เพลงฉ่อยชาววัง

วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2562

การคำนวนสส




ตรวจรายชื่อ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ (อย่างไม่เป็นทางการ) “มาดามเดียร์” เฮ “วันนอร์-บังยี” อด
การคำนวนสส👩‍❤️‍💋‍👩

1.สส.ต้องได้คะแนน 35,532,645/500 =71,065.294
อนค.ได้คะแนน 6265980/71065.294 = 88 คน
แต่ สส. เขตได้ 30 ( ความจริง)
ฉะนั้น เหลือได้สส. ปาร์ตี้ลิสต์ ( รายชื่อ) เอา 88-30 = 58  คน)

พท. ถ้าตามสูตร สส.พึงมี = 7820630/71065.294 = 111 คน
แต่เพื่อไทยได้เขตไปแล้ว 137 ก็จะได้เท่านั้น ไม่ได้ปาตี้ลิสเพิ่มอีก

----------------------------


ได้น้อยกว่านี้ครับ เพราะเพื่อไทยมีเขตมากกว่าพึงมี พรรคอื่นจึงได้ สส น้อยกว่าพึงมีของตัวเอง
.
ในทางกลับกันถ้าไม่พรรคไหนได้เขตเกินพึงมี ถ้าเอามาคำนวนแบบข้างล่างทุกพรรคจะได้ สส ทั้งหมดตามจำนวนพึงมี(ไม่นับใบเหลืองใบแดง)
.
พึงมีทุกพรรคไม่รวมเพื่อไทย
( 35,532,645 - 7,820,630 ) / 71,065.290 = 389.951
.
เขตทุกพรรคไม่รวมเพื่อไทย 350 - 137 = 213
.
ผลต่างระหว่างพึงมีกับเขตทุกพรรคไม่รวมเพื่อไทย 389.951 - 213 = 177.951
.
แต่ปาร์ตี้ลิสทุกพรรคมี 150 ที่นั่ง หากคิดตามอัตราส่วน อนค จะมี สส ทั้งหมด = พึ่งมี อนค × ปาร์ตี้ลิสทั้งหมด / ผลต่างพึงมีกับเขต = 88.172 × 150 / 177.915 = 74.323
.
หมายความว่าอนาคตใหม่ได้ สส ทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 74 คน
.
เนื่องจากวิธีแบ่งปาร์ตี้ลิสที่ไม่รู้แน่นอนจึงยังระบุจำนวนตายตัวไม่ได้ อนค จะมี สส ทั้งหมดอยู่ในช่วง 74-88 คน (ยังไม่ได้คำนวนจากพวกใบแดงใบเหลืองอีก ซึ่งตรงนี้เองอาจจะสามารถทำให้ อนค ได้ สส ทั้งหมดเกิน 88 ได้ เพราะตัวหารปาร์ตี้ลิสน้อยลง)


-----------------------------


ผลการคำนวณ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ (อย่างไม่เป็นทางการ) พบ “มาดามเดียร์” เข้าวิน ส.ส. ภูมิใจไทย ส่วนประชาชาติ “วันนอร์-บังยี” ปิ๋วเพราะลูกพรรคชนะ 6 เขต

วันนี้ (28 มี.ค.) หลังจากที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้แถลงผลการนับคะแนนการเลือกตั้ง ส.ส.หลังจากตรวจสอบการนับครบแล้ว 100% ผู้สื่อข่าวได้นำผลคะแนนไปคำนวณ ส.ส. บัญชีรายชื่อ ตามมาตรา 128 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 ร่วมกับผู้อ่านทางบ้าน โดยใช้โปรแกรม Spreadsheet

ทั้งนี้ การคำนวณ ส.ส. บัญชีรายชื่อ จะนำคะแนนรวมทั้งประเทศ ที่พรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครบัญชีรายชื่อ 81 พรรคการเมือง รวม 35,532,647 คะแนน หารด้วยจำนวน ส.ส. 500 คน จะได้จำนวนฐาน ส.ส. พึงมี 71,066 คะแนน ก่อนจะนำคะแนนที่พรรคการเมืองได้รับรวมกันทั้งประเทศ หารด้วยฐาน ส.ส. พึงมี พบว่าจะได้จำนวน ส.ส. บัญชีรายชื่อทุกพรรค รวม 152 คน ซึ่งเกินกว่า ส.ส. บัญชีรายชื่อตามรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ที่ 150 คน

อย่างไรก็ตาม ตามมาตรา 128 (7) ระบุว่า ในกรณีที่เมื่อคํานวณตาม (5) แล้ว ปรากฏว่า พรรคการเมืองทุกพรรคได้รับจํานวน ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อรวมกันแล้วเกิน 150 คน ให้ดําเนินการคํานวณปรับจํานวน ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อใหม่ โดยคํานวณตามอัตราส่วนที่ทุกพรรคจะได้รับการจัดสรรจํานวน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งเมื่อรวมแล้วไม่เกิน 150 คน โดยให้นําจํานวน ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อที่แต่ละพรรคการเมืองจะได้รับ คูณด้วยหนึ่งร้อยห้าสิบ (x150) หารด้วยผลบวกของหนึ่งร้อยห้าสิบกับจํานวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อที่เกินจํานวนหนึ่งร้อยห้าสิบ (/152) และให้นํา (4) มาใช้ในการคํานวณด้วยโดยอนุโลม

โดยมาตรา 128 (4) ระบุว่า ภายใต้บังคับ (5) ให้จัดสรรจํานวน ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองจะได้รับให้ครบ 150 คน โดยจัดสรรให้พรรคการเมืองตามผลลัพธ์ตาม (3) เป็นจํานวนเต็มก่อน หากยังไม่ครบจํานวน 150 คน ให้พรรคการเมืองที่มีเศษจากการคํานวณมากที่สุดได้รับการจัดสรรจํานวน ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อเพิ่มอีก 1 คนตามลําดับ จนครบจํานวน 150 คน ในกรณีมีเศษเท่ากัน ให้ดําเนินการตาม (6) พบว่า พรรคพลังประชารัฐ และ พรรคอนาคตใหม่ เมื่อคำนวณใหม่จะได้จำนวน ส.ส. ลดลง 1 ที่นั่ง

อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลา 21.00 น. รายงานข่าวแจ้งว่า ตัวเลขที่ กกต. แจกให้กับสื่อมวลชน กัยตัวเลขที่ กกต. ประกาศไม่เหมือนกัน พบว่าผลอย่างไม่เป็นทางการ พรรคพลังประชารัฐ จะได้ที่นั่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ 21 ที่นั่ง พรรคอนาคตใหม่ 57 ที่นั่ง พรรคประชาธิปัตย์ 21 ที่นั่ง พรรคภูมิใจไทย 13 ที่นั่ง พรรคเสรีรวมไทย 11 ที่นั่ง พรรคชาติไทยพัฒนา 5 ที่นั่ง พรรคเศรษฐกิจใหม่ 6 ที่นั่ง พรรคเพื่อชาติ 5 ที่นั่ง พรรครวมพลังประชาชาติไทย 4 ที่นั่ง พรรคชาติพัฒนา 2 ที่นั่ง พรรคพลังท้องถิ่นไท 2 ที่นั่ง ส่วนพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย พรรคพลังปวงชนไทย และพรรคพลังชาติไทย ได้พรรคละ 1 ที่นั่ง รวมทั้งหมด 150 ที่นั่ง

ผลจากคำนวณส่งผลทำให้จำนวน ส.ส. แบ่งเขต และ ส.ส. บัญชีรายชื่อ มีจำนวนรวมกันดังนี้ พรรคพลังประชารัฐ 118 ที่นั่ง พรรคเพื่อไทย 137 ที่นั่ง พรรคอนาคตใหม่ 87 ที่นั่ง พรรคประชาธิปัตย์ 54 ที่นั่ง พรรคภูมิใจไทย 52 ที่นั่ง พรรคเสรีรวมไทย 11 ที่นั่ง พรรคชาติไทยพัฒนา 11 ที่นั่ง พรรคเศรษฐกิจใหม่ 6 ที่นั่ง พรรคประชาชาติ 6 ที่นั่ง พรรคเพื่อชาติ 5 ที่นั่ง พรรครวมพลังประชาชาติไทย 5 ที่นั่ง พรรคชาติพัฒนา 3 ที่นั่ง พรรคพลังท้องถิ่นไท 2 ที่นั่ง พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย พรรคพลังปวงชนไทย พรรคพลังชาติไทย พรรคละ 1 ที่นั่ง
==================================================
พรรคพลังประชารัฐ 8,433,137 คะแนน ได้ส.ส.บัญชีรายชื่อ 21 ที่นั่ง ส่วนส.ส.เขต 97 ที่นั่ง รวม 118 ที่นั่ง
พรรคเพื่อไทย 7,920,630 คะแนน ไม่ได้ส.ส.บัญชีรายชื่อ ส่วนส.ส.เขต  137 ที่นั่ง
พรรคอนาคตใหม่ 6,265,950 คะแนน ได้ส.ส.บัญชีรายชื่อ 57 ที่นั่ง ส่วนส.ส.เขต 30 ที่นั่ง รวม 87 ที่นั่ง
พรรคประชาธิปัตย์ 3,947,726 คะแนน ได้ส.ส.บัญชีรายชื่อ 21 ที่นั่ง ส่วนส.ส.เขต 33 ที่นั่ง รวม 54 ที่นั่ง
พรรคภูมิใจไทย 3,732,883 คะแนน ได้ส.ส.บัญชีรายชื่อ 13 ที่นั่ง ส่วนส.ส.เขต 39 ที่นั่ง รวม 52 ที่นั่ง
พรรคเสรีรวมไทย 826,530 คะแนน ได้ส.ส.บัญชีรายชื่อ 11 ที่นั่ง
พรรคชาติไทยพัฒนา 782,031 คะแนน ได้ส.ส.บัญชีรายชื่อ 5 ที่นั่ง ส่วนส.ส.เขต 6 ที่นั่ง รวม 11 ที่นั่ง
พรรคเศรษฐกิจใหม่ 485,664 คะแนน ได้ส.ส.บัญชีรายชื่อ 6 ที่นั่ง
พรรคประชาชาติ 485,436 คะแนน ไม่ได้ส.ส.บัญชีรายชื่อ ส่วนส.ส.เขต 6 ที่นั่ง รวม 6 ที่นั่ง
พรรคเพื่อชาติ 419,393 คะแนน ได้ส.ส.บัญชีรายชื่อ 5 ที่นั่ง
พรรครวมพลังประชาชาติไทย 416,324 คะแนน ได้ส.ส.บัญชีรายชื่อ 4 ที่นั่ง ส่วนส.ส.เขต 1 ที่นั่ง รวม 5 ที่นั่ง
พรรคชาติพัฒนา 252,044 คะแนน ได้ส.ส.บัญชีรายชื่อ 2 ที่นั่ง ส่วนส.ส.เขต 1 ที่นั่ง รวม 3 ที่นั่ง
พรรคพลังท้องถิ่นไทย 213,129 คะแนน ได้ส.ส.บัญชีรายชื่อ 2 ที่นั่ง
พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย 136,597 คะแนน ได้ส.ส.บัญชีรายชื่อ 1 ที่นั่ง
พรรคพลังปวงชนไทย ได้ส.ส.บัญชีรายชื่อ 1 ที่นั่ง
พรรคพลังชาติไทย ได้ส.ส.บัญชีรายชื่อ 1 ที่นั่ง
หมายเหตุ..จากการคำนวณตัวเลขอย่างไม่เป็นทางการ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น