คนเรามันจะเป็นไปได้ขนาดนี้จริง ๆ เหรอ
- มาเข้าร่วมการซ้อมดับเพลิงที่ ม. ธุรกิจบัณฑิตย์ เมื่อ มิ.ย. 2566
- ขอถ่ายรูปคู่กับรองอธิการบดี แล้วเอาไปลงเฟสบุ้คตัวเอง
โดยเขียนบรรยายภาพว่า
"จะได้เป็นอาจารย์สอนที่ ม. ธุรกิจบัณฑิตย์ แล้ว
ขอบคุณ ดร. .... รองอธิการบดี นะคะ
ที่ให้โอกาสทำ ศ. ต่อด้วยเลย
แล้วเจอกันนะคะ นักศึกษา"
- พอเป็นข่าวดังขึ้นมาเรื่องจ่ายเงินแลกวุฒิปลอม
เมื่อวานรูปนี้ก็ถูกขุดขึ้นมาตีแผ่ในสื่อโซเชียล
จนวันนี้ ม. ธุรกิจบัณฑิตย์ ต้องรีบออกมาแถลงว่า
#หมอเกศ หรือ #หมอเกศกมล ไม่เคยเป็นอาจารย์ที่นั่น
และไม่เคยยื่นขอตำแหน่งทางวิชาการผ่านทาง ม. ด้วย !
- ก่อนหน้านั้น ในปี 2566 ย้อนไปเมื่อเดือนมกรา
นางโพสต์แนะนำตัวเองว่า เป็น "ว่าที่ รศ. ดร."
- ตอนนั้นยังไม่ได้วุฒิบัตรกงเต๊กจาก California U. FCE เลยนะ
เพิ่งได้มาตอน เม.ย. 2567 นี่เอง
และจนถึงตอนนี้ นางก็ยังไม่จบ ป. เอกที่แม่โจ้
เพิ่งเป็นนักศึกษาปี 2 แล้วไปเอา ดร. มาจากไหน ?
จากโครงการโปรโมทภาพลักษณ์ผู้บริหาร UIPM
ที่เอาประสบการณ์การทำงาน
มาประเมินแล้วให้ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์น่ะเหรอ
- ยังไม่ต้องพูดถึงว่าได้ ผศ. จริงหรือเปล่านะ
เอาแค่ว่า มกรา เป็น "ว่าที่ รศ."
(ผศ. รศ. ศ. มันไม่มีว่าที่ มันไม่เหมือนยศทหาร
ที่มีว่าที่ร้อยตรี ว่าที่ร้อยโท ว่าที่ร้อยเอกเว้ย หัวจะปวด)
มิถุนาบอกดีเลยค่ะ จะได้ทำ ศ. ต่อ
อันนี้คุยโวเกินเบอร์ค่ะสาว
รศ. ยังไม่ได้เลย จะต่อ ศ. แล้ว
จะเลื่อนวิทยฐานะไวแบบหลักเดือนเลยเนอะ
ขนาดแค่อาจารย์ประจำ ยังไม่เคยเป็นเลยแท้ๆ
อาจารย์ตัวจริงเสียงจริงเขายังขึ้น รศ. ยากเลย
เมื่อวานนี้เพิ่งอเน็จอนาถใจกับนางไป
เรื่องที่นางซื้อกรุ๊ปทัวร์ จากเอเยนซี่ไทย
ที่ไปเช่าห้องประชุมของ Worcester College, Oxford
ทั้งทริปมีแค่คนไทยล้วนๆ
แล้วไปจ้างฝรั่งมานั่งฟังคนในกรุ๊ปทัวร์
ผลัดกันพรีเซนต์เป็นภาษาอังกฤษ ถ่ายรูปถ่ายคลิป
ทั้งที่ในงานมีแต่คนไทย เพื่อให้ได้ภาพ
เสร็จแล้วเอเยนต์แจกใบประกาศกันเอง
ให้ถือไปถ่ายรูปกับป้ายชื่องาน ป้ายวิทยาลัย
แล้วนางก็บอกว่านางจบแล้วได้วุฒิบัตรจาก Oxford แล้ว
ที่พีคไปกว่านั้นคือ ก่อนจะฟ้าจะบินไปออกซ์เฟิร์ด
ฟ้าพิมพ์ขอกำลังใจจากแฟนคลับ โดย tag หา
มหาวิทยาลัยบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA)
แล้วบอกว่า นิด้าติวเข้ม เตรียมส่งฟ้าไปคว้า ป.เอก
พรีเซนต์ดุษฎีนิพนธ์ (เล่มจบของ ป.เอก) ที่ Oxford ค่ะ
แม่งโคตรปั่น ใส่สูทแม่โจ้นั่งเซลฟี่
เพื่อไปคว้า ป. เอก ม. Oxford โดยให้ NIDA ช่วยติว
จน NIDA ต้องออกประกาศตัวโตๆ ว่า "FAKE NEWS"
บุคคลดังกล่าว มิได้กำลังศึกษา หรือจบการศึกษา
ป. เอกจาก NIDA แต่อย่างใด
เริ่มจาก กพ. อว. เลขาสถาบันพระปกเกล้าฯ และรัฐสภา
ปฏิเสธอย่างแรงว่าไม่เคยรับรองมหาวิทยาลัยนี้
ต่อมา DPU ม. ธุรกิจบัณฑิตย์ ปฎิเสธเรื่องที่นางแต่งฟิค
ว่าเขารับนางเป็นอาจารย์ประจำ แถมจะให้ทำ ศ. ไปด้วย
ต่อมา NIDA แขวนรูปเตือนขึ้น FAKE NEWS
โดน CSI LA จ่าโอ อาจารย์อ๊อด คุณสมชัย ศรีสุทธิยากร
เปิดโปงเรื่อง Diploma Mills
California University คือเครื่องปั๊มปริญญากงเต๊กเถื่อนขาย
ไม่มีการเรียนการสอน ไม่มีบุคลากร จ่ายเงินไปได้ใบมา
สุดท้ายโดน อ. แนท AIT วิศวะอินเตอร์ ธรรมศาสตร์
ตอกฝาโลง ไล่ไทม์ไลน์ จนลงข่าวทุกช่อง
ตั้งแต่สอบจบโทได้ 8 วันเปลี่ยนชื่อเฟสเป็น ดร.
อยู่ดี โดดมาเป็น ว่าที่ รศ. / รศ. และ ศ.
ภายใน 3 ปีหลังจบโท โดยที่ไม่เคยเป็นอาจารย์ประจำ
ไม่เคยเขียนตำรา ไม่มีดุษฎีนิพนธ์ที่เผยแพร่
ไม่มีผลงานใน tier ท็อปๆ ของเว็บตีพิมพ์วารสารวิชาการ
ให้สมกับที่ได้ ศ. แบบ fast & furious track
ข้ามหัวคนเรียน ป. เอก สอนไปด้วยเขียนหนังสือไปด้วย
ทำวิจัยไปด้วย จนผมร่วงปวดหลัง ออฟฟิศซินโดรมถามหา
เป็นแพนิคเป็นซึมเศร้า PTSD กันเป็นหลักสิบปี
นางคงมีปมเรื่องอยากได้การยอมรับนับถือมากๆ เลยนะ
อ่านเกียรติประวัติวีรกรรมที่ทำมาทั้งหมดแล้วเหลือจะเชื่อ !
มันมีคนที่โกหกหน้าด้าน ๆ ขนาดนี้เลยเหรอ
แล้วก่อนหน้านี้คนที่เกี่ยวข้อง ก็ไม่มีมาท้วงติงโต้แย้ง
ขอให้ลบขอให้แก้ไขอะไรด้วยนะ อีเว็บ California U. FCE
มันประกาศหราว่ารัฐสภาไทยรับรองใบกงเต๊กของมัน
ว่ามีศักดิ์และสิทธิ์เท่ากับปริญญาที่ออกโดยมหาวิทยาลัยรัฐ
ทุกสิ่งทุกประการ ยกตัวอย่างรัฐมนตรีธรรมนัสที่ใช้ได้ผ่านฉลุย
สภาไทยก็ไม่เห็นจะเคยไปกำราบ สั่งให้มันเอาข้อความลงแต่อย่างใด
ที่มาพิมพ์ๆ นี่ ไม่ได้เอามันส์ ไม่ได้ต้องการความสนใจ
ไม่ได้อยากได้เพื่อนเพิ่ม ที่ขอแอดมาขออภัยด้วยค่ะที่ไม่ได้กดรับใคร
แค่หวังว่าความตื่นรู้ว่า "สภาสู๊งงงงง" ที่เราไม่ได้เลือก สว. เองเลย
แต่เขาฟอร์มทีมคนของเขาเข้ามา แล้วก็เลือกกันเองในกลุ่ม
จนได้ สว. คุณภาพระดับนี้ มันเหมาะสมที่จะปฏิบัติหน้าที่ไหม
สมควรที่จะได้เงินเดือนเรือนแสน สิทธิ์บินฟรี เบี้ยประชุม ค่าตำแหน่ง
สวัสดิการดีๆ บำนาญหลังพ้นวาระ ฯลฯ มั้ย
ประชาชนและนักข่าวไล่ไทม์ไลน์ความสะตอกันหัวขวิด
แล้วสุดท้าย กกต. คิดจะทำอะไรไหม
ตอนคุณธรรมนัส กกต. บอกว่าไม่ได้ทำอะไร
เพราะไม่มีคนมาร้องเรียน ส่วนรัฐสภา ก็แก้ไขง่าย ๆ
แค่ไปขอแก้เอกสาร เอา ดร. ออก แล้วไม่เขียนนำหน้าอีกก็จบ
แต่เคสหมอเกศ ตอนนี้มีคนเสียสละ
ไปทำเรื่องร้องเรียนจริยธรรมแล้ว
มีอดีตผู้สมัคร สว. จะไปแจ้งความว่าถูกหลอกให้ลงคะแนน
มีนักวิชาการที่จะไปแจ้งความ
เรื่องนำความเท็จเข้าสู่ระบบเอกสารราชการ
ก็หวังว่านางจะได้รับผลของการกระทำ
และไม่ได้ลอยหน้าลอยชาย รับตำแหน่งรับเงินเดือนต่อไป
โดยไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะคะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น