กระทู้ผมที่ตั้งเป็นเรื่องจริง เป็นชีวิตจริงของผู้ชายคนหนึ่งที่กว่าจะมีชีวิตเป็นปกติแบบนี้ได้ ได้ผ่าน ได้เห็น ได้สัมผัสอะไรมาเยอะพอสมควรครับ ผมจึงอยากเล่าเรื่องราวชีวิตของผมทั้งหมดให้เพื่อน ๆ ทุกคน ทุกสี ทุกกลุ่มฟัง ซึ่งมันจะทำให้ท่านแต่ละสี แต่ละกลุ่ม
อาจจะมีความรู้สึกที่ดีต่อกันก็ได้ หรืออาจจะทำให้ท่านรู้ว่า ทำไมคนจนเขารักทักษิณ ทำไมคนชื่อทักษิณตอบโจทย์คนจนได้ขนาดนี้ แล้วถ้าจะทำให้คนจนเปลี่ยนใจจากทักษิณจะต้องทำอย่างไร โดยท่านเอาชีวิตผมนี่แหละเป็นโจทย์คิด (ผมมีเรื่องที่เข้าไปเกี่ยวพันกับสิ่งต่าง ๆ กับผู้คนอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งเมื่ออ่านแล้วอาจทำให้ท่านเข้าใจ "คนจน" เข้าใจคำว่า "ขาดโอกาส ด้อยโอกาส" นั้นมากยิ่งขึ้น) ตั้งแต่เกิด เรียนหนังสือ เข้าไปทำงานที่กรุงเทพฯ กลับบ้านนอก ช่วงสร้างเนื้อสร้างตัว และชีวิตปัจจุบัน ซึ่งบางช่วงละครน้ำเน่าก็ไม่ปาน ผมจะเล่าให้ละเอียดที่สุด ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับชีวิตผมบางคนที่อยู่ในกรุงเทพ ท่านสามารถเดินไปเคาะประตูบ้านได้เลย. จริง ๆ
เพื่ออะไรครับก็เพียงเพื่อ ให้หลาย ๆ ท่านได้รู้ได้เข้าใจคำว่า "คนจน คนด้อยโอกาส ความไม่เป็นธรรม ค่านิยมของสังคม วิธีคิดของคนบ้านนอก การซื้อเสียง (พรรคที่บอกคนอื่นซื้อเสียงนั่นแหละตัวเป้งเจ้าตำรับ) หน่วยงาน ราชการ คุณธรรมจริยธรรมของคนในสังคมบ้านนอกอย่างผม และอื่น ๆ แล้วสุดท้ายแล้วแต่ท่านจะนำไปใช้ประโยชน์อะไร" เพราะท่านจะได้รู้ว่า ระบอบทักษิณมันได้ซึมลึกในเส้นเลือดและจิตวิญญาณของคนจนแล้ว โดยไม่มีใครจะลบได้ แม้ฝ่ายตรงกันข้ามจะชนะเลือกตั้งในอนาคต แต่รูปแบบและวิธีการบริหารจัดการบ้านจะยังเป็นไปในแนวของท่านทักษิณที่ได้วางไว้
แต่ นึกอีกทีหนึ่งก็ไม่อยากเขียนหรอกครับ เพราะที่นี่มันเป็นพื้นที่ของหลายคน ครั้นจะเอาแต่เรื่องของตนเองมาใส่ไว้ก็เกรงใจเพื่อน ๆ คนอื่น ๆ ผมกลัวคนเพื่อน ๆ หมั่นไส้เอา ทั้งยังเป็นคนขี้อายครับ ขี้ใจน้อยด้วย ไม่ค่อยกล้าแสดงออกเท่าไหร่ บางครั้งบางเรื่องไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองครับ (อย่างเรื่องนี้แหละ) ตามประสาคนบ้านนอกไร้ประสบการณ์
แต่...ก็อย่างว่าแหละครับ คนจน คนด้อยโอกาส มันหาพื้นที่ให้ตนเองเพื่อจะบอกความจริงให้หลาย ๆ คนได้รับรู้
มันก็ยากอย่างที่เห็น.. (ผมคิดเสมอว่า ผมไม่แน่ ผมไม่เจ๋ง ผมไม่รวย ผมไม่มีชนชั้น เพียงแต่อยากบอกเพื่อน ๆว่า ชีวิตผมเป็นมาแบบนี้ เป็นเพียงคนธรรมดา ๆ คนหนึ่งในสังคมที่สับสน เท่านั้นเอง)
เอาเป็นว่า ถ้าเพื่อน ๆ ต้องการอ่าน ต้องการให้ผมเขียนก็ขอให้ส่งกำลังใจหรือแสดงความคิดเห็นมาก็แล้วกันนะครับ..
และยินดีเล่าทุกเรื่อง หากท่านต้องการทราบประเด็นอะไร หรือช่วงไหนก็ตั้งคำถามได้ หรือหากท่านได้จะช่วยเสริมประเด็นไหนก็ทำได้
ผมยินดีรับฟัง และพร้อมจะปรับปรุงแก้ไข
คนจน ๆ ที่รักเพื่อน ๆ ทุกคนครับ
ทรงสิทธิ์ พุ่มจันทร์
081-5935233
ต้องขอออกตัวก่อนครับว่า ไม่มีเจตนาจะอวด จะอวย จะทะเลาะ อะไรกับใครทั้งสิ้น เพียงแต่อยากเล่าเรื่องจริงที่เกิดขึ้นแค่นั้นครับ
ผมเป็นคน ตจว. เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ ประมาณ 8-9 ปี ผมกลับบ้านที่ต่างจังหวัดเมื่อปี 39 กลับไปเปิดร้านถ่ายเอกสารเล็ก ๆ (มากๆ)มีเครื่องถ่ายเก่า ๆ ตัวหนึ่ง เครื่องคอมฯ เครื่องเคลือบบัตร อย่างละตัวครับ เมีย 1 ลูก 1 อายุ 6 เดือน บ้านเช่า 2000 /เดือน(จ่ายรายปี)
ข้าวไม่ต้องซื้อ ในช่วง 3 เดือนแรก มีรายได้วันละ 20-30 บาท ซื้อไก่ 1 ไม้ 10 บาท กินทั้ง 3 มื้อกับเมีย
ต่อมาเดือนที่ 4 5 6... มีรายได้วันละ 50 บาท (ดีใจแทบตาย) วันไหนที่ได้ 100 ดีใจยังกะถูกหวย
พอปี 40 เศรษฐกิจไทยก็ทรุด ช่วงนั้นนายชวน เป็นนายกฯ ซึ่งการแก้ปัญหาขณะนั้น นายชวนจะออกในแนวประหยัด มัธยัสถ์ และมีการส่งเสริมทฤษฎีพอเพียง ช่วงนั้นคนต่างจังหวัดกลับบ้านกันเยอะมาก เพราะตกงาน ค้าขายขาดทุน แทบทุกคนกลับบ้านไปอาศัยพ่อแม่ที่บ้านนอกที่ส่วนมากเป็นเกษตรกร ทำไร่ ทำสวน ทำนา กลับมาช่วยพ่อแม่ทำงานที่บ้าน ก็ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ไม่ลำบากมาก เพราะมีบ้านอยู่ มีข้าวกิน อาหารการกินหาได้ตามท้องไร่ท้องนา จะไม่มีก็แค่เงินเท่านั้น
ช่วงนั้นทั้งสื่อมวลชน รัฐบาล นักวิชาการ วิชาเกิน ต่างมองเห็นเป็นแนวทางเดียวกันว่า บ้านและครอบครัวที่ต่างจังหวัดของแต่ละคน และการเกษตร นั่นแหละคือฐานที่มั่นของชีวิต ภาคเกษตรคือเบาะรองรับการล้มที่ดีที่สุด และขอบคุณเกษตรกรคนต่างจังหวัดที่ช่วยดูและและรับภาระช่วงที่เกิดวิกฤต
ผมเปิดร้านปี 39 ปี 40 เศรษฐกิจทรุด ประกอบกับร้านก็เล็ก เงินทุนหมุนเวียน 4,000 บาท หลักทรัพย์อะไรก็ไม่มี ไปกู้เงินออมสินเขาก็ไม่ให้กู้ ไปกู้กรุงไทยเขาก็ไม่ให้กู้ ก็อยู่ไปตามประสารอวันตาย นึ่งข้าวเหนียวใส่กระติบ ซื้อไก่ไม้ 10 ไม้หนึ่งกินกัน 2 คนผัวเมีย เลิกเหล้า เลิกบุรี่ เลิกเที่ยว ลดรายจ่ายทุกอย่างครับ ก็พออยู่ได้
ต่อมาไม่นานมีการเลือกตั้ง พรรคไทยรักไทย เอาป้ายมาติดหน้าร้าน พร้อมกับข้อความ คิดใหม่ ทำใหม่ ผมนึกในใจว่า ยังงัยก็จะเลือกท่านทักษิณ ด้วยเหตุผลที่ว่า อยากลองของใหม่ ชอบเครื่องแบบ หน้าตาท่านดี รวย และกล้าติดสินใจ บุคลิกดี กล้าพูด คุยกับฝรั่งเสียงดัง ฟังชัด ฉะฉาน ซึ่งก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมาก (ก็รู้กันอยู่ว่าในอดีตที่ผ่านมาเมื่อเลือกตั้งเสร็จก็งั้น ๆ คล้าย ๆ กับว่าเขาขออำนาจเราไป เมื่อได้แล้วก็จบกัน ติดตามไม่ได้ ตรวจสอบไม่ได้ เรียกร้องไม่ได้ ทวงสัญญานโยบายไม่ได้)
แต่... จากวันนั้นวันที่ ไทยรักไทยมาแขวนป้ายหน้าร้าน ชีวิตผมก็เปลี่ยนไป...
- ผมมีงานมากขึ้นเพราะ สส. เข้ามาถ่ายเอกสาร หลักฐานต่าง ๆ เยอะมาก ตั้ง 8 - 9 เบอร์ แต่ละเบอร์ทำเอกสารไม่ใช้น้อย ๆ ทำให้ได้งานได้เงินมากขึ้น ราคาดีขึ้น เมื่อผลปรากฎว่า ท่านทักษิณ ชนะเลือกตั้ง แถลงนโยบายเสร็จสรรพ ด้วยวลีที่ว่า "จะเป็นรัฐบาลที่ทำงานเหนื่อยและหนักเพื่อประชาชน" การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ต่างสนใจในนโยบาย (ในขณะที่ประเทศไทยเป็นหนี้ IMF แต่ท่านทักษิณบอกว่าจะให้เงินชาวบ้านไปบริหาร หมู่บ้านละ 1 ล้าน ตอนนั้น พรรร ปชป. เอาแต่นั่งหัวเราะ) ข้าราชการตื่นตัว มีความกระฉับกระเฉง โครงการต่าง ๆ พรั่งพรูออกมา (ซึ่งไม่บอกทุกท่านก็น่าจะรู้ว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงขนาดไหน)
- ต่อมามีนโยบาย ธนาคารคนจน ของธนาคารออมสิน ให้กู้รายละ 15,000 - 30,000 บาท ให้กับคนทั่วไปและพ่อค้าแม่ค้า โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ ไม่ต้องมีคนค้ำประกัน ผมก็เอาด้วยครับ ก็เอามาซื้อของเข้าร้านเพิ่ม ใช้หนี้เขาสัก 2-3 เดือน ก็ผ่อนเกือบหมด ต่อมาก็มีโครงการสินเชื่อห้องแถว ผมก็เอาด้วยครับ เอามาซื้อเครื่องตัด ซื้อเครื่องถ่ายเพิ่ม ซื้ออุปกรณ์ต่าง ๆ ต่อมาผมก็ไปขอสินเชื่อประเภทซื้อที่อยู่อาศัย ธ.ออมสินเห็นว่าผมส่งเงินเขาดี ไม่ขาดตกบกพร่องเขาก็ให้กู้ซื้อบ้านราคา 400,000 บาท (ร้านที่เช่าอยู่ทุกวันนี้) ก็ผ่อนมาเรื่อยครับ ตอนนี้เหลือแสนกว่าบาท ซึ่งเงินผ่อนกับเงินค่าเช่ามันก็พอๆกัน
- ต่อมาก็มีโครงการต่าง ๆ ออกมาจากรัฐอีกมากมาย ฯ ซึ่งทุกโครงการล้วนแต่กระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย กระจายเงิน กระจายโอกาส เช่น ป.บัณฑิต อาจารย์ 3 ผอ.กันดาร (ผอ.3.4) เพิ่มเงิน ป. ของตำรวจ หวยบนดิน เขียนจดหมายขอทุน 1 อำเภอ 1โรงเรียน
โอท๊อป แก้ปัญหาความยากจน 30 บาท พักหนี้ ฯลฯ ทุกโครงการ...ร้านค้าเล็ก ๆ อย่างผมก็จะได้งานเพิ่มขึ้น แน่นอนว่ารายได้ก็ตามมา ซึ่งเป็นคนละอย่างกันกับ ท่านชวน หลีกภัย แห่ง ปชป. ที่มุ่งเน้นการประหยัด เก็บหอมรอบริบ พอเพียง (และหลายคนก็ได้รับโอกาสเหมือนผมนี่แหละ)
จวบจนกระทั่งปัจจุบันนี้ จากที่ผมเป็นร้านเล็ก ๆ ในอดีต ปัจจุบันก็ถือว่ามีความพร้อมในการให้บริการลูกค้ามากขึ้น
มีเครื่องถ่าย 5 ตัว เครื่องพิมพ์ 2 ตัว เครื่องปริ้น 7 ตัว เครื่องคอม 2 ชุด เครื่องตัด อุปกรณ์อื่น ๆ อีก มากมาย
สั่งกระดาษเข้าครั้งละประมาณ 100-200 รีม(เอ4) ก็เป็นเรื่องปกติ ซื้อที่ในตัวอำเภอ 3 แปลง มีรถคันละล้านขับ จากร้านที่เช่าก็ซื้อเขาซะจะได้ไม่ต้องกลัวเขาไล่ที่ ส่งลูกเรียนพิเศษได้ ไปเที่ยวทะเลในวันหยุดได้ วันไหนว่าง ๆ ก็พาลูกเมียไปกินพิซซ่าได้ กินสุกี้ได้ ดูหนัง ตามห้าง ฯ ได้ มีโน๊ตบุ๊คให้ลูกใช้ มีโทรศัพท์มือถือดี ๆ เครื่องละหมื่นกว่า ๆ ใช้ มีทีวีจอ 40 นิ้วไว้ดู มีคาราโอเกะไว้ร้อง มีชุดโฮมเธียร์เตอร์ ชำระค่าเน็ตเดือนละ 700 ได้ และก็เป็นหนี้ได้สัก 2-300,000 บาท คือ สรุปว่าชีวิตมันเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น แม้มันจะไม่มากก็ตาม อาจเป็นหนี้เป็นสินบ้าง แต่ก็อยู่ในภาวะที่จะชำระได้ หักลบกลบหนี้แล้วก็พอมีกำไร (มันก็ดีกว่าตอนทั้งวัน ไก่ 1 ไม้ 10 บาท กินทั้งผัวเมีย จนชาวบ้านเขาต่างดูถูกว่า สงสัยจะเลี้ยงลูกเลี้ยงครอบครัวไม่ไหว)
ที่เล่ามานี้ ผมไม่ได้ว่าจะอวด จะอวย จะทะเลาะอย่างที่ว่าไว้ เพียงแต่จะสะท้อนให้เห็นว่า
1. วันหนึ่งเมื่อคนกรุงเทพฯ หรือภาคธุรกิจ-อุตสาหกรรม เดือดร้อนเพราะเศรษฐกิจ พวกคุณก็เอาคนที่ตกงาน เอาภาระของสังคม
ไปฝากไว้กับ ภาคการเกษตร ที่มีแต่คนแก่ คนเฒ่าเป็นผู้บริหาร พวกเขาขาดทั้งเงินทุน ขาดทั้งองค์ความรู้ การคมนาคม อำนาจต่อรอง ฯลฯ แต่เขาก็ทำหน้าที่เลี้ยงดูคนทั้งประเทศได้ จนประเทศฟื้นคืนสู่ปกติ
แล้ววันหนึ่ง วันที่พวกเขาทำการเกษตรแล้วพอจะมีกำไรบ้าง พอที่จะปลดเปลื้องหนี้สินได้บ้าง ภาคธุรกิจ-อุตสหกรรม ก็ต่อต้านตั้งแง่กับเขาว่าได้มากไป จะทำให้ประเทศชาติทรุด ทั้ง ๆ ที่วันที่ประเทศชาติทรุด พวกเขาเป็นคนดูแล อย่างนี้ยุติธรรมสำหรับเขาแล้วหรือ (ส่วนนักการเมืองบางฝ่ายก็ไล่ล่า ไล่ล้มกัน หาใช่การตรวจสอบเพื่อให้ภาคเกษตรกรได้ประโยชน์สูงสุดอย่างที่กล่าวอ้าง)
2. แล้วที่ผมบอกว่า ผมสิ่งของต่าง ๆ นานา หลาย ๆ อย่าง ก็ใช่ว่าผมจะอวด เพียงแต่อยากจะสะท้อนให้เห็นว่า
ของที่ผมซื้อหามาได้นั้น ส่วนมาก ชาวไร่ชาวนา เขาไม่ได้ผลิต มีแต่คนรวย พ่อค้า นายทุน เจ้าของโรงงาน นายธนาคร และคนชั้นกลาง-ชั้นสูง เท่านั้นที่ร่วมกันผลิต นั้นแสดงว่า แม้ผมจะทำมาหาได้ แต่สุดท้ายแล้วเงินก็กลับไปสู่พวกคุณที่เป็นพ่อค้านายทุน คนชั้นกลาง-ชั้นสูงอย่างพวกคุณ ใช่หรือไม่ (แล้วพวกคุณจะบอกว่า ท่านทักษิณฯ เอาเงินมาแจกคนจนได้อย่างไร)
ก็ใช่ว่าผมจะลุ่มหลงในโลกของทุนนิยมไปเสียทั้งหมด เพราะในที่ทางที่ผมมี ผมก็ทำตามที่พ่อท่านบอก (แต่ไม่ทำอย่างพ่อท่านทำ) คือ ปลูกทุกอย่างที่กิน ปลูกข้าว (3 ไร่) พริก มะนาว ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด แมงลัก มะละกอ กะท้อน มีบ่อปลาเล็ก ๆ 2 บ่อครับ แต่จับปลากินได้ทั้งปี มีกระถิน ตำลึง มะรุม ผักพื้นบ้านก็เก็บกินได้ทั้งปีครับ ปลอดจากสารเคมีทุกชนิดครับ ใช้ขี้วัว ขี้ควาย เป็นปุ๋ย
(มะม่วงที่สวนผมลูกใหญ่ที่สุดในอำเภอครับ) ไก่ป่า..ก็เยอะสุดครับ เป็นเถียงนาเล็ก ๆ ครับ แต่อยู่ง่าย ๆ สบาย ๆ
"ต้องยอมรับว่า ผมมีชีวิตแบบปกติสุขอย่างทุกวันนี้ได้เพราะนโยบายของท่านทักษิณ ชินวัตร จริง ๆ แล้วแบบนี้
ไม่ให้ผมรัก ไม่ให้ผมเลือกท่าน ก็ช่วยตอบผมหน่อยเถอะว่า จะให้เลือกหมาที่ไหน"
เพลงฉ่อยชาววัง
- หน้าแรก
- About Admin
- FB Page
- Our Mission
- Videos
- Veerapat
- ๋JAKRAPOP
- กฏของมัวร์
- บทความทั้งหมด
- ฟังไว้จะได้หายโง่
- BBC.Articles
- วีดีโอเกี่ยวกับ การยุบพรรค
- Yingluck Shinawatra : This is unlawful
- โรงเรียนการเมือง Democraticregime
- แด่นักสู้ธุลีดินชาวไทย
- สงครามเวียดนาม สู่ตำนานเมียเช่า
- ฉีกหน้ากากผู้มากบารมี 2557
- อะไรคือระบอบทักษิณ (ฉบับเต็ม)
- เสียงบนบัตรเลือกตั้ง
- ลั่นกลองรบ
- วาทะกรรมเผาบ้าน เผาเมือง
- ยุทธการ "รุมยิงนกในกรง"
- เวทีดีเบตไทยรัฐทีวี "เลือกตั้ง 62
- คลิปเกี่ยวกับประเทศต่าง ๆ
- จากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์เปลี่ยนแปลงมาสู่ระบอบประชาธิปไตย
- สุทิน คลังแสง( แก้ไข)
- ตลาดวิชา อนาคตใหม่
- My Man
- ช่อ สุดยอดถล่ม "ไวรัส รัฐประหาร
- ใครฆ่าร.8
- สถาบัน กับการเมืองในปัจจุบัน
- ตาสว่าง
- ยึดทรัพย์ทักษิณ
- ธงชัย วินิจจะกูล
- ศสจ. ผูผลักดัน เพดานเสรีภาพมาทั้งชีวิต!
- Netiwit talk to Time
- เพลงปีศาจ
- ปืนปิดปาก ประหารชีวิต ที่สุดของเผด็จการ
- interview the king no.10
- ขุนศึก ศักดินา และพญาอินทรี
- เพลงฉ่อยชาววัง
- คุณรู้จัก "สลิ่ม" ไหม??
- ประชุมสภา แก้ไขรัฐธรรมนูญ
- น้อง อั่งอั๊ง
- เสวนา“ รัฐไทยจะอยู่อย่างไรเมื่อมีรัฐสวัสดิการ
- WHAT HAVE I DONE WRONG
- โบว์คือใครคะ
- 🌺 Politics Gossip for admin
- โหด ซาดิสม์
- ความจริง สองด้าน ระหว่าง พี่น้อง "ตู่-เต้น
- ถนอมบวชเณรกลับไทย สาเหตุ 6 ต.ค. 19
- ขบวนการสกัดกั้นพิธาด้วยหุ้น ITV
- ธนาธร
- ธนาธร สอนบัญชี
- 🌹🌹ดร.ปวิน
- ธนาธร "ประเทศไทยควรได้อะไร"
- 14 ตุลา มหาวิปโยค
- PIYABUTR
- 6ตุลา19 'เหี้ยมอย่างสัตว์'
- ปู่แอ๊ด
- Piyabutr Saengkanokkul
- สมยศ พฤกษาเกษมสุข ชีวิตของนักโทษ ม.112
- 🌹🌹How to Start a Revolution
- 🌹🌹ก้าวไกลส่งต่อรุ่นสาม
- อ. ลอย สัมภาษณ์ หนูหริ่ง
- 🌹🌹ปราศรัยเดือด! 4 แกนนำ อนาคตใหม่
- 🌹🌹พวงทอง ภวัครพันธุ์