20 พ.ย. 2566 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ให้สัมภาษณ์ในรายการกรรมกรข่าว คุยนอกจอ ถึงโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ว่า ตนเห็นตรงกันกับพรรคก้าวไกลที่ประเทศตอนนี้ยังไม่วิกฤต จึงอยากนำเสนอว่าหากมีเงิน 5 แสนล้านบาท จะเอาไปทำอะไร เราไม่ได้มองการอัดฉีดเงินในระยะสั้น แต่มองถึงขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ สินค้าที่เหมือนกัน ราคาเราสูงกว่า ดังนั้น ต้องแก้ที่การทำให้คนมีรายได้ งานที่มั่นคง
"ไปดูต่างจังหวัดสิครับ จังหวัดไหนก็ได้ จิ้มเลย มีคนที่มีงานดีๆทำไหม งานไม่ต้องเยอะ เอาเงินเดือน 20,000 บาท ทั้งจังหวัดมีอยู่กี่งาน หาได้น้อยมาก งานที่เงินเดือน 20,000-25,000 บาท ในต่างจังหวัด" นายธนาธร กล่าว
นายธนาธร ระบุว่า สามารถใช้การจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ สร้างอุตสาหกรรมได้ สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ สะท้อนว่าเราจัดการ 3-5 ปีที่แล้ว ช่วงโควิดได้ไม่ดีพอ ดังนั้นต้องเริ่มตั้งแต่วันนี้ จะแก้ปัญหาเฉพาะหน้า อย่างไรก็ไม่จบ ข้อเสนอของเราดูเรื่องที่สัมผัสได้จริง มีความมั่นคงมากขึ้น
ส่วนที่รัฐบาลกล่าวว่าข้อเสนอของนายธนาธร รัฐบาลกำลังทำอยู่ในงบประมาณปกติ นายธนาธร กล่าวว่า ไม่จริง หากทำอยู่แล้ว ต้องเสร็จตั้งแต่ 10 ปีก่อนแล้ว ถ้าจะทำโดยจัดการงบประมาณและฝีมือการบริหารแบบนี้คงทำไม่สำเร็จ พร้อมยกตัวอย่างน้ำประปาดื่มได้ของคณะก้าวหน้า แล้วถามกลับว่าคุ้มหรือไม่ หากใช้องค์ความรู้พัฒนาแบบนี้ได้ทุกจังหวัด ซึ่งใช้งบประมาณ 3 แสนบาท ใช้ได้ 5,000 คนในระดับตำบล ตนมองว่าต้นทุนที่ต้องเสียไปกับน้ำประปามีถึง 30% หากทำระบบสมาร์ทมิเตอร์ได้ จะช่วยลดต้นทุนที่ไม่จำเป็น
"อีก 10 ปีข้างหน้า มิเตอร์น้ำไฟ ต้องเป็นสมาร์ทมิเตอร์ทั้งหมด ถ้าเราไม่สร้างอุตสาหกรรมตั้งแต่วันนี้ อีก 10 ปีข้างหน้า เราจะต้องซื้อจากจีน ไต้หวัน เราจะเอาแบบนั้นหรือ...เราลงทุนอนาคตตั้งแต่วันนี้" นายธนาธร กล่าว
นายธนาธร ย้อนถามว่า เราต้องการคุณภาพชีวิต การสร้างงานที่มั่นคง ขณะเดียวกัน เราแก้ปัญหาเรื่องขีดความสามารถด้วย ถ้าทำสำเร็จ เราจะเป็นผู้นำเทคโนโลยี เรื่องนี้ตนลงมือทำและไปบอกเพื่อนที่พรรคก้าวไกล จนทำให้บรรจุเป็นนโยบายพรรค 8 หมื่นล้าน นโยบายประปาดื่มได้
นายธนาธร ย้ำว่า ตนพยายามไม่พูดถึงพรรคเพื่อไทย แม้กระทั่งให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน เพราะคิดว่าพรรคเพื่อไทยคือมิตร
"ผมคิดว่าพันธมิตรระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลจะเป็นพันธมิตรทำให้ประเทศก้าวหน้าที่สุดและกลับมาเป็นประชาธิปไตย ผมเชื่ออย่างนั้น กลับไปดูที่ผมพูดเมื่อวาน ผมไม่ได้พูดถึงพรรคเพื่อไทยเลย เราพยายามเสนอสิ่งที่เราอยากจะทำ ไม่รู้คนอื่นคิดอย่างไร แต่พรรคเพื่อไทยคือมิตรสำหรับผม แม้จะอยู่คนละฝั่งก็ตาม เพื่อไทยเป็นรัฐบาล เราเป็นฝ่ายค้าน ก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน ถึงแม้ว่าผมจะรู้สึกเสียใจและเจ็บปวดที่สุดที่พรรคเพื่อไทยไม่ได้จัดตั้งรัฐบาลกับเรา เราก็รู้สึกเจ็บปวดและเสียใจ แต่ผมเข้าใจข้อจำกัดของพรรคเพื่อไทย ดังนั้นถึงแม้จะเสียใจโอกาสของประเทศ เสียดายที่ไม่ได้เอาแนวคิดเราไปบริหาร แต่สำหรับผม เพื่อไทยคือมิตร และทางออกที่จะทำให้ประเทศไทยเจริญก้าวหน้า ต้องมี 2พรรค นี้ ฝากถึงเพื่อนในพรรคก้าวไกลและแกนนำพรรคเพื่อไทยด้วย อนาคตของประเทศไทยอยู่ในมือคุณทั้งสอง" นายธนาธร กล่าว
เมื่อถามว่าได้พบนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีจริงหรือไม่??
นายธนาธร ยอมรับว่าก็มีพูดคุยกันเรื่องชีวิต ยืนยันว่าไม่มีการต่อรอง ตนไม่มีตำแหน่งการเมือง หากต่อรองก็ถูกยุบพรรค วันนี้ตนภูมิใจที่พรรคก้าวไกลเติบโตโดยไม่มีธนาธร ปิยบุตร แสดงให้เห็นว่าพรรคก้าวไกลเป็นสถาบันการเมือง ไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่ง ทำให้พรรคมีสุขภาพทางการเมืองที่ดี
ส่วนที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ออกมาวิจารณ์พรรค เพราะเขารักมาก เพราะสร้างพรรคมาตั้งแต่สมัยอนาคตใหม่ จึงผูกพัน ถ้าไม่รักไม่ผูกพัน ไม่วิจารณ์กันหรอก ตนไม่คิดห้าม เพราะคิดว่าเป็นความสวยงามของประชาธิปไตย ตอนสมัยเป็นหัวหน้าพรรคเราก็ไม่ได้เห็นร่วมกัน ประชาธิปไตยมันยุ่งเหยิง แต่สุดท้ายก็ได้ข้อสรุป
นายธนาธร ตอบนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ว่า ตนไม่เห็นด้วยกลับวิธีการของรัฐบาล แต่หากรัฐบาลรวมเสียงในสภาได้ ตนก็ยอมรับ
พร้อมระบุว่าเราเข้าใจความเจ็บปวด ความเดือดร้อน แต่การแก้ปัญหาหนี้เกษตรกร ให้ 10,000 บาท เอามาลงทุนถือว่าน้อยมาก ใช้หนี้ก็ไม่ได้ เรามองต่างกัน มองในมุมการสร้างงาน ตนเสียดายเงินก้อน ถ้าเป็นช่วงโควิดต้องอัดเงินเพราะมันเฉียบพลัน แต่ตอนนี้ถือว่าไม่ใช่
นายธนาธร มองว่าหากจะให้คะแนนตอนนี้อาจจะยังเร็วไป ตนก็ให้กำลังใจรัฐบาล และพร้อมไปให้ข้อมูล นำเสนอแบบไม่หวงความรู้ ตนคิดว่า 5 ปีที่ผ่านมา ตนไปลงพื้นที่มากกว่านักการเมืองในสภาชุด 62
จากนั้น นายธนาธร ยกตัวอย่างบ่อขยะที่ได้ไปดูงาน ระบุว่า เราลงทุนเรื่องนี้ไม่เพียงพอ ที่ผ่านมามีชาวบ้านร้องเรื่องโรงเผาตลอด เพราะไม่ได้มาตรฐาน ไม่ดูแลสิ่งแวดล้อม และเป็นช่องทางให้นักการเมืองหากิน
นายธนาธร ย้ำว่า คนที่จะทำเรื่องนี้สำเร็จต้องมีความเป็นผู้นำสูง และมีเจตจำนงทางการเมืองที่แน่วแน่มาก ต้องยอมรับว่าพรรคไทยรักไทยพรรคพลังประชาชน ทำหลายสิ่งหลายอย่างให้กับประเทศไทย ต้องยอมรับ เป็นข้อเท็จจริงที่เราปฏิเสธไม่ได้ อย่างน้อยที่สุดก็ทำให้การเมืองนโยบายเกิดขึ้นในประเทศไทย ซึ่งในแง่นี้พรรคอนาคตใหม่ก็เติบโตมาจากมิติทางการเมืองแบบใหม่ที่ถูกสร้างโดยพรรคไทยรักไทยและพลังประชาชน
"เราคือผลผลิตที่พรรคไทยรักไทยทำไว้ 20 ปีที่แล้ว ดังนั้นในแง่นี้ เขาพูดได้เต็มปากว่าเขาเคยทำสำเร็จมาแล้ว แต่ความสำเร็จในอดีตไม่ได้ยืนยันความสำเร็จในอนาคต" นายธนาธร กล่าว
นายธนาธร กล่าวถึงระบบเทเลเมดิซีน ที่จะช่วยให้คนไม่ต้องรอคิวที่โรงพยาบาล คนไม่ต้องออกจากบ้าน มีเจ้าหน้าที่สื่อสาร ส่งยา เพื่ออำนวยความสะดวก โดยมีเทคโนโลยีเข้ามาช่วย และใช้งบประมาณ 6 หมื่นล้าน
ส่วนเรื่องการลดค่าน้ำค่าไฟ นายธนาธร กล่าวว่า ตนไม่ถือว่าเป็าการกระตุ้นเศรษฐกิจ และมองว่าไม่ควรนำมาใช้ สิ่งพวกนี้เป็นกระเป๋าที่ต้องเก็บไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน ดังนั้นจึงไม่ถือว่าเป็นผลงาน
ส่วนที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี รับฟัง แต่ยังมองว่าเป็นวิกฤตประเทศ พร้อมยกตัวอย่างการแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้าน นายธนาธร กล่าวว่า เรามองต่างกัน ตอนพรรคก้าวไกลจะจัดตั้งรัฐบาล ก็มีการทาบทามตนให้เป็นที่ปรึกษา ตนคิดไว้แล้วว่าจะดำเนินการอย่างไรบ้าง หากวางแผนดีก็เริ่มทำได้ เราไม่ได้ตั้งพรรคมาเพื่อเป็นรัฐบาลหรือนายกรัฐมนตรี สิ่งเหล่านี้เป็นแค่ทางผ่าน แต่เพื่อสร้างประเทศไทยที่ดี ดังนั้นต่อให้เป็นฝ่ายค้านแล้วคำแนะนำเป็นประโยชน์แล้วพรรคเพื่อไทยนำไปสร้างนโยบายที่ดีได้ก็ยินดี แม้จะเป็นคู่ต่อสู้ก็ไม่เป็น
"ถ้าอยากเข้าไปพรีเซนต์ จะเข้าไปพรีเซนต์เลย ผมเชื่อว่าใน 4 ปีนี้จะมีนโยบายของพรรคเพื่อไทยที่ดี ผมเชื่อว่าพรรคก้าวไกลก็จะยกมือให้ เราไม่ได้ค้านทุกเรื่อง แต่เรื่องนี้ต้องค้าน ถ้าจะกู้พิเศษแบบนี้ ไม่ต้อง ไปใช้งบประมาณปกติ" นายธนาธร กล่าว
CR: 3 Plus News
คลิปนี้ เลอค่ามากค่ะ แนะนำให้ฟัง
ตอบลบ