับ จำกัด เป็นเจ้าของ มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่เลขที่ 49 อาคารเอเซียเสริมกิจ ชั้น 6 ซ.พิพัฒน์ ถ.สีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพ
พลเอกเปรม เป็นประธานที่ปรึกษาธนาคารกรุงเทพในปัจจุบัน และมีรายงานว่าได้มาเป็นประธานพิธีเปิดสนามกอล์ฟแห่งนี้ และทางสนามได้ตั้งห้อง"รัฐบุรุษ"เพื่อเป็นเกียรติไว้ในบริเวณคลับเฮาส์สาม กอล์ฟด้วย
13.00 น. นายขวัญชัย ไพรพนา นายสุพร อัตถาวงศ์ แกนนำ นปช.ขึ้นเวทีปราศรัยเรียกร้องให้เจ้าของสนามกอล์ฟคืนที่ดินให้กับแผ่นดิน มีประชาชนซึ่งบางส่วนมาตั้งแต่คืนวันที่ 22 มกราคม และบางส่วนมาถึงเมื่อเช้าวันที่ 23 มกราคม ปักหลักฟังปราศรัยเต็มพื้นที่ชุมนุมประมาณ 10,000 คน ท่ามกลางสภาพอากาศร้อน และยังมีประชาชนจำนวนหนึ่งที่อยู่บริเวณรอบพื้นที่ชุมนุมเปลี่ยนเสื้อผ้าลง เล่นน้ำที่ไหลมาจากน้ำตกวังกะแพอย่างสบายใจ
ในช่วงบ่ายแกนนำกลุ่มคน เสื้อแดง อาทิ นายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พท.และแกนนำ นปช. มาถึงที่ชุมนุม และขึ้นเวทีปราศรัยโจมตี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ และเจ้าของสนามกอล์ฟสอยดาวฯ แต่อย่างไรก็ตาม แม้จะมีป้ายติดประกาศไว้ว่า สนามกอล์ฟสอยดาวฯปิดให้บริการระหว่างวันที่ 22-24 มกราคม แต่ยังคงมีผู้ที่พักอยู่ในรีสอร์ทมาออกรอบเล่นกอล์ฟตามปกติ และเมื่อมาถึงบริเวณปราศรัยก็หยุดดูพักหนึ่ง ก่อนเล่นกอล์ฟต่อ ส่วนบริเวณรอบๆ สถานที่ชุมนุมมีการ์ดของกลุ่มคนเสื้อแดงที่มีทหารพรานซึ่งเป็นลูกน้องของ พล.ต.ขัตติยะ มาร่วมรักษาความปลอดภัยร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัครของ จ.จันทบุรี ขณะที่ กระทรวงมหาดไทยมีรายงานตัวเลขผู้เข้าร่วมการชุมนุมครั้งนี้ประมาณ 6,000 คน
16.00 น. นายจตุพร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีสนามกอล์ฟบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนว่า มีเอกสารหลักฐานชัดเจนว่า สนามกอล์ฟบนเนื้อที่กว่า 4,012 ไร่ แห่งนี้สร้างทับพื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติ พื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า พื้นที่ป่าสาธารณะ รวมถึงพื้นที่ป่าถาวร เพราะเมื่อดูจากเอกสารภาพถ่ายทางอากาศและเอกสารที่เกี่ยวกับการออกโฉนดและ การซื้อขายที่ดินแห่งนี้ มีการทำนิติกรรมอำพราง
นายจตุพรกล่าวว่า ที่ดินสนามกอล์ฟแห่งนี้ต้องแยกออกเป็น 2 ประเด็นใหญ่ คือ กรณีแรกเรื่องการบุกรุกป่าสงวน 482 ไร่ ซึ่งที่ผ่านมา กรมป่าไม้มาตรวจสอบพบมีการบุกรุกป่าจริง จึงยื่นฟ้องบริษัทสวนจันทบุรีฯ แต่เรื่องยังติดอยู่ที่อัยการจังหวัดจันทบุรี และขณะนี้ไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด จึงอยากถามเจ้าหน้าที่ซึ่งเกี่ยวข้องว่าเหตุใดเรื่องนี้จึงได้ล่าช้า
นายจตุพรกล่าวว่า ส่วนกรณีที่ 2 เป็นเรื่องการฉ้อโกงประชาชน มีกระบวนการออกโฉนดปลอมของนายหน้าขายที่ดินนำไปขายให้ชาวบ้านในราคา 300,000 บาท ซึ่งหลังจากชาวบ้านจ่ายเงินและลงนามมอบอำนาจให้นายหน้าคนดังกล่าวไปแล้ว ก็เกิดกระบวนการปลอมแปลงเอกสารจากชาวบ้านซื้อที่ดินเป็นชาวบ้านขายที่ดิน ก่อนนำไปขายต่อให้ผู้บริหารคนหนึ่งของธนาคารกรุงเทพในราคา 375 ล้านบาท ภายหลังจากวันเซ็นมอบอำนาจของชาวบ้านเพียง 8 วัน และปัจจุบันนายหน้าขายที่ดินคนดังกล่าวได้เสียชีวิตไปแล้วอย่างมีเงื่อนงำ
"เรื่องดังกล่าวเห็นได้ว่ามีการฉ้อโกงชาวบ้าน เนื่องจากชาวบ้านไม่ได้ที่ดิน ต้องสูญเสียเงินและยังถูกกรมสรรพสามิตเรียกเก็บภาษีย้อนหลังอีก 12 ล้านบาท ชาวบ้านจึงได้ยื่นฟ้องต่อศาลแพ่ง หลังจากนั้นจึงถูกกลุ่มผู้มีอิทธิพลเข้ามาคุกคาม ไล่ยิง เผาบ้าน จนชาวบ้านที่เป็นโจทก์ยื่นฟ้องต้องหลบหนีออกนอกพื้นที่ ซึ่งคดีนี้ศาลจะนัดตัดสินในวันที่ 25 กุมภาพันธ์"
นายจตุพรกล่าวว่า อยากตั้งข้อสังเกตว่า การที่อดีตอธิบดีกรมที่ดินออกมาระบุว่า โฉนดที่ดินผืนนี้ถูกต้อง ซึ่งต่อมาได้ดิบได้ดีเป็นถึงรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยในสมัยรัฐบาล คมช. ทำให้เห็นว่าบุคคลนี้มีส่วนเกี่ยวข้องและมีสายสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงกับ พล.อ.เปรม และขณะนี้อธิบดีที่ออกโฉนดสมัยนั้นกำลังถูกตรวจสอบโดย ป.ป.ช. สาเหตุที่มี พล.อ.เปรมเข้ามาเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ เพราะมาเป็นประธานในวันเปิดสนามกอล์ฟ อีกทั้งยังมีห้องที่ชื่อรัฐบุรุษอยู่ในสนามกอล์ฟแห่งนี้ด้วย และที่ผ่านมา พล.อ.เปรมได้มาเล่นกอล์ฟที่นี่หลายครั้ง ประกอบกับหลังจากที่ พล.อ.เปรมพ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ยังได้เป็นที่ปรึกษาของธนาคารกรุงเทพ ซึ่งถือหุ้นใหญ่ของสนามกอล์ฟแห่งนี้
นายจตุพรกล่าวอีกว่า ขอให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบการถือครองที่ดินของ บริษัทสวนจันทบุรี หลังจากนี้ นปช.จะดาวกระจายไปยื่นหนังสือต่อกระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมป่าไม้ กรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรมที่ดิน ให้ตรวจสอบการถือครองที่ดินดังกล่าวเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ และจะขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเข้ามาตรวจสอบกระบวนการกู้เงินมาซื้อที่ดิน ดังกล่าว ส่วนเดือนหน้าจะไปยัง จ.เชียงใหม่ เพื่อทวงพื้นที่ซึ่งบุกรุกป่าสงวนคืนให้กับแผ่นดิน
นางมยุรี เศวตาศัย แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงอยุธยา ซึ่งระดมคนเข้าร่วมชุมนุมที่เขาสอยดาว กล่าวว่า มีตำรวจและหน่วยงานด้านความมั่นคงมาสังเกตการณ์บันทึกภาพ ส่วนตนมีข้อมูลใหม่เกี่ยวกับการบุกรุกที่ดินป่าสงวนของผู้มีอำนาจฝ่ายรัฐบาล และนักการเมือง พร้อมกลุ่มนายทุนซีกรัฐบาลที่บุกรุกสร้างสนามกอล์ฟแห่งหนึ่งใน อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เนื้อที่กว่า 2,000 ไร่ ซึ่งนำเรื่องทั้งหมดเสนอไปให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตรวจสอบ แต่เรื่องยังคงเงียบอยู่ ดังนั้น จะนำข้อมูลทั้งหมดไปส่งมอบให้กับแกนนำ นปช.เปิดโปงตีแผ่ให้สังคมรับทราบต่อไป
21.30 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้วิดิโอลิ้งค์เข้ามายังที่ชุมนุมเขาสอยดาว โดยระบุว่า กลุ่มเสื้อแดงซึ่งเป็นสามัญชนได้ลุกขึ้นมาเปิดโปงอำมาตย์ชนชั้นสูงอย่างไม่ เคยเป็นมาก่อน และเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์อาจยิ่งใหญ่กว่ายุค 14 ตุลาคม ที่ตอนนั้นมีเฉพาะนักศึกษาที่ตื่นตัว แต่ยุคนี้เป็นการตื่นตัวของประชาชนทุกสาขาอาชีพ จึงขอเตือนอำนาจให้คืนความเป็นธรรมให้ประเทศเสีย อย่าไปหลงเชื่อแต่คนแวดล้อมที่าได้ประโยชน์ รวมทั้งสื่อมวลชน ก่อนที่จะถึงวันดีเดย์
การที่อำมาตย์คิดว่าฝ่ายเสื้อแดงจะฝ่อไปเอง ท่านจะแพ้ เพราะนี่เป็นโอกาสสุดท้ายแล้วที่ท่านจะยอม ประชาชนที่ร่วมกันต่อสู้จะไม่สูญเปล่า ผมไม่มีวันเลิกสู้และไม่หวั่นไหว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับผมก็ตาม
พ.ต.ท.ทักษิณยังได้กล่าวชื่นชมเส ธ.แดงด้วย และว่าหากเกิดการปฏิวัติรัฐประหารขึ้นในประเทศไทย ก็พร้อมจะจัดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นขึ้นในต่างประเทศ ประสานกับการต่อสู้ของประชาชนในประเทศไทย
เป็นที่น่าสังเกตว่าประเด็นการจัดตั้ง"รัฐบาลพลัดถิ่น"นี้ พ.ต.ท.ทักษิณเพิ่งกล่าวปราศรัยต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก
ทางด้านนายวีระ มุสิกพงษ์ แกนนำนปช.กล่าวเสริมว่า ตอนนี้มีเสื้อแดงไปตั้งกลุ่มในหลายประเทศทั้งอเมริกา ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย อังกฤษ เยอรมนี ก็เลยเห็นว่า"หรือน่าจะได้เวลาตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นขึ้นในต่างประเทศเสียที"
25 มกราคม 2553
ข่าวประจำพระราชสำนัก
17.44 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออก ณ ห้องประชุม ชั้น 14 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายอักขราทร จุฬารัตน ประธานศาลปกครองสูงสุด นำตุลาการศาลปกครองสูงสุดและตุลาการศาลปกครองชั้นต้น ตำแหน่งตุลาการ ศาลปกครองกลาง เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่
ในการนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสแก่ตุลาการศาลที่เข้าร่วมถวายสัตย์ปฏิญาณ ดังนี้
ในการปฏิญาณนั้นคนรักษา คือคนที่ต้องตัดสินอะไรที่ควรไม่ควร ที่ดี ไม่ดี ท่านที่ปฏิญาณมีความสำคัญอยู่ไม่น้อย ท่านต้องจัดการปัญหาในการปกครองของประเทศให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และท่านมีอำนาจที่จะตัดสิน ที่จะพิพากษา ซึ่งหมายความว่าท่านจะต้องชี้แจงว่าอะไรควร อะไรไม่ควร เป็นงานที่ท่านต้องทำด้วยความละเอียดรอบคอบ และมีความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อให้ประเทศชาติมีความเป็นธรรม
ความเป็นธรรมนี้ก็หมายความว่า ทำอะไรที่เป็นจริง ที่เรียบร้อย ที่จะทำให้ผู้ได้มีความอยู่เย็นเป็นสุข เพราะฉะนั้นงานของท่านก็มีความสำคัญไม่น้อย การพิพากษาเป็นงานของผู้เป็นสมาชิกของศาล จะต้องพิพากษาเพื่อความเป็นธรรม หมายความว่าเป็นอะไรที่เรียบร้อยที่ถูกต้อง ที่ทำให้ทุกสิ่ง ทุกอย่างดำเนินได้ด้วยดี
เพราะฉะนั้นท่านต้องมีหน้าที่สำคัญ และจะต้องทำตามคำพิพากษา คำปฏิญาณที่ท่านได้กล่าวในหน้าที่ของท่านต้องจำว่าท่านได้ปฏิญาณตนว่าจะทำ ทุกสิ่งทุกอย่างด้วยความเป็นธรรม อะไรที่เรียบร้อย ซึ่งเป็นการปฏิบัติไม่ใช่ง่าย เพราะแต่ละคนมีความคิดที่แตกต่าง
การมีความคิดแตกต่างก็มีการตัดสินคดี เพราะการมีคดี คือเป็นเรื่องของคนที่มีความคิดแตกต่างกัน เพราะฉะนั้นท่านต้องมาพิจารณาว่า อะไรที่มีความคิดแตกต่างกัน และให้เห้นว่าอะไรที่ควรจะทำ ที่เป็นกลาง ที่เป็นความจริง ที่เป็นความยุติธรรม
ความยุติธรรมนี้หมายความว่า คน มีติ ใน ธรรม ตัดสินว่าอะไรเป็นธรรม อะไรไม่เป็นธรรม บางเรื่องตัดสินไม่ง่าย เพราะแต่ละคนมีความคิดของตัว ถ้าใครมีทิฐิในทางของตัว ความยุติธรรมแท้จริงไม่ง่าย เพราะแต่ละคนมีความดีหรือที่เรียกว่ายุติธรรมแก่ตัว แท้จริงความยุติธรรมนั้นไม่ได้มีอันหนึ่งอันเดียว มีหลาย แล้วแต่ความต้องการ มีของแต่ละคน แต่ความต้องการของแต่ละคนต้องต่างกัน แต่ท่านจะต้องอยู่ตรงกลาง
บางทีท่านอาจถูกว่าถูกกล่าวว่าเป็นคนที่ ไม่ดี เพราะว่า ไปตัดสินในสิ่งที่ไม่เป็นที่พอใจของอีกฝ่าย แต่ถ้าเราอยู่ตรงกลาง อันนี้คือข้อสำคัญของคนที่ทำหน้าที่รักษาความยุติธรรม ต้องเป็นกลาง ความเป็นกลางนี้ยากมาก เพราะว่าต้องมีความที่เป็นกลางนั้นเอง ท่านต้องไม่ลืมความเป็นกลาง ไม่ลืมความยุติธรรม
ถ้าท่านทั้งหลายได้ทำหน้าที่ของท่าน แต่ถ้าทำไม่ได้ ก็เท่ากับท่านทรยศต่อความยุติธรรม การทรยศ ไม่มีใครอยากจะทำ ท่านอาจถูกมองทำ เป็นความไม่ดี เป็นความน่าเกลียด ฉะนั้นก็ต้องพิจารณาว่า ท่านปฏิญาณว่าจะรักษาความยุติธรรม ก็ต้องทราบว่า ความยุติธรรมนั้นเป็นอย่างไร แต่ละคดีก็มีความยุติธรรมของคดีนั้น ซึ่งถ้าท่านพิจารณา แล้วควรคิดว่าอะไรที่ยุติธรรม อะไรที่เป็นกลาง ท่านก็จะชนะในความจริง
ฉะนั้นท่านต้องรักษาความยุติธรรมนี้และ ปฏิบัติด้วยความกล้าหาญ เหนียวแน่น แต่ถ้าท่านไม่มีความกล้าหาญ ไม่ว่าจะประการใดก็ตาม จะเป็นเรื่องของความไม่ยุติธรรมในตัวท่าน หรือมีความโง่เขลา ควรทำด้วยความฉลาดและทำให้เป็นกลางแท้ๆ อย่างนี้ท่านก็จะได้ทำตามหน้าที่ที่ท่านได้เป็นผู้พิพากษาให้ศาล
ขอให้ท่านพิจารณาให้ดี ทุกสิ่งทุกอย่าง ที่ได้พิจารณา ตามที่ท่านได้ประสาทวิชาของท่าน ทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านได้ตั้งใจปฏิญาณ ต้องให้ทำตรงๆ จะเป็นทางที่ได้ทำหน้าที่แท้จริงของท่าน ก็ขอให้ท่านปฏิบัติงานของท่านต่อไป ด้วยความซื่อสัตย์ ด้วยความฉลาด ด้วยความสามารถที่จะรักษาความยุติธรรม
ก็ขอให้ท่านมีความสำเร็จในกางานการตลอดที่ท่านทำงานและทุกเวลา ทุกเมื่อ จนกระทั่งจะสิ้นชีวิต ต้องรักษาความยุติธรรม ก็ ขอให้สามารถปฏิบัติหน้าที่เป็นการดีของแต่ละท่านและเป็นการดีของประเทศชาติ ทำให้ประเทศชาติมีความสงบสุขได้ ขอให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสำเร็จ ตลอดไป อดทนในหน้าที่ของท่าน ทุกเมื่อจะต้องมีความยุติธรรมอยู่ในตัว ก็ขอให้ความยุติธรรมนี้นำท่านสู่ความสำเร็จ
26 กุมภาพันธ์ 2553
13.30 น. องค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เริ่มอ่านคำพิพากษาในคดีที่ อัยการสูงสุด ยื่นคำร้องขอให้ทรัพย์สินที่ร่ำรวย ผิดปกติและได้มาเนื่องจากการกระทำที่เป็นการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคล และประโยชน์ส่วนรวมของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตกเป็นของแผ่นดินโดยศาลมีคำวินิจฉัยว่า พ.ต.ท. ทักษิณ เป็นเจ้าของหุ้นบริษัทชินคอร์ปที่แท้จริง และใช้อำนาจหน้าที่ระหว่างดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเอื้อประโยชน์ให้แก่บริษัทชินคอร์ป เอไอเอส และชินแซทฯโดยตรง อันมีผลทำให้มูลค่าหุ้นของบริษัทชินคอร์ปสูงขึ้น รวมทั้งได้เงินปันผลจำนวนดังกล่าว จึงมีคำพิพากษา ให้ยึดเฉพาะเงินค่าขายหุ้นส่วนที่เพิ่มขึ้นหลังจากดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และเงินปันผล จำนวนทั้งสิ้น 46,373,687,454.64 บาทให้ตกเป็นของแผ่นดิน และให้คืนทรัพย์สินที่มีมาก่อนจะเข้าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จำนวนทั้งสิ้น 30,247,915,606.31 บาท ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่ยอมรับผลการตัดสินดังกล่าว และอาจจะยื่นเรื่องเพื่ออุทธรณ์ต่อศาลโลกต่อไป
ข้อเท็จจริงเพิ่มเติม
<<< แถลงการณ์ กลุ่ม ๕ อาจารย์ คณะนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ : กรณียึดทรัพย์ทักษิณ >>>
<<< รวมคำแถลงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ภายหลังคำพิพากษาคดียึดทรัพย์ >>>
<<< วิพากษ์คำพิพากษายึดทรัพย์ >>>
<<< คดียึดทรัพย์ฉบับชาวบ้าน:ความเท็จVSความจริง >>>
<<< ข้อเท็จจริงที่ควรรู้ เรื่อง ข้อกล่าวหาทั้งหมดที่ใช้เพื่อหวังยึดทรัพย์ทักษิณ >>>
<<< ข้อเท็จจริงที่ควรรู้ เรื่อง 6 ข้อกล่าวหาที่ใช้ในการยึดทรัพย์ทักษิณ >>>
<<< ข้อเท็จจริงที่ควรรู้ เรื่อง ภาษีสรรพสามิตโทรคมนาคม >>>
8 มีนาคม 2553
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน ยืนยันว่ากลุ่มคนเสื้อแดงจะเข้าร่วมการชุมนุมใหญ่ที่กรุงเทพมหานครในวันที่ 14 มีนาคมนี้ อย่างแน่นอน โดยยึดหลักประชาธิปไตย ไม่สร้างความวุ่นวายให้กับบ้านเมือง โดยการชุมนุมครั้งนี้ยึดหลักสันติวิธี ไม่ใช้ความรุนแรง และได้วางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอย่างรัดกุม
9 มีนาคม 2553
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้อ่านแถลงการณ์ของพันธมิตรฯ ฉบับที่ 4/2553 ว่ารัฐบาลจะต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่กับผู้ชุมนุม เพื่อป้องปรามความรุนแรงทุกรูปแบบ โดยระบุว่ากลุ่มพันธมิตรฯจะไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆในช่วงเวลาดังกล่าว
11 มีนาคม 2553
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รองผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.พิรุณ แผ้วพลสง เสนาธิการทหารบก พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 และ พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมกันแถลงข่าวภายหลังการประชุมกองอำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบ ที่กองบัญชาการกองทัพบก
โดยได้นำชุดควบคุมฝูงชนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งชายและหญิง ชุดสายตรวจ ชุดสายตรวจ ชุดปฏิบัติการพิเศษ หรือหน่วยสวาท ชุดจู่โจมเคลื่อนที่เร็ว หรือชุดปะ ฉะ ดะ เพื่อให้ประชาชนรับทราบเจ้าหน้าที่ของตำรวจที่จะปฏิบัติหน้าที่ในช่วงประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง ระหว่างวันที่ 11-23 มีนาคม พ.ศ. 2553
นายสุเทพ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ที่จะดูแลความสงบเรียบร้อยในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลที่ประกาศ เป็นพื้นที่ความมั่นคง ซึ่งทุกคนไม่พกพาอาวุธ นอกจากอุปกรณ์ป้องกันตัว แต่จะมีเพียงชุดสายตรวจ ชุดสายตรวจ ชุดปฏิบัติการพิเศษหรือหน่วยสวาท ชุดจู่โจมเคลื่อนที่เร็ว หรือชุด ปะ ฉะ ดะ ที่จะมีอาวุธติดตัว เพื่อปฏิบัติหน้าที่ โดยจะมีเครื่องหมายเลขชัดเจน
ทั้งนี้ ชุดแรกที่เข้าควบคุมฝูงชนที่เป็นผู้หญิงก็จะเป็นเจ้าหน้าที่ผู้หญิงและไม่มี อาวุธ ส่วนชุดควบคุมฝูงชนผู้ชายมีเพียงโล่ และกระบอง หากมีบุคคลอื่นแอบอ้างหรือแต่งเครื่องแบบทหาร นอกเหนือจากนี้จะจับดำเนินคดี สำหรับการถวายอารักขาที่บริเวณรอบโรงพยาบาลศิริราช จะอยู่ภายใต้การควบคุมของผู้บัญชาการทหารเรือ และจะมีทหารเรือและทหารบกแต่งเครื่องแบบรักษาความสงบเรียบร้อย โดยใช้กำลังทั้งสิ้น 5 กองร้อย
12 มีนาคม 2553
แกนนำ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน จัดการชุมนุมย่อยในหลายพื้นที่ ได้แก่ ศาลากลางจังหวัดสมุทรปราการ, วงเวียนหลักสี่, แยกดินแดง, สวนลุมพินี, วงเวียนใหญ่, แยกบางนา
13 มีนาคม 2553
กลุ่มผู้ชุมนุมทยอยเดินทางมาที่สะพานผ่านฟ้า ลีลาศ ถนนราชดำเนิน กรุงเทพมหานคร เพื่อร่วมชุมนุมใหญ่ โดยขับรถเป็นคาราวานเข้ากรุง
14 มีนาคม 2553
นายวีระ มุสิกพงศ์ ประธาน นปช.แดงทั้งแผ่นดิน อ่านแถลงการณ์เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภาภายใน 24 ชั่วโมง
"เผด็จการได้เข้าครอบงำประเทศตั้งแต่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549 และยังคงครอบงำต่อมา ด้วยเครื่องมือรัฐธรรมนูญ 2550 องค์กรอิสระต่างแลกฎหมายที่มาจากเผด็จการคณะนั้น รัฐบาลชุดนี้เป็นเครื่องมือชิ้นหนึ่งของการ ครอบงำ เรียกว่า เผด็จการซ่อนรูป ประจักษ์ชัดโดยไม่สงสัยว่ารัฐบาลบริหาร โดยขาดความรู้ ประสบการณ์ และทุจริตคอร์รัปชั่น ก่อความเสียหายต่อประเทศและประชาชน รัฐบาลนี้ขาดความชอบธรรมในการบริหาร เพราะรวบรวมชื่อ ส.ส.สนับสนุนได้ แต่สภาผู้แทนขาดคามรับผิดชอบ หลายบทหลายมาตรา อาทิ มาตรา 301, 302, 291 สภานี้จึงไม่อาจเป็นที่พึ่งอย่างแท้จริงของประชาชน"
นายเพียร ยงหนู ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ การไฟฟ้านครหลวง กล่าวว่ากองทัพต้องวางบทบาทอยู่บนหลักความถูกต้อง ยึดถือความยุติธรรม เพื่อเป็นที่พึ่งของประชาชนตามระบอบประชาธิปไตย ทั้งนี้ สหภาพฯออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ไม่ให้นำกองกำลังทหารหลายกองร้อยออกปฏิบัติการเพื่อควบคุมฝูงชน เพราะจะเป็นการสร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชน และหากมีการใช้กำลังสลายการชุมนุมด้วยวิธีรุนแรง สหภาพฯจะเข้าร่วมต่อสู้กับประชาชนทันที
15 มีนาคม 2553
กลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนไปยังกรม ทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ เพื่อทวงถามคำตอบจากนายกรัฐมนตรี แต่นายกรัฐมนตรีได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ แบล็คฮอร์ค ออกจากบริวณดังกล่าว โดยระบุว่าจะพา นายโสภณ ซารัมย์ ตรวจดูการจราจร ตามเส้นทางต่างๆ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้แถลงข่าวว่า หลังการชุมนุมผ่านมา 3 วันทุกอย่างเรียบร้อยปกติ ซึ่งผู้ชุมนุมมีการยื่นเวลาให้ตนยุบสภาภายใน 24 ชั่วโมง ตนได้เชิญหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลและผู้แทนพรรคร่วมรัฐบาลมาหารือซึ่งเห็นร่วม กันว่าไม่ควรมีการยุบสภา
16 มีนาคม 2553
กลุ่มผู้ชุมนุมเจาะเลือดคนละ 10 ซีซี
16.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มเคลื่อนขบวนออกจากสะพานผ่านฟ้า เพื่อมุ่งหน้านำเลือกที่เจาะได้จากกลุ่มผู้ชุมนุมไปเทบริเวณประตูทำเนียบรัฐบาล ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมได้นำเลือดผสมน้ำเกลือ ใส่ในแกลลอนน้ำขนาด 5 ลิตรจำนวนกว่า 23-24 แกลลอน และทยอยหิ้วเดินทางไปยังทำเนียบรัฐบาล ขณะที่แกนนำกลุ่มนปช.ได้ขึ้นรถบรรทุกติดเครื่องขยายเสียงเคลื่อนไปพร้อมกับกลุ่มผู้ชุมนุม
17.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมได้ทำพิธีเทเลือดที่บริเวณประตูต่างๆ ของทำเนียบรัฐบาล โดยในบริเวณประตู 2 ได้มีพราหมณ์พร้อมกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนเดินทางเข้าประกอบพิธีด้านหน้า บริเวณประตู โดยมีการเทเลือดลงบนพื้นถนนพร้อมทำพิธีสาบแช่งและนำเลือดมาเขียนเป็นอักขระ บนเสาด้านข้างประตู 2 และทำเรื่อยไปจนถึงประตู 8 ซึ่งตั้งอยู่ด้านเลียบคลองผดุงกรุงเกษม โดยจุดเทเลือดสุดท้ายคือ ทางเข้าอาคารสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ซึ่งภายหลังจากเสร็จสิ้นพิธีแกนนำได้ขึ้นประจำรถบรรทุกติดเครื่องขยายเสียง เพื่อเตรียมเคลื่อนขบวนผู้ชุมนุมไปที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ต่อไป
18.45 น. กลุ่มผู้ชุมนุมได้ฝ่าแนวกั้นที่เจ้าหน้าที่นำมากั้นด้านหน้าประตูทางเข้าที่ ทำการพรรคประชาธิปปัตย์ จนสามารถเข้าไปทำพิธีเทเลือดที่บริเวณหน้าบันไดทางขึ้นที่ทำการพรรคได้ สำเร็จ โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้เตรียมเลือดที่เหลือจากการทำพิธีบริเวณทำเนียบรัฐบาล จำนวน 10 แกลลอน มาทยอยเทด้านหน้าที่ทำการพรรคประชาธิปปัตย์ ทั้งนี้ในระหว่างที่มีการทำพิธี ผู้ชุมนุมต่างส่งเสียงโห่ร้องและตะโกนขับไล่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีอย่างต่อเนื่อง ขณะที่แกนนำได้ปราศรัยขอให้ผู้ชุมนุมอยู่ในความสงบก่อนที่จะประกาศให้ผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนกลับไปเวทีหลักที่สะพานผ่านฟ้า
17 มีนาคม 2553
ช่วงเช้า แกนนำกลุ่มผู้ชุนนุมได้ประกาศแนวทางและเส้นทางที่จะใช้เดินทาง เพื่อไปเทเลือดที่บริเวณหน้าบ้านพักของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ซอยสุขุมวิท 31 และเริ่มเคลื่อนขบวนผู้ชุมนุม เวลาประมาณ 11.50 รถปราศรัยของแกนนำได้เดินทางมาถึงสี่แยกด้านหน้าบ้านพักนายกรัฐมนตรี โดยนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง ได้เป็นตัวแทนเดินลงมาบริเวณรั้วลวดหนามพร้อมด้วยภาชนะบรรรจุเลือดประมาณ 5-6 แกลลอน ขณะที่ได้มีฝนตกลงมาอย่างหนัก เพื่อพยายามเจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อจะขอเข้าไปทำพิธีกรรมเทเลือด บริเวณหน้าบ้านของนายกรัฐมนตรี แต่ยังไม่สามารถเข้าไปได้ โดยมี พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 เป็นผู้คุมสถานการณ์ และทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล 5 ได้นำรถบรรทุกเครื่องขยายเสียงมาขอให้ผู้ชุมนุมอย่างสันติและขอให้ตระหนักใน สิทธิของประชาชนที่อาศัยอยู่โดยรอบส่วนหน้าบ้านพักนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้ยังเป็นบ้านพักของบิดานายกรัฐมนตรี ดังนั้นจะทำให้อะไรก็ขอให้อยู่ในกรอบกติกาและคำนึงถึงจารีตประเพณีสังคมไทย ด้วย ขอให้ผู้ชุมุนมจัดตัวแทนมาเจรจาร่วมกันว่าจะเข้าจัดกิจกรรมในจุดใด ตำรวจพร้อมให้ความร่วมมือและอำนวยความสะดวก และขอยืนยันว่าจะไม่ใช้กำลังและความรุนแรงใด ๆ กับผู้ชุมนุม
แต่ในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยอมให้กลุ่มคนเสื้อแดงเข้ามาภายในซอยสุขุมวิท 31 หลังนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำคนเสื้อแดงได้เจรจากับ พล.ต.ต.วิชัย โดย พล.ต.ต.วิชัยได้สั่งให้ตำรวจถอยเป็นระยะทาง 5 เมตร แต่ยังสกัดกั้นไม่ให้ผู้ชุมนุมเข้าถึงรั้วบ้านได้ ซึ่งขณะนี้มีระยะห่างกว่า 200 เมตร ทั้งนี้ได้มีผู้ชุมนุมบางส่วนพยายามบุกปะทะกับเจ้าหน้าที่ที่ตั้งแถวกั้นอยู่ด้วย
อย่างไรก็ดี เมื่อมีการสกัดกั้นไม่ให้กลุ่มม็อบเข้าไปใกล้บ้านพักของนายกรัฐมนตรี กลุ่มผู้ชุมนุมนำโดยนายอริสมันต์ได้ทำการฝ่าวงล้อมของเจ้าหน้าที่ บุกไปถึงหน้าบ้านพักนายกรัฐมนตรี พร้อมเทเลือดกองบนพื้นถนนท่ามกลางฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก โดยนายณัฐวุฒิได้ประกาศบนรถปราศรัยเพื่อขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่เปิดทางให้ กลุ่มคนเสื้อแดงเทเลือดบริเวณดังกล่าวด้วย และมีผู้ชุมนุมบางคนได้ระดมปาถุงบรรจุเลือดและอึเข้าใส่ภายในบ้านพักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเจ้าหน้าที่และบุคคลภายในบ้านได้พยายามนำสายยางมาฉีดน้ำโต้ตอบ
ทั้งนี้หนังสือพิมพ์ Christian Sciene Monitor ของสหรัฐอเมริกา ได้จัดอันดับ 10 การประท้วงสุดพิสดาร ปรากฏว่า การเทเลือดของกลุ่มนปช. ถูกจัดให้เป็นอันดับ 1 ของการประท้วงสุดพิสดาร
20 มีนาคม 2553
กลุ่มผู้ชุมนุมจัดขบวนรถจำนวนมาก โดยเคลื่อนขบวนไปรอบกรุงเทพมหานครตามเส้นทางสายสำคัญต่างๆ แกนนำกลุ่มเสื้อแดงได้กล่าวอ้างว่าตลอดทางมีประชาชนมาให้กำลังใจจำนวนมาก
โดยการเคลื่อนพลจะเคลื่อนไปพร้อมกันทั้งหมด จะไม่มีการดาวกระจาย เริ่มตั้งขบวนตั้งแต่ 10.00 น. หัวขบวนจะอยู่ที่แยกยมราช มีกองทัพมอเตอร์ไซค์ 2,000 คันนำขบวน พร้อมกับทีมนักรบพระองค์ดำ จากนั้นถึงจะเป็นขบวนคนเสื้อแดงทั้งหมด โดยจะเคลื่อนขบวนไปตามถนนเพชรบุรีตัด ใหม่ ถึงแยกอโศกจะเลี้ยวซ้ายเข้าถนนรัชดาภิเษกผ่านแยกฟอร์จูน ไปตามถนนรัชดาฯ จนถึงแยกรัชดาฯ-ลาดพร้าว จะเลี้ยวขวา เข้าถนนลาดพร้าว ตรงไปถึงบางกะปิ ถึงแยกบางกะปิ จะเลี้ยวขวา ไปถึงแยกลำสาลี แล้วจะเลี้ยวขวาอีกครั้ง เข้าถนนรามคำแหง ตรงไปตามถนนรามคำแหง จนถึงแยกพระราม 9 ตรงไปแยกคลองตัน แล้วตรงไปแยกพระโขนง เลี้ยวขวาเข้าถนนพระราม 4 จากนั้นตรงไปจนถึงสีลม แล้วเข้าวงเวียนโอเดียน เยาวราช ผ่านพาหุรัด แล้วเคลื่อนขบวนไปฝั่งธนบุรี ก่อนที่จะกลับเข้าเวทีปราศรัยที่เชิงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ถนนราชดำเนิน ในเวลา 18.00 น. กองบัญชาการตำรวจนครบาลได้ประเมินตัวเลขจำนวนผู้ชุมนุมในวันนี้ไม่น้อยกว่า 100,000 คน รถจักรยานยนต์ ประมาณ 10,000 คัน และรถยนต์ประมาณ 7,000 คัน
นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำคนเสื้อแดง กล่าวถึงการเคลื่อนขบวนของกลุ่มเสื้อแดงว่า เน้นคอนเซปต์ว่าเป็นการขอบคุณและปลูกต้นรักให้แก่คนกรุงเทพฯ ที่ต้อนรับการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่มาจากต่างจังหวัด จึงจะเป็นขบวนที่ผ่อนคลาย ไม่เครียด ไม่มีการปราศรัยทางการเมืองที่เข้มข้น จะเป็นการตีกลอง ร้องเพลงแบบฉิ่งฉาบทัวร์ เพื่อสร้างความสนุกสนาน สลับกับการขึ้นปราศรัยขอบคุณคนกรุงเทพฯ เน้นความรื่นเริงเถิดเทิงไปตลอดการเคลื่อนขบวน
22 มีนาคม 2553
นายวีระ มุสิกพงศ์ ประธาน นปช.แดงทั้งแผ่นดิน อ่านแถลงการณ์เรื่อง "ยืนยันข้อเรียกร้องยุบสภา พร้อมเจรจากับนายกฯ"
"นปช.ยืนยันให้ยุบสภาทันทีเพื่อคืนอำนาจให้ ประชาชน นปช.ไม่มีข้อเรียกร้องอื่นใดนอกเหนือจากนี้ นปช. ยินดีให้มีการเจาจาโดยผู้เจารจาคือผู้มี อำนาจเต็มของแต่ละฝ่าย ฝ่ายรัฐบาลต้องเป็นตัวนายกรัฐมนตรีเท่านั้น เพราะมีอำนาจตัดสินใจยุบสภา เมื่อยุบสภาแล้ว ทุกกลุ่มทุกฝ่ายต้องสลายตัวทันทีเพื่อให้ประเทศชาติกลับสู่ปกติ และต้องเปิดโอกาสให้ทุกพรรคหาเสียงเต็มที่โดยไมมีกีดขวางให้การเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ ยุติธรรมเป็นเครื่องตัดสินความขัดแย้งทางการเมือง ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร ทุกฝ่ายต้องยอมรับ เพื่อให้ประเทศต้องเดินหน้าต่อไปได้"
23 มีนาคม 2553
นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ เลขาธิการกลุ่มสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์ให้ชาวกรุงเทพมหานครรวมตัวกันเพื่อต่อต้านความรุนแรง รวมทั้งให้อยู่ในที่ตั้งเพื่อเฝ้าระวังเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้นจากการชุมนุมของคนเสื้อแดง
กลุ่มพี่น้องมหิดลออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ นปช. ยุติให้ผู้ชุมนุมเจาะเลือดแม้ผู้ให้จะเต็มใจก็ตาม เนื่องจากเห็นว่าการนำเอาเลือดออกจากร่างกาย มีไว้เพื่อการตรวจวินิจฉัย เพื่อการรักษา หรือการบริจาคเท่านั้น มิสามารถกระทำเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดได้ รวมทั้งมองว่าระดับแกนนำย่อมมีบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบในการดูแลผู้เข้าร่วมชุมนุมให้เกิดความปลอดภัยและมีสุขภาพอนามัยที่ดีอยู่ตลอดเวลา ไม่ควรเลือกวิธีที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ การอ่อนเพลียจากการสูญเสียเลือดและอากาศร้อนอบอ้าว
คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน อันประกอบด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย ออกแถลงการณ์ขอให้กลุ่มคนเสื้อแดง คืนพื้นที่แยกราชประสงค์ที่ปักหลักชุมนุมมาตั้งแต่วันเสาร์ที่ 3 เมษายน 2553 โดยให้กลับไปชุมนุมบริเวนสะพานผ่านฟ้าลีลาศ โดยที่ประชุม กกร. มีความวิตกกังวลต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะการชุมนุมดังกล่าวสร้างความเสียหายต่อการทำมาหากินในทุกระดับ ตั้งแต่ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ไปจนถึงร้านค้าย่อย รวมทั้ง นักลงทุนในประเทศและต่างประเทศ และแม้ นปช.จะมีสิทธิในการชุมนุมเพื่อแสดงออกภายใต้ระบอบประชาธิปไตย แต่ก็ไม่ควรจะละเมิดสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น ซึ่งข้อเรียกร้องต่างๆ ของกลุ่มผู้ชุมนุมควรมีความชัดเจนและจริงใจต่อกันเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาที่แท้จริง
ที่ประชุมสมาพันธ์สมาคมท่องเที่ยวไทย ได้แสดงจุดยืนเรียกร้องให้รัฐบาลและกลุ่ม นปช. ร่วมกันหาทางออกเพื่อยุติความขัดแย้งและการชุมนุมโดยเร็ว หลังอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้รับความเสียหายแล้วกว่า 1 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีการรวมพลังของผู้ประกอบการในที่ต่างๆ เช่น จ.เชียงใหม่ ภูเก็ต กระบี่ สมุย พัทยา โดยใช้ข้อความว่า "ยุติความขัดแย้งเพื่อท่องเที่ยวไทย ทุกฝ่ายหยุดทำร้ายท่องเที่ยวไทย สมานฉันท์เพื่อท่องเที่ยวไทย" พร้อมกันนี้ ที่ประชุมยังเรียกร้องให้รัฐบาลบังคับใช้กฎหมายดูแลการชุมนุมอย่างเคร่งครัด เพื่อให้สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วและปราศจากความรุนแรง เพราะถ้าการชุมนุมยังยืดเยื้อจะกระทบความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ของประเทศ เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นที่นักท่องเที่ยวจะเดินทางมาเที่ยวเทศกาลสงกรานต์ โดยสำนักข่าวอัลจาซีร่า รายงานข่าวว่า การประท้วงของคนเสื้อแดงกำลังสร้างความไม่พอใจให้กับชาวกรุงเทพจำนวนมาก จนเกิดการชุมนุมของคนเสื้อชมพูมากกว่า 1,000 คน ที่สวนลุมพินี เพื่อระบุว่าพวกเสื้อแดงไร้เหตุผล นับเป็นครั้งแรกจากการบุกเข้ามาประท้วงในกรุงเทพฯ ของเสื้อแดงที่มีคนกลุ่มใหญ่ออกมาต่อต้าน เพื่อให้แน่ใจว่ารัฐบาลไทยที่มีกองทัพหนุนหลังจะไม่รีบร้อนยุบสภาและจัดการเลือกตั้งใหม่ซึ่งอาจเปิดทางให้ผู้สนับสนุนของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตรรีบขึ้นมาชิงอำนาจคืน
นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ พร้อมแกนนำคนอื่น อาทิ นายวันชนะ เกิดดี นายเจ๋ง ดอกจิก รวมทั้งผู้ชุมนุมทั้งผู้ชาย ผู้หญิงและเด็กที่สมัครใจได้ทำการโกนศีรษะเพื่อประท้วงนายกรัฐมนตรีและขับ ไล่รัฐบาล รวมทั้งทำพิธีสาปแช่งนายกรัฐมนตรี โดยมีนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงโกนผมให้นายสุพร ขณะที่พระสงฆ์ประมาณ 15 รูป โกนผมให้แก่ผู้ชุมนุม บนเวทีหลักสะพานผ่านฟ้าลีลาศ
27 มีนาคม 2553
คนเสื้อแดงได้เคลื่อนขบวนไปกดดันทหารให้ถอนกำลังกลับกรมกองตามจุดต่างๆ ทั้ง 7 จุด เอเอฟพีระบุว่ามีผู้เข้า ร่วมชุมนุมประมาณ 80,000 คน นอกจากนี้ยังมีการยึดอาวุธปืน ฯลฯ ของทหารจำนวนหนึ่งอีกด้วย แล้วมีการส่งคืนในภายหลัง แต่ยังมีอาวุธสูญหาย ซึ่งทาง ศอฉ. ยังคงกังวลอยู่
28 มีนาคม 2553
นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ และนายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ เข้าเจรจาหารือเรื่องการยุบสภากับประธาน นปช.แดงทั้งแผ่นดิน นพ.เหวง โตจิราการ และนายจตุพร พรหมพันธุ์
29 มีนาคม 2553
มีการเจรจาต่อเนื่องจากเมื่อวาน แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป
3 เมษายน 2553
มีการเคลื่อนขบวนมาปักหลักบริเวณแยกราชประสงค์ ซึ่งเต็มไปด้วยผู้ชุมนุมจำนวนมาก กระจายกันอยู่เต็มผิวจราจร ตั้งแต่แยกประตูน้ำ ด้านหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ต่อเนื่องไปจนถึงถนนราชดำริ โดยพิธีกรบนเวทีแจ้งว่า คืนนี้จะปักหลักชุมนุมข้ามคืน ที่แยกราชประสงค์
7 เมษายน 2553
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
8 เมษายน 2553
ภายหลังที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง มอบหมายให้กระทรวง เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ไปแจ้งให้ไทยคมระงับการแพร่สัญญาณภาพและ เสียงของสถานีประชาชน ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมปักหลักชุมนุมอยู่ที่บริเวณสถานีไทยคม ที่ตั้งอยู่ถนนรัตนาธิเบศร์ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี และสถานีไทยคม ซึ่งตั้งอยู่ถนนสายลาดหลุมแก้ว-วัดเจดีย์หอย อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี เพื่อเรียกร้องให้ยุติการระงับการเผยแพร่สัญญาณ
9 เมษายน 2553
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า องค์กรผู้ สื่อข่าวไร้พรมแดนออกแถลงการณ์ประณามการปิดกั้นสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมพีเพิลแชนแนลและเว็บไซต์ 36 เว็บไซต์ของกลุ่มคนเสื้อแดง โดยระบุว่าการปิดกั้นสื่อมวลชนที่ทั้งเป็นกลางและสื่อที่มีความเห็นไปในทาง เดียวกับฝ่ายค้าน ทำให้อาจเกิดความรุนแรงได้
กลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนไปยังสถานีไทยคม ซึ่งตั้งอยู่ถนน สายลาดหลุมแก้ว-วัดเจดีย์หอย อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี เพื่อเรียกร้องให้ยุติการระงับการเผยแพร่สัญญาณการออกอากาศของสถานีประชาชน โดยได้มีการนำกองกำลังทหารเข้าสลายการชุมนุมด้วยแก๊สน้ำตา แต่ไม่บรรลุผล จากนั้นเหตุการณ์ได้สงบลงภายในเวลา 15 นาที โดยแกนนำพยายามควบคุมมวลชนไม่ให้บุกเข้าไปภายในตัวอาคาร จนกระทั่งมีการเจรจาให้ทหารถอนกำลังเดินแถวออกจากสถานีไทยคม ท่ามกลางเสียงโห่ร้องดีใจของผู้ชุมนุม
นอกจากนี้ได้มีการนำอาวุธที่ได้ยึดมาจากทหาร ที่ประกอบด้วยปืนเอ็ม 16, ปืนลูกซองยาว พร้อมลูกระเบิดแก๊สน้ำตา หมวกกันน็อค เสื้อเกราะ โล่ กระบอง มาให้สื่อมวลชนได้ถ่ายภาพเอาไว้ รวมทั้งยังมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากแก๊สน้ำตาอีกจำนวนหนึ่งจากเหตุการณ์การสลายการชุมนุม หลังจากที่มีการยืนยันว่าทางสถานีประชาชนจะมีการออกอากาศอย่างแน่นอน กลุ่มผู้ชุมนุมจึงเคลื่อนขบวนกลับไปยังที่ตั้ง
22.20 น.ได้มีการเข้าระงับการออกอากาศของทางสถานีอีกครั้ง
10 เมษายน 2553
รัฐบาลได้นำกองกำลังทหารเข้าสลายการชุมนุมของประชาชนบริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ
13.00 น. เจ้าหน้าที่ได้ฉีดน้ำออกจากกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 1 และพยายามปิดประตู พร้อมขึงรั้วลวดหนาม นอกจากนี้มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ได้ใช้แก๊สน้ำตายิงด้วย ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมได้ถอยร่นออกมาบริเวณสนามเสือป่า พยายามปาท่อนไม้และสิ่งของตอบโต้ นอกจากนี้ยังเกิดเสียงดังขึ้นเป็นระยะๆ ซึ่งทราบภายหลังว่าเป็นระเบิดเสียง ทำให้ผู้ชุมนุมแตกตื่นวิ่งหนี
13.10 น. กลุ่มเสื้อแดงได้กลับมารวมตัวอีกครั้ง แกนนำบนรถปราศรัยได้ประกาศว่า นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ กำลังเดินทางตามมา โดยกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนได้เดินเก็บท่อนไม้ที่เหลือจากการจัดงานกาชาดเตรียมพร้อมไว้แล้วด้วย
13.45 น. เกิดเหตุชุลมุนที่แยกพาณิชยการ ใกล้ทำเนียบรัฐบาลและกองทัพภาคที่ 1 โดยเจ้าหน้าที่ทหารได้ใช้น้ำฉีดผู้ชุมนุมที่ปิดล้อมแยกดังกล่าว จากนั้นได้ยิงแก๊สน้ำตา และยิงกระสุนยางใส่ผู้ชุมนุมเป็นระยะ ทำให้กลุ่มคนเสื้อแดงบางคนได้รับบาดเจ็บและแตกฮือสลายการชุมนุมจากแยกพาณิช ยการ จากนั้นทหารนำรถที่กลุ่มผู้ชุมนุมจอดขวางออกนอกพื้นที่ และเดินจากแยกพาณิชยการมุ่งหน้าเข้าถนนราชดำเนิน
14.00 น. ทหารได้ทยอยยึดถนนราชดำเนินได้บางส่วน โดยตรึงกำลังตามสี่แยกต่างๆ ตั้งแต่กอง บัญชาการกองทัพภาคที่ 1 แยกมิสกวัน และสะพานมัฆวานรังสรรค์ ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมต่างถอยร่นไปรวมตัวที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศ และพยายามจอดรถขวางทางเพื่อสกัดทหาร
14.20 น. บริเวณการชุมนุมคนเสื้อแดงบริเวณแยกมิสกวัน โดยทหารได้ใช้แก๊สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุม อย่างไรก็ตามเกิดโต้ล้มทำให้พัดย้อนกลับไปโดนทหารเช่นกันและมีผู้ชุมนุมบาง ส่วนได้ขว้างกลับมาเช่นกัน ทางด้านบริเวณคลองผดุงกรุงเกษมทหารได้รุกคืบฉีดน้ำใส่ผู้ชุมนุมพร้อมกับได้จับผู้ปราศรัยบนเวที ขณะเดียวกันทางผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงได้ปรับขบวนด้วยการใช้พระสงฆ์ออกมาตั้งแนวป้องกันการรุกคืบของทหาร
15.00 น. มีกลุ่มเจ้าหน้าที่ทหารพร้อมปืนลูกซอง ปืนเอ็ม16 พกโล่พร้อมอาวุธครบมือ ได้ยืนตั้งแถวอยู่ตรงบริเวณสวนสาธารณะเชิงสะพานพระปิ่นเกล้า ฝั่งอรุณอมรินทร์
17.50 น. มีเฮลิคอปเตอร์บินวนบริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ และได้มีการปล่อยแก๊สน้ำตาลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ ลงมาเพื่อสลายการชุมนุม ขณะที่แกนนำได้ประกาศให้ผู้ชุมนุมออกมารวมตัวกันที่หน้าเวที พร้อมกับปลุกระดมให้ต่อสู้และดูสถานการณ์ต่อไป ขณะที่ผู้ชุมนุมได้มีการปล่อยลูกโป่งและโคมลอยเพื่อรบกวนการบินของ เจ้าหน้าที่บนเฮลิคอปเตอร์แต่ไม่มีผลแต่อย่างใด แก๊สน้ำตาที่เจ้าหน้าที่ทิ้งลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ตกลงมาที่ด้านหลังเวที ซึ่งมีสื่อมวลชนปักหลักทำข่าวอยู่เป็นจำนวนมากทำให้แตก ตื่นหาที่หลบแก๊สน้ำตา และอีกจุดทิ้งไปที่ด้านหน้าเวทีซึ่งมีผู้ชุมนุมรวมตัวอยู่ค่อนข้างหน้าแน่น
21.00 น. มีการปะทะกันอย่างต่อเนื่อง ระหว่างผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ในบริเวณต่างๆ ใกล้กับที่ชุมนุม เช่น ถนนดินสอ ช่วงวงเวียนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และถนนตะนาว ช่วงแยกคอกวัว ฝั่งเชื่อมต่อถนนข้าวสาร โดยมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 27 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 1,427 ราย
11 เมษายน 2553
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บตามโรงพยาบาลต่างๆ โดยนายสมชาย กล่าวว่าขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะหลีกเลี่ยงไม่ได้
12 เมษายน 2553
10.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมได้เคลื่อนขบวนแห่ศพผู้เสียชีวิตจากการสลายการชุมนุมออกจาก สะพานผ่านฟ้าลีลาศ โดยขบวนประกอบด้วยรถยนต์บรรทุกโลงศพจำนวนทั้งสิ้น 17 คัน พร้อมด้วยขบวนรถจักรยานยนต์และผู้ชุมนุม ที่เดินเท้าตาม ทั้งนี้ในจำนวนโลงศพทั้งหมด 16 โลง มีเพียง 2 โลงที่มีศพอยู่จริงส่วนที่เหลือจะเป็นโลงเปล่าเพราะศพทั้งหมดถูกนำไปชันสูตร ที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งผู้ชุมนุมได้นำธงชาติไทยมาคลุมโลงศพพร้อมรูปผู้เสียชีวิต อย่างไรก็ตามในบริเวณพื้นที่ชุมนุมสะพานผ่านฟ้าลีลาศและแยกราชประสงค์ยังคง มีกลุ่มผู้ชุมนุมปักหลักอยู่และไม่เดินทางร่วมไปกับขบวน เนื่องจากก่อนหน้านี้แกนนำผู้ชุมนุมได้ประกาศให้กลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนปัก หลักอยู่ที่เวทีชุมนุมทั้งสองจุด เพื่อป้องกันการเข้าสลายการชุมนุม
19.30 น. นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวว่าขอให้กลุ่มคนเสื้อแดงเดินหน้าต่อสู้กันต่อไป วันนี้ถือว่าได้ประชาธิปไตยมาแล้ว ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เต็มที่ทั้งหมด แต่ก็ถือว่าเป็นการต่อสู้ที่ประสบความสำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง เหลือเพียงไม่นานก็จะประสบความสำเร็จ เพื่อประเทศชาติ เพื่อคนรุ่นหลังต่อไป
พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากการปะทะกันของเจ้าหน้าที่ทหาร และกลุ่มผู้ชุมนุมเมื่อวันที่ 10 เมษายน ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นผู้ที่จะต้องรับผิดชอบมีคนเดียว คือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เนื่องจากเป็นบุคคลที่ขาดสำนึกความเป็นผู้นำ ปฏิเสธที่จะเข้าใจถึงปัญหาของคนในชาติ ตนไม่เคยพบเห็นการใช้กำลังติดอาวุธเข้าปราบปรามประชาชน ไม่เคยเห็นความรุนแรง และกระทำอย่างขาดความสำนึกเช่นนี้
14 เมษายน 2553
ยุบเวทีใหญ่ที่ผ่านฟ้าเพื่อไปรวมกันที่แยกราชประสงค์ และเปิดเส้นทางจราจร เนื่องจากทางแกนนำไม่ต้องการให้เกิดการปะทะ และเป็นการคืนพื้นที่ให้ตามที่รัฐบาลเรียกร้อง
15 เมษายน 2553
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้แถลงข่าวว่า หลังการชุมนุมผ่านมา 3 วันทุกอย่างเรียบร้อยปกติ ซึ่งผู้ชุมนุมมีการยื่นเวลาให้ตนยุบสภาภายใน 24 ชั่วโมง ตนได้เชิญหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลและผู้แทนพรรคร่วมรัฐบาลมาหารือซึ่งเห็นร่วมกันว่าไม่ควรมีการยุบสภา
การย้ายมาชุมนุมที่แยกราชประสงค์สำนักนายกรัฐมนตรีได้ยื่นคำร้องขอให้ศาล ไต่สวนเพื่ออกมาตรการบังคับให้ผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่ถนนราชดำริ โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงจากการไต่สวนฟังได้ว่าการกระทำของแกนนำทั้ง 5 และผู้ร่วมชุมนุมเป็นการปิดกั้นกีดขวางเส้นทางคมนาคมและการใช้ยานพาหนะของ ประชาชนทั่วไป ส่งผลกระทบต่อธุรกิจสำคัญ รวมทั้งเกิดความเดือดร้อนต่อการประกอบอาชีพ และการดำรงชีวิตของประชาชน จึงเป็นการจำกัดเสรีภาพการเดินทางของประชาชนที่จะใช้เส้นทางสาธารณะและกระทบ ต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพการชุมนุมที่เกินกว่าขอบเขตของรัฐธรรมนูญ ปี 2550 ม.34 และ 63 บัญญัติไว้ ดังนั้นเมื่อ ผอ.รมน.โดย ผอ.ศอ.รส. รับมอบอำนาจให้ปฏิบัติหน้าที่แทน ได้อาศัยอำนาจตาม มาตรา 18 พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 ออกข้อกำหนดและข้อประกาศห้ามแกนนำทั้งห้าและผู้ชุมนุมทั้งหมดออกจากพื้นที่ ที่ชุมนุมแล้ว ข้อกำหนดและประกาศดังกล่าวจึงมีสภาพบังคับอยู่ในตัว และเมื่อมีประกาศใช้แล้วย่อมมีผลบังคับได้ทันที ไม่จำเป็นต้องมาร้องขอให้ศาลออกคำบังคับตามข้อกำหนดดังกล่าวอีก ศาลจึงมีคำสั่งให้ยกคำร้องฝ่ายสนับสนุนการชุมนุม
16 เมษายน 2553
ช่วงเช้าเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยอรินทราช บุกเข้าปิดล้อมโรงแรมเอสซีปาร์ค ล้อมจับแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม ประกอบด้วยนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง, นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์, นายพายัพ ปั้นเกตุ, นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก และนายวันชนะ เกิดดี
โดยนายอริสมันต์ได้โรยตัวออกทางระเบียง โดยมีกลุ่มผู้ชุมนุมกว่า 100 รายคอยให้ความช่วยเหลือได้สำเร็จ หลังจากนั้นนายอริสมันต์นำกลุ่มคนเสื้อแดงไปล้อมเจ้าหน้าที่อีกชั้น ชิงตัวแกนนำคนอื่นๆออกมาได้ในที่สุด และ ได้ทำปิดล้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไปปฏิบัติการในครั้งนี้อีกชั้น และให้กลุ่มผู้ชุมนุมบุกเข้าช่วยเหลือเหล่าแกนนำอีก 5 คนที่เหลือ จนสามารถช่วยเหลือนายสุภรณ์ และนายเจ๋งออกมาได้ อย่างไรก็ตาม ปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ครั้งนี้ ทำให้ทางโรงแรมได้รับความเสียหายบางส่วน ขณะที่การจราจรโดยรอบต้องปิดไปโดยปริยาย
นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำผู้ประสานงานกลุ่มประชาชนพิทักษ์ชาติ และกลุ่มเฟสบุ๊คต้านยุบสภา เดินทางมาให้กำลังใจการปฏิบัติหน้าที่ของทหาร ที่บริเวณด้านหน้า กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์
18 เมษายน 2553
กลุ่มคนเสื้อหลากสี อันประกอบด้วย เครือข่ายประชาชนพิทักษ์ชาติ และเครือข่ายเฟซบุ๊ก เดินทางมารวมตัวกันที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อร่วมเป็นกำลังใจให้รัฐบาลทำหน้าที่ พร้อมทั้งคัดค้านการยุบสภา และแสดงออกไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง
21 เมษายน 2553
พนักงานบริษัทย่านสีลม ได้รวมตัวกันภายใต้ชื่อ เครือข่าย ประชาคมชาวสีลม ออกมาชุมนุมในช่วงเวลาพักเที่ยงต่อต้านการกระทำของกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดง พร้อมทั้งมอบอาหารและน้ำให้กับทหารและตำรวจที่มาดูแลรักษาความปลอดภัย
กลุ่มคนเสื้อแดงรวมตัวชุมนุมบริเวณสถานีรถไฟขอนแก่น อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น เพื่อสกัดไม่ให้ขบวนรถไฟลำเลียงทหาร อาวุธและยานพาหนะกว่า 20 โบกี้ออกจากสถานี เนื่องจากเกรงทหารจะเข้าร่วมสลายการชุมนุมในกรุงเทพฯ
22 เมษายน 2553
ได้เกิดเหตุระเบิด 5 ครั้งบริเวณถนนสีลม โดยครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. ระหว่างที่กลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ แห่งชาติ (นปช.) รวมตัวการชุมนุมอยู่แยกศาลาแดงฝั่งถนนสีลม ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของตำรวจ โดยเสียงระเบิดดังขึ้น 3 ครั้ง ที่บริเวณสถานีรถไฟฟ้าศาลาแดง หลังเสียงระเบิดดังขึ้น ประชาชนที่อยู่บนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสศาลาแดงได้วิ่งหลบหนีออกจากบริเวณดัง กล่าว ขณะที่ด้านล่าง จุดที่มีการชุมนุมของกลุ่มต่อต้านนปช.ก็เกิดความโกลาหลเช่นกัน
20.30 น. ระเบิดลูกที่ 4 ได้ระเบิดขึ้นบริเวณหน้าโรงแรมดุสิตธานี ใต้ทางเดินลอยฟ้าเชื่อมต่อสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส หรือสกายวอล์ก
20.45 น. ระเบิดลูกที่ 5 ก็ระเบิดขึ้นที่หน้าธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาศาลาแดง
ทั้งนี้ เหตุระเบิดที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ผู้บาดเจ็บทั้งหมด 87 คน สาหัส 3 คน โดยผู้บาดเจ็บถูกส่งไปรักษาตัวตามโรงพยาบาลต่าง ๆ โดยรอบบริเวณการชุมนุม มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ 3 คน
24 เมษายน 2553
18.00 น. นายวีระ มุสิกพงศ์ ประธาน นปช.แดงทั้งแผ่นดิน กล่าวบนเวทีปราศรัย โดยกล่าวว่า สืบเนื่องจากการที่กลุ่มนปช.แดงทั้งแผ่นดิน ได้ประกาศจุดยืนและเจตนารมณ์เพื่อปกป้องรักษาทุกชีวิต เพื่อไม่ให้เกิดการบาดเจ็บ และเสียชีวิต ดังเหตุการณ์วันที่ 10 และ 22 เมษายน ที่ผ่านมา ดังนั้น เพื่อความไม่ประมาท นปช.แดงทั้งแผ่นดิน จึงจำเป็นต้องปรับยุทธวิธี เพื่อรองรับสถานการณ์ที่เหมาะสมโดยยังยึดแนวทางที่สันติวิธี
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน กล่าวต่อว่า หลังจากที่ทาง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เลือกที่จะปิดประตูการเจรจากับทาง นปช. ชัดเจนว่า ทางนายกรัฐมนตรีได้ตัดสินใจหันหลังให้แนวทางสันติวิธีเรียบร้อยแล้ว ดังนั้น ขอประกาศโดยชัดเจนว่า นปช.แดงทั้งแผ่นดิน ขอให้นายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภาโดยทันที รวมทั้งยังขอประกาศมาตรการรับมือ โดยยึดแนวทางที่สันติวิธี คือ
1. ขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมถอดเสื้อสีแดง และวางสัญลักษณ์ที่แสดงออกถึงความเป็น นปช. ทิ้งออกตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เพื่อมาเป็นนักรบนอกเครื่องแบบ จนกว่าจะได้รับชัยชนะจนกว่าจะได้รับประชาธิปไตยจากรัฐบาลกลับคืนมา
2. ขออาสาสมัครจักรยานยนต์ไปประจำด่าน ทั้ง 6 ด่าน จำนวนด่านละ 2 พันคัน
3. ขอให้คนเสื้อแดงทั่วประเทศคอยสังเกตการณ์กองกำลังทหาร และตำรวจที่พยายามจะเข้ามาในกรุงเทพฯ หากพบก็ขอให้ยึดปฏิบัติการขอนแก่นโมเดลทันที ยึดแนวทางสันติวิธี
4. ขอให้กลุ่มคนเสื้อแดงกระทำและปฏิบัติตัวอย่างใดก็ได้ตามอิสระเสรี
5. ขอให้พี่น้องเสื้อแดงทุกคนจับกลุ่มย่อยละ 5 คน แลกเบอร์ และทำความรู้จักกันไว้ เพราะเมื่อเกิดสถานการณ์ใดขึ้น จะได้เป็นช่องทางในการสื่อสารถึงกันได้
นายณัฐวุฒิกล่าวอีกว่ามาตรการทั้งหมดนี้ เป็นมาตรการที่เตรียมไว้รับมือกับนายอภิสิทธิ์ เชื่อว่าภายใน 48 ชั่วโมงนี้ นายอภิสิทธิ์ได้เตรียมการที่จะสลายการชุมนุม ดังนั้น จึงขอเชิญชวนพี่น้องเสื้อแดงที่รักประชาธิปไตย ที่อาศัยอยู่ทั่วประเทศ เดินทางเข้ามาชุมนุมที่พื้นที่ราชประสงค์เพื่อประกาศให้นายกรัฐมนตรีได้รู้ ว่าไม่ต้องการรัฐบาลที่มาจากอำมาตย์อีกต่อไปแล้ว และต่อจากนี้ให้เรียกกลุ่มคนเสื้อแดงใหม่ว่า กลุ่มคนไม่มีสี ไม่มีเส้น
25 เมษายน 2553
ความเคลื่อนไหวในรูปแบบ "ขอนแก่นโมเดล" ได้เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ โดยที่จังหวัดอุดรธานี นายวิเชียร ขาวขำ ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ได้เป็นแกนนำคนเสื้อแดงมาตั้งด่านสกัดเจ้าหน้าที่ตำรวจถึง 3 จุด โดยเฉพาะที่อำเภอโนนสะอาด โดยอ้างว่าเพื่อป้องกันชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องในกรุงเทพฯ ในขณะที่วิทยุชมรมคนรักอุดรก็ได้ประกาศเชิญชวนให้มาสกัดการ เคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ พร้อมให้เรียกระดมพลให้เข้าร่วมชุมนุมที่ราชประสงค์ ที่อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ก็มีการตั้งด่านของคนเสื้อแดงเช่นกัน โดยได้ตั้งด่านมาตั้งแต่คืนวันที่ 24 เมษายน นอกจากการตั้งด่านสกัดเจ้าหน้าที่แล้ว บรรดาคนเสื้อแดงยังได้มีการปล่อยลมยางรถทหารและรถตำรวจที่จะมีการเคลื่อน ขบวนเข้ากรุงเทพฯ ด้วย ซึ่งน่าสังเกตว่าในหลายจังหวัดกลุ่มผู้ชุมนุมก็น้อยกว่าเจ้าหน้าที่ แต่กลับไม่สามารถนำกำลังเจ้าหน้าที่มายังส่วนกลางได้
28 เมษายน 2553
09.30 น. นายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน เปิดเผยภายหลังการประชุมแกนนำว่า ในเวลา 10.30 น. จะเคลื่อนขบวนผู้ชุมนุมไปยังตลาดไท เพื่อให้กำลังใจมวลชนคนเสื้อแดงที่ปักหลักอยู่ที่นั่น โดยให้มวลชนที่ต้องการจะร่วมขบวนไปรวมตัวที่ศาลาแดงแล้วร่วมเดินทางไปรถปิคอัพจำนวน 150 คัน เพราะว่าก่อนหน้านี้ได้ข่าวว่าจะมีการขนอาวุธเข้ามาในกรุงเทพฯเพื่อปราบปราม ประชาชนจึงเป็นภารกิจที่เสื้อแดงจะต้องสกัดกั้นเอาไว้
13.00 น. กลุ่มคนเสื้อแดงได้เคลื่อนพลถึงฐานทัพอากาศ ดอนเมืองนายขวัญชัยได้สั่งให้ขบวนหยุดเนื่องจากพบว่า มีตำรวจและทหารตั้ง ด้านสกัดอยู่และให้กลุ่มมอเตอร์ไซค์ไปดูพร้อมให้ถอยกลับมาก่อน โดยทหารมีการเตรียมพร้อมตั้งแถวพร้อมอุปกรณ์ปราบจลาจลและทั้งสองฝ่ายปักหลัก กันอยู่มีช่องว่างห่างกันประมาณ 2 กิโลเมตรทั้งนี้ทหารได้ขอความร่วมกับสื่อมวลชนให้ออกนอกพื้นที่ปฏิบัติงาน หลังจากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมได้เคลื่อนพลออกจากหน้าฐานทัพอากาศดอนเมืองมุ่ง หน้าอนุสรณ์สถานแห่งชาติเรียบร้อยแล้วหลังจาก หยุดเจรจาแล้วไม่เป็นผลและเจ้าหน้าที่ได้ยิงกระสุนยางเข้าใส่ทำให้ผู้ชุมนุมต้องถอยร่น
นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน ได้ขึ้นปราศรัยที่เวทีการชุมนุมสี่แยกราชประสงค์ โดยประกาศขอให้ผู้ชุมนุมไม่ต้องตกใจกับสถานการณ์ที่ดอนเมืองและรังสิต พร้อมกับให้นายขวัญชัยนำมวลชนเดินทางกลับมาตั้งหลักที่ราชประสงค์เพื่อกำหนด ท่าทีกันอีกครั้ง
14.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารได้จับกุมผู้ชุมนุมบริเวณโรงเรียนมัธยมสังคีตวิทยากว่า 10 คน
14.40 น. เจ้าหน้าที่ทหารเริ่มยิงกระสุนยางใส่ผู้ชุมนุมหลายสิบนัดตั้งแต่อนุสรณ์สถาน แห่งชาติถึงโรงเรียนมัธยมสังคีตวิทยาดอนเมืองขณะที่ประชาชนที่จอดรถสัญจรไป มาบนถนนวิภาวดีรังสิตได้ลงมาจากรถเพื่อหาที่ปลอดภัยหลบกระสุนยางของเจ้าหน้าที่
15.00 น. เสียงปืนบริเวณอนุสรณ์สถานแห่งชาติ ซึ่งเป็นจุดปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่และผู้ชุมนุมที่กำลังมุ่งหน้าไปยังตลาดไท ได้สงบลงแล้ว
16.10 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงยอดผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์บริเวณหน้าอนุสรณ์สถานแห่งชาติว่า จากรายงานของสถาบัน การแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ เบื้องต้น มีผู้บาดเจ็บ 16 ราย ในจำนวนนี้ 10 ราย ส่งเข้ารักษาที่โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งมีสาหัส 1 ราย บาดเจ็บที่ช่องทองต้องเข้ารับผ่าตัด และอีก 3 ราย เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลแพทย์ รังสิต ซึ่งก็มีสาหัส 1 รายที่ต้องผ่าตัดเช่นกัน เนื่องจากถูกยิงที่หน้าอก
17.00 น. ที่ถนนวิภาวดี 47 เจ้าหน้าที่ทหารมีการผลักดันกับผู้ชุมนุมรอบที่ 2 ระหว่างนั้นได้มีเจ้าหน้าที่ทหารชุดเคลื่อนที่เร็วขับรถมอเตอร์ไซค์ ลงมาจากโทลล์เวย์ทำให้เจ้าหน้าที่ทหาร ทางด้านล่างเกิดการเข้าใจผิดยิงปืนกระสุนจริงและกระสุนยางเข้าใส่จนทำให้ เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 1 ราย ขณะที่ทหารบางส่วนได้ถอยร่นกลับไปที่หน้าโรงเรียนมัธยมสังคีตวิทยาดอนเมือง ฝั่งขาออกซึ่งขณะนี้ได้เปิดให้บริการแล้ว 1 ช่องทาง เพื่อให้รถขาออกได้เคลื่อนตัวไปได้
สำนักข่าวต่างประเทศ เช่น ซีเอ็นเอ็นและบีบีซีรายงานเหตุการณ์ปะทะกัน ระหว่างเจ้าหน้าที่ทหารและกลุ่มผู้ชุมนุม ที่บริเวณอนุสรณ์สถานแห่งชาติ โดยอ้างว่า เจ้าหน้าที่ศูนย์เอราวัณเปิดเผยมีจำนวนผู้ชุมนุมบาดเจ็บอย่างน้อย 16 รายระหว่างการปะทะกัน ขณะที่มีเจ้าหน้าที่ทหารเสียชีวิต 1 ราย จากกระสุนปืนของเพื่อนทหารพวกเดียวกันเอง โดยทหารคนดังกล่าวคือ พลทหารณรงค์ฤทธิ์ สาละ ถูกยิงเข้าทะลุหมวกเข้าที่ศีรษะเหนือคิ้ว ซึ่งศพยังอยู่ในร้านค้าสวัสดิการภายในอนุสรณ์สถานแห่งชาติ
29 เมษายน 2553
นายพายัพ ปั้นเกตุ แกนนำ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน กล่าวว่าตนได้ไปตรวจสอบภายในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เนื่องจากมีบุคคลอ้างว่าภายในตึกโรงพยาบาลยังมีกำลังทหารพร้อมอาวุธสงคราม และปืนสไนเปอร์อยู่ครบมือ หากไม่ถอนกำลังทหารออกไปให้หมดภายในคืนนี้ ตนพร้อมจะนำสื่อมวลชนและกลุ่มคนเสื้อแดงไปตรวจสอบที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ทันที เพื่อไปขอพื้นที่โรงพยาบาลคืนให้กับประชาชนรวมทั้งในพื้นที่สวนลุมพินีมีเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 7 กองร้อยและในถนนสีลม ไม่ว่าจะเป็นตึกซีพี หรือธนาคารกรุงเทพ สาขาสีลมก็มีกำลังทหารจำนวนมาก ซึ่งภายหลังได้มีการยืนยันออกมาว่า ไม่ได้มีกำลังทหารตามที่ได้ถูกกล่าวอ้างแต่อย่างใด
19.00 น. นายพายัพ พร้อมทีมรักษาความปลอดภัย เดินทางไปถึงโรงพยาบาล เพื่อขอตรวจสอบตึกในโรงพยาบาล เนื่องจากเกรงว่าอาจมีทหารซุ่มอยู่ตามตึก อย่างไรก็ตาม นายพายัพได้เจรจากับเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลจะให้การ์ดเดินแถวเรียงหนึ่ง ตรวจตึก แต่เมื่อเจ้าหน้าที่อนุญาตให้เข้าไป การ์ดเสื้อแดงกลุ่มใหญ่ได้กระจายเข้าค้นทั่วโรงพยาบาล
30 เมษายน 2553
นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน ได้ออกมาขอโทษเหตุการณ์ดังกล่าว โดยอ้างว่าไม่ใช่มติของแกนนำ และเป็นการกระทำไม่เหมาะสม พร้อมทั้งระบุว่ายินดีให้ความสะดวกกับทางโรงพยาบาลในทุกด้าน รวมทั้งจะไม่มีการเข้าไปภายในโรงพยาบาลเพื่อตรวจค้นอีก นอกจากนี้ แกนนำ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน ยังชี้แจงว่าการเข้าไปตรวจค้นโรงพยาบาลเป็นการตอบคำถามของสื่อมวลชน ที่มีข่าวว่าทหารซุ่มอยู่ในอาคาร นายพายัพจึงเข้าไปเพื่อตรวจดูว่ามีทหารอยู่จริงหรือไม่ ตนนึกว่าจะไปแค่กับสื่อ และไม่คิดว่าจะพามวลชนเข้าไปด้วย ต่อจากนี้ขอยืนยันว่า จะห้ามคนเสื้อแดงที่ไม่ได้มีอาการบาดเจ็บ เข้าโรงพยาบาลจุฬาฯ เด็ดขาด โดยยังยึดแนวทางไม่เข้าไปรบกวนโรงพยาบาลหรือสถานที่ราชการ
ขณะที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน แถลงว่า ขออภัยโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ รวมทั้งประชาชน อีกครั้ง ยืนยันจะไม่มีการเข้าไปภายในโรงพยาบาลอีก ขณะเดียวกันชี้แจงเหตุที่เข้าไปตรวจค้นภายในโรงพยาบาลจุฬาฯ เนื่องจากไม่ไว้ใจเจ้าหน้าที่ทหาร พร้อมยอมรับเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของหลายฝ่าย ยืนยันไม่มีความตั้งใจจะสร้างให้เกิดภาพเหมือนเป็นการข่มขู่ อยากให้เข้าใจความรู้สึกของคนที่ตกเป็นเหยื่อ จึงมีความจำเป็นต้องดูแลความปลอดภัยของประชาชนให้ดีที่สุด
ด้านนายพายัพ ปั้นเกตุ อ้างว่า จากการสังเกตการณ์หลายวัน พบว่ามีการเคลื่อนไหวของทหารในโรงพยาบาลจริง จึงต้องการเรียกร้องโรงพยาบาล และบริษัทเอกชนที่มีอาคารสูงรอบพื้นที่การชุมนุม อย่าให้เจ้าหน้าที่ทหารใช้พื้นที่หรือให้ที่พักพิง
2 พฤษภาคม 2553
มติแกนนำ นปช.แดงทั้งแผ่นดินเปิดสองฝั่งให้รถสามารถกลับรถหน้าโรงพยาบาลได้ พร้อมทั้งรื้อบังเกอร์เกาะกลางถนนในตอนบ่าย แต่ไม่ได้ถอยร่นกำลังไปที่แยกสารสินแต่อย่างใด
3 พฤษภาคม 2553
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่ง ประเทศไทยว่าจะมาพูดถึงการคลี่คลายสถานการณ์ ความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ เป็นการสะสมปัญหามาเป็นระยะเวลานานหลายปี ที่สะสมมาทั้งหมดทำให้เกิดความแตกแยกร้าวลึก คำตอบทางการเมืองที่อยากบอกประชาชนในวันนี้ คือการสร้างกระบวนการปรองดองขึ้นมา หากแผนการปรองดองและทำบ้านเมืองให้งสงบสุข การจัดการเลือกตั้งครั้งใหม่ในวันที่ 14 พฤศจิกายน เป็นเป้าหมายที่รัฐบาลพร้อมดำเนินการ โดยแผนปรองดองดังกล่าวมีองค์ประกอบดังนี้
1. ประเทศไทยเราโชคดีที่มีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นที่ยึดเหนี่ยวหลอมรวมคนไทยทั้งชาติ แต่น่าเสียดายที่มีคนกลุ่มหนึ่งดึงสถาบันกษัตริย์ลงมา มีความพยายามดึงสถาบันลงมาสู่ความขัดแย้งทางการเมือง การที่จะทำให้สังคมไทยเป็นปกติสุขต้องช่วยกัน ไม่ให้ดึงสถาบันกษัตริย์ลงมา แผนการ คือ ทุกฝ่ายต้องลงมาช่วยกันทำงานเทิดทูนสถาบันกษัตริย์ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้พระราชทานแก่ประชาชน ไม่ว่าเรื่องรู้รักสามัคคี อยากเชิญชวนทุกฝ่ายมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อไม่ให้ถูกดึงมาเป็นเครื่องมือความขัดแย้งทางการเมือง
2. การปฏิรูปประเทศ เพื่อแก้ไขความขัดแย้งอาจจะถูกมองว่าเป็นการเมือง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจากความไม่เป็นธรรมของเรื่องเศรษฏิจ หลายคนที่มาชุมนุมอาจจะสัมผัสโดยตรงว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ขาดโอกาส ถูกรังแก สิ่งที่เราจะช่วยกันทำ คือ ไม่ปล่อยให้เป็นเหมือนในอดีตที่รัฐบาลก่อนหน้านี้ที่ทำให้ระบบเกิดความไม่ เป็นธรรม
3. ในยุคปัจจุบันสังคมไทยเป็นสังคมข้อมูลข่าวสาร จริงอยู่ที่เราต้องเคารพสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า อำนาจของสื่อถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง อาศัยช่องโหว่ทางกฎหมาย แม้กระทั่งสถานีของรัฐก็ถูกกล่าวหาว่านำไปเสนอให้เกิดความขัดแย้ง สื่อต้องมีเสรีภาพ แม้จะมีอิสระในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่จะไม่สร้างความขัดแย้งภายในประเทศ สร้างความเกลียดชังและนำไปสู่ความรุนแรง
4. หลังจากชุมนุมเคลื่อนไหว มีหลายเหตุการณ์ที่เกิดความรุนแรงและสูญเสีย เกิดข้อสงสัยต่างๆนาๆ ไม่ว่าการสูญเสียเหตุการณ์ 10 เมษายน เหตุการณ์ที่สีลม หรือที่ดอนเมือง กระทบกระเทือนจิตใจประชาชน ทุกเหตุการณ์จำเป็นต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น ต้องมีคณะกรรมการอิสระเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงต่าง ๆ และให้เกิดความเป็นจริงต่อสังคม
5. เกี่ยวกับการเมืองโดยตรง แม้นักการเมืองจะเป็นคนกลุ่มเล็ก แต่เป็นตัวแทนของประชาชน ความขัดแย้งทางการเมืองที่ยาวนานกว่า 4-5 ปีที่ผ่านมา เกิดความรู้สึกไม่เป็นธรรมในหลายด้าน ทั้ง รัฐธรรมนูญ กฎหมายบางฉบับ การลิดรอนสิทธิไม่ว่าจะเป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับการลิดรอน หรือการตัด หรือการเพิกถอนสิทธิ ของผู้ที่เกี่ยวข้องกับวงการเมือง ถึงเวลาเอามาวาง และมีกลไกให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย เรื่องรัฐธรรมนูญ จนถึงความผิดการชุมนุมทางการเมือง ไม่ใช่เกิดความรู้สึกไม่ยอมรับ
4 พฤษภาคม 2553
นายวีระ มุสิกพงศ์ ประธาน นปช.แดงทั้งแผ่นดิน แถลงผลการประชุมแกนนำ นปช.ที่เวทีการชุมนุมสี่แยกราชประสงค์ เกี่ยวกับข้อเสนอแผนการปรองดอง 5 ข้อของนายกรัฐมนตรี หลังใช้เวลาประชุมกว่า 2 ชั่วโมงว่า มีข้อสรุป 4 ข้อประกอบด้วย
1. นปช.ยินดีรับข้อเสนอ แต่ขอให้รัฐบาลไปหาความชัดเจนมาก่อนว่าจะยุบสภาวันไหนคุยกันให้จบเสียก่อน
2. นปช.ต้องการความจริงใจที่รัฐบาลสามารถแสดงออกได้ด้วยการยกเลิกการคุกตาม ทุกรูปแบบ
3. นปช.ไม่ขอนิรโทษกรรมให้แก่ นปช.เองในข้อหาโค่นล้มสถาบันและการก่อการร้ายอย่างเด็ดขาดพร้อมสู้คดี
4. ต้องยุติการนำสถาบันกษัตริย์ลงสู่ความขัดแย้งในทุกมิติ
ขณะที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน แถลงบนเวทีปราศรัยว่า ขอให้ทางรัฐบาลไปหาความความชัดเจนในการยุบสภาต้องระบุวันให้ชัดเจนมาก่อน และแกนนำคนเสื้อแดงไม่ปฏิเสธเข้าร่วมกับแผนโรดแมปเพื่อป้องกันการบาดเจ็บล้ม ตาย ทางกลุ่มคนเสื้อแดงยืนยันว่าเรื่องการนิรโทษกรรม เรื่องการกล่าวหาความผิดก่อนหน้านี้ทางเสื้อแดงไม่ได้กำหนดเป็นเงื่อนไข หากรัฐบาลกล่าวหาว่าคนเสื้อแดงเป็นการก่อการร้ายทางผู้ชุมนุมจะสู้ถึงที่สุด หากกล่าวหาว่าโค่นล้มสถาบันทางเสื้อแดงพร้อมที่จะสู้เช่นเดียวกัน และขอให้เรียกร้องมาตรฐานเดียวกันกับคดีสั่งสังหารประชาชนในเหตุการณ์เดือน เมษายนจะต้องไม่มีการนิรโทษกรรมใดๆเช่นเดียวกัน เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวขอให้ดีเอสไอรับไปเป็นคดีพิเศษแล้ว ดำเนินการต่อไป
7 พฤษภาคม 2553
22.45 น. บริเวณแยกศาลาแดง เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนกราดยิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ยืนเฝ้าที่หน้าธนาคารกรุงไทย สาขาย่อย อาคารซูลิก เฮ้าส์ ถนนสีลม ทำให้กระจกหน้าธนาคารกรุงไทย ใกล้ตู้เอทีเอ็ม แตก 1 บาน มีรอยร้าว มีรูกระสุน 1 รู มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย เบื้องต้นทราบชื่อผู้บาดเจ็บ ได้แก่ ด.ต.วิสูตร บุญยังมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจปจ. สน.บางนา ถูกยิงบาดเจ็บที่หัวไหล่ซ้าย ส.ต.ท.กานต์นุพันธ์ เลิศจันทร์เพ็ญ เจ้าหน้าที่จร. เข้าเวร ปจ.สน.ทุ่งมหาเมฆ ถูกกระสุนยิงเข้าที่ท้อง บาดเจ็บสาหัส แพทย์นำเข้าห้องผ่าตัดช่วยเหลือเป็นการด่วน ด.ต.บรรจบ โยมา อายุ 40 ปี ผบ.หมู่สภ.เกาะทวด จังหวัดนครศรีธรรมราช ถูกยิงเฉี่ยวที่ข้อมือขวา ทั้งหมดถูกนำส่งโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม อีกรายเป็นชายไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 40 ปี รูปร่างท้วม ถูกกระสุนเจาะที่เหนือหัวเข่าซ้าย ถูกนำส่งโรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าคนร้ายน่าจะขับขี่รถจักรยานยนต์ออกมาจาก สีลม และคนซ้อนท้ายได้ใช้ปืนกราดยิง จากถนนฝั่งตรงข้าม บริเวณร้านแมคโดนัลด์ ก่อนจะขับรถหนีออกไปถนนพระรามที่ 4
8 พฤษภาคม 2553
01.00 น. ส.ต.ท.กานต์นุพันธ์ เสียชีวิตลงหลังถูกยิงที่ช่องท้อง อย่างไรก็ตาม รายการข่าวของสถานีโทรทัศน์ ไทยทีวีสีช่อง 3 รายงานว่า มือปืนได้ยิงกราดเข้ามาใส่บริเวณกลางจุดการชุมนุมของชาวสีลม ซึ่งมีประมาณ 20-30 คน ห่างจากร้านกาแฟโอบองแปงประมาณ 10 เมตร
01.25 น. สถานีโทรทัศน์ กองทัพบกช่อง 7 รายงานว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต 1 นาย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 6 ราย ทั้งนี้ แกนนำ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน ได้ออกมาปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกับเหตุที่เกิดขึ้น
01.30 น. ได้เกิดเหตุระเบิดที่บริเวณทางเข้าสวนลุมพินี ประตู 4 ถนนพระรามที่ 4 บริเวณดังกล่าวเป็นด่านตรวจความมั่นคงสนธิระหว่างตำรวจกับทหาร โดยระเบิดได้เกิดขึ้น 3 ครั้งในจุดดังกล่าว เบื้องต้นคาดว่าเป็นชนิดเอ็ม 79 เบื้องต้นมีตำรวจได้รับบาดเจ็บ 4 ราย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ทราบชื่อ ด.ต.เกียรติศักดิ์ อินทรัพย์ทวี ,ส.ต.ต.ณัฐกานต์ โพธิ์น้อย ,จ.ส.ต.เกษม แก้วกุล และจ.ส.ต.วิทยา พรหมสาลี ได้รับบาดเจ็บสาหัส อาการเป็นตายเท่ากัน เนื่องจากถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่บริเวณหน้าอกขวา เลือดตกในและที่โรงพยาบาลรามาธิบดี 1 ราย ทราบชื่อ ด.ต.ชูศักดิ์ แสงเย็น ทั้งหมด เป็นชุดปราบจลาจล สภ.หางน้ำสาคร จ.ชัยนาท มีเจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บอีก 3 นาย ประกอบด้วย จ.ส.อ.มงคล บุเมืองปัก ,พลทหารพีระศักดิ์ บุราธานี ,พลทหารณรงค์ชัย นิตยกุล ทั้งหมดเป็นทหารจากค่ายสุรธรรมพิทักษ์ ร.23 พ.1 จังหวัดนครราชสีมา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำตัวส่งโรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน และจะถูกดำเนินการส่งไปยังโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า จากการตรวจสอบวิถีกระสุนในเบื้องต้น คนร้ายน่าจะยิงวิถีโค้ง ข้ามสะพานลอย น่าจะเป็นการยิงมาจากทางด้านแยกศาลาแดง
ที่เกิดเหตุระเบิด ทางเข้าสวนลุมพินี ประตู 4 นั้นพบรอยระเบิด 3 แห่ง จุดแรกบริเวณกำแพงรั้วของสวนลุมพินี จุดที่สอง บริเวณกลางถนน จุดที่ 3 บนเสาไฟฟ้าใกล้ทางขึ้นสะพานลอยคนข้าม โดยเสาไฟฟ้าบิ่น แตกตรงจุดที่โดนระเบิดสูงจากพื้นประมาณ 7 เมตร โดยแรงระเบิดดังกล่าว ทำให้มีตำรวจ หทารได้รับบาดเจ็บ
05.00 น. จ.ส.ต.วิทยา พรหมสาลี เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ระเบิดที่บริเวณทางเข้าสวน ลุมพินี ประตู 4 โดยถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่บริเวณหน้าอกขวา เลือดตกใน ได้เสียชีวิตลง
12 พฤษภาคม 2553
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ระบุว่า การประชุม ศอฉ.ที่มี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ในฐานะผู้อำนวยการ ศอฉ. เป็นประธาน ได้ติดตามสถานการณ์และรายงานยอดผู้ชุมนุม โดย ศอฉ.จำเป็นต้องใช้มาตรการกดดันผู้ชุมนุมเต็มรูปแบบ เริ่มต้นจากการไม่ใช้กำลัง โดยกำหนดให้มีการตัดน้ำ ตัดไฟ สัญญาณโทรศัพท์ ระบบสาธาณูปโภค การเดินทางสาธารณะต่าง ๆ ทั้งรถโดยสารมวลชน รถไฟฟ้า และการเดินทางทางน้ำ บริเวณคลองแสนแสบ เพื่อปิดการเข้าพื้นที่ชุมนุม 100%
อย่างไรก็ตาม ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงอาจจะได้รับผลกระทบจากมาตรการนี้ โดยทหารที่อยู่ในพื้นที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการเข้า-ออก พื้นที่ดังกล่าว และมาตรการต่าง ๆ จะเริ่มได้ตั้งแต่เที่ยงคืนวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 เป็นต้นไป และจะหารือหน่วยงานเกี่ยวข้องเพิ่มเติมในวันนี้ โดย ศอฉ.ต้องขออภัยประชาชนและทูตประเทศต่าง ๆ ที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าว พร้อมย้ำว่า มาตรการกดดันการเข้าพื้นที่ชุมนุมเต็มรูปแบบเป็นมาตรการขั้นเบาที่สุดแล้ว รวมทั้งได้ประสานกับผู้ประกอบการบริเวณดังกล่าวในเบื้องต้น ส่วนมาตรการหลังจากนี้ยังไม่ขอเปิดเผย
ต่อมา พ.อ.สรรเสริญ ระบุว่า มาตรการกดดันผู้ชุมนุมแยกราชประสงค์เต็มรูปแบบ ในการตัดน้ำ ตัดไฟ ระบบสาธารณูปโภค และการเดินทางสาธารณะ ทั้งทางบกและทางน้ำ ยังไม่ได้ข้อยุติที่ชัดเจน และต้องหารือร่วมกันอีกครั้งในคืนวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 เพื่อกำหนดรายละเอียดว่าจะเป็นพื้นที่ใดบ้าง เพราะบริเวณดังกล่าวมีทั้งโรงพยาบาล และ สถานประกอบการต่างๆ รวมทั้งต้องมีการประเมินผลกระทบว่าระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมและประชาชนที่ไม่ เกี่ยวข้อง กลุ่มใดจะได้รับผลกระทบ และความเดือดร้อนมากกว่า เนื่องจากพบว่ากลุ่มผู้ชุมนุมก็ได้เตรียมมาตรการรองรับในเรื่องการตัดน้ำ ตัดไฟ ส่วนเส้นทางเดินรถเมล์ ใกล้พื้นที่ชุมนุม คงจะมีการพิจารณาให้วิ่งในวงนอกต่อไป และรถแท็กซี่ อาจจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าในบริเวณพื้นที่ชุมนุม
พ.อ.สรรเสริญ ระบุว่า มาตรการดังกล่าวของศอฉ.อาจจะไม่ได้ดำเนินการทันทีในเวลา 24.00 น. วันที่ 12 พฤษภาคม 2553 และอาจจะเลื่อนเป็นวัน13 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 ขึ้นอยู่กับการหารือกำหนดรายละเอียดและข้อสรุปให้เกิดความชัดเจน เนื่องจากมีประชาชนทั่วไปโทรศัพท์เข้ามาสอบถามจำนวนมาก เพราะเกรงจะได้รับความเดือดร้อนจากมาตรการนี้
13 พฤษภาคม 2553
11.30 น. ที่กรม ทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) แถลงผลการประชุม ศอฉ.ช่วงเช้าว่า การกำหนดมาตรการในการปิดล้อมสกัดกั้นพื้นที่บริเวณแยกราชประสงค์อย่างสมบูรณ์ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ เวลา 18.00 น. พื้นที่ที่มีผลกระทบทางด้านเหนือเริ่มตั้งแต่ แยกราชเทวี ไปตาม ถนนเพชรบุรี จนถึงแยกขึ้นทางด่วนเพชรบุรี ทางทิศใต้ ตั้งแต่แยกทางขึ้นด่วนเพชรบุรี ตามถนนวิทยุ จนกระทั่งสี่แยกถนนวิทยุ เรื่อยมาจนถึงถนนพระรามที่ 4 จนถึงแยกสามย่าน และขึ้นเหนือไปบรรจบจุดเริ่มต้นตามถนนพญาไท จนกระทั่งถึงแยกราชเทวี ซึ่งเป็นลักษณะกรอบสี่เหลี่ยม การบริการสาธารณะทุกชนิดทั้ง ไฟฟ้า ประปา การจราจร รถประจำทาง เรือ รถไฟฟ้าบีทีเอส (ไม่จอดรับส่งผู้โดยสารใน 4 สถานี คือ สถานีสยาม สถานีชิดลม สถานีเพลินจิตและสถานีราชดำริ (ปิดให้บริการทุกสถานีเวลา 19.00 น.)) และรถไฟฟ้าใต้ดิน (ไม่จอดรับส่งผู้โดยสารใน 2 สถานี คือ สถานีสีลมและสถานีลุมพีนี (ปิดให้บริการทุกสถานีเวลา 22.00 น.)) จะมีการระงับเริ่มตั้งแต่ 18.00 น. เป็นต้นไป โดยเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องดำเนินการตามขั้นตอนหลักสากลจากเบาไปหาหนัก 7 ขั้นตอน และมีการใช้อาวุธกระสุนจริงด้วย
12.00 น. ที่โรงแรมรามา การ์เดนส์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่าแผนปรองดองนั้นถูกยกเลิกไปเรียบร้อยแล้ว โดยรัฐบาลจะใช้มาตรการตัดน้ำ ตัดไฟ และเคลียร์พื้นที่บริเวณแยกราชประสงค์ให้เร็วที่สุด
14 พฤษภาคม 2553
ศูนย์สิทธิมนุษยชนเอเชียได้ส่งจดหมายเปิดผนึกให้แก่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีไทย เพื่อเตือนให้หยุดใช้กำลังทหารสลายการชุมนุมที่ราชประสงค์ มิเช่นนั้นแล้วนายอภิสิทธิ์จะตกเป็นผู้รับผิดชอบตามมาตรา 25 (3) (a) ของธรรมนูญกรุงโรมว่าด้วยศาลอาญาระหว่างประเทศ ในการจงใจใช้กำลังจู่โจมผู้ชุมนุมที่เป็นประชาชนโดยตรง ซึ่งการใช้กำลังกับผู้ชุมนุม นปช. ที่ราชประสงค์นั้นถือเป็นการกระทำที่ละเมิดต่อมาตราที่ 8 (2) (e) (i) ของ ธรรมนูญกรุงโรมว่าด้วยศาลอาญาระหว่างประเทศ นอกจากเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรียกเลิกการใช้กำลังทหารปราบปรามผู้ชุมนุมแล้ว ศูนย์สิทธิมนุษยชนเอเชียยังได้เสนอให้รัฐบาลไทยกลับมาใช้วิธีการเจรจากับผู้ ชุมนุม เนื่องจากไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ที่มีการสังหารผู้ชุมนุมเช่นวันที่ 10 เมษายน เกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
01.00 น. ดร.สุดา รังกุพันธ์ : ตอนประมาณตี ๑ เมื่อคืน มอไซค์ที่ขับผ่านแนวทหารที่ระดมกันมาหลักร้อยคนพร้อมปืนสงครามบริเวณเวิ้งเมโทรขาออก ถ.เพชรบุรี แค่ผ่านหน้า ทหารมันก็ยิงใส่ แล้วลากหายไป รวม ๓ คน ส่วนอีกรายที่ทดลองสันติวิธีแบบคุณน้าที่เปิดหน้าอก แกเปิดเสื้อและท้าทหารว่า "ยิงเลย" ทหารชั่ว ผู้ไม่มีสันติในกมลสันดานก็ยิงถวาย ล้มลง...เราไม่รู้ชะตากรรมคนทั้ง ๔...ข่าวที่ไม่เป็นข่าวเพราะสื่อคงหลบอยู่ในซอกขาหนีบอำมาตย์
01.50 น. มีผู้วางยาการ์ดเสื้อแดงในกาแฟเข้ารักษา รพ.เลิดสิน 21 ราย
09.40 น. ศูนย์เอราวัณสรุปเหตุการณ์เมื่อคืนบาดเจ็บ 11 ตาย 1 ราย
10.30 น. INN รายงานข่าวเสื้อแดงยึดรถทหาร 3 คันใช้ทรายกรอกถังน้ำมัน
11.30 น. นปช.แถลงเสธ.แดงโดนรัฐบาลสั่งเก็บ ขณะที่ รพ.วชิระเผยผ่าตัดแล้วยังอาการหนัก
12.00 น. บริเวณถนนสาทรเหนือมุ่งหน้าถนนพระรามที่ 4 เจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดการจราจร โดยกำลังเจ้าหน้าที่ทหารได้เคลื่อนพลเข้าแยกวิทยุ ขณะที่มีเสียงปืนดังขึ้นเป็นระยะๆ ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารก็ส่องอาวุธปืนไปตามอาคารสูงต่างๆ ส่วนพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนต่างพากันวิ่งหลบหนีอย่างชุลมุน
12.20 น. TPNEWS รายงานทหารยิงใส่ประชาชนใต้สะพานเบลเยียม และยึดแยกวิทยุคืนจากเสื้อแดงได้
12.30 น. อสมท.รายงานเสื้อแดงเผารถบัสตชด.ที่ถนนวิทยุ
13.30 น. บริเวณหน้าสนามมวยลุมพินี ถนนพระรามที่ 4 เป็นจุดเผชิญหน้ากันระหว่างกองกำลังทหาร และแนวร่วม นปช. โดยมีเสียงปืนยิงดังเป็นระยะ คาดว่าเป็นจากฝ่ายทหารที่ต้องการผลักดันไล่แนวร่วม นปช.ให้พ้นพื้นที่หน้าสนามมวยลุมพินี ที่พยายามรุกคืบเข้ามา ขณะเดียวกัน กลุ่มแนวร่วม นปช.ก็มีการยิงปะทัดยักษ์ และพลุตะไลเข้าใส่กองกำลัง ทหารเช่นกัน
13.55 น. บริเวณหน้าไนท์บาร์ซ่าร์ หลังเกิดเหตุปะทะกันระหว่างกองกำลังทหาร และกลุ่มแนวร่วม นปช. ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว และหลังสิ้นสุดเสียงปืน ทหารรุกคืบเข้ามาใกล้ประชิดแนวร่วม นปช. มากขึ้น
14.00 น. ทหารยิงกระสุนจริงจากสวนลุม มีผู้สื่อข่าวต่างชาติ และช่างภาพมติชนบาดเจ็บ
14.30 น. ชินวัฒน์ หาบุญพาด พูดบนเวที อ้างแกนนำไม่แตก วีระ-ไพจิตร อักษรณรงค์-วิสา-อดิศรแค่ป่วยเลยพัก ยังอยู่แถวๆที่ชุมนุม ขณะที่จรัล ดิษฐาอภิชัยยอมรับทั้งหมดลาออกแล้ว แต่วีระยังทำงานให้ นปช. เจรจากับรัฐบาล
15.00 น. มูลนิธิร่วมกตัญญูรายงานว่ามีผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์สลาย กลุ่ม นปช. ที่บริเวณหน้าบ่อนไก่ ใกล้สนามมวยลุมพินี ถนนพระรามที 4 มีผู้ถูกยิงมาส่งที่โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท 1 ซึ่งขณะนี้เสียชีวิตแล้ว 1 คน ทราบชื่อ นายอินแตง เทศวงษ์ อายุ 33 ปี ถูกยิงเข้าที่หน้าอกด้านขวา
15.20 น. ทหารและกลุ่มคนเสื้อแดงยังมีการปะทะกันบริเวณแยกราชปรารภ เสียงปืนยังคงดังขึ้นเป็นระยะ ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมได้ถอยร่นไปบริเวณแยกประตูน้ำ ถนนราชปรารภทั้งสองฝั่ง และบริเวณสถานีรถไฟฟ้าราชปรารภ
เจ้าหน้าที่ของศูนย์เอราวัณ สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร ได้เปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 12 ราย จากเหตุการณ์ปะทะในช่วงเช้าระหว่างกองทัพและกลุ่มคนเสื้อแดง โดยทหารได้เปิดฉากยิงหลังจากกองทัพประกาศสลายการยึดพื้นที่ของกลุ่มคนเสื้อ แดง
15.30 น. รพ.กล้วยน้ำไทเผยเหตุปะทะแยกบ่อนไก่ ผู้ชุมนุมตาย 1 เจ็บ 6 สาหัส 2 ราย
15.35 น. ทักษิณออกแถลงการณ์ 4 ข้อ
1. ยุติการใช้เจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจ พร้อมอาวุธสงครามร้ายแรง ทำการสลายการชุมนุมของประชาชนโดยทันที และสั่งให้เจ้าหน้าที่กลับกรมกองที่ตั้ง
2. ประกาศยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินที่ประกาศในทุกจังหวัด โดยทันที
3. เปิดการเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุม โดยทันทีเพื่อหาทางออกทางการเมือง โดยสันติวิธี
4. ร่วมเจรจาหาแนวทางปรองดองอย่างแท้จริงกับทุกฝ่ายในชาติ เพื่อให้ประเทศชาติมีประชาธิปไตย และความยุติธรรม และประเทศเดินหน้าต่อไปได้ ทั้งนี้การปรองดองต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของ ความยุติธรรม เมตตาธรรม และความจริงใจ
16.10 น. แกนนำนปช.แถลงมติให้ทหารหยุดยิง เลิกพรก.ฉุกเฉิน มาร์คยุบทันที ไม่ให้รักษาการนายกฯ มาร์ค-เทือกต้องเข้าสู่กระบวนยุติธรรมเช่นเดียวกับนปช.
16.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารประจำการอยู่ที่ราบบ่อนไก่ ถนนพระรามที่ 4 ได้รุกคืบคุมพื้นที่อีกครั้ง ด้วยการกลับมาวางลวดหนาว เพื่อขอคืนพื้นที่ หลังจากกลุ่ม นปช. ได้รุกเข้ามานำออกไปก่อนหน้านี้ โดยตลอดเวลามีเสียงคล้ายปืน และประทัดดังอย่างต่อเนื่อง โดยทหารใช้ยุทธวิธี ทั้งกระสุน และแก๊สน้ำตาช่วยเคลียร์พื้นที่
16.40 น. อนุพงษ์ หน.ศอฉ.ประกาศห้ามเข้าถนนพระราม4 ฝ่าฝืนคุก2ปี
17.30 น. ทหารเพิ่มกำลังยึดประตูน้ำ ณัฐวุฒิเรียกร้องคนใกล้ที่ชุมนุมเข้าร่วมเพื่อกดดันขับไล่อภิสิทธิ์
18.00 น. ปริญญา เทวานฤมิตกุล พูดทางช่อง3เรียกร้องรัฐบาลหยุดยิง เปิดทางนปช.ยุติชุมนุมเอง แล้วเปิดเจรจา
18.00 น. ได้เกิดเหตุปะทะกันบริเวณแยกบ่อนไก่และผู้ชุมนุมถูกยิงเสียชีวิต 1 รายกระสุนเข้าที่ท้ายทอยเสียชีวิตทันที ขณะที่ทหารยังคงปักหลักประเมินสถานการณ์ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
18.19 น. เวทีแจ้ง มีการยิงกระสุนปืนออกมาจากกรมตำรวจ
18.20 น. ที่เวทีคนเสื้อแดง บริเวณสี่แยกราชประสงค์ เกิดเหตุวุ่นวายขึ้นหลังจากเกิดเหตุเสียงดังคล้ายปืนด้านข้างเวทีและระเบิดควันหลังเวที ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 15 คน
18.25 น. นายจตุพรถูก นำตัวลงจากเวที หลังมีการยิงมาที่บริเวณ รปส.
18.40 น. จตุพรกลับบนเวที บอกทีมกฏหมายเสื้อแดงเร่งทำงาน เหตุการณ์ที่รปส.กลับสู่ความปรกติ
18.40 น. เจ้าหน้าที่ทหารได้เคลื่อนรถหุ้มเกราะเข้าไปในสี่แยก ศาลาแดงโดยมาจากถนนวิทยุ ทันที่รถหุ้มเกราะมาถึงก็ได้รับการต่อต้านจากกลุ่มผู้ชุมนุมอย่างหนักทันที ทั้งขว้างขวด ระเบิดขวด ระเบิดควันเข้าใส่ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเปิดเครื่องขยายเสียงเตือนว่าจะนับ 1-3 เท่านั้นและจะปฏิบัติการยิงทันที ทั้งนี้ทันทีที่สิ้นเสียงจากเครื่องขยายเสียงก็ได้ยินเสียงปืนจากทหารบนทาง เดินรถไฟฟ้าทันที พร้อมกับการตอบโต้ของผู้ชุมนุมที่ขว้างระเบิดขวด ระเบิดควันเข้าใส่ เกิดเสียงดังอย่างต่อเนื่อง
18.58 น. พิธีกรแจ้งว่ามี ประชาชนมาจากสมุทรปราการแหกด่านเข้ามาเสริมได้แล้ว
19.00 น. ราย งานจากสื่อต่างประเทศ แสดงความคิดเห็นไปในทิศเดียวกันว่าประเทศไทยกลายเป็น failed state ในขณะที่เวียตนามประธานอาเซียนกำลังดำเนินการกับสหประชาชาติต่อกรณีไทย
19.04 น. นิสิตสินธุ ไพรแจ้งบนเวทีว่าประชาชนจากหลากหลายจังหวัดได้พยายามแหกด่านเข้ามากรุงเทพฯ แล้ว
19.05 น. นิสิตบัดนี้ ได้ยกระดับกลายเป็นสงครามประชาชนแล้ว
19.07 น. โฆษกบนเวทีแจ้งว่าได้มีการยิงปืนจากนักแม่น ปืนที่หน้าผากของผู้ชุมนุมหญิงซึ่งอยู่บริเวณหลังเวทีเสียชีวิต
19.10 น. โฆษกแจ้งว่า อาจจะมีนักแม่นปืนแอบซ่อนบนตึกและขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวตรวจสอบให้ดีก่อน
19.20 น. เกิดเหตุเสียงดังคล้ายระเบิดขึ้นที่บริเวณรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีศาลาแดง และที่บริเวณถนนพระราม 4 จำนวน 5 ลูก อีกทั้งยังมีเสียงคล้ายปืนยิงเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุม ขณะที่ประชาชน และผู้ชุมนุมต่างวิ่งหนีตายโกลาหล
นอกจากนี้ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ได้ถูกกระสุนปืนยิงเข้าที่กะโหลกศีรษะ ได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลหัวเฉียว โดยเดเนียล เชิร์ฟ ผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุเสียงอเมริกา (วีโอเอ) เผยว่ามีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นฝีมือของมือปืนซุ่มยิงหรือสไนเปอร์ ระหว่างที่อยู่ภายในพื้นที่ชุมนุมที่มีการปิดล้อม หลังจาก พล.ต.ขัตติยะ ถูกยิงก็มีเสียงปืนยิงต่อสู้และเสียงระเบิดเกิดขึ้นภายในพื้นที่ปิดล้อมของ กลุ่มผู้ชุมนุมด้วย นอกจากนี้ ได้มีการตัดไฟที่บริเวณสวนลุม และศาลาแดงแล้ว
20.20 น. เกิดเหตุระเบิดถนนราชปรารภสี่แยกประตูน้ำ 4 ลูกทำให้ทหารและประชาชนต้องหลบเข้าไปในตึกใบหยก
20.40 น. บริเวณแยกสวนลุมพินี มีการกระทบกระทั่งกันระหว่างเจ้าหน้าที่กับกลุ่มผู้ชุมนุม หลังจากที่ผู้ชุมนุมนำกรวยสีส้มที่เจ้าหน้าที่นำมาปิดเส้นทางการจราจรออก เพื่อเส้นทางให้ประชาชนสัญจรไปมา พร้อมกับนำกระถางต้นไม้มาขวางประตูทางออกสวนลุมพินีและผลักดันเจ้าหน้าที่ทหารไม่ให้ออกมา จากสวนลุมพินี หลังจากนั้นไม่นานได้มีเสียงปืนดังติดต่อกันหลายนัด เจ้าหน้าที่ยิงกระสุนยางใส่ผู้ชุมนุม ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายรายหนึ่งในนั้นถูกยิงด้วยกระสุนยางเข้าที่ต้นคอ ผู้ชุมนุมได้นำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว โดยมีผู้บาดเจ็บจำนวน 20 ราย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลหัวเฉียว และโรงพยาบาลตำรวจ 1 ราย
หลังจากมีการปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ที่บริเวณแยกศาลาแดง ประตู 2 สวนลุมพินีทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการรื้อแผงจราจร ขว้างปาก้อนอิฐ และสิ่งของจำนวนหลายสิบราย ในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย ถูกยิงเข้าที่เบ้าตาซ้าย ทราบชื่อนายชาติชาย ชาเหลา อายุ 25 ปี เป็นผู้ชุมนุมกลุ่มเสื้อแดง
21.00 น. บริเวณถนนสาทร ปรากฏว่าได้มีเจ้าหน้าที่ทหารซึ่งตั้งอยู่ที่บริเวณถนนพระรามที่ 4 ก่อนถึงสะพานไทยเบลเยี่ยม เจ้าหน้าที่ทหารตั้งแนวป้องกันปิดถนนไม่ให้ประชาชนผ่านเข้าไปที่ถนนพระราม ที่ 4 ตามประกาศของ ศอฉ. เจ้าหน้าที่ทหารได้ยิงกระสุนใส่ประชาชนที่ขับรถไปตามเส้นทางถนนสาทร ช่วงบริเวณแยกไฟแดงซอยสาทร 6 หน้าโรงแรมเอฟเวอร์กรี น จนได้รับบาดเจ็บไป 1 ราย ทราบชื่อ นายปิยะรัตน์ ไม่ทราบนามสกุล อายุ 18 ปี โดยถูกยิงเข้าที่บริเวณตรงตาตุ่มขาด้านขวา ทำให้กระสุนทะลุเจ้าหน้าที่ศูนย์เอราวัณช่วยลำเลียงส่งไปที่โรงพยาบาลตากสิน นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ทหารยังได้ยิงขู่ประชาชนที่ขับรถเข้ามาตามถนนสาทรมุ่ง หน้าถนนพระรามที่ 4
นพ.เพชรพงษ์ กำจรกิจการ ผู้อำนวยการศูนย์เอราวัณ เปิดเผยว่า ตัวเลขเมื่อเวลา 22.00 น. ว่าจำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ทหารเข้ากระชับ พื้นที่การชุมนุมคนเสื้อแดงที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์ จนทำให้เจ้าหน้าที่ทหารตำรวจปะทะกับกลุ่มผู้ชุมนุม มีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งสิ้น 101 ราย เสียชีวิต 7 ราย
ต่อมาสำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่ามีผู้บาดเจ็บ 125 ราย และเสียชีวิต 10 ราย
21.15 น. ไทยรัฐ : ฝรั่งเศสโวยไทยปล่อยนักข่าวถูกยิงเจ็บปางตาย
21.35 น. โฆษก : พี่น้องขอนแก่นรวมตัวศาลากลางหลายพันคน
22.00 น. โฆษก : คนเสื้อแดงหักด่านพระรามสี่ร่วมพันนำโดยแกนนำสหภาพการไฟฟ้า
22.37 น. โฆษก: คนเสื้อแดงหลายพันอยู่หน้าเทศบาลเมืองลำปาง
23.00 น. โฆษก : ด่านประตูน้ำถูกทหาร, การ์ดพันธมิตรฯ , เสื้อน้ำเงินยิงและทำร้ายคนที่เข้าชุมนุมมา
23.19 น. สรุปตัวเลข ผู้เสียชีวิต 8 รายเจ็บ 101 ราย
15 พฤษภาคม 2553
00.00 น. สมยศ พฤกษาเกษมสุข : สามเหลี่ยมดินแดงมีการปะทะกันอีก ลากศพออกมาได้สามคน มีการเผายางเป็นย่อมๆ วัยรุ่นถือไม้ออกมากันมากมาย แท๊กซี่จอดดูเหตุการณ์กันมาก มีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัดแล้ว ราวกับสงครามกลางเมือง ผมเห็นศพถูกนำส่งราชวิถีจนสมองเครียด พยายามจะเข้าไปราชประสงค์ ชูบัตรนักข่าว มันกลับชูปืน M16 บอกว่าไม่ให้เข้าอันตรายถึงชีวิต ผมเห็นนักข่าวคนหนึ่งถูกหามใส่เปลตะโกนบอกว่ายิงกูทำไมกูเป็นนักข่าว
Facebook: มีการรณรงค์ให้ไปชุมนุมกันที่หน้าศาลากลางในวันพรุ่งนี้เช้า
00.15 น. c-box: แท็กซี่เสื่อแดงรวมตัวกันที่ราชปรารภเพื่อปิดล้อมทหาร ขณะเดียวกันฝ่ายทหารได้ยิงปืนสวนออกมา นี้มีผู้บาดเจ็บหลายราย
00.30 น. @tidarat: รายงานจากวิทยุว่ามีการยิงเข้าไปในล็อบบี้โรงแรมอินทรา ประตูน้ำ เบื้องต้นมีผู้บาดเจ็บ
00.30 น. ได้เกิดเหตุมีรถตู้โตโยต้าคอมมิวเตอร์ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ฮค 8561 กรุงเทพมหานคร ขับมาบนถนนราชปรารภ มุ่งหน้าไปทางดินแดง ด้วยความเร็วสูง เมื่อวิ่งมาถึงบริเวณสถานีแอร์พอร์ตลิงก์มักกะสัน ก่อนข้ามทางรถไฟ ได้มีด่านตรวจค้นทหารส่งสัญญาณให้หยุดรถ แต่รถตู้คันดังกล่าวกลับไม่ยอมลดความเร็ว เจ้าหน้าที่จึงใช้อาวุธปืนยิงยางรถยนต์ แต่รถตู้ยังพยายามวิ่งพุ่งชนด่าน ทหารจึงตัดสินใจระดมยิงด้วยกระสุนยางและกระสุนจริงจนรถพรุนไปทั้งคัน ทำให้คนขับตู้เป็นชายวัยกลางคนถูกยิงที่สีข้างขวาได้รับบาดเจ็บสาหัส และได้มีเด็กชายอายุประมาณ 10 ปี ถูกกระสุนลูกหลงเข้าที่หน้าท้องจนไส้แตก อาการสาหัส นอกจากนี้ยังมีคนขับรถแท็กซี่อีก 1 คน ที่รอรถกลับบ้านบริเวณดังกล่าว ถูกยิงเข้าที่ลำตัวบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน เจ้าหน้าที่รีบนำคนเจ็บทั้ง 3 ราย ส่งโรงพยาบาลพญาไท 1 เพื่อช่วยชีวิตอย่างเร่งด่วน
00.35 น. UDDThailand: สามเหลี่ยมดินแดงตัดแยกราชปรารภตึงเครียด นปช. เผายางรถยนต์ มีเสียงปืนดัง
00.42 น. Facebook: ขณะนี้ที่ซอยรางน้ำ เสื้อแดงถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัส ไม่สามารถเข้าไปช่วยได้ กลุ่มคนเสื้อแดงคนอื่นๆ ที่ดินแดงประมาณ200คน พยายามเข้าไปช่วยนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่ทหารยิงสกัดไม่ให้เข้าไปช่วย ข่าวที่ไม่ยืนยันแจ้งเพิ่มเติมว่าทหารจะเก็บศพพร้อมกันในภายหลัง
01.10 น. บอร์ด ประชาไท : มีการสังหารประชาชนบริเวณแยกโรงแรมเซ็นจูรี่ รายงานแจ้งว่ามีทั้งผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต
01.13 น. facebook: นายสรไกร ศรีเมืองปูน ชาวกาฬสิน อายุ 39 ปีพนักงานชิโนไทถูกยิงเข้าทางหัว สมองไหลกระจาย ขาขาด ส่งรพ.ราชวิถี นายสรไกรพยายามจะเดินทางเข้าไปสมทบกับกลุ่มคนเสื้อแดง บนถนนราชปรารถหลบอยู่หลังต้นไม้ แต่พอเดินออกมาก็ถูกยิงพรุนด้วยกระสุนสงครามยังติดต่อญาติไม่ได้ ที่ รพ.ราชวิถี คนเจ็บราว 8 คน ตายแน่ๆ สองคนแล้วเจ้าหน้าที่ยังไม่ยอมให้ข้อมูลและไม่ให้รายละเอียด
รายงานจากแหล่งข่าวที่อยู่บริเวณสามเหลี่ยม ดินแดง แจ้งว่าขณะนี้เสื้อแดงอยู่กันพันกว่าคน สถานการณ์ตึงเครียดมาก ระหว่างนั้นมีเสียงคล้ายระเบิด ลงติดๆ กันสองลูก
01. 30 น. Poomjit: ผู้เสียชีวิตรายที่ 39 นางสาวสันธนา สรรพศรี ถูกยิงแถวราชปรารภ-หมอเหล็ง ศพอยู่รพ.พญาไท 1
06.00 น. ศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉิน กรุงเทพมหานคร หรือ ศูนย์เอราวัณ รายงานว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 157 ราย ถูกนำตัวส่งรักษาตามโรงพยาบาลต่างๆ 15 แห่ง ในจำนวนนี้มีผู้บาดเจ็บสาหัสต้องเข้าห้องไอซียู 7 ราย ส่วนยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุปะทะรอบบริเวณการชุมนุม เพิ่มขึ้นจากเดิม 10 ราย เป็น 17 ราย โดยผู้เสียชีวิตทั้ง 6 ราย นำส่งโรงพยาบาลราชวิถี 3 ราย และโรงพยาบาลพญาไท 1 อีก 3 ราย ทั้งนี้มีผู้เสียชีวิตที่เป็นชาวต่างชาติ 3 ราย
07.10 น. ศูนย์เอราวัณเผย เหตุ14 พ.ค. ตาย 16 เจ็บ 156 ราย
07.30 น. เลขาธิการUN แสดงความเสียใจ วอน 2 ฝ่ายหันหน้าเจรจาหลีกเลี่ยงความสูญเสีย
09.00 น. นัดรวมพลหน้าศาลากลางจังหวัดทั่วประเทศเพื่อช่วยชีวิตผู้ชุมนุมราชประสงค์
09.23 น. คุณบังสุกุล: อำมาตย์พยายามล็อบบี้มหาอำนาจสองประเทศ, การยิงนักข่าวเพราะต้องการปิดภาพความรุนแรง
09.28 น. มีเหตุการยิงกันที่บริเวณด่านสวนลุมฯ
09.30 น. เวทีรปส.: หมอเหวงอ้างว่ากระสุนปืนที่ใช้สังหารเส ธ.แดง มาจากปืน Lapua .308
09.37 น. เวทีรปส.: หมอเหวงเสนอรัฐหยุดยิงทันที ถอนทหารทันที เลิกพรก. ทันที
09.50 น. เวทีรปส.: รัฐห้ามนักข่าวเข้าไปในสถานที่ชุมนุมและด่านทหาร
10.00 น. พบศพบริเวณ หน้าถนนราชปราถภ ใกล้ซอยรางน้ำและโรงแรมเซ็นจูรี่
10.56 น. โฆษก: แท็กซี่สุวรรณภูมิรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศถูกทหารยิงยังไม่ทราบชะตากรรม
10.57 น. โฆษก: ทหารที่ได้รับการปลดประจำการไปแล้วถูกกองทัพ เรียกตัวกลับมาใหม่โดยอ้าง พร ก.ฉุกเฉิน
11.15 น. โฆษก: เสื้อแดงสมุทรปราการที่จะเดินทางมาที่ รปส. ถูกสกัดที่ทางลงทางด่วนเมื่อวานนี้
11.20 น. โฆษก: เสื้อแดงที่บ่อนไก่คุมพื้นที่บริเวณสะพานไทยเบลเยี่ยมได้ แต่ถูกพวกเสื้อเหลืองลอบโจมตีจากที่สูง ขอให้ช่วยกันส่งน้ำอาหารไปช่วยด้วย
12.00 น. เว็บบอร์ดพันทิปประกาศหยุดให้บริการ
วิทยุชุมชนปทุมฯ: ประกาศจะ"ปิดจังหวัดปทุมธานี" หากทหาร รัฐบาลและผู้ที่อยู่เบื้องหลัง ยังไม่ยอมหยุดเข่นฆ่าประชาชน
12.42 น. โฆษก: คนเสื้อแดงที่สามเหลี่ยมดินแดงขาดแคลนน้ำและอาหาร
12.43 น. โฆษก: คนขอนแก่นรวมตัวกันที่ศาลากลางจังหวัด
12.44 น.โฆษก: พล.อ.อภิวันท์นำทีมยื่นหนังสือไปเลขาธิการสหประชาชาติเมื่อวานนี้
13.00 น. ณัฐวุฒิ:
- การตั้งด่านทหารรอบๆการชุมนุมทำให้เกิดการปะทะบาดเจ็บล้มตาย
- เหตุการณ์ตั้งแต่ตอนกลางวันถึงเวลานี้ยังไม่มีอะไรดีขึ้นเลย
- สงครามกลางเมืองอาจจะหลีกเลี่ยงไม่ได้
- การปะทะที่สามเหลี่ยมดินแดงตั้งแต่เช้ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 ราย
- นายอภิสิทธิ์หากยังไม่ยุติปฏิบัติการ เหตุการณ์การเสียชีวิตเพิ่มเติมจะเกิดขึ้นอีก
- สองวันที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิตกว่า 27 ศพ รวมหลายวันก่อนเป็น 50 กว่าศพ
- การกระทำของนายอภิสิทธิ์หน้ามืดไปแล้ว แทนที่จะหยุด ก็คิดว่าจะฆ่าให้หมดไปก่อน
- ขอเรียกร้องให้รัฐบาลโดยเฉพาะนายอภิสิทธิ์ หยุดยิงและถอนกำลังทหารออกไปก่อน ภายในเวลา 5-10 นาทีนี้
- นี่กำลังเป็นวิกฤติครั้งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และถ้าปล่อยไปถึงเวลามืดค่ำ ผมเองก็ไม่ทราบว่าประเทศไทยจะเกิดอะไรขึ้นมาอีก
- เวลานี้ศพของพี่น้องเราส่วนใหญ่ ถูกนำไปวัดตะพาน ราชปรารภ 27 พี่น้องที่เข้าไปก็เข้าไม่ได้เพราะถูกทหารยิง
- หน่วยการ์ดไปสำรวจ พบวัตถุระเบิดบริเวณสวนลุมพินี โดยแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งไปเก็บกู้
- ระเบิดที่ท้ายรถเก๋งที่รามอินทรา ทำให้กรุงเทพฯกลายเป็นแดนมิกสัญญีไปแล้ว
13.14 น. หมอเหวง:
- พี่น้องที่ชุมนุมรอบนอกต้องการเพียงเข้ามาร่วมชุมนุมที่บริเวณรปส.เท่านั้น การบรรยายของนายปณิธาณ เป็นการใส่ร้ายทำให้เข้าใจว่าเขาเหล่านั้นเป็นกองกำลัง
- การกล่าวหาประชาชนมีM16 ขอเรียกร้องหาหลักฐานที่ว่ามีทหารบาดเจ็บด้วยอาวุธปืนดังกล่าว
13.18 น. ณัฐวุฒิ:
- สถานการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นหลังนายอภิสิทธิ์แสดงอาการไม่พอใจ ซึ่งต่อเนื่องด้วยเหตุการณ์การลอบยิงเสธ.แดง การเข้ามาปิดล้อม การเข่นฆ่าประชาชนของทหาร
- การเรียกร้องให้นายสุเทพฯ เข้าสู่ขบวนการต้องทำให้คนตายเพิ่มขึ้นเช่นนี้หรือ
- ข้อเรียกร้องให้มีการหยุดยิงอย่างเด็ดขาดในทันที การเจรจาต่างๆจึงจะเริ่มต้นขึ้นได้
- การฆ่าประชาชนทั้งหมดเกิดขึ้นจากกลไกของรัฐล้วนๆ
13.29 น. โฆษก: คนที่สามเหลี่ยมดินแดนไม่กลัวตาย การเจรจากับทรราชย์จะไม่มีทางเกิดขึ้น
15.00 น. บก.ลาย จุด: มีการรวมกลุ่มของประชาชนที่หน้าพรรคเพื่อไทย เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลยุติการเข่นฆ่าประชาชน
15.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารได้ประกาศขอพื้นที่บริเวณถนนราชปรารภ สี่แยกประตูน้ำคืน โดยขอให้ประชาชนและผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องออกจากพื้นที่โดยทันทีเข้าไป อยู่ในซอยต่างๆ เจ้าหน้าที่ทหารไม่รับรองความปลอดภัย พร้อมกันนั้นพลแม่นปืนก็ได้ขึ้นไป อยู่บนสะพายลอยเพื่อคุ้มกันและรักษาความปลอดภัยให้ทหาร สำหรับบ้านเรือน, โรงแรม และห้างร้านต่างๆบริเวณถนราชปรารภที่มีการปะทะกันตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคมพบว่าได้รับความเสียหายเป็นอย่างมากมี ทั้งรอยกระสุนปืนและระเบิด
15.30 น. หัตถา: เหตุการณ์ที่ราบ 11 ไม่มีสิ่งผิดปรกติใดๆ ทั้งสิ้นตามข่าวที่ลือกัน
16.00 น. เชียงใหม่รวมตัวกันพรุ่งนี้เดินไปยื่นหนังสือสถานทูตอเมริกา
16.30 น. โฆษก: มีการแจ้งว่าถุงอาหารที่อยู่ในที่ชุมนุมถูกวางยา ขอให้ตรวจสอบให้ดีก่อนการรับประทาน
16.55 น. บีบีซี ตีข่าว กรุงเทพฯ เป็นโซนการยิงกระสุนจริง
17.00 น. โฆษก: ทหารพยายามปิดเส้นทางเสบียง ในขณะที่คนเสื้อแดงนับพันก็ปิดกั้นเส้นทางเสบียงของทหารเช่นกัน
รายงานข่าวสองแหล่ง แจ้งว่ามีการยิงบริเวณถนนงามดูพลี มีประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
17.35 น. ข่าว สด เผยภาพที่นักข่าวต่างประเทศถ่ายมือสไนปเปอร์บนตึกชาญอิสสระได้
18.40 น. วิทยากร: ผู้หญิงท้องถูกยิงที่สามเหลี่ยมดินแดงเช้านี้
18.35 น. เนชั่น: จนท.มูลนิธิฯถูกสอยร่วงขณะเข้าช่วยคนเจ็บ
18.45 น. สำนักข่าวไทย : ทหารประกาศให้ถนนพระราม 4 ตั้งแต่สะพานลอยไทยเบลเยี่ยมถึงชุมชนบ่อนไก่ เป็นพื้นที่ใช้กระสุนจริง
อ.ใจ เผยไม่เชื่อมีทหารต่างชาติ "ผมไม่เชื่อว่าอำมาตย์ใช้ทหารต่างประเทศฆ่าคนเสื้อแดง ไม่เชื่อแน่นอน เพราะกองทัพไทยและนายพลไทยมันเลวอยู่แล้ว ฆ่าพวกเรามาไม่รู้กี่รอบตั้งแต่ ๑๔ ตุลา"
19.00 น. ขวัญชัย: ศพเสียชีวิตเพิ่มเติมบริเวณสามเหลี่ยมดินแดงไม่สามารถเข้าไปนำออกมาได้
19.03 น. แหล่งข่าวที่เชื่อ ถือได้แจ้ง มีนักข่าวต่างชาติ 8 คนติดอยู่ที่ซอยราชปรารภ 8 ติดอยู่ในบ้านประชาชน ออกมาไม่ได้ เพราะมีทหารดักอยู่
19.40 น. สนนท.แจ้งว่าจะร่วมชุมนุมกับครูประทีปที่แยกคลองเตยค่ำวันนี้ และจะมีการชุมนุมที่ ม.ราม วันจันทร์ที่ 17
19.50 น. ณัฐวุฒิแถลงข่าว
- การเรียกรองให้หยุดยิงของนปช.ช่วงกลางวันล้มเหลวโดยสิ้นเชิง
- การสังหารของกองกำลังรัฐบาลทำให้ประชาชน ผู้สื่อข่าว รวมถึงเจ้าหน้าที่พยาบาล เสียชีวิต และบาดเจ็บ
- ศอฉ. ได้ออกมาแถลงการณ์ เสมือนกับประสบชัยชนะในสงครามที่ได้กวาดล้างศัตรูให้บาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวน มากทั้งๆที่บุคคลเหล่านั้นเป็นประชาชนมือเปล่า
- ศอฉ. ได้แถลงผลการเสียชีวิตของประชาชน 4 ข้อ ซึ่งไม่ปรากฏเลยว่าเป็นการยอมรับว่าประชาชนที่บาดเจ็บล้มตายเป็นเพราะการยิง กระสุนปืนจากฝ่ายทหาร
- ที่เจ็บปวดที่สุด ศอฉ.แถลงว่า นี่เป็นการปฏิบัติการต่อผู้ก่อการร้าย เพราะไม่มีรายงานใดๆทั้งสิ้นว่าประชาชนมีอาวุธร้ายแรงในมือ
- นี่เป็นการใช้อาวุธสงครามสังหารประชาชนคนไทยอย่างเลือดเย็นที่สุด รุนแรงที่สุด ด้วยรูปแบบที่หนักหนาสาหัสที่สุด มีปฏิบัติการทางทหารทั่วกรุงเทพ มีหน่วยสไนปเปอร์ มีหน่วยจู่โจม ซึ่งทำราวกับว่าประชาชนไม่สามารถไว้ชีวิตเอาไว้ได้
- การใช้กระสุน M79 สามารถใช้ในปืน M203 ได้ ซึ่งถูกประกอบไว้ในปืน M16 ของกองกำลัง ดังนั้นการยิง M79 น่าจะมาจากปืนของทหาร
- ประณามการสังหารประชาชนบริเวณซอยรางน้ำ ซึ่งมี รูป ภาพ แสดงอย่างชัดแจ้ง
- เผยภาพ ของผู้เสียชีวิตเลือดท่วมซึ่งเป็นอาสาสมัครของวชิระพยาบาล ซึ่งออกไปปฏิบัติหน้าที่ดูแลผู้บาดเจ็บ ซึ่งชัดเจนว่าอยู่ในชุดเครื่องแบบพยาบาล พร้อมบัตรพยาบาล
- ทหารไม่ยอมให้ คนเสื้อแดงที่ถูกยิงบาดเจ็บ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล
- ยอดเสียชีวิตกว่า 20 ชีวิตสองวันที่ผ่านมา แต่อภิสิทธิ์เลือกที่จะดำเนินการต่อ โดยทางแกนนำจะดำเนินการในทางนานาชาติ
20.15 น. จตุพร แถลง
- การที่ศอฉ.ออกมาระบุว่าทางผู้ชุมนุมมีผู้ก่อการร้าย 500 เป็นการสื่อให้รู้ว่า จะมีการออกใบอนุญาตฆ่าจำนวน 500 ใบ
- ผู้เสียชีวิตทั้งหมดถ้าเป็นผู้ก่อการร้ายจริง ทำไมจึงไม่มีศพทหารแม้แต่รายเดียว
- การที่ออกข่าวว่า M 79 มาจากคนเสื้อแดงนั้น ข้อเท็จจริงคือ ทำไมจึงไม่ทำให้มีทหารบาดเจ็บเลย แต่เชื่อว่าการยิง M79 ดังกล่าวเป็นการออกใบอนุญาตฆ่าประชาชนเท่านั้น
- ความตายที่เกิดขึ้น ทุกชีวิตเป็นมือเปล่า
- ความตายและความบาดเจ็บเป็นการอธิบายทั้งหมดว่าใครใช้อาวุธปราบปรามเข่นฆ่า ประชาชน ไม่ว่าจะมีการออกทีวีมาแก้ตัวอย่างไรก็ตาม
- การสังหารฆ่าประชาชนเป็นเพราะการไม่ต้องการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของคนสั่งการ
- ขอยืนหยัด เพื่อทวงความยุติธรรมกับทุกชีวิต ที่นายอภิสิทธิ์สั่งฆ่าอย่างเหี้ยมโหด และยัดข้อหาก่อการร้าย "เราเป็นหนี้ชีวิตทุกชีวิตที่พลีชีพ ทั้งเมื่อวานนี้ วันนี้ และไม่รู้อีกกี่วัน"
- เราขอเพียงเศษเสี้ยวของความจริง ความยุติธรรม มอบให้กับคนที่ตายไป "พวกผมที่มีชีวิต จะสู้ต่อไป เป็นหน้าที่ของเราที่ต้องทวงหาความยุติธรรม ไม่ว่าจะเป็นสวรรค์หรือนรก"
20.35 น. ข่าว CNN ยันคนเสื้อแดงไม่มีอาวุธ แต่ทหารใช้ปืนสไนปเปอร์ยิงประชาชน
21:49 น. อบริจิ้น: รพ.จุฬาฯห้ามสื่อเข้า
22:02 น. อบริจิ้น: แดงอุดรไม่หวั่นพรก.ฉุกเฉินรวมพลทุ่งศรีเมือง
22.09 น. อบริจิ้น: บชน.จะขอปิดถนนเพิ่มอีกหลายสาย
22.48 น. อบริจิ้น: สมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าอาวาสวัดชนะสงครามแถลงขอบิณฑบาต ชีวิตประชาชน
22.55 น. จตุพร: ส.น.ลุมพินีถูกทหารถล่มด้วยM79 แล้ว 7 ลูก หลังเมื่อวานได้ช่วยสกัดททหารที่ทำการสังหารประชาชน
23.15 น. จตุพร: ยืนยันโรงแรมเซ็นจูรี่ไม่ได้ใช้เป็นฐานของทหาร
23.18 น. บอร์ด ประชาไท : เรียกร้องให้แกนนำช่วยดูแลแนวหน้าที่บ่อนไก่ เปรยมี ส.ส. อ้างเป็นเสื้อแดงมาป่วนไม่เข้าท่า
23.47 น. โฆษก: อย่าเชื่อข่าวลือเกี่ยวกับความรุนแรงบริเวณซอยเพชรบุรี คนเสื้อแดงจะไม่มีการดำเนินการใดๆบริเวณดังกล่าวทั้งสิ้น
23.52 น. บก.ลาย จุด: ทหารแจ้งให้นักข่าวออกจากพื้นที่แยกศาลาแดง ณ ตอนนี้ คาดว่าอาจมีปฏิบัติการอะไรบางอย่างในอีกไม่กี่นาทีต่อจากนี้
24.00 น. ศูนย์เอราวัณ กรุงเทพมหานคร รายงานรายชื่อผู้เสียชีวิต จากเหตุการณ์ทหารกระชับพื้นที่การชุมนุมของ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน ตลอดช่วง ตั้งแต่วันที่ 14-15 พฤษภาคม ว่ามีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 24 ราย และได้รับบาดเจ็บ 187 ราย
16 พฤษภาคม 2553
02.00 น. มีการรวมตัวกันของประชาชนที่หน้าที่ทำการพรรคเพื่อไทย สะพานเหลืองประมาณ 300 คน
06.00 น. 'กำปั้น'นักร้องวงบาซูถูกยิงขณะออกมาสูบบุหรี่ระเบียงคอนโดซอยรางน้ำ ส่วนน้าชาย(หรือเพื่อน)ของเขาตาย คาดสไนเปอร์สอย (ข่าวดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 ช่วงบ่ายๆ)
06.30 น. วัดปทุมวนาราม (อยู่หลังเซ็นทรัลเวิลด์) ประกาศเป็นเขตอภัยทาน หรือเขตห้ามฆ่า ผู้ชุมนุมเข้ามาลี้ภัยได้ แต่ห้ามมีอาวุธ
06.39 น. UDDThailand : เด็ก 10 ขวบที่ถูกยิงไส้ทะลักเมื่อคืนที่เกิดเหตุการณ์ทหารยิงรถตู้นั้น บัดนี้เสียชีวิตแล้วครับ ที่รพ. พญาไท1
07.00 น. รายงานผู้เสียชีวิตวานนี้ 24 ศพ ตาย198 แทบทั้งหมดเป็นผู้ประท้วงและชาวบ้าน ไม่มีทหาร แสดงว่าไม่มีการ"ปะทะ"แต่ทหารเลือกยิงตามความพอใจ
08.29 น. VoiceTV : เสธ.แดงอาการทรุดความดันลด-ไตวาย
09.28 น. โฆษก: เจ้าหน้าที่จากประเทศสหรัฐฯ มาเยี่ยมที่หลังเวที
09.32 น. CNN ออกข่าวต่อเนื่องว่ายอดผู้เสียชีวิตสูงขึ้นไม่หยุด
09.41 VoiceTV เผยยอดผู้เสียชีวิตจากการชุมนุมใน รบ.อภิสิทธิ์(ในขณะนี้) เป็นที่สองจากยุคถนอม
09.50 น. PPT ให้สมญานามอภิสิทธิ์ว่า "the Butcher of Bangkok" หรือ เพชรฆาตแห่งกรุงเทพฯ
10.00 น. หมอเหวง: นปช.ยืนอยู่บนเส้นทางสันติ ปฏิเสธสงครามกลางเมือง อภิสิทธิ์ต้องหยุด ผมเชื่อว่าพรุ่งนี้(17)มันยังสลายเราไม่ได้
facebook: ศาลาแดงฝนตก เงียบ ยังไม่มีการปะทะหลังทหารถอยไปอยู่ตามซอกซอยสีลม มีแต่บังเกอร์ตั้งตลอดแนว ปชช.ต้องเดินเท้า ร้านรวงปิด
10.20 น. ประกาศจากโรงพยาบาลราชวิถี ชายไทยไม่ทราบชื่อ 2 ศพ
10.40 น. บก.ลายจุด: เวทีย่อยที่คลองเตยยังคงดำเนินการอยู่อย่างต่อเนื่องโดย สนนท. และ ครูประทีป และบ่ายนี้จะเปิดเวทีย่อยที่ดินแดง
11.00 น. ร่างแถลงการณ์ถึงองค์กรต่างประเทศ หยุดสังหารประชาชน (ร่วมลงชื่อได้ที่ pokpongl@gmail.com)
11.58 น. ก่อแก้วเผย ศอฉ. เตรียมใช้ระเบิด ยิงรถถังลูกละล้าน ทำลายตู้คอนเทนเนอร์ประชุมของแกนนำแดง ก่อนหน้านี้พาสื่อค้นเวที ปราศจากอาวุธตามการใส่ร้ายของ ศอฉ.
12.00 น. กลุ่มสิทธิมนุษย์ชนศึกษาออกแถลงการณ์ อภิสิทธิ์ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง
12.20 น. มติชน : 55 ส.ว. ปรามรัฐบาลหยุดทหารยิงประชาชน
13.00 น. สปริงนิวส์เผย ชุมชนบ่อนไก่ถูกตัดน้ำ ตัดไฟ มีหญิงชราป่วยอยู่ที่บ้าน ออกไปหาหมอไม่ได้ สภาพบ้านที่ขาดน้ำ ขาดไฟ
13.50 น. ณัฐวุฒิพาสตรีที่มาขายของมาแถลงข่าว พบว่าถูกด่านทหารค้น คลำตัวทั้งตัว ปล้นเงิน 2,500 บาท ตบหน้า และก่อนปล่อยให้กราบเท้าทหาร 3 ครั้ง
13.55 น. ณัฐวุฒิ: ขอให้พี่น้องที่ อยู่รอบๆชุมนุม และที่ประจำด่าน ได้โปรดรับรู้ว่า
1. ศอฉ. ออกโทรทัศน์ ว่าจะประกาศเคอร์ฟิว์ ซึ่งจะทำให้พื้นที่อยู่ภายใต้อำนาจของทหาร ซึ่งอาจจะไม่แน่นอนว่า อาจจะมีการบล็อกพื้นที่เหมือนเดิม หรือว่าจะใช้กำลังเข้ามาสลายการชุมนุม ณ ที่นี้ หากท่านใด คนใด กลุ่มใด ประสงค์จะเดินทางออกจากที่ชุมนุม หรือเดินทางออกไป การ์ดทุกด่านจะไม่มีการทักท้วงหวงห้าม ท่านสามารถตัดสินอิสระได้ทันที หากท่านประสงค์ปักหลักต่อสู้ด้วยมือเปล่า ด้วยสันติวิธี ไม่มีความรุนแรง ตามจุดยืนที่ประกาศ ท่านก็มีสิทธิ์ มีเสรีภาพ ที่จะต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ จนถึงที่สุดเช่นเดียวกัน
2. ผมได้ให้ทีมงานไปตรวจสอบรอบบริเวณ แล้วพบว่า มีพี่น้องเราที่ตั้งใจมาปักหลักต่อสู้ แต่ด้วยว่าภาระทางครอบครัว ทำให้มีความจำเป็นนำเด็กเล็กมาบนเวทีนี้ด้วย ต้องกราบเรียนท่านที่มีบุตรหลานเด็กเล็ก หากรัฐบาลประกาศเคอร์ฟิวส์ ขอให้ท่านที่มีบุตรหลาน ท่านสามารถปฏิบัติได้โดยการนำบุตรหลานออกไปจากที่ชุมนุม หากท่านประสงค์จะนำ บุตรหลานออกจากพื้นที่ชุมนุม ท่านสามารถทำได้อย่างอิสระ หากตัวท่านประสงค์ร่วมอยู่ในการชุมนุม ผมก็หวังใจว่า ท่านจะนำลูกหลานเด็กเล็ก ไปพักอยู่ในสถานที่ปลอดภัย ให้เขารู้ว่าจะไม่มีการนำสวัสดิการของเด็กไปเป็นเครื่องต่อรอง ขอให้ท่านนำไปบริเวณวัดปทุมวนาราม ซึ่งเราเชื่อว่าที่นั่นจะทำให้ลูกหลานของท่านปลอดภัย
3. แกนนำจะมีการประชุม ประเมินสถานการณ์ และสรุปท่าทีในการขับเคลื่อนในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้ กราบเรียนพี่น้องว่า หากท่านประสงค์จะปักหลักต่อสู้ด้วยกัน ยืนหยัดด้วยกันที่นี่ สู้ด้วยสันติวิธี ด้วยเลือดเนื้อ จิตวิญญาณอิสระ ขอให้ท่านเตรียมการให้พร้อมทันที ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ใครยังไม่ได้กินข้าวกินปลา หากินเสีย ร่างกายใครเหน็ดเหนื่อยอ่อนเพลีย ให้งีบพักผ่อน หลังจากนั้นหากท่านตัดสินใจเด็ดขาด รวมตัวหน้าเวที เพื่อฟังมาตรการเด็ดขาดจากแกนนำที่จะประกาศให้ท่านต่อไป ท่านใดคิดอ่านอย่าง ใดเป็นเสรีภาพของท่าน ตัดสินใจได้เลย
14.30 น. ที่บริเวณบ่อนไก่ ถนนพระรามที่ 4 แนวร่วม นปช.ยังคงระดมยางรถยนต์เข้ามาบริเวณดังกล่าวจำนวนมาก โดยใช้วิธีขนใส่รถกระบะ จากนั้นได้นำมาจุดไฟเผาขวางเต็มพื้นที่ถนนพระราม 4 เกิดกลุ่มควันดำหนาทึบ ขณะที่มีฝนตกลงมาเพียงเล็กน้อย ทำให้ต้องปิดการจราจรบริเวณดังกล่าวอย่างถาวร
พบช่างภาพจากสถานีประชาชนได้รับบาดเจ็บ จากเหตุการณ์ในบริเวณแยกบ่อนไก่ โดยถูกยิงที่เกราะอ่อนขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่ ทำให้เกิดอาการจุดเสียดยังไม่สามารถลุกขึ้นมาทำการรักษาพยาบาลได้ ทราบชื่อคือ นายพุทธิพงศ์ ชูแสง
15.00 น. เมื่อ วานนี้ (15พ.ค.) องค์กรมนุษยชน HRW ออกมาเรียกร้องให้ รบ.ประกาศยกเลิศเขตการใช้กระสุนจริง
แบรด อดัมส์ ผู้อำนวยการแห่งหน่วยงานฮิวแมนไรท์วอช ประจำกรุงนิวยอร์ก ชี้ว่าการประกาศใช้เขตใช้กระสุนจริงของรัฐบาลไทย เพื่อใช้ต่อสู้กับกลุ่มผู้ประท้วงคนเสื้อแดง เป็นสิ่งที่ล่อแหลมอันตราย โดยการประกาศเขตดังกล่าว ทำให้รัฐบาลไทยเสี่ยงที่จะเขยิบเข้าสู่การละเมิดสิทธิมนุษยชนของพลเรือน ซึ่งจะทำให้ทหารคิดอย่างตื้น ๆ ว่า เขตใช้อาวุธจริงก็คือเขตยิงกระสุนได้อย่างอิสระ โดยเฉพาะเมื่อความรุนแรงขยายตัว ทั้งที่พื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตชุมชนชาวบ้าน และรัฐบาลไทยจะต้องตระหนักว่า มีประชาชนคนธรรมดาอาศัยอยู่ที่นี่ด้วย ไม่ใช่แต่เฉพาะผู้ประท้วงเท่านั้น
15.13 น. พบ ฮ.บินบริเวณอนุสาวรีย์ชัย
15.18 น. เสื้อ แดงที่เข้าราชประสงค์ไม่ได้ ยังคงปักหลักที่พระรามสี่หน้าพรรคเพื่อไทย
15.30 น. ไทยรัฐ: พรรคร่วมรัฐบาลเดินเกม บีบนายกฯไขก๊อก
โฆษก: มีพลแม่นปืนซุ่มอยู่บนตึกQhouse สาธร
16.00 น. Red Intelligence - ภาพการปะทะกันบริเวณบ่อนไก่ ยังมีการยิงอย่างต่อเนื่องจากทหารที่ซ่อนตัวบนตึกกำลังก่อสร้างหน้าสนามมวย ลุมพินี มีผู้ถูกยิงหลายคน รถพยาบาลวิ่งออกทุก 5 นาทีบางครั้งใช้เวลากว่าชั่วโมงจึงสามารถรับคนเจ็บออกมาได้ เฮลิคอปเตอร์บินสังเกตการณ์ตลอดเวลา
16.30 น. โฆษก - มีการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัย ซึ่งยังต้องการเครื่องเสียงที่นั่น
16.40 น. โฆษก:
- จะมีพระภิกษุสวดมนต์ที่อนุสาวรีย์ชัยฯเวลาเย็น 6 โมง
- ที่มุกดาหารมีการชุมนุมที่ศาลากลาง
- ให้ระวังการนั่งมอเตอร์ไซต์รับจ้างในบริเวณที่ชุมนุม
17.00 น. อริสมันต์:
- เมื่อคืนนี้ได้มีการตั้งเวที 3 จุดดินแดง, คลองเตย, และอนุสาวรีย์ชัยฯ
- ในเวลานี้ที่ต่างจังหวัดมีการตั้งเวทีขึ้นเพื่อที่จะกดดันรัฐบาลว่าไม่มี ความชอบธรรม วันนี้อภิสิทธิ์เป็นทรราชย์เต็มตัวแล้ว การเข่นฆ่าประชาชนยังไม่ยุติ
- ขณะนี้ความไม่พอใจต่อรัฐบาลอภิสิทธิ์กำลังลุกลามไปทั่วประเทศแล้ว
17.05 น. โฆษก: ที่บริเวณพระแม่มารีแถวดินแดง มีทหารอยู่จำนวนมาก แต่คนเสื้อแดงสามารถสะกัดกั้นได้
17.30 น. ศอฉ. แถลงทางทีวียังไม่ถึงเวลาประกาศเคอร์ฟิว เพราะยังคุมสถานการณ์ได้ แต่การปิดล้อมราชประสงค์ยังทำต่อไป
18.40 น. 106 องค์กรออกแถลงการณ์ร่วมรัฐหยุดยิงเดี๋ยวนี้
19.00 น. ชมรมฟ้าใหม่ เผยภาพการลุกฮือที่จังหวัดอุบลวันนี้ และภาพการชุมนุมในงานศพวีรชนเมื่อวานนี้
19.50 น. คนออสเตรเลียร่วมกับคนไทยในซิดนีย์ร่วมออกมาประท้วงอภิสิทธิ์ด้วยการเรียก ร้องให้ รบ.ออสเตรเลียกดดัน รบ.ไทยด้วยการตัดความสัมพันธ์ทางการทูตทั้งหมด เนื่องจากความโหดร้ายป่าเถื่อนของนายอภิสิทธิ์
17 พฤษภาคม 2553
01.00 น. มีผู้ขับรถกระบะโตโยต้า วีโก้ วิ่งด้วยความเร็วมาจากซอยคอนแวนต์ผ่านหน้าอาคารซีพีทาวเวอร์ เข้าไปยังถนนสีลม ระหว่างนั้นมีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด และเกิดการยิงต่อสู้กันขึ้นระหว่างผู้ที่อยู่ในรถกับทหารที่คุมพื้นที่อยู่ ริมถนน จนรถกระบะก็เสียหลักพุ่งชนรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จอดอยู่บริเวณข้างทาง หน้าธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ จากนั้นได้มีผู้นำคนเจ็บ 2 ราย ส่งโรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน ทราบชื่อภายหลังว่า จ่าอากาศเอกพงศ์ชลิต ทิพยานนทการ อายุ 51 ปี ได้รับบาดเจ็บถูกยิงที่ศีรษะ และเรืออากาศตรีอภิชาติ ช้งย้ง อายุ 26 ปี ได้รับบาดเจ็บที่มือ ทหารทั้ง 2 ราย สังกัดอากาศโยธิน กองทัพอากาศ โดยรายงานข่าวแจ้งว่า จ่าอากาศเอกพงศ์ชลิต ได้เสียชีวิตแล้ว คาดว่าเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นเพราะความเข้าใจผิด
11.00 น. บีบีซี ออกข่าวเพิ่มเติม “รัฐบาลไทยยิงแม้กระทั่งผู้บริสุทธิ์มือเปล่า”
12.15 น. ณัฐวุฒิ เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์หยุดยิง หลังผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 35 ราย และผู้บาดเจ็บจำนวนมาก
12.20 น. จตุพร ขอบคุณองค์กรต่างๆ, วุฒิสภา 55 คน, องค์กรต่างประเทศ ที่ขับเคลื่อนเรียกร้องให้มีการหยุดฆ่าประชาชน
- ทาง ศอฉ. เดิมทีจะกระชับปิดล้อมให้เข้มข้นยิ่งขึ้น แต่ล่าสุดมีแผนโยนแก๊สน้ำตาจากเฮลิคอปเตอร์
- ถึงฆ่าคนหมดราชประสงค์ ดินแดง บ่อนไก่ คลองเตย ลานพระบรมรูปฯ บ้านเลขที่ 111 ปัญหาก็จะไม่จบ
- ขบวนการจัดฉากไปปล้น7/11แล้ววางตีนตบเอาไว้เป็นของรัฐบาลเพื่อเป็นข้ออ้างใน การจัดการกับคนเสื้อแดง
- สื่อมวลชนมีอิสระจะไปในพื้นที่ชุมนุมได้ทั้งหมดเพื่อพิสูจน์ความจริง
- ทางนปช.ยืนอยู่ในที่พร้อมจะเจรจาเพื่อไม่ให้มีการสูญเสียชีวิตประชาชนเพิ่มเติม
12.36 น. ณัฐวุฒิให้รัฐหยุดยิง นปช.จะชวนพี่น้องหยุดการชุมนุมรอบๆ กรุงเทพฯ แล้วการเจรจาจะเริ่มต้นได้
12.45 น. จตุพรแจ้งว่าประธานวุฒิสภาได้ส่งตัวแทนไปราบ11เพื่อไปยื่นหนังสือให้หยุดยิง หลังจากนั้นจะเดินทางมาที่ราชประสงค์
13.30 น. โฆษก: มีการรวมตัวกันของประชาชนที่แหลมฉบัง อุดรฯ เชียงใหม่ ขอนแก่น มหาสารคาม ฯลฯ
15.00 น. ถึงเส้นตายศอฉ.ขีดเส้นให้ผู้ชุมนุมออกจากราชประสงค์ แต่ผู้ชุมนุมที่ปักหลักอยู่พากันร้องเพลงและเต้นรำ สะท้อนขวัญกำลังใจที่ดี
15.30 น. ผ่านเส้นตายไปครึ่งชั่วโมง ยังไม่มีการเข้าปราบปราม พระสงฆ์ขึ้นสวดมนต์บนเวที และบางรูปได้กล่าวขอพึ่งพระบารมีในหลวง
16.13 น คนสนิท"สมศักดิ์"ออกแถลงการณ์นามสมาคมรัฐศาสตร์ มก.ให้พรรคร่วมถอนตัว-ส.ส.ลาออก
17.00 น. แกนนำนปช.แถลงที่เวทีราชประสงค์ เผย USA , UN จ่อยื่นมือ
- มีผู้เสียชีวิตแล้ว65ชีวิต หากไม่หยุดยิงยังฆ่าต่ออภิสิทธิ์คงได้ฉายานายกฯ100ศพ
- มีการตั้งเวทีชุมนุมอื่นเพิ่มเติม ทั้งดินแดง,คลองเตย และที่อื่นๆ
- มีสัญญาณรัฐบาลUSA UNจะเข้ามาช่วยคลี่คลายสถานการณ์ เรารอการติดต่ออยู่ แต่หากผ่านคืนนี้ไม่ได้รับการติดต่อ พรุ่งนี้เช้าจะหาทางออกอื่นๆเพิ่มเติม
- นปช.ยังหวังทางออกด้วยการเจรจากับรัฐบาล โดยหวังว่าพรุ่งนี้จะมีทางออกอย่างชัดเจน
17.16 น. ตำรวจเข้าเจรจากับนางประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ แกนนำนปช.ซึ่งตั้งเวทีปราศรัยที่แยกคลองเตย แต่ไม่สำเร็จ ครูประทีปยังขึ้นเวทีให้คนมาชุมนุม ทั้งนี้พื้นที่การชุมนุมบริเวณคลองเตยเริ่มทำหลังคากันแดดกันฝนแล้ว
17.50 น. มหาลัยเที่ยงคืนออกแถลงการณ์เรียกร้องให้สหประชาชาติเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จ จริงการใช้อำนาจของรัฐบาลไทยตาม "1503 Procedure"
18.05 น. ผู้สื่อข่าวภาคสนามรายงานผ่านวิทยุเยอรมันว่า ขณะนี้มีการนำเอารถน้ำมันออกมาจากปั๊ม ปตท.ที่บ่อนไก่ ซึ่งสื่อของรัฐบาลกล่าวหาว่าเป็นฝีมือคนเสื้อแดง ขอยืนยันว่าไม่ใช่การกระทำของคนเสื้อแดง แต่เป็นการกระทำของฝ่ายรัฐบาลเพื่อสร้างสถานการณ์ความรุนแรงเช่นเดียวกับรถ แก๊สเมื่อสงกรานต์ปีที่แล้ว เพราะที่ปั๊มน้ำมันนั้น เสื้อแดงไม่สามารถเข้าไปได้ เพราะทหารยิงตลอดเวลา
19.00 น. นปช.แดง ชลบุรี ทยอยเข้าชุมนุมทางเข้านิคมฯ แหลมฉบัง ชลบุรี - นปช.ฉะเชิงเทรา เริ่มการปราศัยใกล้ศาลากลางจังหวัด รอสัญญาณการเคลื่อนไหวหลักจากส่วนกลาง
19.10 น. รายงานจากSMS - มือปืนซุ่มยิงอยู่บนชั้นดาดฟ้าตึกที่กำลังก่อสร้าง ถัดจากตึกลุมพินีทาวเวอร์
19.50 น. รายงานจาก Michael Yon ผู้สื่อข่าวที่บังเอิญอยู่ในโรงแรมดุสิตเมื่อคืนนี้ พร้อมภาพความเสียหายจากระเบิดM79
20.00 น. New Mandala ตีตราความรุนแรงที่เกิดขึ้นในกรุงเทพฯครั้งนี้ว่า " Bangkok: This is a massacre" หรือ "กรุงเทพฯ: นี่คือการสังหารหมู่" โดยกล่าวว่าถ้าไม่นับกรณีคนชุดดำในเหตุการณ์10เม.ย.แล้ว คนเสื้อแดงล้วนแต่ต่อสู้ด้วยมือเปล่าทั้งสิ้นแต่ต้องถูกฆ่าสังหารอย่าง เหี้ยมโหดมากกว่า29คนในสองสามวันที่ผ่านมา
20.20 น. คุณคำเกิ่ง เผยภาพบริเวณบ่อนไก่ช่วงเย็นพร้อมแจ้งว่า "ผู้ชุมนุมสามารถรุกคืบถึงตึกลุมพินีเทาเวอร์แล้ว โดยมีผู้ถูกยิงที่หัว 1 ราย"
20.25 น. บก.ลายจุดแสดงความเห็น "เช็คกับมวลชนนอกราชประสงค์แล้ว ยืนยันว่าหลังจากราชประสงค์แตก ไม่มีใครยอมหยุด จะเริ่มต้นเริ่มเวทีใหญ่ในสถานที่อื่นอีกครั้ง ทุกฝ่ายกำลังเตรียมการแผนสองแล้ว โมเดล พ.ค.35"
18 พฤษภาคม 2553
00.20 น. ข่าวไม่ยืนยันจากเว็บบอร์ดประชาไท ถึงการเตรียมการสลายการชุมนุมกลุ่มย่อย เช่นที่ บ่อนไก่ คลองเตย ดินแดง ตอนเช้ามืดวันนี้
00:24 น. นปช.รวมตัวสะพานเหลือง ตั้งเวทีปราศรัย อ้างเข้าราชประสงค์ไม่ได้
00:28 น. เวทีอนุสาวรีย์บอกเลิก ตี 1 ตอนนี้ยังปราศรัย สลับดนตรี การ์ด นปช.คุมเข้ม ได้ยืนเสียงปะทะจาก ราชปรารภ เป็นระยะ
00.50 น. Guardian ออกบทความชี้ว่าอภิสิทธิ์เตรียมยื่นข้อเสนอที่จะถูกปฏิเสธ เพื่อจะได้เป็นข้ออ้างในการเข่นฆ่าครั้งต่อไป นอกจากนี้ยังชี้ว่านายอภิสิทธิ์หมดภาพความเป็นคนสุภาพและไม่ทุจริตไปแล้ว แต่ได้ภาพเป็นคนเหี้ยมโหดเพราะสั่งการฆ่าครั้งใหญ่สุดในรอบ50ปี
01.00 น. รายงานจากเฟซบุ๊คแจ้งว่า สถานีไทยคม แคราย คนล้นหลามมาก
01.20 น. ภาพข่าวจากบีบีซีแสดงให้เห็นการยิงประชาชนโดยทหารใช้อาวุธปืนร้ายแรง
การชุมนุมที่มหาลัยรามคำแหงช่วงคืนที่ผ่านมา มีรายงานว่า มีเสียงปืนไล่ยิงประมาณ 6-7 นัดมาจากทางศูนย์หนังสือ ม.รามฯ เข้าใส่ผู้ชุมนุมหมอบหนีอุตลุต
06.00 น. บก.ลายจุด - เช้ามืด 18 พ.ค. 53 มีเหตุก่อความวุ่นวายเพื่อสร้างสถานการณ์ให้ นปช. ตกเป็นจำเลยโดยมีการเผาอาคารและทุบทำลายร้านค้าธนาคารโดยสามารถจับตัวผู้ก่อเหตุเป็นเด็กอายุ 14 ปีระหว่างที่ นปช . จะเข้าไประงับเพลิงก็ถูกขู่ไม่ให้เข้ามา เพราะมีระเบิดลูกเกลี้ยง
'ดีเจอ้น'ชัยนรินทร์ วิทยุชุมชนคนแท็กซี่ รายงานว่าได้ไปปราศรัยกับกลุ่มผู้ชุมนุมลาดพร้าวตรงข้ามห้างอิมพีเรียล ผู้เข้าร่วม1500คน เป็นเวทีเปิด ให้พี่น้องที่อยากแสดงความรู้สึกมาพูด มีพี่ผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าความรู้สึกว่า"ได้เห็นการเสียชืวิตของคนเสื้อแดงที่ถูกทหารยิงในวัน ที่ 16 พ.ค. แล้วเสียใจอย่างยิ่งรัฐบาลสั่งให้ทหารเข่นฆ่าประชาชนทำไม เราเพียงแค่แสดงออกทางการเมืองของเราอย่างปกติธรรมดา ทำไมต้องฆ่าเรา ..." ทางเวทีนี้จะคงดำเนินต่อไป มีการตั้งทีวีหลายจุดในบริเวณเพื่อฟังการถ่ายทอดสด ที่เวทีราชประสงค์สลับสับเปลี่ยนกับเวทีปราศรัย
07.00 น. หัวหน้าฝ่ายสิทธิมนุษยชน UN เรียกร้องให้รัฐบาลและผู้ประท้วงอดกลั้น และเปิดเจรจายุติการปะทะ
08.00 น. CNN เสนอรายงานข่าวคนกรุงเทพฯรู้สึกตัวเองตกเป็นตัวประกันในบรรยากาศสงครามทหาร ตำรวจเต็มเมือง เครื่องบินเฉียดหัวไปมา ธุรกิจปิดตาย ขณะที่หงา คาราวาน เผยแพร่เพลงที่เรียกร้องสันติภาพให้คนกรุงผ่านรายการเรื่องเล่าเช้านี้ช่อง3 โดยระบุผู้ชุมนุม"บ้าสี"และเป็น"กบฎ"
08.50 น. Guardian ชี้ว่า ประเทศไทยส่งสัญญาณเบื้องต้นแห่งการเป็น "รัฐล้มเหลว" (failed state)
09.30 น. มีวัยรุ่นจุดไฟเผาอาคารร้างย่านดินแดง ผู้ชุมนุมได้จับตัวไว้และช่วยกันดับเพลิงไม่ให้ลุกลามไปหาอพาร์ตเม้นต์และ ธนาคารข้างเคียง
10.30 น. แกนนำนปช.เวทีราชประสงค์แถลงข่าว
- ขอให้รัฐบาลสั่งหยุดยิง จะได้พาผู้ชุมนุมรอบนอกเช่นที่ดินแดงเข้ามาเวทีราชประสงค์ แต่ไม่ใช่ว่าแกนนำนปช.ไปสั่งการให้มีการก่อเหตุรุนแรงใดๆ
- มีมติเห็นชอบแนวทางสว.เป็นตัวกลางเจรจายุติศึก ขอให้ประธานสว.ดำเนินการได้เลย
- เรื่องณัฐวุฒิโทรหากอร์ปศักดิ์ ก็เพราะอยากให้หยุดยิง ไม่เกี่ยวกับว่าใครโทรไปหรือใครโทรมา ถือเป็นเรื่องหยุมหยิมที่ฝ่ายรัฐยกมาโจมตี
- มีข่าววอร์รูมปชป.บอกว่าตาย 69 ราย ต่ำกว่าเป้า 200-500 ศพ ซึ่งน่าตกใจ ขอประณาม
- ขอเชิญชาวไทยไว้ทุกข์ผู้เสียชีวิตด้วยการติดปลอกแขนดำเริ่มตั้งแต่วันนี้
12.00 น. พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช สว.เผยสว.เริ่มประสานงานเจรจา 2 ฝ่าย บ่ายนี้จะประชุมแนวทางทำงาน
15.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมเตรียมจัดประท้วงเชิงสัญลักษณ์ "เปลือยเพื่อชีวิต" ใต้ทางด่วนบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง เวลา 16.00 น. วันนี้
64 สว.เรียกร้องรัฐบาลเข้าร่วมโต๊ะเจรจา แต่ยังไม่มีคำตอบ อย่างไรก็ตามมีข่าว อภิสิทธิ์ยืนกร่านในที่ประชุมครม.ว่านปช.ต้องยุติชุมนุมก่อน จึงจะเปิดเจรจา
15.30 น. รายงานจาก เฟซบุ๊ค แจ้งว่าจะมีการจัดตั้งเวที แห่งใหม่บริเวณ เลียบทางด่วนใกล้อิมพีเรียลลาดพร้าว
16.20 น. สาทิตย์ วงศ์หนองเตย แถลงในนามศอฉ.ว่า อภิสิทธิ์ชี้แจงประธานวุฒิสภาจุดยืนของรัฐบาลจะเจรจาก็ต่อเมื่อ นปช. ยุติการ ชุมนุมก่อน และยุติการก่อการร้าย
16.40 น. องค์กรนิรโทษสากล(สหรัฐฯ) ออกแถลงการณ์ให้ทหารไทยหยุดยิงประชาชนทันที โดยอ้างว่าจากหลักฐานที่ปรากฏชัดจำนวนมากว่าทหารได้ฆ่าประชาชนที่ปราศจาก อาวุธ "สิ่งนี้เป็นการละเมิดหลักสิทธิมนุษยชน" "เป็นเรื่องยอมรับไม่ได้ภายใต้กฏหมายระหว่างประเทศที่อนุญาตให้การใช้อาวุธ ปืนเป็นมาตรการสุดท้าย"
17.50 น. แกนนำนปช.แถลงให้ประธานวุฒิฯประสานแจ้งรัฐบาลถอนกำลังทหารก่อน แล้วนปช.จึงจะเจรจากับรัฐบาล ขณะที่ก่อนหน้านี้รัฐบาลตั้งเงื่อนไขให้ยุติชุมนุมก่อนแล้วจึงจะเจรจา
19.00 น. เฟซบุ๊ค: สามเหลี่ยมดินแดงมืดตื้อ มืดจนน่าใจหาย ด่านท้ายสุด (ด่านที่4) ก่อนจะถึงเวทีปราศรัย ซึ่งตั้งอยู่อีกประมาณ 300 เมตรถัดไป มีการ์ดจำนวนมาก พวกเขาส่วนหนึ่งเป็นแท็กซี่และมอเตอไซค์รับจ้าง อาวุธที่มีคือบั้งไฟเล็ก และพลุ และยางรถยนต์ รัฐและทหารรู้ดีถึงข้อเท็จจริงนี้
20.10 น. ส.ว.ปรากฏตัวที่เวที นปก. บอกว่าทนนิ่งเฉยกับการเสียชีวิตของประชาชนจำนวนมากไม่ได้
20.12 น. ข้อเรียกร้องจาก ส.ว.พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวาณิช
1. อยากให้รัฐบาลปรับแนวของกองทัพให้ออกจากประชาชนเพื่อไม่ให้มีการปะทะ
2. เรียกร้องให้ทางกลุ่มคนเสื้อแดงได้ยุติโดยเด็ดขาดการกระทำที่นำไปสู่การ ยั่วยุ การปะทะ การเสียเลือดของไม่ว่าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด
3. ให้สมาชิกวุฒิสภาเป็นตัวกลางประสานระหว่างนปก.และฝ่ายรัฐบาล เพือให้เกิดการเจรจาเพื่อยุติความขัดแย้งต่างๆ
แกนนำทุกคนพร้อมที่จะให้มีการหยุดยิงทั่วกรุงเทพฯ เรียกร้องให้พี่น้องเสื้อแดงที่อยู่ในพื้นที่ต่างๆ ที่ล้อมรอบ รปส. ที่บ่อนไก่ ศาลาแดง ลุมพินี อนุสาวรีย์ ดินแดง ที่ราชปรารภ เข้าสู่ขบวนการเจรจา หยุดความรุนแรงตั้งแต่นี้ไป และเรียกร้องผ่านประธานวุฒิสภาไปยังรัฐบาล ที่จะให้เจ้าหน้าที่ไม่ใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุมในทุกกรณี ให้ทุกฝ่ายกลับไปสู่โต๊ะเจรจาอีกครั้ง เข้าสู่กระบวนการเจรจาอีกครั้ง และยุติความขัดแย้งอย่างสันติ ซึ่งเป็นความเห็นของแกนนำทุกคน (มีเสียงโห่ร้องของประชาชน ในเชิงไม่เห็นด้วย เพราะโกรธที่ ส.ว.บอกว่ารัฐบาลไม่ได้จงใจฆ่าประชาชน )
20.20 น. ณัฐวุฒิ - ขอเรียนพี่น้องประชาชนว่า การดำเนินการทั้งหมดจะไม่ดำเนินไปเพื่อชัยชนะหรือความพ่ายแพ้ การดำเนินการทั้งหมดจะไม่มีการนิรโทษกรรมทุกๆ กรณี แต่การเจรจาทำไปเพื่อยุติความสุญเสีย ความรุนแรง ส่วนเรื่องคดีความจากทุกฝ่ายจะว่ากันไปตามข้อเท็จจริงพยานหลักฐาน ฝ่ายเสื้อแดงถ้าผิดก็จะรับผิดชอบทุกกรณี แต่สิ่งใดที่นายอภิสิทธิ์ สุเทพ หรือส่วนงานใด ถ้าผิดก็ต้องรับผิดชอบทั้งในและต่างประเทศเช่นกัน (หลังจากนั้นประชาชนในที่ชุมนุมโห่ร้องให้มีการยุบสภา)
20.35 น. ณัฐวุฒิ - การเจรจาจะไม่ใช่การไม่เอาผิดกับคนผิด แต่การเจรจาจะเป็นการยุติความสูญเสีย เราต้องทำให้ดีที่สุดเพื่อไม่ให้พี่น้องเจ็บเพิ่ม การหาความยุติธรรมให้กับคนตายเป็นเรื่องใหญ่ แต่เราต้องหยุดการฆ่าเสียก่อน การทวงถามความยุติธรรมให้กับพี่น้องเรา จะหยุดไม่ได้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ทุกอย่างยังต้องเดินหน้าต่อไป
20.45 น. จตุพร -"ขอให้ทุกจุดเตรียมพร้อม" "เรามาไกลเกินที่จะยอมจำนน เราเจรจาเพื่อให้เขาหยุดฆ่า แต่ไม่ใช่การเจรจาเพื่อการยอมแพ้ ขอให้รู้ไว้ด้วย" "พี่น้องที่อยู่ต่างจังหวัดท่านตัดสินใจเอง จะเคลื่อนทัพอย่างไร ตัดสินใจเอง หลังจากนี้อะไรจะเกิด ก็ให้มันเกิด"
20.58 น. ณัฐวุฒิ - ในระหว่างที่ส.ว.เสนอตัวเป็นตัวกลางเจรจาหยุดยิง แต่พรุ่งนี้เช้าตี 5 รัฐบาลคุยกันภายในว่าจะเอาจริง
22.30 น. ข้อมูลจากแหล่งข่าวของแกนนำแจ้งว่า ตี 5 จะสลายรุนแรง - Media Alert: We have been advised by our sources that a final crackdown against the red-shirt movement at Ratchaprasong will commence at 5am tomorow, Wednesday May 19, 2010. แหล่งที่มาของเราแจ้งว่าปราบปรามจะเป็นอันตรายมาก สำหรับคนที่เวที Ratchaprason Our sources inform us that this crackdown will be extremely dangerous for people at the Ratchaprason stage.
สื่อใด ๆ ในบริเวณใกล้เคียงของพระราม / อุปสรรคศาลาแดงจะกระตุ้นให้ใช้ความระมัดระวังมากและรักษาที่เหมาะสมและระยะ ทางจากสิ่งกีดขวาง Any media in the vicinity of the Rama IV / Sala Daeng barricade are urged to exercise extreme caution and maintain and reasonable distance from the barricade.
23.00 น. เฟซบุ๊ค - ที่สามเหลี่ยมดินแดง ผู้สื่อข่าวสามารถเข้าไปได้ถึงแนวด่านชั้นที่ 4 เท่านั้น ขณะที่วิ่งเข้าไปที่แนวหลังยางรถยนต์ การ์ดร้องเตือน "ระวังด้วย กระสุนตกมาถึงตรงนี่หลายครั้งแล้ว" ด่านชั้นที่ 3 (ประมาณ100เมตรถัดไป) โดนยิงเป็นระยะ ตลอด2ชั่วโมงที่อยู่ตรงนั้นมีคนถูกยิงตาย2คน "โผล่หัวออกไป ยิงทันที" การ์ดบอก
23.50 น. คนไทยในต่างแดน ส่งจม.เปิดผนึกถึงพระสงฆ์ไทย ร้องขอความเป็นธรรมและช่วยกันห้ามการฆ่าคนด้วยกันเอง
19 พฤษภาคม 2553
00.00 น. จตุพรบอกบนเวทีว่า สื่อไทยย้ายไปรายงานข่าวสนามกีฬาแห่งชาติ ส่วนนักข่าวต่างประเทศยืนยันอยู่ในพื้นที่การชุมนุม และพร้อมรายงานข่าวไปทั่วโลก
00.10 น. ทหารตรึงกำลังวางชุดแม่นปืนถนนจุฬาฯ 12 เส้นทางลัดเข้าราชประสงค์บีบพื้นที่ถนนอังรีดูนังต์ขยับใกล้ม็อบบรรยากาศ ตั้งแต่ช่วงเย็นถึงค่ำทหารได้นำกำลังเข้าตรึงพื้นที่ในถนนจุฬาฯ 12 มากขึ้นและตั้งด่าน ตรวจค้นรถทุกคันที่วิ่งผ่านเข้าออกและมีการนำกระสอบทรายตั้งเป็นแนวบังเกอร์ ที่ปากทางเข้าถนนจุฬาฯ 12 ตัดถนนบรรทัดทองพร้อมวางชุดแม่นปืนประจำจุดประทับปืนติดกล้องหันหน้าออกไป ทางถนนพระราม 4
01.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณสามเหลี่ยมดินแดง มีการ์ด นปช. ถูกจับตัวขึ้นรถตู้ไม่ทราบฝ่ายไม่ทราบสังกัดไปหนึ่งคนนอกจากนี้มีผู้บุคคลได้นำกาแฟมาแจกการ์ดต่อมาผู้ดื่มมีอาการอาเจียนอย่างรุนแรงขณะนี้นำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว
02.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีเสียงปืนดังขึ้นบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง มีผู้บาดเจ็บ 1 ราย
ทวิตเตอร์ ของฐปนีย์เอียดศรีชัยนักข่าวช่อง 3 แจ้งว่ามีเสียงระเบิดคล้ายเอ็ม 79 บริเวณ ซ.ไก่งามดูพลีบ่อน 1 ลูก มีรายงานผู้บาดเจ็บกู้ภัยทำงานลำบากเพราะมืดและอันตรายมาก
03.00 น. รถหุ้มเกราะประจำจุดศาลาแดง-สารสิน
03.30 น. มือมืดเปิดฉากเผาแบงก์ไทยพาณิชย์ ปทุมธานี
03.45 น. คนร้ายยิงเอ็ม 79 ถล่มแบงก์กรุงเทพสาขาแพร่
05.00 น. ทหารรุกคืบบีบพื้นที่เริ่มยุทธการสลายการชุมนุม
05.30 น. ทหารปะทะเดือด นปช. เสียงปืนสนั่นศาลาแดง-สารสิน
07.00 น. หลังจากวุฒิสภาเสนอเป็นตัวกลางเจรจาโดยนปช. เข้าร่วมกระบวนการแล้ว แต่รัฐบาลแข็งกร้าวให้ยุติชุมนุมก่อนจึงจะเจรจาเช้านี้กองกำลังทหารพร้อมรถ สายพานลำเลียงเคลื่อนบีบเข้าใกล้เวทีราชประสงค์และพูดผ่านโทรโข่งให้สลายตัว ภายใน 15 นาที
นักข่าวอิตาลีถูกยิงเสียชีวิตและบาดเจ็บอีกหลายคน
07.30 น. มือมืดยิงเอ็ม79ถล่มชุมชนบ่อนไก่สร้างความปั่นป่วน
08.00 น. รถหุ้มเกราะและทหารบุกรื้อสิ่งกีดขวางสวนลุมพินี
08.10 น. ทหารใช้รถถังชนบังเกอร์เสื้อแดงฝั่งศาลาแดง ขณะที่เวทีราชประสงค์บนเวทีมีการร้องเพลงและเล่นตลก ผู้ชุมนุมพากันเฮฮา สะท้อนขวัญกำลังใจเข้มแข็ง
08.15 น. ทหารเคลียร์พื้นที่หน้าสวนลุมพินี-ศาลาแดงได้แล้ว
08.20 น. กอร์ปศักดิ์ เลขานายกฯ กร้าวที่ประธานวุฒิสภาเป็นคนกลางเจรจาไม่มีประโยชน์แล้ว ให้ยุติชุมนุมเดี๋ยวนี้เท่านั้น
08.30 น. เสธ.อู้ คีย์แมน สว. เผยการเจรจาล้มเหลวแล้ว รัฐบาลไม่ยอมขึ้นโต๊ะเจรจา แต่จะปฏิบัติการทางทหารและเชื่อว่าจะทุ่มกำลังให้จบในวันนี้ และคงยากจะหลีกเลี่ยงความสูญเสีย เพราะผู้ชุมนุมยอมตาย
08.50 น. ทหารสามารถใช้รถสายพานลำเลียงหุ้มเกราะฝ่าเข้าไปจากด่านศาลาแดงได้แล้วยึด สวนลุมได้เรียบร้อย
จ.ส.100 รายงาน: ถ.ลำลูกกาคลอง 5 ทางขึ้นวงแหวนตะวันออก นปช.เผายาง ตร.ห้ามรถผ่านแล้ว รถทุกคันต้องกลับออกทั้งหมด
รอยเตอร์ รายงานพบผู้เสียชีวิตแล้ว จากปฏิบัติการแยกศาลาแดง
09.00 น. ทหารเข้ามาในถนนราชดำริ ห่างจากหลังเวที 500 เมตร มีการยิงใส่คนเสื้อแดงและมีหน่วยซุ่มยิงไปซุ่มอยู่บนสถานีรถไฟฟ้า
ช่อง 3 - กลุ่มผู้ชุมนุมถอยร่นเกือบไกล้เวที แต่ที่เวทียังมีกิจกรรมปรกติ
09.10 น. พลเอกเลิศรัตน์ รัตนวานิช ให้สัมภาษณ์ผ่าน TPBS ว่าครั้งนี้น่าจะเป็นการปะทะกันครั้งสุดท้าย เนื่องจากหากยาวนานกว่านี้ อาจจะเป็นอันตรายต่อชีวิตทหาร!?
09.20 น. บีบีซีรายงานว่า ทหารยิงปืนและใช้ระเบิดแก๊สน้ำตาเพื่อสลายผู้ชุมนุม ขณะที่ฝ่ายผู้ชุมนุมเผายางทำให้เกิดควันดำตลบไปทั่วบริเวณ มีรายงานผู้บาดเจ็บแล้วอย่างน้อย 5 ราย
ด้านเอพีรายงานว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากมีผู้เสียชีวิต แล้วอย่างน้อย 39 ราย บาดเจ็บกว่า 300 ราย ในช่วงการปะทะที่ดำเนินมา 7 วัน ทางรัฐบาลปฏิเสธข้อเสนอล่าสุดของกลุ่มเสื้อแดงที่ขอเจรจา โดยยืนกรานว่า ผู้ชุมนุมต้องสลายตัวก่อน
09.35 น. ที่แยกสารสิน มีกลุ่มผู้ชุมนุม นปช.ถูกยิงเสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อ นายวัฒนชัย เอี่ยมนาค โดยถูกยิงที่แยกสารสิน จากการตรวจสอบพบ มีบาดแผลถูกยิงที่หน้าอก
สำนักข่าวเอพีรายงานข่าวด่วนระบุว่า ช่างภาพของเอพีได้เห็นนักข่าว 3 คน ถูกยิง ระหว่างปฎิบัติการของทหารในกรุงเทพฯ และดูเหมือนว่า จะมีนักข่าว 1 รายเสียชีวิต
10.00 น. สามเหลี่ยมดินแดง มีการยิงปืนถูกชาวบ้าน 1 คน เป็นผู้หญิงถูกยิงฟุบ ต้องใช้เวลาครู่ใหญ่ก่อนนำร่างออกมาได้ ขณะนี้สามารถนำตัวขึ้นมอเตอร์ไซค์ นำส่งรพ.แล้ว
ช่อง 9 - ทลายด่านย่อยสารสิน จับการ์ดนปช. 12 คน ตรวจพบอาวุธคือ "ตะไล"
10.05 น. สถานการณ์ที่บริเวณบ่อนไก่ ยังคงมีเสียงปืนรัวอยู่ มี จนท.ตำรวจ ตรึงกำลังอยู่ เพื่อรักษาความปลอดภัยให้รถไฟฟ้าใต้ดิน และมี ฮ. บินวน อยู่เป็นระยะ มีประชาชนจับกลุ่มกระจายอยู่ตามท้องถนน ไม่มีการเผาตึกสูงตามข่าวลือ รายงานสดจากสปริงค์นิวส์
10.10 น. แยกบ่อนไก่ เกิดเพลิงไหม้รุนแรงที่อาคารพานิชย์ติด ธ.กสิกรไทย รถดับเพลิงไม่สามารถเข้าไปได้ เนื่องจากอยู่จุดกึ่งกลางที่ปะทะ
10.15 น. คนเสื้อแดงนนทบุรี กำลังทยอยมารวมตัวกันที่สถานีไทยคม แคราย
10.30 น. ไฟไหม้ที่ธนาคารกสิกรไทยพระรามสี่เหลืออีกเพียง 10 เมตรจะถึงปั๊มปตท . แล้ว
ที่โรงแรมแมนดาริน เหตุปะทะมีเสียงปืนดังและทหารยิงแก๊สน้ำตาใส่ มีหญิงหนึ่งคนบาดเจ็บ รถฉุกเฉินพาไป รพ.แล้ว
10.40 น. รถดับเพลิงมาถึงหน้าธนาคารกสิกรแล้ว ขณะที่ควันหน้า รพ.จุฬา เริ่มจะบางลงแต่ยังคงมีอยู่ ทหารรุกคืบจากศาลาแดง ตรึงกันอยู่ที่แยกสารสิน
มีคนสุมยางเผาหน้า ธ.นครหลวงไทย สาขาสยามเซ็นเตอร์ แต่มีการช่วยกันดับแล้ว
แยกศาลาแดง พบผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย อยู่หลังแนวบังเกอร์ยางรถยนต์ เป็นชายอายุประมาณ 20 ปี ผูกผ้าพันสีแดง คาดเป็นการ์ด นปช.
สามย่าน มีเสียงดังคล้ายระเบิด 1 ครั้ง ทหารปิดถนนพระราม 4 เข้าแยกสามย่าน ทหารบอกประชาชนให้หาที่กำบัง เพราะจะมีปฏิบัติการยิงแล้ว
10.40 น. ส.ส.เพื่อไทยยื่นถอดถอนนายกรัฐมนตรี รองนายกฯนายสุเทพ เทือกสุบรรณ
10.45 น. ที่ขอนแแก่น มีการชุมนุมทั้งสิ้นสามจุดได้แก่ บริเวณสวนรัชฎา หน้าศาลากลางขอนแก่น ซึ่งมีทหารตำรวจตรึงกำลังเข้มงวด อีกสองจุดได้แก่บริเวณบึงแก่นนคร และสถานีแดงในเมืองขอนแก่น ทั้งสามจุดเป็นการชุมนุมโดยสงบ
แยกศาลาแดง ทหารเริ่มรุกคืบเข้าไปช้าๆ เนื่องจากมีสิ่งกีดขวางมาก ทหารจึงเดินเท้าเข้าไป มีการยิงปืนจากทหารเข้าไปเป็นระยะๆ ยังไม่สามารถตรวจสอบผู้บาดเจ็บเสียชีวิตได้
10.55 น. เวทีราชประสงค์ยังปักหลักสู้
ขณะที่กลุ่มเคลื่อนไหวสันติภาพเชิญชวนนัดชุมนุมเรียกร้องสันติภาพ กำหนดการ 12.30 น. พร้อมกันที่ประตูใหญ่สหประชาชาติถนนราชดำเนิน ,13.00 น. บทสวด ภาวนา 3 ศาสนาเพื่อสันติภาพประชาธิปไตยและอุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิตจากความรุนแรง บทสวด ภาวนา ๓ ศาสนาเพื่อสันติภาพ ประชาธิปไตยและอุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิตจากความรุนแรง
11.00 น. ม็อบเทน้ำมันสกัดทหารเข้าพื้นที่
11.05 น. ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ จะขึ้นเวทีปราศรัย แต่นายวรวุฒิ วิชัยดิษฐ์ โฆษกเวที ประกาศขอร้องอย่าขึ้นมาให้รักษาชีวิตไว้ เพื่อต่อสู้เพราะมีคุณค่ามากกว่าเขา พร้อมประกาศจะอยู่บนเวทีต่อไป
11.10 น. ภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่สามารถยึดพื้นที่โดยรอบของสวนลุมพินีไว้ได้ จากการเข้าตรวจที่เกิดเหตุโดยรอบ ได้พบศพผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นชาย อยู่ที่ด้านหลังแนวบังเกอร์ ในสภาพที่ถูกยิงเข้าบริเวณศรีษะ รายแรก สวมชุมดำ รายที่สองไม่สวมเสื้อ ทั้งนี้ ศพของบุคคลทั้งสองถูกพบที่ถนนราชดำริ คาดว่าเป็นการ์ด นปช.หลังแนวรั้วกั้นที่เจ้าหน้าที่ทหารได้ทะลวงเข้ามาสำเร็จแล้ว อยู่ตรงกันข้ามกับตึก สก. โรงพยาบาลจุฬาฯ
ณัฐวุฒิและแกนนำขึ้นประกาศบนเวทีให้ผู้ชุมนุมที่สมัครใจออกไปยังพื้นที่ ชุมนุมเพราะไม่ต้องการให้ผู้ชุมนุมเป็นโล่ห์มนุษย์เหมือนรัฐบาลกล่าวหา ส่วนแกนนำจะลงไปนั่งนิ่งๆ รอการจับกุม ส่วนใครจะสู้ต่อ จะพยายามให้ความปลอดภัย
12.00 น. แกนนำเสื้อแดง ‘อริสมันต์-นพ.เหวง-นายสุภรณ์’ หนีตาย
เสื้อแดงขอนแก่นเข้ายึดศาลากลางยื่นคำขาดให้รัฐบาลหยุดฆ่าผู้ชุมนุมราชประสงค์ โฆษกเวทีราชประสงค์พูดมีเสื้อแดงหลายจังหวัดโทรเข้ามาบอกจะเข้ายึด ศาลากลางและอาจเผาสัญลักษณ์อำนาจรัฐหากรัฐบาลไม่หยุดฆ่า
12.15 น. ณัฐวุฒิร้องเพลงรักคนเสื้อแดงและนักสู้ธุลีดินอยู่ด้านล่างเวทีขณะที่บนเวที ไม่มีใครเพราะเกรงทหารจะยิง
13.00 น. พล.อ. เลิศรัตน์เผย จตุพร ติดต่อให้เป็นคนพาเข้ามอบตัวกับตำรวจช่วงบ่ายส่วน วิทยา บุรณศิริ วิปฝ่ายค้านยืนยันข่าวนี้
13.20 น. มติแกนนำ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน ตัดสินใจประกาศยุติการชุมนุม พร้อมทั้งยอมเข้ามอบตัว กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยในเวลาดังกล่าว แกนนำ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน คนสำคัญคือ นายจตุพร พรหมพันธุ์, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย เป็นต้น ต่างขึ้นบนเวทีแยกราชประสงค์
โดยนายจตุพร เริ่มกล่าวเป็นคนแรกว่า 'ชีวิตของพวกผมเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่นี่เป็นชีวิตของคนอื่น พวกผมรอด แต่พี่น้องต้องตาย ถ้าเขาขยับมาถึงเวที ผมรู้ว่า พี่น้องพร้อมพลีชีพ ไม่รู้กี่ชีวิต เราร่วมทุกข์ร่วมสุขมายาวนานที่สุด และก็รู้กันว่า อีกไม่รู้กี่ชีวิตที่ต้องตาย ถ้าศอฉ.บุกมาถึงที่นี่ พี่น้องก็ยอมพลีชีพกันทุกคน ผมยอมไม่ได้ ฉะนั้น วันนี้ไม่ใช่ยอมจำนน แต่ไม่ต้องการให้พี่น้องเราต้องเสียชีวิตอีกแล้ว ทนความตายของพี่น้องไม่ได้อีกต่อไป พวกผมเพื่อนๆ จะเดินทางไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผมรู้ว่าพี่น้องขมขื่น ทุกคนที่ขึ้นมาที่นี่ เราไม่รู้จะพูดกับพี่น้องกันอย่างไร เพราะหัวใจพี่น้องเลยความตายกันมาทุกคน วันนี้ เราหยุดความตาย แต่ยังไม่หยุดการต่อสู้ เพราะตอนนี้ยังตายอยู่เรื่อยๆ เรามาช่วยหยุดความตาย หัวใจการต่อสู้ไม่เคยหมด เราไม่ได้ทรยศ กว่าจะมาถึงเวที ไม่รู้อีกกี่ร้อยชีวิต เรามาหยุดความตายกันเถิด
จากนั้น นายณัฐวุฒิ กล่าวเป็นคนต่อมาว่า "เราขอยุติเวทีการชุมนุมแต่เพียงเท่านี้ แต่การต่อสู้ยังไม่ยุติ การต่อสู้ยังต้องเดินหน้าไปตามกระบวนการประชาธิปไตยต่อไป เราไม่อาจต้านทานความอำมหิตนี้ได้อีก ขอให้พี่น้องเดินออกไปทางสนามศุภชลาศัย การ์ดจะดูแลให้พี่น้องเดินทางกลับด้วยความสงบ และปลอดภัย"
สำหรับแกนนำที่เข้ามอบตัวกับตำรวจทันที ตามลำดับประกอบด้วย นายขวัญชัย ไพรพนา ตามด้วยนายจตุพร ซึ่งก้มลงกราบที่หน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภายใน สตช. และคนสุดท้าย คือนายณัฐวุฒิ โดยก่อนเข้ามอบตัว นายณัฐวุฒิ กล่าวผ่านเครื่องขยายเสียง หน้า สตช. อีกครั้งว่า "ขอให้พี่น้องเสื้อแดงเดินทางกลับบ้าน ส่วนจุดยืนยังเหมือนเดิม ไม่ต้องห่วงว่าแกนนำทุกคนจะสูญสิ้นอิสรภาพ เนื่องจากความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เป็นความผิดเพียงเล็กน้อย ขอให้วางใจ ถ้าเสร็จภารกิจนี้ และได้รับความไว้วางใจจากมวลชนเหมือนเดิม จะกลับมาเป็นแกนนำเหมือนเดิม แต่ถ้ามวลชนไม่ไว้ใจอีกแล้ว ก็จะกลับมาเป็นคนเสื้อแดง ที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยเหมือนเดิม
13.53 น. ภายหลังแกนนำ นปช.ประกาศยุติการชุมนุมที่เวทีราชประสงค์ ยังคงมีเสียงดังคล้ายประทัดยักษ์ดังอยู่อย่างต่อเนื่องจากบริเวณเชิงสะพาน ไทย-ญี่ปุ่น ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหาร มีท่าทางผ่อนคลายขึ้นแต่ยังอยู่ในสภาพเตรียมพร้อม ท่ามกลางเสียงคล้ายเสียงปืนดังขึ้นเป็นระยะ และมีเสียงปืนดังจากฝั่งทหาร จำนวน 2 นัด
14.00 น. พันเอกสรรเสริญ แก้วกำเนิด ประกาศชัยชนะ โดยระบุว่าการกดดันของ ศอฉ. ทำให้แกนนำผู้ก่อการร้ายยอมเข้ามอบตัว ทหารได้ยุติปฏิบัติการทางทหารโดยภาพรวม
แกนนำทยอยเข้ามอบตัวที่ สตช., ศอฉ. สั่ง ทหาร-ตำรวจหยุดปฏิบัติการรุกคืบ หลังควบคุมสถานการณ์ภาพรวมไว้ได้ เตือนประชาชนให้ออกนอกพื้นที่ โดยไปรวมตัวที่สนามศุภชลาศัยพร้อมส่งกลับบ้าน
บริเวณสามแยกคลองเตยมีเสียงปืนจากการปะทะดังขึ้นอย่างต่อเนื่องแต่ยังไม่ ทราบว่าฝ่ายใดเป็นผู้ยิง และยังไม่มีรายงานของผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากแกนนำเสื้อแดงมอบตัว ที่สร้างความไม่พอใจให้แก่ผู้ชุมนุมเป็นอย่างมาก ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่เสียใจที่แกนนำทิ้งประชาชนที่ร่วมต่อสู้กันมา จึงไม่ยอมรับกับการตัดสินใจดังกล่าว พร้อมกับผู้ชุมนุมบางคนได้ขว้างปาสิ่งของขึ้นไปบนเวที
แดงเชียงใหม่ บุกจวนผู้ว่าฯ เผายาง-ปาประทัดยักษ์และขวดน้ำมันเข้าใส่ ไม่พอใจแกนนำนปช.มอบตัว
14.15 น. เกิดเหตุจราจลย่อย ณ หน้าโรงพยาบาลตำรวจ สตช. และ ย่านบ่อนไก่ โดยกลุ่มผู้ชุมนุมที่ไม่พอใจการประกาศยุติการชุมนุมโดยแกนนำ โดยมีการทำลายข้าวของ เผาตู้โทรศัพท์ และนำรถขยะมาจอดรวมกัน ในขณะเดียวกันบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิกลุ่มเสื้อแดงได้รวมตัวกันอย่างล้นหลาม แต่ยังไม่มีการกระทำรุนแรงใดๆ มีเพียงแต่การพูดยั่วยุแสดงความไม่พอใจจากกลุ่มเสื้อแดง รวมถึงมีการนำยางรถยนต์และยางอลูมิเนียมมากั้นเป็นเขตมิให้ตำรวจและทหารเข้าถึง
การต่อต้านรัฐบาลที่ย่านสามเหลี่ยมดินแดงยังดำเนินต่อไป ขณะที่ผู้ชุมนุมย่านราชประสงค์ที่ไม่ยอมสลายตัวได้กลายเป็นมวลชนที่โกรธแค้น เผาทำลายทรัพย์สิน ส่งผลให้ท้องฟ้ากรุงเทพฯปกคลุมไปด้วยควันเพลิง
14.19 น . พล.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.น.เผยทางตำรวจมีอำนาจควบคุมตัวแกนนำตาม พรก.ฉุกเฉินได้ 30 วัน โดยจะให้ดีเอสไอแจ้งข้อกล่าวหากับแกนนำ ถ้าหากแกนนำคนใดมีคดีอาญาติดตัวก้ต้องเข้าสู่กระบวนการและเมื่อสิ้นสุดพรก.ฉุกเฉินก็จะมีการขออำนาจศาลฝากขังต่อ
14.20 น. นปช.เผายางกลางพหลโยธินทั้งสองฝั่ง หน้าเซียร์รังสิต นำยางรถยนต์มาวางกองตั้งกลางถนนพหลโยธินทั้งฝั่งขาเข้าและขาออก บริเวณหน้าห้างเซียร์ รังสิต และจุดไฟเผา ส่งผลให้การจราจรติดขัดเป็นอย่างมาก
14.25 น. สถานการณ์บริเวณสามเหลี่ยมดินแดงยังมีการปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุมกับทหาร ทั้งการเผายางก็มีต่อเนื่อง รวมถึงเสียงปืนและเสียงระเบิด รวมถึงอาคารบริเวณดังกล่าวซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับ ธ.นครหลวงไทย ได้เกิดไฟไหม้ ขึ้น ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าถึงพื้นที่ค่อนข้างยากลำบาก
14.28 น. มีกลุ่มบุคคลไม่ทราบฝ่าย บุกเข้าทุบกระจก บริเวณชั้น 1 อาคารห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ฝั่งศูนย์การค้า ZEN แล้วลอบเข้าไปวางเพลิงภายใน จนทำให้มีกลุ่มควัน และเปลวไฟพวยพุ่งออกมา มีการขว้างระเบิดเพลิงและเผายางบริเวณตัวอาคารและยังมีการยิง M79 ไปยังตัวอาคารของห้างอีกด้วย โดยในเวลาเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้างสรรพสินค้าแพลทตินัมบริเวณประตูน้ำเกิดกลุ่มควันและได้ยินเสียงระเบิด
14.29 น.ไฟลุกไหม้ศาลากลางจังหวัดขอนแก่นหลังใหม่ ซึ่งเป็นศูนย์ราชการและสถานที่ทำงานของหน่วยงานราชการหลักในขอนแก่น นอกจากนั้นยังมีการเผาทำลายรถยนต์ของประชาชนที่จอดอยู่บริเวณศาลากลางไปจำนวน 4 คัน โดยมีไฟลุกไหม้ทั้งหมด พร้อมกับมีเสียงระเบิดดังออกมาจากศาลากลางอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 100 นายได้ถอยร่นออกมาข้างศาลาเนื่องจากเกรงจะได้รับอันตราย ส่วนรถดับเพลิงของเทศบาลนครขอนแก่นขณะนี้ ยังไม่สามารถเข้ามาได้ เนื่องจากถูกคนเสื้อแดงปล่อยลมยางและทุบทำลายรถ พังเสียหาย ในขณะที่ตำรวจปราบจราจลพยายามนำทางเพื่อนำรถดับเพลิงเข้าไป แต่ไม่สามารถนำเข้าได้ ส่งผลให้ไฟลุกไหม้ศาลากลางอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะส่งผลให้เกิดความเสียหายอย่างมากหลังเพลิงสงบลง.
14.30 น. ทักษิณออกแถลงการณ์ว่าเขาไม่ได้เป็นแกนนำเสื้อแดงและคนเสื้อแดงก็ไม่ได้ เคลื่อนไหวในนามของเขา เขาเชื่อมั่นในสันติวิธีปราศจากความรุนแรงและหวังให้ยุติการใช้อาวุธ (ข่าว CNN )
มีกลุ่มคนบุกเผาสำนักงานเทศบาลนครอุดรธานี และศาลากลาง จ.อุดรธานี (หลังเก่า) โดยขณะนี้มีรถดับเพลิงจากเทศบาล ต.หนองบัว จำนวน 2 คันเข้าฉีดสกัด แต่ไม่สามาถระงับเพลิงได้ โดยไฟได้ลุกลามเสียหายเกือบทั้งหลัง
ได้มีกลุ่มคนบุกเข้าไปในอาคารมาลีนนท์ ซึ่งเป็นที่ทำการของสถานีโทรทัศน์ทีวีสึช่อง3 โดยมีชายที่มีผ้าปิดหน้าถือกระดาษหนังสือพิมพ์ติดไฟเข้าไปในตัวอาคารชั่น1ที่เป็น ที่ทำการของ ธ.กรุงเทพ โดยกลุ่มควันเริ่มหนาแน่น อีกทั้งรถที่จอดบริเวณหน้าอาคารก็ได้รับความเสียหายจากการเผาเป็นจำนวนกว่า 10 คัน ทางด้านพนักงานและเจ้าหน้าที่ต่างวิ่งหนีออกทางด้านหลังของตัว อาคาร
กทม.ระดมรถดับเพลิงเข้าควบคุมเพลิงหลายจุดทั่ว กทม.
14.34 น. ผู้ชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิประกาศไม่ยอมรับการยุติการชุมนุมจากแกนนำ โดยระบุว่าเป็นอิสระจากกลุ่มแยกราชประสงค์ มีการจอดรถแท็กซี่ รถจักรยานยนต์ และมีไทยมุงบางส่วนที่ทำให้การจราจรติดขัดอยู่บ้าง แต่รถก็สามารถวิ่งได้ นอกจากนี้ กลุ่มผู้ชุมนุมได้ปักหลักอยู่โดยหันหน้าไปทางแยกดินแดง ผู้ชุมนุมต่างก็ควบคุมตนเองไม่ได้ และไม่มีใครสามารถควบคุมสถานการณ์ได้
14.35 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้ว่าแกนนำนปช.ได้ประกาศยุติการชุมนุม และได้เข้ามอบตัวแล้วก็ตาม แต่เหตุการณ์โดยรอบบริเวณแยกราชประสงค์ก็ยังไม่สงบ โดยเฉพาะแยกสามย่านบริเวณถนนพระรามที่ 4 เชิงสะพานไทย-ญี่ปุ่น ซึ่งมุ่งหน้าไปยังหัวลำโพง ซึ่งผู้ชุมนุมได้นำรถเมล์ร่วมบริการมาจอดขวางถนนเอาไว้ ซึ่งในขณะนี้ได้มีการจุดไฟเผารถเมล์คันดังกล่าวแล้ว ทำให้เจ้าหน้าที่ทหาร ซึ่งรักษาการในบริเวณดังกล่าวต้องกลับมาอยู่ในสภาพที่เตรียมความพร้อมรับ สถานการณ์ความวุ่นวายที่อาจจะเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
14.57 น. เผาจวนผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่
15.00 น. ศอฉ.ประสาน ตม.ห้ามแกนนำไปต่างประเทศ
15.20 น. เกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ใกล้ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
15.30 น. ทักษิณ ทวีตชมแกนนำมอบตัว
15.45 น. ผู้ประท้วงไปเรียกร้องสำนักงาน UN ที่สะพานมัฆวานช่วยได้รับแจ้งว่าค่ำวันนี้สำนักงานใหญ่องค์การสหประชาชาติจะ จัดประชุมด่วนการละเมิดสิทธิมนุษยชนในไทยใครมีหลักฐานภาพถ่ายให้นำมามอบให้ ที่สำนักงานสหประชาชาติสะพานมัฆวาน
15.50 น. มีกลุ่มคนประมาณ 100 คน จุดไฟเผาสถานี NBT ที่ขอนแก่น
16.00 น. การก่อจลาจลที่ไม่มีแกนนำลุกลามไปทั่วประเทศ ขณะทีวีที่ช่อง 3 หยุดแพร่ภาพหลังจากผู้ประท้วงบุกเผา โดยกล่าวหาว่าสื่อมวลชนเสนอข่าวบิดเบือน
16.00 น. ศปภ. ยันเผากรุงไม่ต่ำกว่า 15 จุด
16.05 น. เกิดข่าวลือว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เตรียมก่อรัฐประหาร โดยอ้างเหตุรักษาความสงบจากผู้ก่อการร้าย
16.05 น. ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ออกประกาศห้ามออกนอกเคหสถานในเวลากลางคืน โดยนายกรัฐมนตรีได้ออกข้อกำหนดต่อไปนี้
1. ห้ามมิให้บุคคลใดในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ออกนอกเคหสถานตั้งแต่เวลา 20.00 น. วันที่ 19 พฤษภาคม ถึงเวลา 06.00 น. วันที่ 20 พฤษภาคม
2. ให้พนักงาน และเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ปฏิบัติหน้าที่ในเขตพื้นที่ และระยะเวลาที่กำหนด
3. ให้ประชาชนที่อยู่ในเขตพื้นที่กลับเข้าสู่เคหสถาน และไม่ออกมายังพื้นที่ที่กำหนด เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ และได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการ ศอฉ.กำหนดพื้นที่ และรายละเอียดเพิ่มเติมตามสมควรแก่เหตุ และในเวลาต่อมา ศอฉ. ได้ประกาศห้ามออกนอกเคหสถานในพื้นที่ปริมณฑลและจังหวัดอื่นเพิ่มเติม ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
16.40 น. ฮ. บินรับ พนง. ช่อง 3 หลังไฟโหมติดชั้น 6 ออกไม่ได้ ทีวีจอดำ
16.50 น. ไฟไหม้ Zen เซ็นทรัลเวิร์ลด์ ถึงชั้น 2 แล้ว
สามย่านยังตึงเครียด จนท. เพิ่มกำลังใช้รถหุ้มเกราะเข้าพื้นที่คุมสถานการณ์
17.00 น. อาคารมาลีนนท์ดับไฟได้แล้วแล้ว
17.10 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน จ.อุบลราชธานี มีการเผาอาคารศาลากลางจังหวัดอุบลฯ ขณะนี้คืนพื้นที่แล้ว ผู้ชุมนุมเดินทางกลับไปรวมตัวกันที่สถานนีวิทยุชุมชนเสียงประชาชน เพื่อป้องกันเจ้าหน้าที่เข้าบุกยึด มีรายงานผู้บาดเจ็บ 6 คน ถูกนำส่งโรงพยาบาลแล้ว บาดเจ็บสาหัสอยู่ในห้อง ICU จำนวน 2 คน หนึ่งในนั้นเป็นหญิง
18.00 น. มีรายงานว่าขณะนี้เพลิงได้ลุกไหม้ห้างเซ็นทรัลเวิร์ด ทั้งตึกแล้ว
อภิสิทธิ์สั่งเด็ดขาดทุกเครือข่ายปิดให้บริการอินเตอร์เน็ตไร้สายระงับใช้ การ BB เซอร์วิสทุกเครือข่าย เนื่องจากเป็นการสื่อสารอย่างดีในการกระจาย ข่าวสารสถานการณ์ต่างๆ และสร้างความไม่มั่นคงของประเทศ และจะเปิดให้บริการอีกครั้งอย่างไม่มีกำหนด
ประชาชนนับพันลุกฮือปิดสะพานนวรัตน์เผาจวนผู้ว่าฯ วอด ตำรวจทหารรัว M16 ยิงกราดประชาชนไม่มีใครบาดเจ็บรถดับเพลิงมา โดนผู้ชุมนุมขวางปล่อยลมยางรถ
ไฟไหม้ ธนาคารกรุงเทพ สาขาพระราม 3
19.00 น. เวทีย่อยทั้งหมดในกทม. ยุติหมดแล้ว
21.00 น. กทม.เผยมีจุดไฟไหม้ทั้งสิ้น 27 จุด ในช่วงเวลานี้ รวมทั้งห้างZEN ที่เซ็นทรัลเวิลด์ ที่ยังเข้าไปสำรวจไม่ได้ เพราะยังมีเหตุปะทะ
21.30 น. มีผู้ทวิตเผยแพร่ภาพผู้บาดเจ็บในวัดปทุมวนาราม และตายเพราะไม่สามารถไปโรงพยาบาลได้ ขอความช่วยเหลือจากหน่วยพยาบาลหรือหน่วยช่วยเหลือด่วน
22.50 น. มีคนอื่นที่ไม่ใช่เสื้อแดงในวัดปทุมฯ ทำตัวคล้ายเป็นเสื้อแดง แต่เข้ามาสืบว่าใครเป็นการ์ดหรือแกนนำระดับย่อยในกลุ่ม เพื่อชี้เป้าให้ทหารเข้าจัดการ โดยเป็นข้อสังเกตจากนักข่าวคนหนึ่ง ที่ยังอยู่ในวัดแห่งนั้น
23.00 น. คุณปลื้ม"เกมโอเวอร์สำหรับทักษิณเพราะทั้งเขาและคนเสื้อแดงล้วนไม่มีความชอบธรรมเชิงกฏหมายแล้ว ในขณะที่ศัตรูของเซ็นทรัล ธ.กรุงเทพฯ และบีอีซี ได้ประโยชน์ลองพิจารณาดูสักแป๊บแล้วจะตระหนักถึงจิ๊กซอว์ตัวนี้"
รายงานช่วงบ่ายแจ้งว่า"ยูเอ็นเข้ามาแทรกแซงกิจการในแต่ละประเทศไม่ได้ถ้า รัฐบาลไม่ยินยอม แต่หากเป็นประเด็นสิทธิมนุษยชนนั้นสามารถเข้ามาดูแลได้ ในเย็นวันนี้ที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติจะมีการประชุมด่วนเกี่ยวกับสถานการณ์ การละเมิดสิทธิในประเทศไทย"นายโฮมายุนงกล่าว
23.15 น. รายงานจาก face book แสดงภาพรถพยาบาลเข้าถึงบริเวณวัดปทุมฯ แล้ว ข้อมูลล่าสุด ตาย 9 คน บาดเจ็บออกมารพ. แล้ว 5 คน อีก 2 คนที่เหลือ ขออยู่ที่วัดต่อ ทั้งวัดมีอยู่ประมาณ 3 พันคน
23.30 น. 30 องค์กรออกแถลงการณ์ “ยุบ สภา” ยังเป็นแนวทางแก้วิกฤตการเมือง “รัฐประหาร” ไม่ใช่ทางออก แถลงการณ์ จากนิสิต
20 พฤษภาคม 2553
01.00 น. CTW ไหม้ต่อเนื่อง 10 ช.ม. ยังไม่หยุด สยามไหม้ทั้งแถบยังไม่หยุดลมแรง
02.00 น. ร้าน 7-11 ฝั่งไทยคมและศาลากลางนนท์ถูกทุบและโดยขโมยของ
02.00 น. สมบัติ บุญงามอนงค์: "สิ่งที่เราจะได้เห็นต่อจากนี้ คือ ระบบความยุติธรรมของคนชั่ว ก็ในเมื่อไม่สามารถใช้ระบบความยุติธรรมของคนดีได้แล้ว คนกลุ่มหนึ่งก็แสวงหาความยุติธรรมในแบบของคนชั่ว ประเทศนี้ทำลายระบบนิติรัฐ นิติธรรมจนคนที่ถูกกี่ขี่ กระทำ ลุกขึ้นมาเขียนระบบยุติธรรมให้ตัวเขาเองแล้ว"
09.20 น. รองประธาน สส . ได้เปิดเผยว่า มีเด็ก ผู้หญิง คนแก่ หลงเหลืออยู่ 600 คน ขณะที่มีคนร้ายยิงปืนลงมาจากสถานีรถไฟฟ้าทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 9 ราย แต่จนบัดจนนี้ศอฉ . ก็ยังไม่อนุญาต ให้เอารถมารับกลับ (ข่าวสปริงนิวส์สัมภาษณ์สดรองประธานสส.)
09.40 น. 35 จุดควบคุมเพลิงได้แล้ว แต่ที่ธนาคารกรุงเทพฯสะพานเหลือง, เซ็นทรัลเวิรด์, บิ๊กซีราชดำริ, เซ็นเตอร์วันยังมีเพลิงอยู่
10.00 น. แม้ไม่มีเวทีย่อยแล้ว แต่คนยังไปรวมตัวกันที่ห้าง Big C ลาดพร้าว แต่ไร้แกนนำ ไม่มีแม้โทรโข่ง เอาแต่นั่งปรับทุกข์กัน
10.50 น. ดีเจอ้นรายงาน -- จากการพูดคุยจากป้าเสื้อแดงท่านหนึ่งที่ติดอยู่ที่วัดปทุมวนารามซึ่งเข้าไป หลบภัยล่าสังหารของทหารนั้นผู้ที่เข้าไปหลบภัยหวาดกลัวเป็นอย่างมากไม่ต้อง การรับการช่วยเหลือจากรัฐบาลต้องการ เพียงความช่วยเหลือจากคนเสื้อแดงหรือพรรคเพื่อไทยเท่านั้นผมได้ประสานไปยัง เพื่อนท่านหนึ่งซึ่งมีความสามารถในการประสานความช่วยเหลือนี้ได้ซึ่งล่าสุด ตำรวจหน่วยอินทราชและพลร่มหญิงได้เข้าไปช่วยเหลือและพรรคเพื่อไทยเป็นผู้ดำเนินการเรื่องแล้วนี้เรียบร้อยแล้ว
11.00 น. นายสมบัติชี้ว่าการออกมาพูดของนายปณิธานที่กล่าวว่าผู้เสียชีวิต 6 คนที่วัดปทุมฯ เกิดจากผู้ไม่หวังดีเป็นการตอแหล
11.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สตช. ขณะนี้ผู้ชุมนุมหลายพันคนที่รวมตัวกันบริเวณวัดปทุมฯ ได้มารวมตัวกันจนเต็มพื้นที่แล้วและมีการจัดแยกออกเป็นภูมิภาคจากนั้นจะเดินเท้าออกไปทางประตูติด ถ.อังรีดูนังต์ เพื่อเดินเท้าต่อไปที่สนามศุภชลาศัย โดยในเบื้องต้นคาดว่า ส.ส.พรรคเพื่อไทย จะนั่งรถไปส่งด้วย
12.00 น. ก่อแก้ว พิกุลทอง โพสต์ผ่าน face book ว่าจะเข้ามอบตัวพร้อมนายวีระมุสิกพงศ์ที่ กองปราบฯ "เราไม่ได้พ่ายแพ้เราไม่ได้ยอมจำนน วันนี้เราปลุกคนทั้งโลกให้มาสนใจในปัญหาที่เกิดขึ้นในประเทศไทยขอขอบพระคุณผู้เสียสละทุกท่านความกล้าหาญของท่านจะเป็นที่จดจำตลอดไปผมดีใจและภูมิใจที่ได้ต่อสู้เคีบงบ่าเคียงไหล่มาด้วยกันเราจะไม่ หยุดการต่อสู้จนกว่าความถูกต้องจะกลับคืนสู่ประเทศไทย"
ประกาศเคอร์ฟิว 20-22พ.ค. เวลา 3 ทุ่มถึงตี 5
12.20 น. สมบัติ บุญงามอนงค์ - เชิญร่วมกิจกรรมสันติวิธี "หยุดฆ่า หยุดเผา หยุดรัฐบาลอภิสิทธิ์" บ่าย 3-6 โมงเย็น ใต้ด่วนลาดพร้าว 71
12.55 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.55 น. นายวีระ มุสิกพงศ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และนพ.เหวง โตจิราการ แกนนำนปช. เดินทางถึงกองบังคับการปราบปราม ถ.พหลโยธิน เพื่อมอบตัวแล้ว โดยนายวีระใส่เสื้อเชิ้ตสีฟ้า และสวมเสื้อแขนยาวสีแดงคลุมทับอีกชั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนายวีระ และนพ.เหวง ยังคงมีสีหน้ายิ้มแย้ม
13.00 น. วีระ มุสิกพงศ์ ฝากถึงแดงแท้ ยึดสันติอหิงสาในการต่อสู้ เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย ยันคนเสื้อแดงไม่เป็นพิษเป็นภัยแก่ประเทศชาติ-สถาบัน แกนนำ นปช. เปิดเผยก่อนเดินทางไปที่ควบคุมตัวใน อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ว่า ขอฝากสื่อมวลชนที่จะนำข่าวสารไปสู่พี่น้องประชาชนทั่วประเทศรวม ถึงคนเสื้อแดงว่าวันนี้ที่ตนสวมเสื้อแดงก็เพื่อยืนยันว่าคนเสื้อแดงไม่เป็นพิษเป็นภัยแก่ประเทศชาติ-สถาบันทุกสถาบัน แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วง 2-3 วัน ที่ผ่านมาเป็นโศกนาฏกรรมก็ขอฝากไปยังพี่น้องที่เป็นเสื้อแดงแท้ให้ยึดมั่นในแนวทางสันติอหิงสาในการต่อสู้เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย
13.30 น. แดงกาฬสินธุ์ประกาศยุติความเป็นคนไทยตั้งโต๊ะรับคืนบัตรประชาชนเป็นสัญลักษณ์ในการต่อสู้เพื่อความสงบ , ที่มุกดาหารฮือเผาศาลากลางทั้งเก่าและใหม่ , แดงเชียงใหม่เผารถดับเพลิงเทศบาลยิ่งวุ่นหนักหลังประกาศเคอร์ฟิว และ ที่ อุดรธานี ทหารส่งหน่วยลาดตระเวนเขตเทศบาล
14.00 น. ที่อุบลราชธานีมีการปิดล้อมมหาวิทยาลัยราชภัฎ
18.00 น. อดีตรมว. ต่างประเทศออสเตรเลียวิเคราะห์ว่าตราบใดที่กลุ่มผู้ใช้แรงงานและเกษตรกรยัง คงรวมตัวเคลื่อนไหวได้อย่างมีประสิทธิภาพรัฐบาลไทยชุดปัจจุบันก็จะไม่ให้ สิทธิในการเลือกตั้งครั้งใหม่แก่พวกเขาซึ่งนั่นจะส่งผลให้ ความตึงเครียดของสังคมไทยยังคงดำรงอยู่ต่อไป อดีตรมว.ต่างประเทศออสเตรเลียวิเคราะห์ว่า ตราบใดที่กลุ่มผู้ใช้แรงงานและเกษตรกรยังคงรวมตัวเคลื่อนไหวได้อย่างมี ประสิทธิภาพ รัฐบาลไทยชุดปัจจุบันก็จะไม่ให้สิทธิในการเลือกตั้งครั้งใหม่แก่พวกเขา ซึ่งนั่นจะส่งผลให้ความตึงเครียดของสังคมไทยยังคงดำรงอยู่ต่อไป
19.00 น. ขู่วางระเบิด ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่
20:50 น. รัฐบาลฝรั่งเศสขวาง "ทักษิณ" แสดงปาฐกถาวิกฤตการเมืองไทย และทักษิณ ได้ออกจากปารีสไปลอนดอนแล้ว
21.30 น. เพลิงไหม้ตึกกลาง ซ. ราชวิถี 1 ทะลุซอยรางน้ำหน่วยดับเพลิงไม่กล้าเข้าชาวบ้านไม่กล้าออกหวั่นโดนยิงรอ ประสานทหารรับตัวเข้าไปรับตัว
22.00 น. เกิดเหตุเพลิงย่านคลองเตยไหม้
22.00 น. สถานการณ์ที่เชียงใหม่: ช่วงเวลา 21.30-22.30 น. โดยรวมท้องถนนเชียงใหม่ยังพลุกพล่าน / พบวัยรุ่นลักลอบเผาหญ้าข้างทางแถววงแหวนแม่เหี๊ยะห่าง LPG ปั๊ม 200-300 ม. รถดับเพลิงมาฉีดน้ำดับได้ทัน / ร้านเหล้าริมถนนต่างๆเท่าที่พบเห็นยังเปิดบริการตามปกติ / แต่บางเส้นรถราวิ่งบางตาเห็นได้ชัดเช่นเส้นหางดง / แยกแอร์พอร์ตพลทหารเป็น 10 แบกอาวุธสงครามรักษาการณ์ / 7-11, ปั๊มน้ำมันปิดหน้ากันถ้วนหน้า
23.00 น. ข่าวจากประเทศเบลเยี่ยม แจ้งว่า รัฐบาลประเทศเบลเยี่ยมสั่งให้บริษัทส่งออกอาวุธหยุดส่งอาวุธให้ไทยโดยให้ เหตุผลว่ามีปัญหาทางการเมือง
Rudy Demotte ประธานแคว้น Wallon สั่งระงับการส่งออกอาวุธจากแคว้น Wallon ไปยังราชอาณาจักรไทย หลังจากเฝ้าสังเกตการณ์วิกฤตการเมืองนี้มาตลอด ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจเมื่อช่วงวันหยุดยาวเทศกาล Ascension ทั้งนี้จำนวนใบอนุญาต บริษัท หรือสัญญาไหนบ้างนั้นไม่มีใครทราบ เพราะเป็นความลับ
แต่บริษัท FN Herstal (บริษัทส่งออกอาวุธหลักของแคว้นนี้) ออกมาบอกว่า เพิ่งจะรับทราบคำสั่งนี้อย่างเป็นทางการเมื่อวันอังคาร (18 พ.ค.) ที่ผ่านมา และได้แขวนสัญญาการค้าอาวุธไว้แล้ว เราเคารพคำสั่งนี้ และเราจะเฝ้ารอต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น