"ดา ตอร์ปิโด" หรือ นางสาวดารณี ชาญเชิงศิลปกุล วัย 45 ปี เป็นชาวกรุงเทพมหานคร โดยกำเนิด และด้วยความที่สนใจข่าวสารโดยเฉพาะข่าวการเมือง จึงเข้าศึกษาต่อที่คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง หลังจากนั้นก็เริ่มต้นชีวิตการทำงาน ด้วยการเป็นนักข่าวด้านการเมืองและเศรษฐกิจ ของหลายๆ สำนักพิมพ์ ไม่ว่าจะเป็น วัฏจักร พิมพ์ไทย ไทยสกายทีวี
แต่หลังจากเกิดการปฏิวัติ ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ดา ตอร์ปิโด ได้ตัดสินใจลาออกจากอาชีพนักข่าวอย่างกระทันหัน โดยให้เหตุผลว่า "ไม่อยากเป็นสื่อมวลชนที่ถูกครอบงำ อยากทำงานอย่างอิสระ วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล และคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ เรียกร้องประชาธิปไตยได้อย่างเต็มที่ ตรงไปตรงมา ไม่ต้องมีใครกลัวใคร"
ก่อนหน้านี้อาจจะไม่ค่อยมีใครรู้จัก "ดารณี ชาญเชิงศิลปกุล" แต่หลังจากที่เธอได้ตั้งเครือข่ายสภาประชาชนเรียกร้องประชาธิปไตย เธอก็เป็นที่รู้จักและได้รับฉายาว่า "ดา ตอร์ปิโด" ซึ่งเป็นฉายาที่เพื่อนๆ ตั้งให้เนื่องจากเห็นลีลาการปราศรัยบนเวทีที่ดุเด็ด เผ็ดมัน ทั้งอารมณ์ น้ำเสียง ถ้อยคำ ที่คล้ายกับระเบิดตอร์ปิโดลง
สำหรับจุดยืนที่ "ดา ตอร์ปิโด" ได้ตั้งเครือข่ายสภาประชาชนเรียกร้องประชาธิปไตยนี้ เพื่อเรียกร้องให้มีการนำรัฐธรรมนูญปี พ.ศ.2540 กลับมาใช้เลือกตั้ง พร้อมกับเป็นตัวตั้งตัวตีลุกขึ้นมาประท้วงการทำงาน ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ ด้วยรูปแบบการปราศรัยที่ดุเดือด
และคืนวันที่ 31 พฤษภาคม 2550 ดา ตอร์ปิโด ได้ไปรวมกลุ่มกับ "พีทีวี" (PTV) ที่บริเวณท้องสนามหลวง (ขณะนั้นกลุ่มพีทีวีกำลังตั้งเวทีขับไล่รัฐบาลนายกรัฐมนตรี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนน์) โดย ดา ตอร์ปิโด ได้เปิดเวทีเล็กๆ ด้านข้างเวทีใหญ่ของพีทีวี ด่าทอคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ ตุลาการรัฐธรรมนูญ และ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ จนกระทั่ง นางยุพา อิ่มแดง อายุ 34 ปี แม่ค้าขายดอกไม้ ย่านปากคลองตลาด ทนไม่ไหว ถึงกับนำถุงพลาสติกที่ข้างในใส่อุจจาระปาใส่หน้า ดา ตอร์ปิโด ทำให้ขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์หลายฉบับ
ยุพา อิ่มแดง แม่ค้าปาอึใส่ ดา ตอร์ปิโด สำหรับจุดยืนที่ "ดา ตอร์ปิโด" ได้ตั้งเครือข่ายสภาประชาชนเรียกร้องประชาธิปไตยนี้ เพื่อเรียกร้องให้มีการนำรัฐธรรมนูญปี พ.ศ.2540 กลับมาใช้เลือกตั้ง พร้อมกับเป็นตัวตั้งตัวตีลุกขึ้นมาประท้วงการทำงาน ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ ด้วยรูปแบบการปราศรัยที่ดุเดือด
และคืนวันที่ 31 พฤษภาคม 2550 ดา ตอร์ปิโด ได้ไปรวมกลุ่มกับ "พีทีวี" (PTV) ที่บริเวณท้องสนามหลวง (ขณะนั้นกลุ่มพีทีวีกำลังตั้งเวทีขับไล่รัฐบาลนายกรัฐมนตรี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนน์) โดย ดา ตอร์ปิโด ได้เปิดเวทีเล็กๆ ด้านข้างเวทีใหญ่ของพีทีวี ด่าทอคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ ตุลาการรัฐธรรมนูญ และ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ จนกระทั่ง นางยุพา อิ่มแดง อายุ 34 ปี แม่ค้าขายดอกไม้ ย่านปากคลองตลาด ทนไม่ไหว ถึงกับนำถุงพลาสติกที่ข้างในใส่อุจจาระปาใส่หน้า ดา ตอร์ปิโด ทำให้ขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์หลายฉบับ
ต่อมาหลังจากการเลือกตั้ง เดือนธันวาคม 2550 เสร็จสิ้น รัฐบาลพรรคพลังประชาชนก็ได้เข้ามาทำหน้าที่บริหารประเทศต่อ เป็นผลทำให้กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (People's Alliance for Democracy: PAD) ลุกขึ้นมาประท้วงขับไล่รัฐบาลพรรคพลังประชาชน โดยอ้างว่าเป็นรัฐบาลนี้ยังคงเป็นเครือข่ายของระบอบทักษิณ (พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี) ทำให้ ดา ตอร์ปิโด ลุกขึ้นมาต่อต้านกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอีกครั้งเช่นกัน โดยร่วมกับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และเปิดการชุมนุมต่อต้านกลุ่มพันธมิตรที่บริเวณท้องสนามหลวง
และเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2551 ดา ตอร์ปิโด ได้ขึ้นเวทีปราศรัยกลุ่มต่อต้านพันธมิตร ณ บริเวณท้องสนามหลวง ระหว่างปราศรัยนี้เธอได้ใช้ถ้อยคำดูหมิ่น หมิ่นประมาท หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อสถาบันเบื้องสูง อันเป็นการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และถือเป็นการมิบังควรอย่างที่สุด ทำให้กองทัพบกมีหนังสือด่วนที่สุด ถึงผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เรื่องขอให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดต่อพระมหากษัตริย์ ทำให้ ดา ตอร์ปิโด ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดี
และเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2551 ดา ตอร์ปิโด ได้ขึ้นเวทีปราศรัยกลุ่มต่อต้านพันธมิตร ณ บริเวณท้องสนามหลวง ระหว่างปราศรัยนี้เธอได้ใช้ถ้อยคำดูหมิ่น หมิ่นประมาท หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อสถาบันเบื้องสูง อันเป็นการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และถือเป็นการมิบังควรอย่างที่สุด ทำให้กองทัพบกมีหนังสือด่วนที่สุด ถึงผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เรื่องขอให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดต่อพระมหากษัตริย์ ทำให้ ดา ตอร์ปิโด ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดี
ดา ตอร์ปิโด หลังถูก ยุพา อิ่มแดง ปาอึใส่
อย่างไรก็ตาม แม้ "ดา ตอร์ปิโด" จะยืนหยัดเรียกร้องประชาธิปไตย แต่ทุกฝ่ายก็ไม่เห็นด้วย ที่เธอจะนำเอาสถาบันเบื้องสูงที่ประชาชนคนไทยเคารพรักยิ่งมาพาดพิงเช่นนี้ และพฤติกรรมของเธอก็ถือว่าไม่สมควรเป็นอย่างยิ่ง
อ่าน เรื่องสั้น ของคนโดนจำคุกยาวที่นี่
อ่าน เรื่องสั้น ของคนโดนจำคุกยาวที่นี่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น