เพลงฉ่อยชาววัง

วันพุธที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2563

ฉันรักประเทศนี้ ❤️ ประเทศที่...

 ฉันรักประเทศนี้ ❤️ ประเทศที่...



...ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์อันเป็นประมุข และทรงอยู่ใต้รัฐธรรมนูญ และเป็นรัฐธรรมนูญที่เก่าแก่ ที่ร่างขึ้นมาตั้งแต่ปี 1814 (มีการปรับเปลี่ยนนิดหน่อยบ้างเพื่อเข้ากับยุคสมัย แต่ไม่มีการล้มล้างฉีกรัฐธรรมนูญ)

...กษัตริย์ไม่มีอำนาจทางการเมือง และไม่เคยเซ็นต์รับรองรัฐประหาร (เพราะไม่เคยเกิดขึ้นเลย ถึงมีประชาชนก็เชื่อว่าพระองค์ไม่เซ็นต์)

...กษัตริย์ที่มีระดับความสามารถเหมือนปุถุชนทั่วไป ไม่ได้อัจฉริยะทุกเรื่อง หรือเก่งเหมือนเทวดา

...วันเกิดของราชวงศ์ไม่ไช่วันหยุดราชการ และไม่ไช่วันพ่อ-วันแม่แห่งชาติ ไม่มีช่องข่าวโปรโมทตัวเอง เราจะเห็นราชวงค์พร้อมหน้าพร้อมตาก็ในวันชาติเท่านั้น

...ประชาชนวิจารณ์สถาบันกษัตริย์ได้ และทางสถาบันก็รับฟังและพิจารณาในสิ่งที่โดนวิจารณ์เช่นกัน เช่นครั้งนึง Crown princess ส่งรถลีมูซีนไปรับส่งพระธิดาที่โรงเรียนอินเตอร์ โดนประชาชนตั้งคำถามโดยมีการพาดหัวข่าวว่า เป็นการฟุ่มเฟือยหรือหรูหราเกินไปหรือไม่..เพราะนั่นคือภาษีของประชาชน จากนั้นจึงมีการระงับการกระทำดังกล่าว

...ที่นี่คอรัปชั่นน้อยมาก เพราะนักการเมือง ข้าราชการ หน่วยงานต่างๆหรือแม้แต่สถาบันสามารถถูกตรวจสอบได้ ..เคยมีประธานรัฐสภาแสดงสปิริตลาออกเพียงเพราะไม่สามารถคุมบัดเจตในการก่อสร้างอาคารรัฐสภาได้(เกินงบที่ตั้งไว้)

...ในรัฐสภาแทบไม่มีนักการเมืองมาจากสายทหารเลย ทุกคนถูกเลือกมาจากระบบที่โปร่งใสและไม่มีการจ่ายเงิน ไม่บัตรเขย่ง บัตรเสริม แต่ละพรรคต่อสู้กันและฟาดกันด้วยนโยบายล้วนๆ

...แม้จะเสึยภาษีแพง 25-40% แต่ไม่มีใครหลีกเลี่ยงหรือหนีภาษี เพราะเขารู้กันว่ามันตอบกลับมาเป็นประโยชน์ของตัวเองและพัฒนาประเทศชาติทุกบาททุกสตังค์ ทุกอาชีพที่นี่มีเกียรติ ไม่มีความแตกต่างระหว่างประชาชน เอกชน หรือเจ้าหน้าที่รัฐ ทุกคนที่เสียภาษีมีสิทธิเท่าเทียมกันในการใช้สวัสดิการรัฐทุกอย่าง นั่นรวมถึงเงินเกษียนด้วยค่า


...ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ทางธรรมชาติหรืออะไรที่ร้ายแรง ไม่ว่าภาครัฐหรือบุคคลไม่มีการเปิดรับขอบริจาคทั้งสิ้น เพราะมันเป็นหน้าที่ของรัฐจะต้องจัดการจากเงินภาษีที่เขาจ่ายไป

...ประเทศนี้เชื่อว่า “คนฉลาดชาติจะพัฒนา “ ไม่ไช่ “คนโง่ปกครองง่าย” ดังนั้นรัฐจึงทุ่มเทเต็มที่ในการสนับสนุนด้านการศึกษา และเขาเชื่อว่าเด็กคือทรัพยากรที่สำคัญที่สุดของชาติ ..เด็กทุกคนเกิดมาจะมีเงินรับขวัญเฉลี่ยสองแสนกว่าบาทและจะได้รับเงินเดือนจนถึงอายุ 18 ..แม่ลาคลอดได้ 1ปี โดยรับเงินเดือนตามปกติ พ่อมีสิทธิลามาเลี้ยงลูกได้เช่นกัน.
ใครโสดยกมือขึ้น!😁

...ตำรวจที่นี่ไม่พกปืน (ยกเว้นเคสฉุกเฉินจริงๆ)เพราะประเทศนี้ได้ชื่อว่ามีความปลอดภัยสูงมาก ทุกคนปฎิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดและกฎหมายก็มีผลต่อทุกคนอย่างไม่ละเว้น .เอาง่ายๆ ถ้าดื่มแอลกอฮอล์แค่จิบเดียว เขาจะไม่ขับรถกัน หรือเมื่อล่าสุดนักกีฬาชื่อดังขับรถด้วยความเร็วเกินกำหนด (ไม่ได้เมาหรือชนใครนะ และไม่ได้ถอนฟันมาด้วย)..ถูกดำเนินคดีตามปกติ และต้องตั้งโต๊ะแถลงการณ์ขอโทษเป็นเรื่องใหญ่มาก

...สื่อที่นี่ มีจรรยาบรรณ และค่อนข้างเชื่อถือได้ ไม่มีการเขียนข่าวแบบเฟคนิวส์เพราะถ้าเกิดโดนฟ้องขึ้นมาอาจมีสิทธิ์หายนะหมดตัวกันได้ เพราะสิทธิมนุษย์ชนที่นี่สูงมาก

...ประชาชนที่นี่มีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นทุกสิ่งอย่าง แต่การละเมิดหรือเหยียดหยามผู้อื่นเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ..คุ้นๆว่ามันย้อนแยงกับบางประเทศมั้ยคะ😒

...และประเทศนี้..คือประเทศที่ถือได้ว่ามีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดอันดับต้นๆของโลก และเป็นประเทศแห่ง สันติภาพ, เสรีภาพ และภราดรภาพ ||| อย่างแท้จริง!

เพราะที่นี่คือ...นอร์เวย์ 🇳🇴 ดินแดนแห่งประชาธิปไตยเต็มใบ!

ที่เขียนมาทั้งหมด ไม่ได้อวดเด้อ
(แม้จะดูเหมือน ต้องขออภัยมา ณ ที่ตรงนี้ด้วยค่า อิอิ) แต่อยากให้หลายๆคนเห็นภาพว่า
ถ้าการเมืองดี ระบบดี มันมีผลกับชีวิตเราอย่างไร ...เชื่ออิชั้นเถอะค่ะ ว่าประเทศไทยไม่ไช่ประเทศที่ดีที่สุดในโลก อย่างที่เราโดนกล่อมให้เชื่อมาเกือบตลอดชีวิต ถ้าดีจริงขนาดนั้น คงมีต่างชาติแห่ไปขอสัญชาติเพียบแล้วค่ะ (แม้แตพวกที่มโนพร่ำบอกว่าดี ยังไปขอสัญชาติอื่นเลยดั๊วะ🙄😂)

แต่ยังงัย อิชั้นก็ยังรักประเทศไทย ไม่ได้ชังชาติแต่แค่อยากมีชีวิตที่ดี ☺️..เลยอยากเห็นบ้านเกิดเมืองนอน มีรื้อพรมเพื่อการมองเห็นปัญหาและแก้ไขให้ตรงจุด...

เป็นกำลังใจและพร้อมจะต่อสู้ไปกับพี่น้องเลือดประชาธิปไตยทุกคน

จะมีชีวิตอยู่

เพื่อสู้และรอดูวันที่ ”คนถือพาสปอร์ตไทย..แต่มีคุณภาพชีวิตไม่ต่างจากคนนอน์สค่ะ!”


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น