เพลงฉ่อยชาววัง

วันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

เกม-ก่อน-ตาย (กกต.)

จักรภพ เพ็ญแข - Jakrapob Penkair

แล้วความเลวร้ายแห่งปี พ.ศ.๒๕๔๙ ที่นำไทยทั้งชาติไปสู่การรัฐประหาร ก็หวนกลับมาซ้ำรอยอีกรอบหนึ่งแล้วในขณะนี้ จะเป็นโมเดลตั้งแต่สิ้นปี พ.ศ.๒๕๕๖ ก่อนถึง พ.ศ.๒๕๕๗ ไปเสียเลยก็ไม่รู้ เราคงจำกันได้ว่าวิกฤติแห่งปี พ.ศ.๒๕๔๙ เริ่มต้นจากความเฉไฉในกระบวนการเลือกตั้ง พอคนใหญ่พูดใส่หน้านายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งอย่างท่วมท้นว่า “เราไม่เอานะ ระบอบทักษิณ” เกมอุบาทว์ก็เริ่มต้นในทันที ขั้นแรกของเขาคือ ล้มการเลือกตั้งที่รัฐบาลไทยรักไทยเป็นผู้เริ่มต้นด้วยการประกาศยุบสภาฯ วิธีการคือให้พรรคประชาธิปัตย์คว่ำบาตรการเลือกตั้ง จนทำให้การเลือกตั้ง ๒ เมษายนเป็นโมฆะ และหาเหตุจำคุกประธานกรรมการการเลือกตั้งและกรรมการการเลือกตั้งทั้ง ๓ คน เอาตำแหน่งทั้งหมดคืนมาให้คนของฝ่ายตน เพื่อจัดการเลือกตั้งครั้งใหม่ที่หวังว่าฝ่ายอำนาจเก่าจะได้เปรียบหรือมีวี่แววจะชนะกับเขาบ้าง จนเมื่อแอบสำรวจจนแน่ใจแล้วว่าเลือกตั้งอีกก็แพ้ไทยรักไทยอีก โกงอย่างไรก็ไม่มากพอจะเอาชนะคลื่นมหาชนได้ สัญญาณสุดท้ายจึงถูกส่งไปที่กองทัพ จนทหารออกมาก่อรัฐประหารในที่สุด

จึงควรจำไม่รู้ลืมว่า โมเดลอุบาทว์ที่เล่นซ้ำเล่นซากอยู่นี้ เริ่มต้นจากเกมการเลือกตั้งก่อนทั้งนั้น นั่นคือชี้ว่าการเลือกตั้งใช้การไม่ได้ (เนื่องจากเป็นประโยชน์ต่อฝ่ายประชาธิปไตย) และบังคับประเทศชาติเข้าสู่การมีรัฐบาลใหม่ โดยไม่ต้องผ่านการเลือกตั้ง (เนื่องจากเป็นประโยชน์และเป็นเกมถนัดของฝ่ายเขา) ที่อาจจะตั้งชื่อให้ไพเราะเพราะพริ้งเพื่อซ่อนเร้นความชั่วร้ายที่อยู่เบื้องหลังอย่างไรก็ได้ เช่น รัฐบาลพิเศษ รัฐบาลเฉพาะกาล รัฐบาลสมานฉันท์ รัฐบาลเฉลิมพระเกียรติ เป็นต้น ใครอยากรู้ว่าถนนข้างหน้าจะเต็มไปด้วยขวากหนามแหลมคมและหลุมพรางสำหรับฝ่ายประชาชนขนาดไหน โปรดเริ่มสังเกตที่ความผิดปกติของกระบวนการเลือกตั้งก่อนเลย เซลล์มะเร็งการเมืองไทยมันเริ่มจากตรงนี้เสมอ ไม่ใช่เพราะเหตุบังเอิญ แต่เป็นเพราะฝ่ายของเขาต้องทำลายกลไกการเลือกตั้งเสียก่อน เพราะชัยชนะจากการเลือกตั้งนี่แหละ ช่วยสถาปนาอำนาจให้กับประชาชนคือฝ่ายเรา ถ้าเขาทำลายการเลือกตั้งได้ เขาก็ลดขนาดเราลงมาเป็นตัวละครการเมืองหรือเบี้ยในกระดานสักตัวที่เขาจะโยกไปวางไว้ตรงไหนก็ได้ตามใจเขา ก่อนจะทำลายฐานอื่นๆ ของเราจนหมดเกลี้ยง จากนั้นเขาจึงจะมั่นใจพอที่จะเคลียร์ศึกสายเลือด การแบ่งผลประโยชน์ของตระกูลต่างๆ ตั้งแต่ของประมุขมาเฟีย จนถึงมาเฟียตัวรองๆ ลงมา เมื่อสิ่งเหล่านี้เบ็ดเสร็จเรียบร้อยอยู่ในมือแล้ว คนไทยจึงจะ “ได้รับอนุญาต” ให้ได้เลือกตั้งกันอีกครั้งหนึ่ง แถมด้วยยุทธศาสตร์ที่กำหนดมาด้วยว่า ต้องระวังไม่ให้เกิด “ทักษิณ ๒” ขึ้นมาได้อีกครั้งในกรุงรัตนโกสินทร์ของเรานี้

การแถลงข่าวของคณะกรรมการการเลือกตั้งคณะใหม่เมื่อวานนี้ จึงพาเมืองไทยย้อนไปสู่ปี พ.ศ.๒๕๔๙ ในทันทีที่ได้ยินคำแรก ผมเชื่อว่าเรารู้กันทันทีว่า กรรมการการเลือกตั้งแต่ละคนมาสู่ตำแหน่งได้ด้วยวิธีใด อะไรเป็นเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้แล้วล่วงหน้าว่าต้องกระทำทันทีอย่างจะรอช้ามิได้ ในใจลึกๆ ผมไม่ได้คิดประณามคนชนิดนี้มากเท่ากับคิดถึงเจ้านายของเขาที่ไม่มีความดีงามในใจหลงเหลืออยู่อีกแล้ว หากไม่ใช่ห้าคนนี้เขาก็ใช้คนอื่นมาทำอย่างเดียวกันนี้ เราจึงต้องมองตรงไปที่นายไม่ใช่บ่าว และเตรียมต่อสู้กับคนที่นับวันก็จะผิดเพี้ยนมากขึ้น จนอาจถึงขั้นคิดเผาบ้านที่ตัวเองมีส่วนร่วมสร้างขึ้นมาให้วินาศ ด้วยความคิดริษยาว่า เมื่อตัวข้าจะไม่ได้อยู่บ้านอีกอีกกี่มากน้อย คนอื่นก็อย่าได้อยู่เลย (วะ)

รัฐบาล พรรคเพื่อไทย นปช. และแนวร่วมทั้งหมดทั้งมวลของขบวนประชาธิปไตยไทย จึงไม่มีทางเลือกยกเว้นจะจับมือกัน เดินตรงสู่การเลือกตั้งในวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๕๗ อย่างไม่เหลียวซ้ายแลขวา เราไม่มีทางเลือกใดๆ ที่ดีไปกว่าการเลือกตั้ง ถึงการเลือกตั้งจะนำมาซึ่งปัญหาไม่รู้จบ หรือแม้แต่ความรุนแรงระหว่างทาง เราก็ไม่มีทางเลือกที่จะลดตัวลงมาข้องแวะกับเครือข่ายโจรที่กำลังชวนเรามาทำผิดกฎหมายกับเขาในขณะนี้

ท่องไว้เสมอและอย่าเผลอไผล ล้มเลือกตั้งคือยุทธวิธีของเขา เลือกตั้งคือยุทธวิธีของเรา
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น