สหพร ทิพย์จำนงค์ ได้เขียนบันทึกใหม่: เกษตรต้นน้ำ คุณค่าที่ถูกเมิน 3.
เกษตรต้นน้ำ คุณค่าที่ถูกเมิน 3จากคำถามตอนที่2ใครทำลายเรา และ เราทำลายเราเพื่อใคร?
ปุ๋ยเคมี....ไม่ใช่เป็นแค่ปุ๋ย
ยาฆ่าหญ้า เป้าหมายที่แท้จริงคือ ฆ่าพืชท้องถิ่น ถึงไม่ฆ่าก็ทำให้พิกลพิการ ฆ่าใส้เดือนและฆ่าจุลินทรีย์ มหามิตรของแผ่นดินเราเอง แต่มันไม่ได้หยุดแค่นั้น มันหมายถึงแมลงที่มีประโยชน์สำหรับเราสารพัดชนิด ตั้งแต่เป็นตัวสำคัญในระบบนิเวศน์ กลไกสำคัญเรื่องการผสมพันธุ์ของพืชไปจนถึงแมลงผลิตอาหารวิเศษอย่างผึ้ง
ยาฆ่าหญ้าพัฒนาถึงระดับเลือกฆ่าได้เช่นฆ่าหญ้าแต่ไม่ฆ่าข้าว แต่เราก็ลืมนึกไปว่ามันไปสะสมในข้าวที่เรากินหรือไม่ ที่แน่ๆกุ้งหอยปูปลาตายห่าเรียบยกทุ่ง
น่าแปลกใจตรงที่มันพัฒนาเพื่อพืชที่กลุ่มทุนขาย โดนแล้วไม่ตาย แต่พืชธรรมชาติในกลุ่มเดียวกันที่ยังไม่ตัดต่อพันธุกรรมดัน"ตาย"ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต
ยาฆ่าหญ้าไม่ได้หยุดแค่พื้นดิน เพราะมันระเหยสู่อากาศ ใครบอกว่าบ้านนอกอากาศบริสุทธิ์? บริสุทธิ์ยังไงครับ? ยาฆ่าหญ้าระเหยเต็มฟ้า
ใครบอกว่าชนบทน้ำสะอาดในเมื่อน้ำชะล้างยาฆ่าหญ้าลงสู่แหล่งน้ำ และปัจจุบันน้ำบ่อชนบทที่เป็นบ่อน้ำตื้น ส่วนใหญ่กินไม่ได้
"ลองหาคำตอบดูนะครับว่า คนเมืองกับคนบ้านนอก ใครเป็นมะเร็งตายมากกว่ากัน"
ยาฆ่าศัตรูพืช เป้าหมายไม่ได้ใช่แค่ศัตรูพืช แต่หมายถึงสัตว์ที่เรากินโดนทำลายไปด้วย ที่รอดอยู่ได้ก็เป็นตัวสะสมพิษให้เรากินพิษ จุลินทรีย์ที่โดนถล่มจากยาฆ่าหญ้าแม้จะรอดมาได้บ้างก็ต้องตายเพราะยาฆ่าศัตรูพืช แมลงที่มีประโยชน์ที่รอดจากยาฆ่าหญ้าก็ไม่รอดเพราะยาฆ่าศัตรูพืช
หนำซ้ำพืชที่เรากินก็ปนเปื้อนยาฆ่าศัตรูพืช ในน้ำที่มียาฆ่าหญ้าก็จะมียาฆ่าศัตรูพืชเป็นไอ้เกลอคู่ระยำ
ปุ๋ยเคมี อันนี้ก็เลว แต่ถ้าบริหารจัดการได้มันก็พอทำเนา ปัญหาคือเกิน90%ของผู้ใช้นั้นไม่รู้จักปุ๋ยเคมี ใส่ตามสั่งแบบท่องจำจนเกิดพิษตกค้างมหาศาลในดิน สิ่งมีชีวิตที่ทำหน้าที่บำรุงดินก็ตายเรียบ ดินเป็นกรดจนจุลินทรีย์ไม่สามารถอยู่ได้แม้เราจะเติมลงไปในวิถีอินทรีย์ก็ตายหมด
ปุ๋ยเคมีมีอัตราการละลายน้ำสูงมาก และต้นไม้ได้ใช้แค่ไม่เกิน40%มันก็หายไปกับน้ำที่ละลาย และน้ำไปใหน???? จึงบรรลัยได้ต่อเนื่องจากสองกรณีแรก นี่เราบ้ากันถึงขนาดซื้อแพงมาเพื่อใช้ไม่ถึงครึ่ง ที่เหลือไว้ฆ่าตัวตายทางอ้อม!!
ทะเลคือแหล่งเก็บพิษขนาดยักษ์ แหล่งอาหารหลักที่ค่อยๆกลายเป็นแหล่งพิษ....และผู้ร่ำรวยจากเคมีรายยักษ์ก็ยังถล่มทะเลด้วยการจับปลาแบบไม่เลือกเพียงเพื่อ"อาหารสัตว์" ซึ่งเนื้อแท้คือการทำลายการพึ่งตัวเองของปวงประชาให้มากที่สุด
เกิน30ปีที่สารพัดรัฐบาลส่งเสริมวิถีเคมีด้วยหน่วยงานรัฐอย่างกระทรวงเกษตร
ผลที่ได้คือกลุ่มทุนรวยมหาศาล แต่ปริมาณคนป่วยตายเพิ่มพูน คนจนเพิ่มจำนวน คนหมดที่ทำกินก็เพิ่มจำนวน อาหารตามธรรมชาติหมดไปอย่างรวดเร็ว ความมั่นคงทางอาหารไม่อยู่ในมือเกษตรกรอีกต่อไป
ตกลงว่าเรามีกระทรวงเกษตรไว้เพื่อทำลายเกษตรของประชาชนเพื่อกลุ่มทุนยึดปากท้องใช่ใหม?
ตกลงว่าเรามีรัฐบาลเพื่อทำลายความมั่นคงทางอาหารของประชาชนใช่ใหม?
คนของใคร ย่อม รับใช้ผู้นั้น
และวันนี้"เหตุการณ์ยังไม่เปลี่ยนแปลง และ ยิ่งเพิ่มความรุนแรง"
ยาฆ่าหญ้า เป้าหมายที่แท้จริงคือ ฆ่าพืชท้องถิ่น ถึงไม่ฆ่าก็ทำให้พิกลพิการ ฆ่าใส้เดือนและฆ่าจุลินทรีย์ มหามิตรของแผ่นดินเราเอง แต่มันไม่ได้หยุดแค่นั้น มันหมายถึงแมลงที่มีประโยชน์สำหรับเราสารพัดชนิด ตั้งแต่เป็นตัวสำคัญในระบบนิเวศน์ กลไกสำคัญเรื่องการผสมพันธุ์ของพืชไปจนถึงแมลงผลิตอาหารวิเศษอย่างผึ้ง
ยาฆ่าหญ้าพัฒนาถึงระดับเลือกฆ่าได้เช่นฆ่าหญ้าแต่ไม่ฆ่าข้าว แต่เราก็ลืมนึกไปว่ามันไปสะสมในข้าวที่เรากินหรือไม่ ที่แน่ๆกุ้งหอยปูปลาตายห่าเรียบยกทุ่ง
น่าแปลกใจตรงที่มันพัฒนาเพื่อพืชที่กลุ่มทุนขาย โดนแล้วไม่ตาย แต่พืชธรรมชาติในกลุ่มเดียวกันที่ยังไม่ตัดต่อพันธุกรรมดัน"ตาย"ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต
ยาฆ่าหญ้าไม่ได้หยุดแค่พื้นดิน เพราะมันระเหยสู่อากาศ ใครบอกว่าบ้านนอกอากาศบริสุทธิ์? บริสุทธิ์ยังไงครับ? ยาฆ่าหญ้าระเหยเต็มฟ้า
ใครบอกว่าชนบทน้ำสะอาดในเมื่อน้ำชะล้างยาฆ่าหญ้าลงสู่แหล่งน้ำ และปัจจุบันน้ำบ่อชนบทที่เป็นบ่อน้ำตื้น ส่วนใหญ่กินไม่ได้
"ลองหาคำตอบดูนะครับว่า คนเมืองกับคนบ้านนอก ใครเป็นมะเร็งตายมากกว่ากัน"
ยาฆ่าศัตรูพืช เป้าหมายไม่ได้ใช่แค่ศัตรูพืช แต่หมายถึงสัตว์ที่เรากินโดนทำลายไปด้วย ที่รอดอยู่ได้ก็เป็นตัวสะสมพิษให้เรากินพิษ จุลินทรีย์ที่โดนถล่มจากยาฆ่าหญ้าแม้จะรอดมาได้บ้างก็ต้องตายเพราะยาฆ่าศัตรูพืช แมลงที่มีประโยชน์ที่รอดจากยาฆ่าหญ้าก็ไม่รอดเพราะยาฆ่าศัตรูพืช
หนำซ้ำพืชที่เรากินก็ปนเปื้อนยาฆ่าศัตรูพืช ในน้ำที่มียาฆ่าหญ้าก็จะมียาฆ่าศัตรูพืชเป็นไอ้เกลอคู่ระยำ
ปุ๋ยเคมี อันนี้ก็เลว แต่ถ้าบริหารจัดการได้มันก็พอทำเนา ปัญหาคือเกิน90%ของผู้ใช้นั้นไม่รู้จักปุ๋ยเคมี ใส่ตามสั่งแบบท่องจำจนเกิดพิษตกค้างมหาศาลในดิน สิ่งมีชีวิตที่ทำหน้าที่บำรุงดินก็ตายเรียบ ดินเป็นกรดจนจุลินทรีย์ไม่สามารถอยู่ได้แม้เราจะเติมลงไปในวิถีอินทรีย์ก็ตายหมด
ปุ๋ยเคมีมีอัตราการละลายน้ำสูงมาก และต้นไม้ได้ใช้แค่ไม่เกิน40%มันก็หายไปกับน้ำที่ละลาย และน้ำไปใหน???? จึงบรรลัยได้ต่อเนื่องจากสองกรณีแรก นี่เราบ้ากันถึงขนาดซื้อแพงมาเพื่อใช้ไม่ถึงครึ่ง ที่เหลือไว้ฆ่าตัวตายทางอ้อม!!
ทะเลคือแหล่งเก็บพิษขนาดยักษ์ แหล่งอาหารหลักที่ค่อยๆกลายเป็นแหล่งพิษ....และผู้ร่ำรวยจากเคมีรายยักษ์ก็ยังถล่มทะเลด้วยการจับปลาแบบไม่เลือกเพียงเพื่อ"อาหารสัตว์" ซึ่งเนื้อแท้คือการทำลายการพึ่งตัวเองของปวงประชาให้มากที่สุด
เกิน30ปีที่สารพัดรัฐบาลส่งเสริมวิถีเคมีด้วยหน่วยงานรัฐอย่างกระทรวงเกษตร
ผลที่ได้คือกลุ่มทุนรวยมหาศาล แต่ปริมาณคนป่วยตายเพิ่มพูน คนจนเพิ่มจำนวน คนหมดที่ทำกินก็เพิ่มจำนวน อาหารตามธรรมชาติหมดไปอย่างรวดเร็ว ความมั่นคงทางอาหารไม่อยู่ในมือเกษตรกรอีกต่อไป
ตกลงว่าเรามีกระทรวงเกษตรไว้เพื่อทำลายเกษตรของประชาชนเพื่อกลุ่มทุนยึดปากท้องใช่ใหม?
ตกลงว่าเรามีรัฐบาลเพื่อทำลายความมั่นคงทางอาหารของประชาชนใช่ใหม?
คนของใคร ย่อม รับใช้ผู้นั้น
และวันนี้"เหตุการณ์ยังไม่เปลี่ยนแปลง และ ยิ่งเพิ่มความรุนแรง"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น