เพลงฉ่อยชาววัง

วันจันทร์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2556

คดีไอ้ด้วนลักกระทะ



เมื่อปี ร.ศ 112 (พ.ศ.2436) ได้มีคดีพิสดารเกิดขึ้นที่เมืองอุบลราชธานี เมื่ออำแดงสีจับไอ้เชียงทันได้พร้อมของกลางที่ขโมยไปคือกระทะใบใหญ่ที่นางใช้ทอดฝักบัวขายในงานออกร้านทุ่งศรีเมือง ไอ้เชียงทันแขนด้วนแค่ข้อศอกทั้งสองข้างมาแต่กำเนิดปฏิเสธว่าไม่ได้ขโมยกระทะมา และกระทะนี้เป็นของตน ถ้าขโมยมาจะเอามาได้อย่างไร เพราะแขนด้วน อำแดงสีจึงไปแจ้งกำนัน เรื่องต้องถึงศาลเพราะต่างฝ่ายต่างก็มีเหตุผล คดีนี้มีคนสนใจดูมากมายเพราะเป็นคดีที่พิสดาร คนแขนกุดจะขโมยกระทะไปได้อย่างไร

เมื่อถึงวันพิจารณาคดี พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าชุมพลสมโภช กรมหมื่นสรรพสิทธิประสงค์ ข้าหลวงต่างพระองค์ว่าราชกาลมณฑลอิสาน ทรงเห็นว่าเป็นคดีแปลก จึงเสด็จไปที่ศาลเพื่อร่วมกับคณะตุลาการในการตัดสิน เมื่อเริ่มพิจารณาคดี ก็เกิดความปวดหัวให้กับคณะตัดสิน เพราะต่างก็อ้างเหตุผลที่น่าเชื่อถือ กรมหมื่นสรรพสิทธิประสงค์ มองหาลู่ทางตัดสิน จึงสรุปคำตัดสินขึ้นมาดื้อ ๆ ว่า " จริงของนายเชียงทัน สมข้อต่อสู้ ให้นายเชียงทันเอากระทะใบนี้กลับคืนไป เพราะเป็นกระทะของเขา "

อำแดงสีได้ยินคำตัดสิน ก็หน้าเสีย เพราะเป็นกระทะของตนจริง ๆ ผิดกับไอ้เชียงทันที่ดีใจพ้นข้อกล่าวหา จึงรีบไปที่กระทะของกลาง แล้วเอาหัวเข่าข้างหนึ่งกดกระทะ ให้กระดกขึ้น แล้วก้มหัวดุนกระทะ พร้อมกับเอาแขนสอง ข้องที่ด้วนช่วยประคอง พอเงยหัวขึ้นกระทะก็ขึ้นมาอยู่บนหัวพอดี แล้วรีบออกไปจากศาล คณะตุลาการ เห็นการกระทำของไอ้เชียงทันกระทำการอย่างรวดเร็วต่างตกตะลึง กรมหมื่นสรรพสิทธิประสงค์ จึงทรงพระสรวลแล้วมีรับสั่งว่า "เฮ้ย ! เดี๋ยวก่อนไอ้เชียงทัน กลับมานี้ก่อน ขันแรกแกต่อสู้ว่าแขนด้วนไม่มีมือจับ เอาไปไม่ได้ บัดนี้ปรากฎชัดแก่ทุกคนแล้วว่า แกเอากระทะไปด้วยวิธีใด " ไอ้เชียงทันตกใจเป็นอย่างมากรีบวางกระทะลง พร้อสารภาพแก่โดยดี จึงมีรับสั่งให้ตุลาการลงโทษด้วยการเอาเข้าตะราง แล้วคืนกระทะให้อำแดงสี

ภาพประกอบ : พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าชุมพลสมโภช กรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ ผู้ตัดสินคดี

ที่มา : หนังสือ เรื่องเก่า เล่าสนุก โรม บุนนาค

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น