เพลงฉ่อยชาววัง

วันจันทร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2562

สื่อต่างประเทศเกาะติดการเลือกตั้งไทย

สื่อต่างประเทศเกาะติดการเลือกตั้งไทย ระบุว่ากติกาเลือกตั้งอาจทำให้พรรคที่ได้คะแนนเสียงมากที่สุดไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้ และรัฐบาลชุดใหม่ก็จะทำงานไม่ได้ ===================================
สื่อต่างประเทศหลายสำนักติดตามการเลือกตั้งครั้งแรกในรอบ 8 ปีของไทยอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่ 8.00 น. ที่มีการเปิดหีบบัตรเลือกตั้ง ซึ่งเป็นการเลือกตั้งที่จะทำให้การปกครองโดยรัฐบาลทหารสิ้นสุดลง แต่กติกาการเลือกตั้งก็ยังเอื้อให้ทหารสืบทอดอำนาจได้ *****สำนักข่าว BBC ของอังกฤษ***** รายงานว่า ช่วงหลายปีที่ผ่านมา ไทยไม่มีเสถียรภาพทางการเมืองจากการต่อสู้กันระหว่างผู้สนับสนุนกองทัพและอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร หลังจากที่กองทัพยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือน ทหารก็สัญญาว่าจะนำความสงบสุขและประชาธิปไตยกลับคืนสู่ประเทศไทย แต่ก็เลื่อนการเลือกตั้งออกมาหลายครั้ง การเลือกตั้งครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2554 มีแนวโน้มว่าจะมีคนออกมาใช้สิทธิกันจำนวนมาก ซึ่งหลายพรรคต่างช่วงชิงคะแนนเสียงจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรกที่มีมากกว่า 7 ล้านคน แต่รัฐธรรมนูญฉบับก็ถูกวิจารณ์ว่าเขียนไว้เพื่อให้กองทัพยังคงมีอำนาจต่อไป ไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะออกมาว่าพรรคอะไรชนะก็ตาม นอกจากนี้ รัฐธรรมนูญใหม่ยังจำกัดจำนวนที่นั่งในรัฐสภาของพรรคต่างๆ และรัฐบาลชุดต่อไปยังต้องทำตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีที่ทหารวางไว้อีกด้วย แม้ผลการเลือกตั้งจะออกมาไม่กี่ชั่วโมงหลังปิดหีบเลือกตั้งในเวลา 17.00 น. แต่ทิศทางการเมืองไทยในอนาคตยังไม่ชัดเจนนัก เนื่องจากพรรคต่างๆ จะต้องเจรจาต่อรองหาพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล
*****สำนักข่าว The New York Times ของสหรัฐฯ***** มองว่า แม้พรรคการเมืองของฝ่ายทักษิณ ชินวัตรจะได้คะแนนเสียงมากที่สุด แต่ส.ว. 250 คนก็น่าจะกีดกันไม่ให้ฝ่ายทักษิณมีโอกาสได้จัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ และอาจนำไปสู่การจัดตั้งพรรคร่วมรัฐบาลที่อ่อนแอและขัดแย้งกันเอง ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ที่คอยสนับสนุนการรัฐประหารครั้งก่อนอยู่ลึกๆ ก็กำลังหลอกล่อให้ตัวเองมีบทบาทสำคัญในสูตรการตั้งรัฐบาลร่วมต่างๆ และมีแนวโน้มว่าจะเป็นหนึ่งในพรรคที่ได้เก้าอี้ในรัฐสภาไปได้มากที่สุดจากฐานเสียงคนเมืองและในภาคใต้ แต่คนที่คอยซุ่มอยู่ก็คือกองทัพ *****สำนักข่าว The Washington Post ของสหรัฐฯ*****
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ พยายามจูงใจประชาชนว่า พล.อ.ประยุทธ์จะทำให้โครงการของรัฐบาลดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่องและทำให้บ้านเมืองสงบ ไม่มีการประท้วงรุนแรงอย่างที่ผ่านมา ทำประเทศไทยออกจากวงจรความขัดแย้งได้ และในช่วงหลังพล.อ.ประยุทธ์ก็พยายามปรับลุคใหม่ดูอ่อนโยนขึ้น ไม่แข็งกร้าวแบบทหาร แต่คนที่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ก็น่าจะมีไม่มากเท่าพรรคเพื่อไทยและพรรคอนาคตใหม่ ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ก็ยังถือเป็นคู่แข่งสำคัญของพรรคเพื่อไทยและพรรคอนาคตใหม่ เพราะกติกาเอื้อให้พลอ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป *****สำนักข่าว Channel News Asia ของสิงคโปร์*****
ระบุว่า ในกติกาการเลือกตั้งใหม่ พรรคที่ครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร 500 ที่นั่งอาจไม่ได้เป็นรัฐบาล เพราะส.ว. ซึ่งถูกคสช.แต่งตั้งมา 250 มีสิทธิ์โหวตเลือกนายรัฐมนตรีได้ ดังนั้น คนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีจะต้องได้รับเสียงสนับสนุนอย่างน้อย 376 เสียง ทำให้พรรคพลังประชารัฐได้เปรียบพรรคอื่น และตั้งรัฐบาลได้ เมื่อรวบรวมเสียงได้เพียง 126 ที่นั่งก็ตาม *****สำนักข่าว Al Jazeera ของกาตาร์***** กล่าวว่า "การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่มีความหมายอะไร" และไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะออกมาอย่างไร "การเลือกตั้งน่าจะทำให้มีรัฐบาลที่ไม่สามารถทำงานได้" โดยสำนักข่าว Al Jazeera ได้นำเสนอการเลือกตั้งในสายตาของคนภาคตะวันออกเฉียงเหนือว่า การเลือกตั้งครั้งนี้อาจออกมาใน 3 รูปแบบได้แก่ พรรคการเมืองที่ชาวอีสานเลือกอาจถูกยุบหรือถูกสกัดด้วยวิธีต่างๆ หรืออย่างดีที่สุดก็คือ พรรคฝ่ายประชาธิปไตยสามารถรวบรวมเสียงเกินกึ่งกนึ่งและจัดตั้งรัฐบาลได้ แล้วถูกจำกัดการทำงานไว้ด้วยยุทธศาสตร์ 20 ปี รัฐธรรมนูญ และส.ว.แต่งตั้ง ทำให้ไม่สามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ กรณีที่แย่กว่านั้นคือ รัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตยชนะการเลือกตั้ง แต่ไม่มากพอจะครองเสียงข้างมากพอจะกีดกันไม่ให้พล.อ.ประยุทธ์ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ทำให้พรรคฝ่ายประชาธิปไตยต้องกลายเป็นฝ่ายค้านเสียงข้างมากในสภาล่างคอยซักค้านรัฐบาลเสียงข้างน้อย ซึ่งจะสามารถอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลได้โดยที่ส.ว.ไม่สามารถเข้ามามีส่วนร่วมกับลงมติไม่ไว้วางใจ ซึ่งจะทำให้รัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ออกจากอำนาจได้ กรณีที่แย่ที่สุดที่ชาวอีสานคาดการณ์ไว้ว่าจะเกิดขึ้นมากที่สุดคือ คสช.ใช้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นเครื่องมือกำจัดแกนนำต่อต้านพล.อ.ประยุทธ์หรือยุบพรรคฝ่ายประชาธิปไตย ซึ่งจะทำให้ส.ส.ของฝ่ายสนับสนุนทหารได้ครองเสียงข้างมากในสภาล่าง ไม่ว่าจะออกมาในรูปไหน รัฐบาลใหม่นี้ก็จะเป็นรัฐบาลไม่สามารถทำงานได้เลย และยิ่งรัฐบาลทหารชุดปัจจุบันก็มีแนวโน้มที่จะใช้มาตรการสุดโต่งในการเลือกตั้งครั้งนี้ การกระทำเหล่านั้นก็จะยิ่งทำให้รัฐบาลไม่มีความชอบธรรม และสุดท้ายจะนำไปสู่การจัดการเลือกตั้งที่เสรีและบริสุทธิ์ยุติธรรมต่อไป และการเลือกตั้งเสรีและยุติธรรมจะเป็นครั้งที่สำคัญจริงๆ และอีสานจะเป็นพื้นที่สำคัญที่สุดอย่างแน่นอน *****สำนักข่าว AFP ***** รายงานว่า คืนก่อนการเลือกตั้ง มีการเผยแพร่ประกาศสำนักพระราชวัง ความว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ อัญเชิญพระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ซึ่งมีความตอนหนึ่งว่า "การส่งเสริมคนดี ให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง และควบคุมคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจ ไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้" โดยสำนักข่าว AFP ระบุว่า แม้ไม่มีคำอธิบายเพิ่มเติมว่า "คนดี" หมายความว่าอะไร แต่คำว่า "คนดี" มักถูกนำไปผูกโยงกับนักการเมืองจากขั้วอำนาจเก่าที่อ้างตัวเป็นผู้สนับสนุนสถาบันกษัตริย์
ประกาศสำนักพระราชวังฉบับนี้ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การเมืองไทยที่มีประกาศลักษณะนี้เกี่ยวกับการเลือกตั้ง และเป็นความเคลื่อนไหวครั้งที่ 2 จากสำนักพระราชวังในเวลาไม่ถึง 2 เดือน หลังจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชโองการให้ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ยุติบทบาทไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง จากกรณีที่พรรคไทยรักษาชาติเสนอชื่อพระองค์เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ขอบคุณรูปและข่าวจาก : https://www.voicetv.co.th/read/R_w31Z4QQ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น