เครือข่ายสถาบันกษัตริย์คือระบอบอุปถัมภ์ที่มีอำนาจบาตรใหญ่ที่สุด
ด้วยเพรียบพร้อมทั้งอำนาจทางการทหาร อำนาจทางการเมือง อำนาจทางตุลาการ และอำนาจทางเศรษฐกิจ
นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้หลายคนวิ่งเข้าหาและพยายามทุกวิถีทางเพื่อให้ได้เข้าเป็นส่วนหนึ่งในระบอบอุปถัมภ์นี้
“ประสิทธิ์ เจียวก๊ก” ที่ต้องการเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของระบอบอุปถัมภ์สถาบันกษัตริย์ จึงลงทุนตั้งตัวเป็นหัวหน้าเครือข่ายไอโอปกป้องสถาบันกษัตริย์ที่ทำงานร่วมกันกับกองทัพเพื่อรบกับประชาชนเจ้าของประเทศ
ประสิทธิ์ใช้ความเป็นส่วนหนึ่งของระบอบอุปถัมภ์ สร้างเครดิตให้ตัวเอง โดยอ้างว่าตนเป็นผู้มากบารมีที่สามารถเข้านอกออกในเครือข่ายสถาบันกษัตริย์ เพื่อนำไปหลอกลวงประชาชน
เมื่อหลอกเงินจากประชาชนได้ ก็นำเงินส่วนหนึ่งมาหล่อเลี้ยงเครือข่ายอุปถัมภ์เพื่อให้ตนยังสามารถอยู่ในเครือข่ายต่อไป หากใครจะตรวจสอบหรือวิพากษ์วิจารณ์ เหล่าเครือข่ายสถาบันกษัตริย์ที่จงรักภักดีก็จะช่วยกันปกป้องและพร้อมฟ้องปิดปากด้วยมาตรา 112
จนเมื่อมีผู้เสียหายมากขึ้นเรื่อยๆ สายป่านในการหมุนเงินก็ขาดลง เรื่องจึงแดงขึ้นมา ทุกคนในเครือข่ายสถาบันกษัตริย์ จากที่เคยแนบชิดสนิทสนมกับประสิทธิ์ รีดไถจากประสิทธิ์ (โดยประสิทธิ์ก็เต็มใจให้รีดไถเพื่อแลกกับการให้ตนได้อยู่ในเครือข่ายอุปถัมภ์) ก็พากันตีตัวออกห่าง ตัดหางปล่อยวัด พร้อมเหยียบย่ำซ้ำเติม หรือแม้กระทั่งพร้อมที่จะเชือดทิ้งเพื่อปิดปากของประสิทธิ์ เหมือนที่เคยทำกับ “หมอหยอง”
แม้ใครหลายคนจะรู้ดีถึงความชั่วร้ายของระบอบอุปถัมภ์แต่ก็ไม่กล้าพูด พอประสิทธิ์ล้มจึงได้โอกาส “กล้า” แต่ก็กล้าพูดเพื่อปกป้องสถาบัน แล้วโยนขี้ไปให้ประสิทธิ์เหมือนที่เคยทำมา โดยไม่คิดแก้ไขปัญหาระดับโครงสร้าง เช่น การจำกัดอำนาจสถาบันเพื่อหยุดยั้งระบอบอุปถัมภ์นี้
เพื่ออนาคตที่ดีกว่าของประเทศ
เราจึงไม่เหลือทางเลือกอื่นนอกจากจะยืนตัวตรงด้วยกระดูกสันหลังที่เรามี
พูดความจริงเพื่อสะสางปัญหาที่ถูกซุกไว้ใต้พรม
ร่วมกันสู้เพื่อปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ และกำจัดระบอบอุปถัมภ์ที่เปรียบเสมือนปรสิตที่สูบเลือดสูบเนื้อประชาชนให้หมดสิ้นไป
___
ยืนหยัดต่อสู้ไปด้วยกันจนกว่าวันนั้นจะมาถึง
#REDEM
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น