7 พรรคฝ่ายค้าน อย่าหลงกลเกมส์เผด็จการและเครือข่ายเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับเผด็จการ คสชปี 60
ผมต้องชื่นชม นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาคนปัจจุบันว่าฉลาดหลักแหลมที่บอกว่า รัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการ คสช ปี 60 นี้ ต้องแก้ไข เอาสิ่งที่ประเทศอื่นไม่ได้ใช้ มาใช้ ทำให้ภาพลักษณ์ของนายชวน หลีกภัยดูดีมาก ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ ได้คะแนนนิยมในสายตาของคนไทยขึ้นทันทีและมากด้วย หลังจากก่อนหน้านี้ ถูกตั้งคำถามว่า พรรคประชาธิปัตย์เคยบอยคอท การเลือกตั้ง 2 ครั้ง และตามมาด้วยการทำรัฐประหารยึดอำนาจของทหารทั้ง 2 ครั้ง ในปี 2549 และ ปี 2557 ว่าเป็นการสมคบคิดกันยึดอำนาจประชาชนหรือไม่ ทำให้คณะรัฐประหาร คสช นำโดย พลเอกประยุทธ์ ครองอำนาจรัฐมาจนถึงทุกวันนี้ และ แม่นำ้ 5 สาย ซึ่งเป็นลิ่วล้อบริวารของเผด็จการ ร่วมกันร่างรัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการ คสช ปี 60 มาใช้บังคับจนถึงทุกวันนี้
รัฐธรรมนูญ เผด็จการ คสช ปี 60 นี้ถูกร่างขึ้นมาเพื่อสืบทอดอำนาจของเผด็จการ คสช ตามที่ รัฐมนตรี และ สส ฝ่ายรัฐบาลยืนยันมาตลอดว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ ถูกดีไซน์ มาเพื่อพวกเขา เพื่อให้พลเอกประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีและพรรคพลังประชารัฐ เป็นรัฐบาล
ขณะรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง พรรคประชาธิปัตย์ ภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ ได้ประกาศต่อสาธารณะว่า ไม่เอาพลเอกประยุทธ์ ไม่เอาการสืบทอดอำนาจ แต่พอแพ้การเลือกตั้งได้คะแนนเป็นลำดับ 4 หลายคนตั้งคำถามว่าเป็นการเล่นหมาก ซ่อนกลเพื่อหลีกเลี่ยงข้อกล่าวหาว่าตระบัดสัตย์ ทรยศต่อประชาชนหรือไม่ มีการสลับสับเปลี่ยนคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ นายอภิสิทธิ์ แสดงสปิริตลาออก ซึ่งน่าชื่นชมที่รักษาสัญญา แต่ในขณะที่คุณอภิสิทธิ์ ประกาศ ได้ประกาศในนามพรรค ในนามหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช่ในนามส่วนตัว พรรคประชาธิปัตย์ฉลาดปราดเปรื่องที่จะให้นายอภิสิทธิ์เสียสละเฉพาะตัวคนเดียว แต่พรรคได้ประโยชน์สูงสุด ได้กำไรอย่างมโหฬาร ได้ตำแหน่งประธานรัฐสภาให้กับนายชวน หลีกภัย ได้ร่วมรัฐบาลประยุทธ์ ได้รองนายกรัฐมนตรี ได้รัฐมนตรีกระทรวงเกรด A มีงบประมาณ รวมหลายแสนล้านบาทต่อปี เห็นถึงความแพรวพราว เหลี่ยมคู ทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์แล้วต้องยอมรับว่าเหนือกว่าเซียนมาเหนือเมฆ กินทั้งขึ้นทั้งล่อง ทั้งที่มี สส จำนวนน้อย แต่ได้เป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ สั่ง พลเอกประยุทธ์ได้ เป็นรัฐบาล มีงบประมาณมหาศาลบริหาร และจะเป็นพระเอกถือธงนำ เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยเสนอนายอภิสิทธิ์ มาเป็นประธาน คณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแนวทางและวิธีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับปัจจุบันและบอกต่อสังคมว่าเขาทำตามสัญญาและเงื่อนไขการเข้าร่วมรัฐบาลประยุทธ์แล้ว ไม่ตระบัดสัตย์ ไม่ทรยศหักหลังประชาชนกลายเป็นพระเอก
ผู้นำพรรคร่วมฝ่ายค้านหลายๆท่านใจกว้าง มองโลกสวย ปรารถนาอยากให้บ้านเมืองพ้นจากหลุมดำ จากปัญหาความขัดแย้งแตกแยก จากปัญหาเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง เพื่อให้ประเทศเป็นประชาธิปไตย เป็นที่ยอมรับของนานาอารยะประเทศ ผมจึงอยากให้มองอย่างลึกซึ้ง มองอดีต มองปัจจุบัน และจะเห็นในอนาคตว่า ฝ่ายเผด็จการมีพรรคการเมืองใดบ้างเป็นแนวร่วม มีนักการเมืองคนไหนร่วมกันสมคบคิดยึดอำนาจประชาชนมาโดยตลอด นักการเมืองคนไหนสร้างภาพหลอกลวงประชาชนให้ตนเองดูดี เอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่นมาตลอด เพราะอย่างไรให้รำลึกอยู่เสมอว่าพวกเขาคือพวกเดียวกัน พวกเขาสมคบคิดยึดอำนาจประชาชนด้วยกัน และ พวกเขาก็ได้ครองอำนาจรัฐ ด้วยกัน บนความพ่ายแพ้ของฝ่ายประชาธิปไตยตลอดมาเช่นที่เป็นอยู่ทุกวันนี้
หลายท่านตั้งคำถามว่า
1. ถ้าทำแบบนี้ ฝ่ายเผด็จการจะแตกแยกกันเอง ฝ่ายประชาธิปไตยอาจจะชนะ
ตอบ เลยว่า กรุณา อย่าฝันกลางวัน เพราะไม่มีทางที่พวกเขาจะแตกกัน พวกเขาได้ประโยชน์สูงสุดด้วยกัน
รัฐธรรมนูญ เผด็จการ คสช ปี 60 นี้ถูกร่างขึ้นมาเพื่อสืบทอดอำนาจของเผด็จการ คสช ตามที่ รัฐมนตรี และ สส ฝ่ายรัฐบาลยืนยันมาตลอดว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ ถูกดีไซน์ มาเพื่อพวกเขา เพื่อให้พลเอกประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีและพรรคพลังประชารัฐ เป็นรัฐบาล
ขณะรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง พรรคประชาธิปัตย์ ภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ ได้ประกาศต่อสาธารณะว่า ไม่เอาพลเอกประยุทธ์ ไม่เอาการสืบทอดอำนาจ แต่พอแพ้การเลือกตั้งได้คะแนนเป็นลำดับ 4 หลายคนตั้งคำถามว่าเป็นการเล่นหมาก ซ่อนกลเพื่อหลีกเลี่ยงข้อกล่าวหาว่าตระบัดสัตย์ ทรยศต่อประชาชนหรือไม่ มีการสลับสับเปลี่ยนคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ นายอภิสิทธิ์ แสดงสปิริตลาออก ซึ่งน่าชื่นชมที่รักษาสัญญา แต่ในขณะที่คุณอภิสิทธิ์ ประกาศ ได้ประกาศในนามพรรค ในนามหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช่ในนามส่วนตัว พรรคประชาธิปัตย์ฉลาดปราดเปรื่องที่จะให้นายอภิสิทธิ์เสียสละเฉพาะตัวคนเดียว แต่พรรคได้ประโยชน์สูงสุด ได้กำไรอย่างมโหฬาร ได้ตำแหน่งประธานรัฐสภาให้กับนายชวน หลีกภัย ได้ร่วมรัฐบาลประยุทธ์ ได้รองนายกรัฐมนตรี ได้รัฐมนตรีกระทรวงเกรด A มีงบประมาณ รวมหลายแสนล้านบาทต่อปี เห็นถึงความแพรวพราว เหลี่ยมคู ทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์แล้วต้องยอมรับว่าเหนือกว่าเซียนมาเหนือเมฆ กินทั้งขึ้นทั้งล่อง ทั้งที่มี สส จำนวนน้อย แต่ได้เป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ สั่ง พลเอกประยุทธ์ได้ เป็นรัฐบาล มีงบประมาณมหาศาลบริหาร และจะเป็นพระเอกถือธงนำ เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยเสนอนายอภิสิทธิ์ มาเป็นประธาน คณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแนวทางและวิธีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับปัจจุบันและบอกต่อสังคมว่าเขาทำตามสัญญาและเงื่อนไขการเข้าร่วมรัฐบาลประยุทธ์แล้ว ไม่ตระบัดสัตย์ ไม่ทรยศหักหลังประชาชนกลายเป็นพระเอก
ผู้นำพรรคร่วมฝ่ายค้านหลายๆท่านใจกว้าง มองโลกสวย ปรารถนาอยากให้บ้านเมืองพ้นจากหลุมดำ จากปัญหาความขัดแย้งแตกแยก จากปัญหาเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง เพื่อให้ประเทศเป็นประชาธิปไตย เป็นที่ยอมรับของนานาอารยะประเทศ ผมจึงอยากให้มองอย่างลึกซึ้ง มองอดีต มองปัจจุบัน และจะเห็นในอนาคตว่า ฝ่ายเผด็จการมีพรรคการเมืองใดบ้างเป็นแนวร่วม มีนักการเมืองคนไหนร่วมกันสมคบคิดยึดอำนาจประชาชนมาโดยตลอด นักการเมืองคนไหนสร้างภาพหลอกลวงประชาชนให้ตนเองดูดี เอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่นมาตลอด เพราะอย่างไรให้รำลึกอยู่เสมอว่าพวกเขาคือพวกเดียวกัน พวกเขาสมคบคิดยึดอำนาจประชาชนด้วยกัน และ พวกเขาก็ได้ครองอำนาจรัฐ ด้วยกัน บนความพ่ายแพ้ของฝ่ายประชาธิปไตยตลอดมาเช่นที่เป็นอยู่ทุกวันนี้
หลายท่านตั้งคำถามว่า
1. ถ้าทำแบบนี้ ฝ่ายเผด็จการจะแตกแยกกันเอง ฝ่ายประชาธิปไตยอาจจะชนะ
ตอบ เลยว่า กรุณา อย่าฝันกลางวัน เพราะไม่มีทางที่พวกเขาจะแตกกัน พวกเขาได้ประโยชน์สูงสุดด้วยกัน
2. ถามต่อว่า ถ้าไม่ทำแบบนี้ ในคณะกรรมาธิการวิสามัญ แก้ไขรัฐธรรมนูญ 49 คน โดยมีตัวแทนจาก พรรคการเมืองร่วมรัฐบาล ฝ่ายรัฐบาล และ ตัวแทนจากพรรคร่วมฝ่ายค้าน และฝ่ายค้านเสนอแข่งขันเป็นประธานคณะกรรมาธิการ ซึ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้ จะทำอย่างไร
ประเด็นนี้ อาจารย์ปิยะบุตร แสงกนกกุล ตอบได้แหลมคม ว่า ไม่จำเป็นต้องเป็นฝ่ายรัฐบาล
ผมอยากให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า นี่มันคือสงคราม 2 ระบอบ ระหว่าง ระบอบประชาธิปไตย กับ ระบอบเผด็จการ และ สถานะของสงครามยังดำรงอยู่ หากฝ่ายเผด็จการเป็นประธาน พวกเขาจะใช้คณะกรรมาธิการนี้ ถ่วงรั้ง และทำพิธีแก้เฉพาะเปลือกนอก พอเป็นพิธีว่าแก้ไขรัฐธรรมนูญให้แล้วนะ แต่เนื้อหาสาระ จุดยืน โครงสร้างประเทศยังเป็นของเผด็จการ โดยเผด็จการ และเพื่อเผด็จการอย่างสมบูรณ์แบบเพราะพวกเขาได้ประโยชน์สูงสุด
แล้วฝ่ายประชาธิปไตยจะเสนอให้ใครเป็นประธานและถ้าเป็นประธานจะสามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญได้หรือไม่ตอบว่าพรรคการเมืองฝ่ายค้านซึ่งประกาศมาโดยตลอดเวลาว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตยจะต้องเสนอให้นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฏร เป็นประธาน เพราะเป็นทัพหลวงของฝ่ายประชาธิปไตยและเป็นสัญญาลักษณ์ของการต่อสู้ของฝ่ายประชาธิปไตย แม้จะทราบดีว่าโดยลำพัง ฝ่ายประชาธิปไตย ในเกมส์อำนาจภายใต้กฎโจรกบฏ ไม่มีวันชนะได้เลย และพวกเขาฝ่ายเผด็จการก็จะดึงเกมส์หน่วงเวลา จนหมดสมัย 4 ปี แล้วเลือกตั้งกันใหม่ พวกเขาก็ให้ สมาชิกวุฒิสภามาร่วมโหวตให้ฝ่ายเผด็จการเป็นรัฐบาลสืบทอดอำนาจเช่นนี้ต่อไป
แล้วจะทำอย่างไร ประเทศไทยจึงจะเป็นประชาธิปไตย อำนาจมาเป็นของประชาชน และฝ่ายประชาธิปไตยจะชนะ ก็ต้องบอกว่า อยู่ที่ประชาชนทุกคนที่เดือดร้อน ทุกข์ยากลำบาก ไม่ได้รับความเป็นธรรม จากความไร้ประสิทธิภาพ ของรัฐบาลนี้มาร่วมกันทุกวิถีทาง ให้รัฐบาลนี้ออกไป ร่วมกันทวงคืน สิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาค และประชาธิปไตยมาจากเผด็จการในเสื้อคลุมประชาธิปไตยชุดนี้เท่านั้น
ประเด็นนี้ อาจารย์ปิยะบุตร แสงกนกกุล ตอบได้แหลมคม ว่า ไม่จำเป็นต้องเป็นฝ่ายรัฐบาล
ผมอยากให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า นี่มันคือสงคราม 2 ระบอบ ระหว่าง ระบอบประชาธิปไตย กับ ระบอบเผด็จการ และ สถานะของสงครามยังดำรงอยู่ หากฝ่ายเผด็จการเป็นประธาน พวกเขาจะใช้คณะกรรมาธิการนี้ ถ่วงรั้ง และทำพิธีแก้เฉพาะเปลือกนอก พอเป็นพิธีว่าแก้ไขรัฐธรรมนูญให้แล้วนะ แต่เนื้อหาสาระ จุดยืน โครงสร้างประเทศยังเป็นของเผด็จการ โดยเผด็จการ และเพื่อเผด็จการอย่างสมบูรณ์แบบเพราะพวกเขาได้ประโยชน์สูงสุด
แล้วฝ่ายประชาธิปไตยจะเสนอให้ใครเป็นประธานและถ้าเป็นประธานจะสามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญได้หรือไม่ตอบว่าพรรคการเมืองฝ่ายค้านซึ่งประกาศมาโดยตลอดเวลาว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตยจะต้องเสนอให้นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฏร เป็นประธาน เพราะเป็นทัพหลวงของฝ่ายประชาธิปไตยและเป็นสัญญาลักษณ์ของการต่อสู้ของฝ่ายประชาธิปไตย แม้จะทราบดีว่าโดยลำพัง ฝ่ายประชาธิปไตย ในเกมส์อำนาจภายใต้กฎโจรกบฏ ไม่มีวันชนะได้เลย และพวกเขาฝ่ายเผด็จการก็จะดึงเกมส์หน่วงเวลา จนหมดสมัย 4 ปี แล้วเลือกตั้งกันใหม่ พวกเขาก็ให้ สมาชิกวุฒิสภามาร่วมโหวตให้ฝ่ายเผด็จการเป็นรัฐบาลสืบทอดอำนาจเช่นนี้ต่อไป
แล้วจะทำอย่างไร ประเทศไทยจึงจะเป็นประชาธิปไตย อำนาจมาเป็นของประชาชน และฝ่ายประชาธิปไตยจะชนะ ก็ต้องบอกว่า อยู่ที่ประชาชนทุกคนที่เดือดร้อน ทุกข์ยากลำบาก ไม่ได้รับความเป็นธรรม จากความไร้ประสิทธิภาพ ของรัฐบาลนี้มาร่วมกันทุกวิถีทาง ให้รัฐบาลนี้ออกไป ร่วมกันทวงคืน สิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาค และประชาธิปไตยมาจากเผด็จการในเสื้อคลุมประชาธิปไตยชุดนี้เท่านั้น
นคร มาฉิม
อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพิษณุโลก
อดีตประธานคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองสภาผู้แทนราษฏร
6 พฤศจิกายน 2562
=================================================
Fisher Fish
เห็นด้วยค่ะถ้าคนที่เดือดร้อนไม่ลุกขึ้นมาสู้คงไม่มีวันจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้. ปชป.เป็นพรรคที่ไม่มีความจริงใจต่อประชาชนเลย ยิ่งกว่า18มงกุฎเสียอีก
Fisher Fish
เห็นด้วยค่ะถ้าคนที่เดือดร้อนไม่ลุกขึ้นมาสู้คงไม่มีวันจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้. ปชป.เป็นพรรคที่ไม่มีความจริงใจต่อประชาชนเลย ยิ่งกว่า18มงกุฎเสียอีก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น