เพลงฉ่อยชาววัง

วันจันทร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2568

ทุนจีนสีเทา: อาชญากรรมข้ามพรมแดน

 ทุนจีนสีเทา: อาชญากรรมข้ามพรมแดนที่พลิกโฉมเศรษฐกิจและสังคมในกัมพูชา ลาว เมียนมา และไทย

ในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา การไหลบ่าของทุนจีนได้เปลี่ยนโฉมเศรษฐกิจและสังคมของอาเซียนอย่างไม่อาจปฏิเสธได้ จากโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดยักษ์ภายใต้เส้นทางสายไหมยุคใหม่ (Belt and Road Initiative: BRI) ไปจนถึงเม็ดเงินลงทุนที่ทะลักเข้ามาในภาคอุตสาหกรรมและการพัฒนาเมือง ทุนจีนถูกมองว่าเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ช่วยเติมเชื้อเพลิงให้เศรษฐกิจในภูมิภาคเติบโต

อย่างไรก็ตามภายใต้โอกาสที่มาพร้อมกับเงินทุนมหาศาล กลับซ่อนเร้นปัญหาที่หลายประเทศเริ่มตั้งคำถาม ไม่ว่าจะเป็นภาระหนี้สินที่เพิ่มขึ้น การพึ่งพาการลงทุนจากจีนอย่างหนัก หรือแม้แต่ทรัพยากรในประเทศที่เริ่มถูกควบคุมโดยทุนต่างชาติ นอกจากนี้อาเซียนยังต้องเผชิญกับ ‘ทุนสีเทา’ เครือข่ายธุรกิจที่แฝงตัวผ่านกิจกรรมผิดกฎหมาย เช่น การพนันออนไลน์ การฟอกเงิน และการคอร์รัปชัน ที่กำลังแทรกซึมเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจและสังคมของหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

เมื่อเส้นแบ่งระหว่าง ‘โอกาส’ กับ ‘ความเสี่ยง’ เริ่มพร่าเลือน คำถามสำคัญจึงเกิดขึ้นว่า ทุนจีนสีเทาได้เปลี่ยนแปลงประเทศกัมพูชา ลาว เมียนมา และไทยอย่างไรบ้าง

ทุนจีนสีเทาคืออะไร

‘ทุนจีนสีเทา’ เป็นคำเรียกที่ใช้พูดถึงกลุ่มเงินทุนจากประเทศจีนที่แฝงตัวในธุรกิจต่างๆ ด้วยความคลุมเครือและไม่ถูกต้องตามกฎหมาย คำว่า สีเทา บ่งบอกถึงลักษณะที่อยู่ระหว่างขาวและดำ ไม่ได้ขาวสะอาดจนโปร่งใส แต่ก็ไม่ได้ดำสนิทจนเป็นอาชญากรรมที่เปิดเผย ทว่าลึกลงไปธุรกิจเหล่านี้กลับซ่อนความไม่ชอบมาพากลเอาไว้

ทุนจีนสีเทามักปรากฏในรูปแบบของการลงทุนในธุรกิจที่เราคุ้นเคย เช่น โรงแรม อสังหาริมทรัพย์ ร้านอาหาร และธุรกิจท่องเที่ยว ซึ่งดูเหมือนจะช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่น แต่แท้จริงแล้วบางครั้งธุรกิจเหล่านี้อาจถูกใช้เป็นเครื่องมือในการฟอกเงิน หรือการซ่อนความมั่งคั่งที่ได้มาจากแหล่งที่มาที่ไม่โปร่งใส เช่น การพนันออนไลน์ การค้ามนุษย์ หรือธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศต้นทาง

อย่างไรก็ตามหลังจากการปราบปรามการคอร์รัปชันภายในประเทศจีน ที่ดำเนินมาอย่างเข้มข้น กลุ่มธุรกิจสีเทาจำนวนหนึ่งจึงเลือกกระจายไปตั้งรกรากในประเทศต่างๆ โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งทำให้กัมพูชา ลาว เมียนมา รวมถึงไทย ได้กลายเป็นพื้นที่เป้าหมายสำคัญของกลุ่มธุรกิจสีเทาเหล่านั้น

เปิดประวัติศาสตร์ทุนจีนในอาเซียน

ยุคที่ 1: บ่อนการพนันใกล้พรมแดนจีน

ในช่วงแรกบ่อนคาสิโนตั้งขึ้นใกล้ชายแดนจีน เพื่อดึงดูดนักพนันชาวจีนให้ข้ามพรมแดนมาเล่นการพนัน เช่น ที่เมืองลา (Mong La) ในเมียนมา และเมืองบ่อเต็น (Boten) ในลาว บ่อนเหล่านี้พึ่งพานักพนันและโครงสร้างพื้นฐานจากจีนอย่างมาก เมื่อรัฐบาลจีนเริ่มปราบปรามการพนันในปี 2548 บ่อนเหล่านี้จึงได้รับผลกระทบอย่างหนัก

ยุคที่ 2: การขยายตัวของบ่อนการพนันทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

หลังปี 2555 การปราบปรามการทุจริตในจีนทำให้ผู้ประกอบการคาสิโนย้ายไปยังประเทศที่มีกฎระเบียบผ่อนคลายกว่าอย่างกัมพูชา บ่อนคาสิโนในยุคนี้ได้รับประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานและการสนับสนุนจากประเทศเหล่านี้ อย่างไรก็ตามด้วยแรงกดดันจากจีน บางประเทศได้เริ่มปราบปรามการพนันออนไลน์ ส่งผลให้ธุรกิจเหล่านี้ต้องย้ายฐานอีกครั้ง

ยุคที่ 3: บ่อนการพนันในพื้นที่อิทธิพลของชนกลุ่มน้อยในเมียนมา

เมื่อรัฐบาลจีนร่วมมือกับประเทศต่างๆ ในการปราบปรามคาสิโน ทุนจีนสีเทาจึงย้ายไปยังพื้นที่ชายขอบในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น เมืองชเวโก๊กโก่ (Shwe Kokko) ในเมียนมา ซึ่งอยู่ในเขตอิทธิพลของกองกำลังพิทักษ์ชายแดน (BGF) รัฐกะเหรี่ยง พื้นที่เหล่านี้มักอยู่นอกการควบคุมของรัฐบาลกลาง ทำให้เป็นแหล่งรวมของเครือข่ายทุนสีเทาและอาชญากรรมข้ามชาติ

ทำไมทุนจีนสีเทาถึงปักหมุดในอาเซียน

รายงานจากศูนย์ศึกษายุทธศาสตร์ สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ วิเคราะห์ถึงปัจจัยที่ส่งเสริมการแพร่กระจายของทุนจีนสีเทาในภูมิภาคนี้ โดยระบุถึงปัจจัยสำคัญ 4 ประการ ได้แก่

1. ในประเทศจีน การพนันทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นคาสิโนหรือการพนันออนไลน์ถือเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ดังนั้นนักพนันชาวจีนจึงต้องมองหาที่อื่นเพื่อเสี่ยงโชค อาเซียนจึงกลายเป็นจุดหมายใหม่ที่เต็มไปด้วยโอกาสในการทำธุรกิจการพนัน โดยเฉพาะประเทศที่มีข้อกำหนดผ่อนปรน

2. หลายประเทศในอาเซียน เช่น ลาว กัมพูชา เมียนมา และฟิลิปปินส์ ต้องการเงินลงทุนเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ จึงผ่อนคลายกฎระเบียบ เปิดทางให้มีบ่อนคาสิโน และอนุญาตให้ชาวต่างชาติ (รวมถึงชาวจีน) เข้ามาเล่นการพนันได้ ทุนจีนจึงแห่เข้ามาพร้อมกับนักพนันที่เป็นลูกค้าหลัก สร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนในพื้นที่เหล่านี้อย่างมหาศาล

3. ช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้การเดินทางข้ามประเทศยากขึ้น ทุนจีนสีเทาได้ปรับตัวอย่างรวดเร็วจากการเปิดบ่อนคาสิโนมาสู่การลงทุนในคาสิโนออนไลน์ ที่ไม่ต้องพึ่งพาการเดินทางข้ามพรมแดน การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้การพนันออนไลน์กลายเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็วและขยายขอบเขตการลงทุนไปยังอาเซียน

4. การปราบปรามการพนันในจีนส่งผลกระทบอย่างมากต่อนักลงทุนจีน ทำให้ธุรกิจเหล่านี้ต้องย้ายไปยังประเทศที่มีกฎหมายผ่อนคลายกว่า การเคลื่อนย้ายทุนสีเทาเหล่านี้ไปยังอาเซียนจึงเป็นผลมาจากการจำกัดสิทธิ์ในประเทศต้นทาง

สีหนุวิลล์ เมืองท่าของทุนจีนเทาในกัมพูชา

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การเติบโตของเขตเศรษฐกิจพิเศษ (Special Economic Zone: SEZs) ในหลายประเทศอาเซียน อาจดูเหมือนเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจที่ดี แต่ในอีกด้านหนึ่ง พื้นที่เหล่านี้กลับกลายเป็นแหล่งพักพิงของทุนจีนเทา หรือกลุ่มทุนจีนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจผิดกฎหมาย เนื่องจากเขตเศรษฐกิจพิเศษมักมาพร้อมกับกฎระเบียบที่ผ่อนปรน ภาษีต่ำ และการควบคุมน้อยลง ซึ่งเปิดช่องให้ธุรกิจผิดกฎหมายแฝงตัวได้ง่ายขึ้น รัฐบาลหลายประเทศที่ต้องการดึงดูดเม็ดเงินลงทุน อาจเลือก ‘ปิดตาข้างหนึ่ง’ เพื่อแลกกับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ

จากเขตเศรษฐกิจพิเศษในสีหนุวิลล์ ไปจนถึงทางด่วนพนมเปญ-สีหนุวิลล์ โครงการที่จีนลงทุนกลายเป็นสัญลักษณ์ของความเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่ในกัมพูชา เมืองสีหนุวิลล์ซึ่งเคยเป็นแค่หมู่บ้านชาวประมง กลับกลายเป็น ‘Little China’ ที่เต็มไปด้วยคาสิโน รีสอร์ต และอาคารสูง ซึ่งดึงดูดนักลงทุนและนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ทุนจีนเปลี่ยนประเทศนี้ให้เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่มีศักยภาพ แต่เบื้องหลังภาพลักษณ์ที่สวยงาม กลับมีอีกมิติหนึ่งที่เต็มไปด้วยความซับซ้อน

สีหนุวิลล์กลายเป็นเป้าหมายสำคัญของทุนจีน จากการเปลี่ยนพื้นที่นี้ให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ สีหนุวิลล์กลายเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยนักลงทุนชาวจีน ธุรกิจคาสิโน และโรงงานอุตสาหกรรม ความคึกคักนี้นำไปสู่การเติบโตของเศรษฐกิจในท้องถิ่น และเป็นเครื่องยืนยันถึงบทบาทสำคัญของจีนในกัมพูชา

อย่างไรก็ตามสีหนุวิลล์ไม่ได้เป็นเพียงศูนย์กลางการพัฒนา แต่กลับกลายเป็น ‘สนามเด็กเล่นของทุนจีนสีเทา’ โดยในปี 2561 มีการขยายตัวของธุรกิจผิดกฎหมายในพื้นที่นี้อย่างมาก โดยเฉพาะการพนันออนไลน์ ซึ่งจีนใช้สีหนุวิลล์เป็นฐานหลัก แม้ว่ากัมพูชาจะสั่งห้ามการพนันออนไลน์ในปี 2562 แต่ธุรกิจเถื่อนเหล่านี้ไม่ได้หายไป กลับซ่อนตัวลึกยิ่งขึ้น

ในปี 2565 เมืองนี้ถูกโยงเข้ากับปัญหาการฟอกเงิน การค้ามนุษย์ และการบังคับใช้แรงงานในสถานที่ที่อ้างว่าเป็นสำนักงานบริษัท แต่แท้จริงแล้วเป็น ‘แหล่งขังแรงงาน’ ที่ถูกบังคับให้ทำงานการพนันออนไลน์ โดยแรงงานเหล่านี้ไม่ใช่แค่คนกัมพูชา แต่รวมถึงชาวต่างชาติที่ถูกล่อลวงมาด้วยคำสัญญาเรื่องรายได้ดี

กรณีที่สร้างความสั่นสะเทือนเกิดขึ้นในปี 2566 เมื่อมีการจับกุมเครือข่ายอาชญากรรมจีนที่ใช้สีหนุวิลล์เป็นศูนย์กลางของการค้ามนุษย์และการหลอกลวงผ่านอินเทอร์เน็ต การเปิดโปงครั้งนี้เผยให้เห็นถึงการที่ทุนจีนสีเทาแทรกซึมเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจและสังคมของกัมพูชา

สีหนุวิลล์ของกัมพูชา เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการเติบโตของทุนจีนเทา หลังเปิดเขตเศรษฐกิจพิเศษ เมืองนี้กลายเป็นศูนย์กลางคาสิโน ธุรกิจฟอกเงิน และอาชญากรรมข้ามชาติ มีรายงานว่าชาวจีนจำนวนมากถูกหลอกให้มาทำงานในบ่อนเถื่อน หรือแม้แต่ถูกกักขังและบังคับให้ก่ออาชญากรรม การเปิดเขตเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อดึงดูดการลงทุนจากจีน อาจเป็นกลยุทธ์ที่หลายประเทศหวังพึ่งพา เนื่องจากจีนมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่รวดเร็ว จนก้าวขึ้นเป็นมหาอำนาจโลก แต่แทนที่การไหลเข้าของทุนจีนจะสร้างความเจริญรุ่งเรือง กลับกลายเป็น ‘ดาบสองคม’ ที่ก่อปัญหาอาชญากรรมจนเกินควบคุม

สีหนุวิลล์ เคยเป็นศูนย์กลางของทุนจีนเทาที่เฟื่องฟูที่สุดในอาเซียน มีการลงทุนขนาดใหญ่ในธุรกิจคาสิโน ฟอกเงิน และอาชญากรรมข้ามชาติ แต่เมื่อเวลาผ่านไปเมืองแห่งนี้เริ่มเสื่อมความนิยมลง เนื่องจากปัญหาความรุนแรง การกวาดล้างของรัฐบาล และการที่ ‘เหยื่อ’ หรือแรงงานที่ถูกหลอกใช้ลดน้อยลง

เมื่อพื้นที่เริ่มตีบตัน ทุนจีนเทาจึงต้องขยายสนามอาชญากรรมไปยังจุดหมายใหม่ จากเดิมที่ปักหลักในกัมพูชา (ตะวันออก) ก็ค่อยๆ เคลื่อนตัวสู่ประเทศทางตะวันตกของอาเซียน ที่ยังเปิดรับเงินลงทุนจากจีน แต่มีการควบคุมที่หละหลวม อาจกล่าวได้ว่าทุนจีนเทาไม่ได้หายไปจากอาเซียน แต่กำลังเปลี่ยนเป้าหมาย ไปยังประเทศที่ยังคงมีช่องว่างทางกฎหมาย หรือมีรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับเงินลงทุนมากกว่ามาตรการควบคุม

เมียวดี เมืองชายแดนที่ถูกครอบงำโดยทุนจีนและธุรกิจสีเทา

เมืองเมียวดีในรัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา ตั้งอยู่ตรงข้ามอำเภอแม่สอด จังหวัดตากของประเทศไทย กลายเป็นศูนย์กลางของทุนจีนสีเทา โดยเฉพาะในพื้นที่เมืองใหม่ชเวโก๊กโก่และเคเคพาร์ก (KK Park) พื้นที่เหล่านี้ได้รับการพัฒนาโดยนักลงทุนชาวจีนตั้งแต่ปี 2560 มีการก่อสร้างอาคารที่พักอาศัย คอนโดมิเนียม โรงแรม และเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ต่างๆ อย่างไรก็ตาม เมืองเหล่านี้กลับกลายเป็นฐานปฏิบัติการของอาชญากรรมไซเบอร์ เช่น แก๊งคอลเซ็นเตอร์ การฟอกเงิน และการค้ามนุษย์

การพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากกองกำลังพิทักษ์ชายแดนกะเหรี่ยง (BGF) ภายใต้การนำของ พันเอก ซอ ชิด ตู่ (Saw Chit Thu) หรือที่รู้จักในชื่อ ‘หม่องชิดตู่’ ซึ่งเคยร่วมมือกับกองทัพเมียนมา แต่ภายหลังได้แยกตัวออกมาและเปลี่ยนชื่อกองกำลังเป็นกองทัพกะเหรี่ยงแห่งชาติ (KNA) การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นเนื่องจากความขัดแย้งกับรัฐบาลทหารเมียนมา นำโดย พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย (Min Aung Lai) ที่ต้องการปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์ในพื้นที่

ในเดือนพฤษภาคม 2567 กองกำลัง BGF ได้ออกประกาศให้ชาวต่างชาติที่ทำธุรกิจออนไลน์รอบเมืองเมียวดี ออกจากพื้นที่ภายในระยะเวลา 6 เดือน โดยระบุว่า หากพบเห็นหลังวันที่ 31 ตุลาคม 2567 จะมีการจัดการอย่างจริงจัง อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า ธุรกิจผิดกฎหมายยังคงดำเนินการอยู่ และการประกาศดังกล่าวอาจเป็นเพียงการแสดงเพื่อบรรเทาแรงกดดันจากทางการจีน

ปัจจุบันเมียวดีและพื้นที่ใกล้เคียงยังคงเป็นศูนย์กลางของกิจกรรมที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย การลงทุนจากทุนจีนสีเทายังคงดำเนินต่อไป ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในภูมิภาค การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและการทหารในพื้นที่ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด

หากไม่มีมาตรการจัดการที่เข้มงวด ประเทศปลายทาง อาจเผชิญชะตากรรมเดียวกับสีหนุวิลล์ เมืองที่เคยเป็นความหวังทางเศรษฐกิจ แต่กลับกลายเป็นแดนอาชญากรรมที่แม้แต่ชาวจีนก็ยังไม่กล้าไปเยือน

คิงส์โรมัน ศูนย์กลางทุนจีนเทาในลาว

ท่ามกลางป่าภูเขาและสายน้ำโขงที่ทอดยาว เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ (GTSEZ) ในแขวงบ่อแก้ว ประเทศลาว กลายเป็นศูนย์กลางของกลุ่มทุนจีนที่มีเครือข่ายลึกลับและซับซ้อน หนึ่งในชื่อที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุดคือ ‘คิงส์โรมัน’ คาสิโนสุดหรูที่แฝงไปด้วยเรื่องราวที่ไม่ได้มีเพียงแค่การพนัน

หลังจากที่รัฐบาลจีนและกองกำลังต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมากวาดล้างขบวนการหลอกลวงในรัฐฉานเมื่อปี 2566 กลุ่มอาชญากรจำนวนมากย้ายฐานมายัง SEZ เมืองเมียวดีของเมียนมาและลาว ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการลงทุนจากกลุ่มทุนจีนและได้รับการคุ้มครองจากกลุ่มอิทธิพลท้องถิ่น

เมื่อมองจากภายนอก คิงส์โรมันส์ดูเหมือนรีสอร์ตคาสิโนสุดหรูสำหรับนักท่องเที่ยวจีนที่ต้องการเสี่ยงโชค แต่นอกเหนือจากการพนันแล้ว พื้นที่นี้ยังเป็นศูนย์กลางของขบวนการสแกมเมอร์ออนไลน์ ที่หลอกลวงผู้คนทั่วโลก โดยมีรายงานว่า มีการล่อลวงแรงงานต่างชาติให้เข้ามาทำงานในสภาพแวดล้อมที่ไม่เป็นธรรม ภายใต้เปลือกนอกของความหรูหราและความบันเทิง ซ่อนเครือข่ายผิดกฎหมายที่มีอิทธิพลข้ามชาติ

คิงส์โรมันอยู่ภายใต้การบริหารของ ‘กลุ่มบริษัทดอกงิ้วคำ’ ซึ่งก่อตั้งโดย จ้าว เหว่ย (Zhao Wei) นักธุรกิจจีนที่สหรัฐฯ ประกาศขึ้นบัญชีดำในปี 2561 ฐานพัวพันกับการฟอกเงิน ยาเสพติด ค้าประเวณี และค้าสัตว์ป่า แม้ว่าพื้นที่นี้จะอยู่ในประเทศลาว แต่บรรยากาศกลับเหมือน ‘เขตปกครองพิเศษของจีน’ มากกว่า ทั้งถนนเต็มไปด้วยป้ายภาษาจีน เงินที่ใช้คือเงินหยวน และแม้แต่นาฬิกาตามสถานที่สาธารณะก็ถูกตั้งให้ตรงกับเวลาปักกิ่ง สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลของจีนที่มีเหนือพื้นที่นี้

นอกจากนี้การเติบโตของกิจกรรมผิดกฎหมายในพื้นที่นี้ยังส่งผลกระทบ ไปไกลกว่าลาว เพราะขบวนการสแกมเมอร์เหล่านี้ไม่ได้หลอกแค่คนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ยังขยายไปถึง ยุโรป สหรัฐฯ และออสเตรเลีย

จากทัวร์ศูนย์เหรียญสู่ทุนจีนสีเทาในไทย

ในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา การท่องเที่ยวของไทยเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะจากนักท่องเที่ยวจีนที่หลั่งไหลเข้ามาเป็นจำนวนมาก หนึ่งในรูปแบบการท่องเที่ยวที่เคยได้รับความนิยมคือ ‘ทัวร์ศูนย์เหรียญ’ หรือทัวร์ราคาถูก ที่ดูเหมือนจะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจไทย แต่แท้จริงแล้วกลับสร้างปัญหาให้กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศ และต่อมาก็เป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งที่เรียกว่า ‘ทุนจีนสีเทา’ ซึ่งส่งผลกระทบรุนแรงต่อไทยทั้งในเชิงเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงของชาติ

ทัวร์ศูนย์เหรียญคือรูปแบบท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาไทย โดยเสียค่าใช้จ่ายต่ำมาก บางครั้งจ่ายเพียงแค่ค่าตั๋วเครื่องบินเท่านั้น เมื่อมาถึงไทย บริษัททัวร์จีนจะพาไปยังร้านค้าที่พวกเขาเป็นเจ้าของ และบังคับให้ซื้อสินค้าในราคาสูงเกินจริง รายได้จึงไม่ได้กระจายสู่ธุรกิจไทยอย่างแท้จริง แต่กลับถูกผูกขาดโดยทุนจีนเอง

ต่อมาเมื่อการเดินทางท่องเที่ยวเริ่มขยายตัว นักลงทุนจีนบางกลุ่มเริ่มมองเห็นโอกาส พวกเขาเข้ามาซื้อโรงแรม ร้านค้า และอสังหาริมทรัพย์ในไทยโดยใช้นอมินี หรือตัวแทนคนไทยในการถือหุ้น สิ่งนี้นำไปสู่การครอบงำธุรกิจท่องเที่ยวและเศรษฐกิจไทย ทำให้ผู้ประกอบการไทยสูญเสียโอกาสในการแข่งขัน

หลังจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้ทัวร์ศูนย์เหรียญต้องหยุดชะงัก ธุรกิจของทุนจีนในไทยได้เปลี่ยนโฉมหน้า จากแค่การควบคุมตลาดท่องเที่ยว สู่การทำธุรกิจผิดกฎหมาย เช่น การพนันออนไลน์ คอลเซ็นเตอร์หลอกลวง และการค้ายาเสพติด โดยมีการใช้ธุรกิจถูกกฎหมายเป็นฉากหน้า ไม่ว่าจะเป็นผับ บาร์ โรงแรม หรือแม้แต่สถานที่ท่องเที่ยวบางแห่ง

กลุ่มทุนจีนสีเทายังใช้ไทยเป็นฐานฟอกเงิน พวกเขาซื้ออสังหาริมทรัพย์ในราคาสูงลิ่ว ซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไทย และลงทุนในกิจการต่างๆ โดยไม่ต้องเปิดเผยแหล่งที่มาของเงินทุน นอกจากนั้นยังมีรายงานว่า กลุ่มทุนเหล่านี้มีความเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมข้ามชาติ ไม่ว่าจะเป็นการค้ามนุษย์ แรงงานเถื่อน หรือแม้แต่การเรียกค่าคุ้มครองจากนักธุรกิจจีนที่มาทำธุรกิจในไทย

หนึ่งในวิธีที่ทุนจีนสีเทาแฝงตัวได้ง่ายคือ การใช้ ‘นอมินี’ หรือคนไทยเป็นตัวแทนถือหุ้นในบริษัท วิธีนี้ทำให้พวกเขาสามารถหลีกเลี่ยงข้อจำกัดด้านการเป็นเจ้าของธุรกิจในไทยได้ นอกจากนี้ยังมีการจดทะเบียนสมรสกับคนไทย เพื่อสร้างเส้นทางการเข้าถึงทรัพย์สิน และสิทธิทางกฎหมายในไทย

ดังในตัวอย่างที่เป็นข่าวใหญ่คือ การจับกุมเครือข่ายทุนจีนสีเทา ‘ตู้ห่าว’ ที่เปิดผับหรูเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งถูกใช้เป็นสถานที่เสพยาและทำธุรกิจผิดกฎหมาย การสืบสวนเผยให้เห็นถึงความเกี่ยวข้องของเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนที่ให้การสนับสนุนธุรกิจเหล่านี้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ทุนสีเทาได้แทรกซึมเข้าสู่ระบบการเมืองและกฎหมายของไทยไปแล้ว

ช่องโหว่ทางกฎหมาย จุดอ่อนที่อาจทำให้ไทยเป็นเป้าหมายของทุนจีนสีเทา

ในช่วงที่จีนเข้มงวดเรื่องการปราบปรามคอร์รัปชัน หลายธุรกิจจึงย้ายฐานปฏิบัติการออกนอกประเทศ โดยมองหาแหล่งใหม่ที่มีข้อจำกัดด้านกฎหมายไม่เข้มงวด และไทยก็กลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ด้วยความสะดวกในการเดินทาง วัฒนธรรมที่เป็นมิตร และระบบที่อาจมีช่องโหว่

ภัยคุกคามจากทุนจีนสีเทาไม่ใช่เรื่องเล็กๆ แต่เป็นปัญหาระดับชาติที่ต้องการมาตรการแก้ไขที่จริงจัง รัฐบาลไทยควรเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบแหล่งที่มาของเงินลงทุนจากต่างชาติ ปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างชาติ และเพิ่มมาตรการป้องกันการใช้ ‘นอมินี’ ในธุรกิจต่างๆ

นอกจากนี้รัฐบาลต้องเข้มงวดกับเจ้าหน้าที่รัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับทุนสีเทา รวมถึงดำเนินคดีกับเครือข่ายธุรกิจผิดกฎหมายอย่างเด็ดขาด หากปล่อยให้กลุ่มทุนเหล่านี้มีอิทธิพลต่อไป ไทยอาจไม่เพียงเสียผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ แต่ยังอาจต้องเผชิญกับปัญหาสังคมและความมั่นคงในระยะยาว

ทุนจีนสีเทาไม่ใช่แค่ปัญหาของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว แต่เป็นปัญหาที่แผ่ขยายไปทุกภาคส่วนของสังคมไทย หากไม่เร่งหาทางจัดการ ไทยอาจกลายเป็นฐานอาชญากรรมของกลุ่มทุนเหล่านี้ ดังนั้น ประชาชน หน่วยงานภาครัฐ และทุกภาคส่วนต้องตื่นตัวและร่วมมือกันป้องกันไม่ให้ประเทศไทยกลายเป็น ‘สนามเด็กเล่น’ ของทุนจีนสีเทาที่คุกคามเสถียรภาพของประเทศในอนาคต

ทุนจีนเทาในอาเซียน อาชญากรรมข้ามชาติหรือการขยายอิทธิพล

รัฐบาลจีนมักแสดงท่าทีว่า ต้องการปราบปรามขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ แต่การดำเนินการมักเน้นเฉพาะเมื่อ เหยื่อเป็นคนจีนหรือกระทบต่อผลประโยชน์ของจีนโดยตรง รายงานจาก United States Institute of Peace (USIP) ระบุว่า นโยบายของจีนที่ส่งตำรวจไปประจำในประเทศที่มีปัญหา อาจเป็นเพียงเครื่องมือขยายอิทธิพลของจีนในภูมิภาค มากกว่าความพยายามปราบปรามอาชญากรรมอย่างแท้จริง

พฤติกรรมของทุนจีนเทาในอาเซียนวันนี้ คล้ายกับที่เคยเกิดขึ้นในอดีต เมื่อจีนโพ้นทะเลบางส่วนเข้ามาประกอบธุรกิจผิดกฎหมายในภูมิภาคนี้ เช่น การลักลอบค้าฝิ่น หรือการตั้งแก๊งอาชญากรรม (อั้งยี่ซ่องโจร) ในศตวรรษที่ 18-19 แต่ในปัจจุบัน ขอบเขตของอาชญากรรมขยายกว้างขึ้นตามเทคโนโลยี ไม่ใช่แค่การฟอกเงินหรือบ่อนการพนัน แต่ยังรวมถึง อาชญากรรมไซเบอร์และการค้ามนุษย์ออนไลน์ ที่ใช้แรงงานจากผู้ที่ถูกหลอกมาอีกทอดหนึ่ง

แม้เขตเศรษฐกิจพิเศษจะเป็นแรงผลักดันเศรษฐกิจของประเทศ แต่หากไม่มีการกำกับดูแลที่ดี ก็อาจกลายเป็นแหล่งซ่องสุมของธุรกิจสีเทา สุดท้ายแล้วกำไรทางเศรษฐกิจอาจไม่คุ้มกับผลกระทบระยะยาว ทั้งในแง่ภาพลักษณ์ ความมั่นคง และเสถียรภาพของประเทศ

อ้างอิง

https://so04.tci-thaijo.org/index.php/ndsijournal/article/view/266487/179949

https://www.sscthailand.org/uploads_ssc/research_202403061709697308529335.pdf

https://www.thaipbs.or.th/news/content/348181

https://www.thaipbs.or.th/news/content/348062

https://thaipublica.org/2023/07/pundop111/  

https://transbordernews.in.th/home/?p=38975

Tags: อาเซียน, ทุนสีเทา, สีหนุวิลล์, การฟอกเงิน, ฟอกเงิน, เขตเศรษฐกิจพิเศษ, ทุนจีนสีเทา, สแกมเมอร์, จีนเทา, เมียวดี, Feature, คิงส์โรมัน, จีน, ทัวร์ศูนย์เหรียญ

วันเสาร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2568

The Proximal Origin of SARS-CoV-2”

 สดๆร้อนๆ วันนี้เว็บไซต์ The White House ของสหรัฐอเมริกา ได้เผยแพร่เนื้อหาเรื่อง “LAB LEAK: The True Origins of COVID-19” โดยเนื้อหาระบุว่าทฤษฎี “ไวรัสหลุดจากห้องแล็บ” หรือ Lab Leak Theory นั้น ไม่ใช่ทฤษฎีสมคบคิด แต่จากการสืบสวนของคณะกรรมการพบว่าเป็นความจริงที่ว่า COVID-19 มีต้นกำเนิดมาจากห้องแล็บวิจัยไวรัสในอู่ฮั่น (WIV)ไม่ใช่มาจากธรรมชาติอย่างที่นักวิทยาศาสตร์ลวงโลกเคยอ้างกัน

ถ้าใครที่เป็นเฟรนด์กันมานาน คงจำได้ว่าช่วงปี 2020 ตอนโควิดเริ่มระบาดผมเอาเรื่อง Lab Leak นี่มาโพสรายงานให้ฟังแทบทุกวัน

ตอนนั้นผมไปนั่งฟังพวกนักวิทยาศาสตร์อย่าง Alina Chan, Richard Ebright, Steven Quay เขาคุยกันในทวิตเตอร์ทั้งวันทั้งคืน

รวมทั้งนักสืบอินเตอร์เน็ตนิรนามที่เขาไป hack ข้อมูลจากที่โน่นที่นี่รวมทั้งอีเมล์ที่ Anthony Fauci คุยกับพรรคพวก เอามาเผยแพร่เพื่อปะติดปะต่อเรื่องราวและ time frame จนเขามั่นใจว่ามีการปิดบังและช่วยกันปกปิดความผิดของห้องแล็บอู่ฮั่น รวมทั้งความผิดของผู้ที่ให้ทุนอย่าง NIH และองค์กร broker อย่าง EcoHealth Alliance 

โดย Anthony Fauci กับนักวิทยาศาสตร์ชื่อดังในฟิลด์นี้หลายคนได้สมคบคิดกันตีพิมพ์เปเปอร์ชิ้นสำคัญที่ชื่อว่า “The Proximal Origin of SARS-CoV-2” เพื่อปัดตกทฤษฎี Lab Leak และทำให้โลกเชื่อว่ามันมาจากธรรมชาติ

ผมเอาข้อมูลที่คนเหล่านี้เขาค้นพบมารายงานให้อ่านกัน ก็จะมีคนเข้ามากระแนะกระแหนว่าผมเป็นใคร เรียนอะไรมา บางคนก็ล้อด้วยตรรกะวิบัติเปรียบเทียบว่าผมเป็น conspiracy theorist ที่เชื่อว่าโลกแบน (เหมือนปัจจุบันนี้เป๊ะเลย 😄)

ผมจำได้แม่นยำว่าตอนนั่นมีนักวิจัยจาก Biotec คนนึงเข้ามาด่าผมว่าไม่มีความรู้ เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญจาก Biotec ถ้ามันมีการตัดต่อจริง เขาต้องดูออกแล้ว พร้อมทั้งอ้างตรรกะวิบัติแบบเดียวกับเรื่องโลกร้อนเลยว่า นักวิทยาศาสตร์ mainstream เขาเห็นตรงกันทั้งนั้นว่ามันมาจากธรรมชาติ ไม่มีการตัดต่อจากห้องแล็บ โดยอ้างชื่อนักวิทยาศาสตร์ระดับโลกที่เขียนเปเปอร์ The Proximal Origin ดังกล่าวว่าถ้ามีการตัดต่อจริง นักวิทยาศาสตร์เหล่านี้เขาก็ต้องรู้แล้วเช่นกัน ผมพยายามบอกให้เขาฟังว่า Raph Baric ปรมาจารย์ด้านการตัดต่อไวรัสจาก North Calorina U. และเป็นซือแป๋ที่สอนการตัดต่อไวรัสให้ Shi Zhengli กับนักวิจัยที่ WIV บอกว่ามันสามารถตัดต่อแบบ seamless ได้และไม่สามารถแยกแยะได้ว่ามันตัดต่อหรือมาจากธรรมชาติ เขาก็หัวเราะหาว่าผมบ้า 😂😂😂

วันนี้เราได้รู้แล้วว่าเปเปอร์ The Proximal Origin มันเป็นเปเปอร์ลวงโลกและนักวิทยาศาสตร์เหล่านั้นคือนักวิทยาศาสตร์ลวงโลกที่ทำลายความน่าเชื่อถือของวงการวิทยาศาสตร์

อีเมล์ของ Fauci ที่ถูก hack ในคดี Wuhan Gate นี้ ซ้ำรอยกับอีเมล์ที่ถูก hack ของนักวิทยาศาสตร์โลกร้อนลวงโลกที่ชื่อ Michael Mann ที่สมคบคิดกันสร้างข้อมูลที่ผิดๆเกี่ยวกับอุณหภูมิโลกและคาร์บอนในคดี Climate Gate เป๊ะๆเลย

เพียงแต่คดี Wuhan Gate เดินทางมาถึงจุดที่วันนี้ถูกเปิดเผยแล้ว ส่วนคดี Climate Gate ยังไม่มีใครมากระชากหน้ากากนักวิทยาศาสตร์ลวงโลกเหล่านี้ออกมา แต่เชื่อว่าวันหนึ่งเมื่อ narrative เรื่องโลกร้อนเริ่มเบาบางลง คนพวกนี้จะถูกกระชากหน้ากากแน่นอน

ส่วนสาเหตุที่ทำให้คนไทยมีปัญหาในการ digest เรื่องพวกนี้ ผมมั่นใจว่าเป็นเพราะว่าคนไทยส่วนใหญ่ถูกสอนมาให้เคารพนับถือนักวิทยาศาสตร์เสมือนนักบวช มีภาพจำจากในหนังว่านักวิทยาศาสตร์ที่รักษ์โลกพวกนี้เป็นคนที่อยู่เหนือกิเลส เป็นคนตรงไปตรงมา ในหัวมีแต่ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์หรือข้อมูลตัวเลข ไม่พูดสิ่งที่ไม่เป็นความจริงทางวิทยาศาสตร์ ฯลฯ ทั้งๆที่ในโลกแห่งความเป็นจริง นักวิทยาศาสตร์เหล่านี้เต็มไปด้วยกิเลส และสามารถฉ้อฉลลวงโลกเพื่อประโยชน์ของตัวเองได้ตลอดเวลา



THE ORIGIN“The Proximal Origin of SARS-CoV-2” publication — which was used repeatedly by public health officials and the media to discredit the lab leak theory — was prompted by Dr. Fauci to push the preferred narrative that COVID-19 originated naturally.

https://www.youtube.com/watch?v=Gt9BNBSMW3U

The Senate Homeland Security Committee holds a hearing about the origins of COVID-19, in which some Republicans alleged a "cover-up" of the lab-leak theory.


Fuel your success with Forbes. Gain unlimited access to premium journalism, including breaking news, groundbreaking in-depth reported stories, daily digests and more. Plus, members get a front-row seat at members-only events with leading thinkers and doers, access to premium video that can help you get ahead, an ad-light experience, early access to select products including NFT drops and more:

เติมพลังให้กับความสำเร็จของคุณด้วย Forbes รับสิทธิ์เข้าถึงข่าวสารระดับพรีเมียมแบบไม่จำกัด ไม่ว่าจะเป็นข่าวเด่น ข่าวเจาะลึกที่สร้างสรรค์ บทสรุปประจำวัน และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ สมาชิกยังจะได้รับที่นั่งแถวหน้าในงานสำหรับสมาชิกเท่านั้นที่มีนักคิดและนักปฏิบัติชั้นนำ สิทธิ์เข้าถึงวิดีโอระดับพรีเมียมที่จะช่วยให้คุณก้าวไปข้างหน้า ประสบการณ์ที่ไม่เน้นโฆษณา สิทธิ์เข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่เลือกก่อนใคร รวมถึง NFT Drops และอื่นๆ อีกมากมาย:

https://account.forbes.com/membership...


วันพุธที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2568

Entertainment Complex

 ✅✅✅✅✅ด่วน! ครม. เห็นชอบ พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ คนไทยต้องมีเงิน 50 ล้าน


ก่อนเริ่มต้นธุรกิจใดๆ สิ่งสำคัญคือต้องทำการศึกษาความเป็นไปได้ หรือ Feasibility Study เพื่อประเมินโอกาสความสำเร็จและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น บทความนี้จะอธิบายถึงขั้นตอน วิธีการ และประโยชน์ของ Feasibility Study.
คงเป็นสคริปต์ที่เขียน #เตรียมไว้ก่อนหน้าที่จะเอาเรื่องนี้เข้าในที่ประชุมนั่นแหละ 
#แต่บังเอิญไม่มีคนถามหรือ #ถามไม่ตรงที่เตรียมไว้ รวมทั้งไป #หมกมุ่นเรื่องกี้กี้ในการประชุมอภิปรายไม่ไว้วางใจก็เลยไม่มีโอกาสได้ใช้คำว่าFeasibility Study: หรือ ศึกษาความเป็นไปได้ของธุรกิจ
พูดง่ายๆคือ คงไม่ค่อยรู้ว่า #ความหมายของ Feasibility Study
หมายถึง #การศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการหรือธุรกิจ เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างเป็นระบบเพื่อประเมินว่าโครงการหรือธุรกิจนั้น 
✅สามารถดำเนินการได้จริงหรือไม่ 
✅คุ้มค่าที่จะลงทุนหรือไม่ 
✅และมีความเสี่ยงอะไรบ้าง

ก็เลยหน้าแตกอีกครั้งหนึ่งด้วยประการฉะนี้ 🤣😅😂

 
ก่อนเริ่มต้นธุรกิจใดๆ สิ่งสำคัญคือต้องทำการศึกษาความเป็นไปได้ หรือ Feasibility Study เพื่อประเมินโอกาสความสำเร็จและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น บทความนี้จะอธิบายถึงขั้นตอน วิธีการ และประโยชน์ของ Feasibility Study
 
พูดง่ายๆคือ คงไม่ค่อยรู้ว่า #ความหมายของ Feasibility Study
หมายถึง #การศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการหรือธุรกิจ เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างเป็นระบบเพื่อประเมินว่าโครงการหรือธุรกิจนั้น 
✅สามารถดำเนินการได้จริงหรือไม่ 
✅คุ้มค่าที่จะลงทุนหรือไม่ 
✅และมีความเสี่ยงอะไรบ้าง
Feasibility Study หมายถึง การศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการหรือธุรกิจ เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างเป็นระบบเพื่อประเมินว่าโครงการหรือธุรกิจนั้น 

สามารถดำเนินการได้จริงหรือไม่ 
คุ้มค่าที่จะลงทุนหรือไม่ 
และมีความเสี่ยงอะไรบ้าง
 
ขั้นตอนของ Feasibility Study
 
การกำหนดเป้าหมายและวัตถุประสงค์:
ระบุเป้าหมายที่ชัดเจนของโครงการหรือธุรกิจ
กำหนดวัตถุประสงค์ที่ต้องการบรรลุ
 
การวิเคราะห์ข้อมูล:
 รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับตลาด คู่แข่ง เทคโนโลยี กฎหมาย และเศรษฐกิจ
วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อประเมินโอกาสและอุปสรรค
 
การประเมินทางการเงิน:
ประมาณการค่าใช้จ่าย รายได้ และจุดคุ้มทุน
วิเคราะห์ความเสี่ยงทางการเงิน
 
การวิเคราะห์ทางเทคนิค:
ประเมินความเป็นไปได้ในการผลิตหรือจัดหาสินค้าหรือบริการ
พิจารณาเทคโนโลยี กระบวนการ และทรัพยากรที่จำเป็น
 
การวิเคราะห์ทางการจัดการ:
 
ประเมินโครงสร้างองค์กร ทีมงาน ทักษะ และประสบการณ์ที่จำเป็น
พัฒนากลยุทธ์และแผนปฏิบัติการ
 
การสรุปผลและเสนอแนะ:
สรุปผลการศึกษาความเป็นไปได้
เสนอแนะแนวทางการดำเนินงาน
 
วิธีการศึกษาความเป็นไปได้
การวิจัยตลาด: ศึกษาขนาดตลาด กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย คู่แข่ง และแนวโน้มของตลาด
การวิเคราะห์คู่แข่ง: ศึกษาจุดแข็ง จุดอ่อน กลยุทธ์ และแผนการตลาดของคู่แข่ง
การวิเคราะห์ SWOT: วิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรคของโครงการหรือธุรกิจ
การวิเคราะห์ต้นทุน-ผลประโยชน์: เปรียบเทียบค่าใช้จ่ายและผลประโยชน์ที่จะได้รับจากโครงการหรือธุรกิจ
การวิเคราะห์ความเสี่ยง: ระบุความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นและพัฒนากลยุทธ์ในการจัดการ
 
ประโยชน์ของ Feasibility Study
 
ช่วยในการตัดสินใจลงทุน: ข้อมูลจาก Feasibility Study ช่วยให้นักลงทุนและผู้ประกอบการตัดสินใจอย่างมีข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนในธุรกิจ
ลดความเสี่ยง: การประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ช่วยให้เตรียมแผนสำรองและกลยุทธ์ในการจัดการกับปัญหา
เพิ่มโอกาสความสำเร็จ: การวางแผนอย่างรอบคอบ ช่วยเพิ่มโอกาสในการบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจ
ดึงดูดนักลงทุน: Feasibility Study ที่ดี ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน และเพิ่มโอกาสในการระดมทุน
 
ตัวอย่างการใช้ Feasibility Study
 
ธุรกิจใหม่: ประเมินโอกาสความสำเร็จและความเสี่ยงของธุรกิจใหม่
โครงการใหม่: ประเมินความเป็นไปได้ของโครงการใหม่
การขยายธุรกิจ: ประเมินความเป็นไปได้ในการขยายธุรกิจ
การควบรวมกิจการ: ประเมินความเป็นไปได้ในการควบรวมกิจการ
 
สรุป
 
Feasibility Study เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการประเมินความเป็นไปได้ของธุรกิจ ช่วยให้นักลงทุนและผู้ประกอบการตัดสินใจอย่างมีข้อมูล ลดความเสี่ยง และเพิ่มโอกาสความสำเร็จ




ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว...ประเทศไทยควรไปให้สุด! โดยเปิดบริการให้ครบวงจร ให้ครบ​ทุกสาขาของอบายมุข ดังนี้
✅✅✅✅✅กาสิโนคอมเพล็กซ์ ไปให้สุด แล้วไปหยุดอยู่ที่รัฐบาล
ชั้น 1 บ่อนกาสิโน
(เล่นการพนันถูกกฎหมาย เพียงแห่งเดียวในประเทศไทย)
ชั้น 2 สถานที่สูบกัญชา
(ถูกกฎหมาย เพียงแห่งเดียวในประเทศไทย)
ชั้น 3 สถานที่ให้บริการทางเพศ ทั้งชาย หญิง LGBTQ
(ถูกกฎหมาย เพียงแห่งเดียวในประเทศไทย​)
ชั้น 4 ...(รอคนเสนอ ชนิด/ประเภทของอบายมุข ​เพิ่มเติม)
ชั้น 5 ...(รอคนเสนอ ​เพิ่มชนิดของอบายมุข)
ชั้น 6 ...(รอคนเสนอ ​เพิ่มชนิดของอบายมุข)
ชั้น 7 - 99 เป็นที่พัก, โรงแรม สำหรับรองรับผู้คนที่มาใช้บริการอบายมุขต่าง ๆ ​ในชั้น 1- 6

ส่วนชั้นใต้ดิน 👉 ก็เป็นที่พักผ่อน และเก็บอาวุธและคลังอุปกรณ์ต่าง ๆ #ของยามและ วินมอไซต์


*** ยาม (รปภ.)...ให้กรมราชทัณฑ์และกระทรวงแรงงาน จัดหานักโทษที่พ้นคุก ที่ตกงาน ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม กำยำล่ำสัน ​เข้ามาทำงานเป็น รปภ. ณ กาสิโนคอมเพล็กซ์

*** คนขับวินมอเตอร์ไซค์, รถแท็กซี่ รับส่งประจำศูนย์ซอยกาสิโนคอมเพล็กซ์...ให้กรมราชทัณฑ์และกระทรวงแรงงาน เฟ้นหา #นักโทษพ้นคดี​_ที่เคยมีประวัติ ​#ประสบการณ์ขับวินมอเตอร์ไซค์ ขับแท็กซี่ มาก่อน #มาขับรถรับส่งผู้คน #ณศูนย์ซอยกาสิโนคอมเพล็กซ์

บทความ 2020-2025


บทความ 2025

สนทนากับ“ช่อ พรรณิการ์”

POLITICS INFO. FROM WORD DOCUMENT

พรรคส้ม edit

Entertainment Complex

ส่องคดีทุจริตโลก



บทความ 2024

รัฐพันลึกvs. สังคมพันลึก

วิถีโจรของพลังประชารัฐ

ความจริง เกี่ยวกับทักษิณ

กรรม_คือ_การกระทำ_กรรมกำลังทำหน้าที่

เท้ง-ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค ประชาชน

7 สิงหา 2567 ความพยายามยุบพรรคการเมืองที่ไร้สาระและไร้จุดมุ่งหมายที่สุด 

You need 2 LISENCES to govern this country.

เพลง ปีศาจ

 มาทำความรู้จักกับ ‘หน่วยสวาท’ ที่น่ารังเกียจที่สุดในกองทัพเกาหลีเหนือ

🌹🌹ชีวิตของ บรรยง พงษ์พานิช โคตรมัน

ทักษิณกับการหมกมุ่นเรื่อง "Palace Circle"  

 ประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน "2 มาตรฐาน!"

เปิดคำแปลฉบับเต็ม 5 ตอนสำคัญ หนังสือ "Conversations with Thaksin" เมื่อ "ทักษิณ" สนทนา กับ "Tom Plate" ในเรื่อง (ลับ) ที่ไม่ควรพูด by "ดร.สมเกียรติ อ่อนวิมล"  

สัญญาปีศาจของพรรคเพื่อไทยกับชนชั้นนำ   คือการไม่ปฏิรูปกองทัพ 

กลุ่มชาติพันธุ์ไทใหญ่

 การเมืองใหม่กับการเมืองเก่ามีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง มิติสำคัญมีอะไรบ้าง
EDIT

หน้าหนึ่งในประวัติศาสตร์ EDIT

สารคดีเรื่อง “เผยชีวิต ‘กบฏบวรเดช’ ในอินโดจีน และบันทึกประวัติศาสตร์ที่ ‘ถูกฉีกหาย’ โดย ณัฐพล ใจจริง” EDIT

ดีเบต ดิจิตอล วอลเล็ต กรรมกรข่าว คุยนอกจอ" 11 เมษายน 2567

สนามศุภชลาศัย ในนิทรรศการ เอกสารล้ำค่าจารึกสยาม

เปิด “บันทึกไว้กันลืม” ไดอารี่ “มีชัย ฤชุพันธุ์” กว่าจะเป็นรัฐธรรมนูญฉบับ’60

วุ่นแล้ว! องค์กรระดับโลกเตือนแรง! หากไทยมีการยุบพรรคก้าวไกล เป็นการทำที่สุดโต่ง | การเมืองไทย


บทความ 2023

บทความ 2022

บทความ 2021


บทความ ก่อน 2021









 บทความก่อนหน้านี้ ( 2010-2019)

สนทนากับ“ช่อ พรรณิการ์”

 ฟังนาทีที่ 12.40 เป็นต้นไปค่ะ

 ไม่เชื่อหลังสงรานต์จะยุบสภา-จี้รบ.เร่งเจรจา“ทรัมป์”

 

ก้าวย่างอันตรายของคุณทักษิณ ในบท Peace Promoter เมียนมา
การพบกันระหว่างคุณทักษิณ ชินวัตร ที่ปรึกษาประธานอาเซียน นายกอันวาร์ อิบราฮิม ของมาเลเซีย ประธานอาเซียน และมินอ่องหล่ายน์ ผู้นำเผด็จการเมียนมา ที่โรงแรมโรสวูด กรุงเทพ ในวันนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการเดินเกมรุก เดินหน้าจัดการเลือกตั้งในเมียนมา
10 เมษายนที่ผ่านมา มินอ่องหล่ายน์ ประกาศชัดเจนว่าจะจัดการเลือกตั้งในเดือนธันวาคมถึงมกราคมที่จะถึงนี้ โดยแบ่งการเลือกตั้งเป็น 4 เฟส
ปัญหาใหญ่คือ การเลือกตั้งจะเกิดได้อย่างไร ในเมื่อ SAC หรือรัฐบาลทหารเมียนมา ครองพื้นที่เพียง 22% ของ township หรือเมืองทั้งหมดในประเทศ คิดเป็นสัดส่วนพื้นที่เพียง 17% ของแผ่นดินเมียนมาเท่านั้น ส่วนกองกำลังฝ่ายต่อต้านครองพื้นที่กว่า 30% ที่เหลือคือพื้นที่ช่วงชิงที่ยังไม่มีใครครอบครองได้เบ็ดเสร็จ
หากดูจากตัวเลขที่ว่านี้ เป็นไปไม่ได้เลยที่การเลือกตั้งซึ่งกำลังถูกผลักดันให้เกิดขึ้น จะนำไปสู่การยุติสงครามและเปลี่ยนผ่านสู่ประชาธิปไตยในเมียนมา เพราะฝ่ายต่อต้านจะไม่เข้าไปมีส่วนในการเลือกตั้งที่มินอ่องหล่ายน์เป็นผู้จัดอย่างแน่นอน
บทบาท Peace promoter สนับสนุนการเลือกตั้งในเมียนมาที่คุณทักษิณกำลังทำอยู่ มีความเสี่ยงที่จะกลายเป็นการฟอกขาวเผด็จการมินอ่องหล่ายน์ หากไม่สามารถดึงเอาผู้นำฝ่ายต่อต้าน และกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ เข้าสู่กระบวนการเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตยได้
การมาพบปะกันที่กรุงเทพฯ ในวันนี้ กลุ่มฝ่ายต่อต้านฯ ก็ได้มีแถลงการณ์ร่วมกันแสดงความไม่พอใจออกมาแล้ว โดยย้ำว่ามินอ่องหล่ายน์ละเมิด 5-point consensus ของอาเซียน เรื่องการยุติความรุนแรง เพราะจนถึงวันนี้ ท่ามกลางซากปรักหักพังจากแผ่นดินไหว มินอ่องหล่ายน์ยังคงทิ้งระเบิดใส่พลเรือนทุกวัน การพบปะในครั้งนี้จึงเสี่ยงที่จะละเมิดจุดยืนของอาเซียนเองที่ยืนหยัดต่อต้านเผด็จการทหารเมียนมามาตั้งแต่ปี 2021
ขอย้ำว่า ลำพังเพียงการเลือกตั้ง จะไม่เกิดประโยชน์อะไรเลยกับสถานการณ์สงครามในเมียนมา เพราะตราบใดที่ไม่มีการเจรจากับฝ่ายต่อต้าน จะไม่สามารถยุติการสู้รบได้
เมื่อการรบไม่สามารถยุติได้ ปัญหาต่างๆ ที่ไทยเผชิญผลกระทบอยู่ เช่นยาเสพติด สแกมเมอร์ ผู้หนีภัยทะลักเข้ามาตามชายแดน การค้าชายแดนหยุดชะงัก ก็จะไม่ยุติไปด้วย
จึงเป็นคำถามว่า แล้วไทยจะได้อะไรจากบทบาทของคุณทักษิณในครั้งนี้?
หากการเลือกตั้งเกิดขึ้นได้จริงตามแผนของมินอ่องหล่ายน์ เราจะถือว่าเป็นเครดิตของไทยและอาเซียนได้หรือไม่ ในเมื่อการเลือกตั้งอาจจะเป็นแค่พิธีกรรมฟอกขาว สถาปนามินอ่องหล่ายน์ ให้กลับมาเป็นผู้นำโดยชอบธรรมของประเทศ
หรือมันจะกลายเป็นการเสียเครดิตครั้งใหญ่ของไทยกันแน่? แถมเราจะยังพบว่าปัญหาในบ้านเราที่เป็นผลพวงจากสงครามในเมียนมา ก็ไม่ได้หายไปไหนอีกต่างหาก
หากคุณทักษิณอยากสวมบท Peace Promoter เพื่อประโยชน์สุขและเสถียรภาพของไทยและเมียนมาจริงๆ โจทย์ใหญ่คือทำอย่างไรให้การหยุดยิง "จริงๆ" และการเจรจาสันติภาพระหว่างรัฐบาลทหารกับฝ่ายต่อต้านเกิดขึ้นให้ได้ แล้วจึงคลี่คลายไปสู่การจัดการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม มีทุกฝ่ายร่วมลงสมัครรับเลือกตั้ง
ไทยอยู่ในสถานะที่เป็น Peace promoter แบบนี้ได้จริง แต่ผู้ที่กำลังสวมบทบาทนี้ จะทำหรือไม่เท่านั้น
Cr. ภาพจาก The Reporters

Myanmar in her view 


  #นายกอันวาจามาไทย 17 นะคะ ใช่ไหมคะ ที่ประกาศไว้คือวันที่ 17 เมษา 

ประเด็นสำคัญแรกเริ่ม ไม่น่าใช่ประเด็นทรัมป์ tariff  แต่ว่าในเมื่อมาแล้วก็คงได้คุยกัน ทั้ง 2 เรื่อง แต่ประเด็นหลักจริง ๆ คือเรื่องเมียนม่า

จริง ๆ เป็นที่ทราบกัน ตั้งนานแล้ว ว่ามาเลเซียได้รับตำแหน่งประธานอาเซียน

นายกอันวามีความมุ่งหมายสำคัญมาก อยู่สองเรื่องในการที่จะ ต้องการให้มาเลเซียเป็น Peace Promoter

ก็คือเป็นผู้ส่งเสริมสันธิภาพ ภายในภูมิภาคนี้ 


คำว่าสันธิภาพภายในภูมิภาค มีสอง Hot Spot (สองจุดใหญ่)

ก็คือ #เมียนมา กับ #ชายแดนใต้ของไทย
ถ้าลองย้อนกลับไปสมัยของเศรษฐา เศรษฐากับนายกอันวา

เป็น #สองผู้นำที่เจอกันมากที่สุด ในเวลาไม่ถึง 1 ปี

ที่เศรษฐาเป็นนายก เจอกัน 8 รอบ เจอกัน 8 รอบ คือเยอะมาก

เพราะฉะนั้น แปลว่าอะไร?? แปลว่านายกอันวาทราบดีว่า

ไม่ว่าจะเป็นสันติภาพชายแดนใต้ หรือสันติภาพเมียนมา

ล้วนแล้วแต่ มีไทยเป็นผู้เล่นหลัก

ในเรื่องสันติภาพชายแดนใต้ ชัวร์อยู่แล้ว เพราะว่าเรื่องมันเกิดขึ้นที่ประเทศไทย

ส่วนในเรื่องเมียนมาก็แน่นอน เพราะว่าไทยเองเป็นผู้ที่มีบทบาท

ไม่ใช่เฉพาะเรื่องชายแดนติดกัน ซึ่งเรื่องสันติภาพ แต่ว่าไทยค่อนข้างมีสายสัมพันธ์อันดี กับรัฐบาลทหารเมียนมา

ในขณะเดียวกัน ก็มีความใกล้ชิดกับ

กลุ่มกองกำลังชาติพันธ์ต่าง ๆ ก็คือเป็นผู้ที่มีบทบาท

ที่จะเจรจากับทุก ๆ ฝ่ายได้ นั่นเอง ในทีนี้เรื่องชายแดนใต้ คุณช่อจะไม่ขอกล่าวถึง จะตัดออกไป

เธอบอกว่าจะไม่พูดเพราะว่าจะยาว และอีกเหตุเหตุผลนึงก็คือ

เรื่องชายแดนใต้ นายกอันวา พยายามผลักดันมาเป็นปี และไม่เห็นความกระเตื้องจากฝั่งไทย ก็เลยเหมือนกับว่า

ก็เลยอาจจะรู้สึกว่า ถ้างั้นเราก็คงผลักดันอะไรต่อไม่ได้แล้ว  พอเหลือเรื่องเมียนมาคือทำไมมินอ่องหลาย มาไทย เธอให้ข้อสังเกตอย่างหนึ่งว่ามินอ่องหลายนี่ ในรอบหลายปีที่ผ่านมา เขาไปเยือนต่างประเทศน้อยมาก ในฐานะผู้นำประเทศการทหาร เขาไปจีน พฤษจิกายนที่ผ่านมา เขาไปรัสเซีย เมื่อต้นปีที่ผ่านมา แล้วเขาก็มาไทย คำถามคือ มีนัยยะอะไร ในประเทศต่าง ๆ เหล่านี้ ที่มินอ่องหลายไป มีนัยยะแน่นอน การไปจีนในช่วงปลายปีที่ผ่านมา เป็นสิ่งที่ถูกนานาชาติมองว่า เป็นความพยายามครั้งสุดท้าย ของจีน #ไม่ใช่ของมินอ่องหลาย แต่เป็นของจีนที่จะให้โอกาส มินอ่องหลาย คือจีนกับรัฐบาลทหารเมียนมา ป็นความสัมพันธ์ที่หวานอมขมกลืนมาก คือจีนเองก็อยากให้เกิดสันติภาพ เพราะว่าก็ชายแดนติดกัน เหมือนกัน และก็มี #ผลประโยชน์เยอะนะ #ทั้งเมือง #ทั้งอะไรต่างๆ #ทั้งโรงงาน อะไรของเขาก็อยู่ในเมียนมาเยอะ

มันจึงไม่มีประโยชน์กับใครเลยที่มันมีสงครามอยู่แบบนี้ กระทบกับการ บริหารความมั่นคงชายแดน ของจีนเองด้วย เพราะฉะนั้นจีนเองก็เป็นหนึ่งในคนที่อยากจะ ยุติสงคราม ให้สงบในเมียนมา แต่กับมินอ่องหลาย ก็หวานอม ขมกลืน เหมือนกับว่ามันไม่จบไม่สิ้นซะที และทำให้ Reputation (เครดิต-ชื่อเสียง) ของรัฐบาลทหารเมียนมามันก็ยิ่งตกต่ำลง ไปเรื่อยๆ จนจีนก็คงปวดหัวนั่นแหละ เพราะฉะนั้นในปลายปี ที่ผ่านมามันจึงถูกมองว่าอาจเป็นโอกาสสุดท้ายแล้ว ที่จีนรู้สึกว่า “เอ้า ลองกับ มิน อ่อง หลาย ดูอีกสักตั้งนึง ว่าเราจะทำยังไงกับเมียนมาได้บ้าง ประมาณนั้น!!😂

แล้วหลังจากนั้น มิน อ่อง หลาย ก็ไปรัฐเซีย ก็คงเป็นความพยายามในการ Diversify (กระจายความเสี่ยง) หมายความว่า #พยายามจะคบกับมหาอำนาจที่ยอมคบกับเขา แต่ว่าเรื่องรัฐเซีย มันเป็นการ #ไปทำ MOU ด้านพลังงาน นิวเคลียร์ ซึ่งบางคนก็บอกว่า เป็นการพยายามที่ไปถ่วงดุลอำนาจอะไรบางอย่าง หรือเปล่า 🤔🤔 แต่เรื่องรัฐเซียนี้เป็นที่กังวลกันเยอะ เรื่องการทำ MOU เรื่องนิวเคลียร์ ซึ่งมันก็เหมือนกับ #การดึงรัสเซียเข้ามา ในความขัดแย้ง #มันอะไรกันหรือจะแถว่าเป็นเรื่องของ โรงไฟฟ้าอะไรมันก็ไม่มีความปลอดภัยใช่ไหม?? สรุปสิ่งต่างๆเหล่านี้ก็ยิ่งทำให้เกิดความจำเป็นมากขึ้น ที่ 📌📌ทุกฝ่ายจะรู้สึกว่าสงครามในเมียนมาต้อง ยุติได้แล้ว‼️ทีนี้แล้วเกี่ยวอะไรกับประเทศไทยก็ย้อนกลับไปเรื่องเดิม ไทยเป็นคนที่ถูกมองตรงกันจาก ทุกๆฝ่ายว่า👉ถ้าจะมีการเอาเรื่องเมียนมาเข้าโต๊ะเจรจา 👉เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนผ่าน  👉เป็น Democratic Transition(เป็น ปชต) ยังไงก็ต้องให้ไทยเป็นคนทำ เพราะเขาคุยกันไม่ได้ เพราะว่าคืออยู่ดีๆ จีนจะมาทำเหรอ มันก็ในทางการทูตมันลำบากอยู่ อธิบายยาก มันอธิบายยากอยู่ว่าจีนมาจากไหน  แต่ไทยนี่คือได้แน่นอนเพราะว่า  ✅เฮ้ยเรื่องของคุณกระทบชายแดนเรานะ  ✅เราก็เป็นเพื่อนกันมานาน  ✅แม่ทัพนายกองเราก็รู้จักกันหมด  ✅กลุ่มชาติพันธ์เราก็รู้จัก  ✅รัฐบาลทหารเราก็รู้จัก มันเข้าใจได้  ✅แล้วคนงานของคุณเป็นล้านคนมาทำงานอยู่ ในประเทศเรา อะไรแบบนี้ใช่ไหม นอกจากเหตุผลข้างต้น ดังกล่าวแล้ว อีกเหตุผลหนึ่งคือ ✅👉👉อาจจะเป็นแรงผลักดันจากหลายๆฝ่าย รวมถึงจีน👉ที่ต้องการ   ✅👉👉ให้เกิดการเลือกตั้งเร็วๆ 

ทีนี้ถ้าจะให้เกิดการเลือกตั้งเร็วๆ ทำยังไง ✅ก็ต้องทำให้คุยกันให้ได้ เพื่อเกิดการเลือกตั้ง ก็จึงเป็นเหตุผลที่ว่า ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม BIMSTEC 2025 ระหว่างวันที่ 3-4 เมษายน 2568 นี่คือเหตุผล ทำไมรัฐบาลไทย จึงเลือกที่จะเชิญ มิน อ่อง หลายมาซึ่งที่ผ่านมาเขาไม่เคยได้รับเชิญเลย มันมีตั้งหลายประชุม ที่เมียนมาจะต้องไป แต่ก็ไม่ได้ไป หรือว่า อาจจะเป็นแค่ระดับตัวแทน ที่ไม่ใช่ ระดับมิน อ่อง หลาย ไป ก็อาจจะมีเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นมันเป็นความตั้งใจออกแบบ เพื่อที่จะปูทางไปสู่  👉การพูดคุยเจรจาหยุดยิง 👉แล้วก็การเลือกตั้ง  แต่ปรากฏว่า เรื่องมันไม่ง่ายแบบนั้นว่า ถ้าเอามิน อ่อง หลายมาแล้วก็จะทำให้ทุกฝ่ายแฮปปี้ 👉แล้วก็หยุดยิง 👉แล้วก็เลือกตั้ง ถ้าง่ายแบบนั้นมันก็จบไปนานแล้ว เรื่องกลับตาละปัตร มิน อ่อง หลายมาก็เกิดเรื่องที่น่าอับอายขายหน้ามากของเรา ถ้ามิน อ่อง หลาย มาบนเงื่อนไขล่วงหน้ามาก่อน ให้ชัดเจนว่า..ก่อนอื่นคุณต้องหยุดยิง เพื่อที่เราจะเชิญคุณมา จะได้ปูทางว่า พอหยุดยิงไปสู่การเจรจาได้ 

พระเจ้าช่วย ปรากฏว่าเกิดอะไรขึ้น 28 มีนาคม 2568 แผ่นดินไหวครั้งใหญ่  เขย่าประเทศเมียนมาและส่งแรงสั่นสะเทือนไปทั่วภูมิภาค2พม่าคนตายไปหลายพัน มิน อ่อง หลายไม่หยุดยิง กระหน่ำยิงต่อไป  จนกระทั่งกลุ่มกองกำลังฝ่าย ต่อต้านทั้งหมด #ประกาศหยุดยิงฝ่ายเดียว ผ่านไปหนึ่งวัน มีนองหลายถึงหยุดยิง!! แย่ไปกว่านั้นส่วนหนึ่งก็เกิดเรื่องเกิดราวดันยิงใส่ #หน่วยกาชาดจีนด้วย ซึ่งจีนไม่พอใจมาก ว่า #คุณบ้าหรือเปล่า คุณไปยิงใส่หน่วยกาชาดเขา ที่กำลังลำเลียงยาลำเลียงสิ่งของ ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยอยู่ จากนั้นเหตุการณ์ก็ดูเหมือนจะดี

มิน อ่อง หลาย ประกาศหยุดยิงได้วันเดียว ก็ถึงวันที่จะต้องบินมาประชุมที่ไทย พอเครื่องบินแตะถึงพื้นเมืองไทย #ยิงต่อเลย😲😧 คือแบบนี้คนไทยมันรับไม่ได้นะ คือรู้ไหม ประเทศไทยอุตส่าห์ ยอมรับรองผู้นำของ ประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นรบ.ของรัฐประหาร ที่เป็นที่ทราบกันดีว่ามีคดีพัวพันคดีอยู่ ในศาลหลายประเทศรวมถึงศาลอาญาระหว่าง ประเทศก็มีการขอออกหมายจับอยู่

#การหยุดยิงปลอม มันเป็นเรื่องใหญ่มาก คือเวลาที่คุณประกาศหยุดยิง ถึงเวลาแล้วคุณไม่หยุดยิง มันทำให้ความไว้เนื้อเชื่อใจอะไรต่างๆ ทั้งในประเทศเขาเอง ในระดับ นานาประเทศ มันเสียหายไปหมด แล้วกลายเป็นว่า

บทที่เราควรจะได้เล่น ในการที่ เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ เชิญมาแล้วเขาหยุดยิง 👉 แล้วก็จะได้ปูทาง 👉 ไปสู่การเจรจาขั้นตอนต่อไป 

แต่ขั้นแรกเริ่มสุดซึ่งมันต้องหยุดยิง มันก็พังทะลายไปตั้งแต่ตอนนั้นเลยกลายเป็นว่า นายกรัฐมนตรีนเรนทร โมธี ของอินเดีย ที่เป็นผู้ที่นัดบายแลต (bilateral บายแลตเทอรัล) ก็คือการพบแบบ ทวิภาคี กับมิน อ่องหลายเหมือนกัน ที่BIMSTECที่ประเทศไทย กลายเป็นคนที่ได้บทนั้นว่า เป็นคนที่พูดเสียงแข็งกับมินอ่องหลาย ว่าคุณต้องหยุดยิง กลายเป็นนายกรัฐมนตรีนเรนทร โมที ของอินเดีย ที่มา ได้ seen ในการจัดประชุมBIMSTECของประเทศไทย ทั้งๆที่ไทยควรจะได้seen นี้ เพราะเราเป็นเจ้าภาพ คือเราอย่าไปมัวกังวล ว่า เราต้องเป็นเจ้าภาพแสนดี เมียนม่าเป็นประเทศที่มีสงครามอยู่ แล้วก็เป็นที่จับจ้อง คือถ้าเกิดว่ามาถึงแล้วหยุดยิง แล้วไม่หยุดยิงจริง แล้วเพิ่งเกิดภัยพิบัติกับคนตายเป็นพันๆ ยังเก็บศพกันไม่เสร็จแล้วคุณยิงต่อ แล้วคุณไม่ได้ยิงอย่างเดียวนะ คุณทิ้งระเบิดในเขตสกาย (เมืองสะกาย,พม่า,เมืองพุทธศาสนา,Sagiang Myanmar ที่มันคือเขตสงครามที่เขายังเก็บซากศพกันอยู่เลย แต่คุณก็ไปทิ้งระเบิดต่อ มันโดยสภาพแล้ว มันไม่ใช่แค่เป็นความเสียหาย ทางมนุษยธรรมอย่างเดียว แต่มันเป็นความเสียหายต่อเครดิตของผู้ที่เชิญมาด้วย 

เพราะฉะนั้นแค่เริ่มต้น มันก็แปลกประหลาดมากแล้ว แล้วยิ่งคุณทักษิณมาพูดตอนหลังอีก คือพูดหลังจาก ผ่านไปหลายสัปดาห์แล้ว ว่า ได้พบกับมิน อ่อง หลาย จริง อันนี้มันก็ชัดเจน ว่าที่เราพูดไปตอนต้น แต่ว่ามัน เหมือนกับเป็นการพูดหลังฉากอยู่ มันก็คือเรื่องจริง 

การเชิญมิน อ่อง หลายมาครั้งนี้ ไม่ใช่เชิญมาประชุม BIMSTEC แต่เป็นการเชิญมาเพื่อ ปูทางไปสู่การเจรจา และการเลือกตั้ง ภายในปีหน้า นี่ก็เป็นที่ทราบกันว่า เป้าหมายของมหาอำนาจ ก็คือ #ต้องการให้เกิดการเลือกตั้งอย่างช้าภายในปีหน้า ซึ่งไทยเองก็ได้รับ ได้รับมอบบทบาท ว่าจะต้อง เป็นตัวกลาง ในการทำหน้าที่นี้ เพราะฉะนั้น มันก็เห็น ใช่ไหมคะ ว่า ความจริงก็คือที่เชิญมิน อ่อง หลายมา แล้วก็คุณทักษิณได้พูดคุย ก็คือการพูดคุยเรื่องนี้ 

การที่นายก อันวาจะมาวันที่ 17 ฉันก็เชื่อว่าเรื่องใหญ่ จริงๆ เรื่องหนึ่งก็คงจะเป็นเรื่องนี้นั่นแหละ ก็ที่คุณอันวา #ตั้งคุณทักษิณเป็นที่ปรึกษาประธานอาเซียน จริงๆก็เพราะว่า #เพื่อเสริฟวัตถุประสงค์หลักของเขา ที่บอกว่า เขา(อันวา)ต้องการเป็นผู้ส่งเสริม การ สร้างสันติภาพในสองจุดฮอทสปอร์ตของอาเซียน ก็คือสันติภาพชายแดนใต้กับเมียนมา ซึ่งทั้งสองเรื่องก็ เกี่ยวพันกับคุณทักษิณ จริงๆหลายท่านนั้นอาจไม่ทราบว่า คุณทักษิณเองก็ได้ #พูดคุยกับผู้นำกลุ่มชาติพันต์ต่างๆ ไปแล้วนอกรอบด้วย เพราะฉะนั้นเราก็จะเห็นบทบาทของคุณทักษิณ ในการที่พยายามจะเป็น พีชโปรโมเตอร์ Peace Promoter โดยเฉพาะ ✅ในเรื่องเมียนมา ✅ในเรื่องสันติภาพชายแดนใต้ มียังนิ่งๆอยู่ อาจจะไม่เกิดขึ้น แต่ว่าในเรื่องเมียนมา ก็จะเห็นปฏิบัติที่ชัดเจน คุณช่อกล่าวว่าเธอไม่อยาก กลับไปพูดแล้ว ว่าคุณทักษิณมีสถานะอะไร  เรามาพูดเนื้อหาไปเลยดีกว่าว่า บทบาทคุณทักษิณ มันจะเป็นผลดีหรือผลเสียต่อรัฐบาลไทย

อันที่จริงถ้าทำสำเร็จมันก็จะเป็นเรื่องดี เป็นเครดิตให้กับประเทศชาติในภาพรวมทั้งหมด ถ้ามีการหยุดสงครามได้เราก็จะได้ผลประโยชน์ได้เพราะ

❌ไม่มีการทะลักเข้ามาของผู้หนีภัย ❌ไม่ต้องคอย support ผู้ลี้ภัย ❌โรงพยาบาลก็ไม่ต้องรับผู้ที่เจ็บป่วยต้องข้ามหนีมา ทั้งคนโดนยิงทั้งคนป่วยอีก มันจะยิ่งบานปลายมากมากเลย แรงงานบางส่วนที่เขาทำงานอยู่ในบ้านเรามันหนาแน่น พอเหตุการณ์สงบเขาก็อาจจะกลับไปทำงานบ้านเขา

สรุปถ้าสงครามจบโดยภาพรวมมันได้อยู่แล้ว

✅ทุกฝ่ายได้หมดเลย ดีกับทุกฝ่ายหมดเลย ที่นี่มาพูดถึงการผลักดันให้มีการเลือกตั้ง เพื่อเปลี่ยนผ่านให้มีประชาธิปไตย 

ถ้าเป็นไปตามแผนของมหาอำนาจอันดับ 1 แล้วมันจะไม่จบสวยแบบนั้น 

✅✅จริง ๆ มันคือ การพยายามฟอกขาว มิน อ่อง หลาย 👉ผ่านการเลือกตั้งแล้วก็ให้มิน อ่อง หลาย 👉 บริหารประเทศไปอย่าง #ถูกต้องชอบธรรม 

***ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นสงครามมันจะไม่จบง่ายๆ มันจะยิ่งบานปลายยิ่งกว่าเดิม

ดิฉันได้คุยกับเพื่อนในแวดวง แวดวงนักการทูตเนี่ย หลายคนต่างประเทศนะ หลาย ๆ คนบอกว่า เอาจริง ๆ บรรญากาศของเมียนมาก ตอนนี้ เหมือน ตอนเกิดพายุนาคีส มันเป็นภัยพิบัติใหญ่มาก มีผู้เสียชีวิตเป็นหลักพันหลักหมื่นคน แล้วก็บ้านเมืองแบบพินาศสันตะโรสุด ๆ ไปเลย แล้วมันก็เลยนำไปสู่การที่ เริ่มเกิดการคลี่คลาย บรรยากาศทางการเมือง #สุดท้ายนำไปสู่การที่ รัฐบาลทหารในตอนนั้น มีการจัดการประชามติ แล้วก็นำไปสู่ #การจัดการเลือกตั้ง ซึ่งมันก็เป็น #การคลี่คลาย ระดับหนึ่งทางการเมือง แม้ว่าสุดท้ายก็นำไปสู่การรัฐประหารอีกรอบหนึ่ง ที่เป็นรอบปัจจุบันนี้ แต่ว่า บรรยากาศมันคล้ายๆ ก็คือบ้านเมืองเกิดภัยพิบัต เสร็จปุ๊บมันก็เป็นช่องให้ นานาชาติเนี่ยเข้าไปให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม ให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม ปุ๊บบรรยากาศมันเริ่มเหมือนกับคลี่คลาย แล้วก็รัฐบาลทหารก็ เป็นจุบที่ทำได้ แล้วก็ในรัฐธรรมนูญของเมียนมา ไม่จำเป็นต้อง จัดการเลือกตั้งให้ได้ทั้งประเทศ จัดการเลือกตั้งเท่าที่จัดได้ทั้งประเทศเขาหมดสิทธิ์เลย ซึ่งหลายคนก็งงว่าจะ จัดการเลือกตั้งได้ไง ดิฉันก็เพิ่งทราบว่ารัฐธรรมนูญเมียนมา เขาไม่ต้องจัดเลือกตั้งทั้งประเทศก็ได้ เขาก็จัดเท่าที่จัดได้ แล้วก็ชนะแล้ว มินอ่องหลายเป็นรัฐบาลต่อ ซึ่งถ้าจัดเท่าที่จัดได้ มินอ่องหลายได้อยู่แล้ว เพราะว่าพื้นที่ที่เขาจัดไม่ได้ก็คือพื้นที่มินอ่องหลาย จะไม่ชนะ มันก็เลยจัดไม่ได้ เพราะว่าเป็นพื้นที่ ในกลุ่มกองกำลังของฝ่ายต่อต้าน มันก็เลยจัดไม่ได้ เพราะฉะนั้นถ้าจัดการเลือกตั้ง มันก็ชัดเจนอยู่แล้วว่ามินอ่องหลายก็จะชนะ แล้วกลุ่มชาติพันต์ต่างๆ ก็จะถูกทิ้ง เอาไว้กลางคันเหมือนเดิม ซึ่งมันก็จะเห็นได้ชัดว่า  การเร่งรัดไปสู่การเลือกตั้ง แบบที่ดูเหมือนกำลังเป็นอยู่ ที่คุยๆกันเยอะๆ แล้วก็ถึงกลับเชิญมินอองหลายมา แล้วก็ตามด้วยการพูดคุยกัน มันเป็นไปได้ว่ามันจะมีความพยายาม ผลักดันให้เกิดการเลือกตั้งโดยเร็ว ความกังวลของฉันก็คือ การเลือกตั้งโดยเร็ว มันฟังดูดีทุกคนก็ชอบอยู่แล้ว เลือกตั้งเสร็จสำคัญ จบ Happy Ending ซึ่งนั้นคือนิยาย ในเรื่องจริงมันไม่ง่ายแบบนั้น ถ้าเป็นไปตามแผนเร่งรัดจัดการเลือกตั้ง แล้วไม่สามารถรวมเอากลุ่มชาติพันธ์ เข้ามาสู่ระบบการเลือกตั้งได้ อย่าลืมว่าตอนครั้งเลือกตั้งหลัง นาคิส ที่ประชามติผ่านรัฐธรรมนูญเสร็จ แล้วจัดการเลือกตั้งกัน กลุ่มชาติพันธ์ต่างๆ เข้าสู่การเลือกตั้ง เข้าสู่การเลือกตั้งทั้งหมดเลย ก็ได้ออกมาเป็นรัฐบาลที่หน้าตาก็ดูดีพอสมควร 

แต่ว่าครั้งนี้มันจะเป็นแบบนั้นได้อย่างไร เพราะว่า กลุ่มกองกำลังชาติพันธ์ต่างๆ เขายึดครองพื้นที่ครึ่งประเทศ เขามาไกลมากเกินกว่าที่จะถอยกลับไป ยอมอยู่ภายใต้รัฐบาล เขาไม่ไหวแน่ๆ เพราะฉะนั้นเราจะยังไม่เห็นว่า การเดินหน้าเพื่อ ไปสู่การจัดการเลือกตั้งโดยเร็ววัน มันจะนำไปสู่การยุติสงครามได้อย่างไร ซึ่งถ้ายุติสงครามไม่ได้ แล้วมันจะทำให้เกิดผลประโยชน์ กับประเทศไทยได้อย่างไร 

เพราะว่าเดินพันของประโยชน์ประเทศไทย มันขึ้นอยู่กับว่า สงครามต้องยุติเท่านั้น มันไม่ใช่นะคะ มันไม่ใช่ว่ามินอ่องหลาย ได้เป็นรัฐบาลโดยชอบธรรม แล้วประเทศไทยจะได้ประโยชน์ ไม่ใช่ !!!❌❌💯

#ประเทศไทยจะได้ประโยชน์เมื่อสงครามยุติ เพราะว่าเมื่อสงครามยุติ  ✅การค้าชายแดนจะกลับมาเปิดได้อีกครั้ง อย่างเต็มรูปแบบ ไม่ใช่ครึ่งครึ่งกลางกลางแบบวันนี้  ✅ผู้ลี้ภัยต่างๆ ก็ไม่ต้องมาอออยู่ที่ชายแดนไทย ไม่เป็นภาระกับระบบสาธารณสุขของเรา  ✅แรงงานที่หนีเรื่องเกณฑ์ทหารหนีอะไรมา และบางส่วนก็จะได้กลับไป  ✅ส่วนที่ทำงานอยู่แล้วก็จะได้อยู่อย่างมีเอกสารถูกต้อง ✅✅ทั้งหมดนี้มันจะเกิดขึ้นเมื่อไม่มีสงคราม 

❌❌ไม่ใช่เกิดขึ้นเมื่อมินอ่องหลายได้ กลับมาเป็นรัฐบาลที่ชอบธรรม 

เพราะฉะนั้นดิฉันจึงคิดว่า เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่อง ที่ต้องถามว่า ตกลงทำไปประชาชนคนไทยได้อะไร หรือทำไปเพื่อเอาใจมหาอำนาจบางประเทศเท่านั้น โดยที่เราก็ไม่รู้เหมือนกัน  ว่าทำไปแล้ว ประเทศไทยได้อะไร เหมือนการส่งอุยกูย์กลับ เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไปแล้ว ประเทศไทยหรือคนไทยได้อะไร ถูกไหมคะ 

นี่ดิฉันไม่ได้พูดเพื่อปกป้องคนเมียนมาเลย นี่ที่ฉันกำลังพูดแล้วคิดว่า แล้วที่เราไปเป็นตัวตั้งตัวตีจะผลักดัน ให้เลือกตั้งเร็วๆเพื่อฟอกข่าวมินอ่องหลาย คนไทยได้อะไร ถ้าสงครามไม่หยุด 

ถูกค่ะถ้าสงครามไม่หยุดคนไทยก็ไม่ได้อะไร 

โอเค เป็นโจทย์ใหญ่คือกระบวนการและเส้นทาง เหมือนจะดีแล้ว แต่ว่าปลายทางเริ่มจะมีคำถามค้างอยู่ 

คือเรื่องนี้มันอธิบายยาก เพราะว่าถ้าพูดว่า เปลี่ยนผ่านประชาธิปไตย จากการเลือกตั้ง ใครๆก็ชอบใช่ไหมคะ แต่ถ้าอธิบายให้เห็นเนื้อในของมัน มันก็จะเห็นว่า อันนี้มัน ไม่ใช่กระบวนการเปลี่ยนผ่านประชาธิปไตย เพื่อจบสงคราม  มันเป็นกระบวนการเปลี่ยนผ่านให้เกิดการเลือกตั้ง เพื่อฟอกมินอ่องหลาย เป็นครั้งสุดท้าย โอกาสสุดท้ายที่ถูกหยิบยื่นให้

สรุปการหยิบยื่นให้ในลักษณะนี้นะ ไอ้ปัญหาสแกมเมออะไรต่างๆ ที่มันเป็นผลพวง ที่เกิดจากสงครามกลางเมืองเมียนมา มันก็ไม่มีอะไรจบสักอย่างเลย 

แล้วเราก็เลยไม่รู้ว่า แล้วเราจะไป ส่งเสริมสันติภาพในประเทศเพื่อนบ้านเรา ให้มันได้อะไรขึ้นมา ในเมื่อเราจะไม่ได้ประโยชน์อะไร นอกจากแบกรับจ๊อบมา ทำให้เสร็จเฉยๆ เพราะว่ามหาอำนาจต้องการ 

โอเค เป็นโจทย์ยาก คือเขาอาจจะมีโจทย์ไม่เหมือนเรา คนที่ทำก็อาจจะมีโจทย์หนึ่ง แต่เราในฐานะของคนไทย เห็นสิ่งที่เป็นประโยชน์กับบ้านเรา แล้วก็เป็นอีกโจทย์หนึ่ง ก็ที่ฉันบอกเลยว่าที่ฉันเห็นด้วยอย่างมาก และจะชื่นชมอย่างมาก ถ้ารัฐบาลไทยเล่นบทพีชโฟร์โมเตอร์ peace Promoterในการส่งเสริม การเปลี่ยนผ่านสันติภาพ ของเมียนมาจริงๆ จริงๆนะ ที่ไม่ใช่การฟอกขาวมินอ่องหล่าย เพราะว่าเนี่ยจะเป็นสิ่งที่คนไทย ได้ประโยชน์จริงๆ ถ้ายุติสงครามในเมียนมาได้ มันจะมีสถานการณ์ชายแดน อะไรต่างๆ รวมถึงปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ปัญหายาเสพติด มันจะดีขึ้นเยอะมาก ยาเสพติดที่มันล้น ๆเมืองอยู่ มันก็เกิดจากสูญญากาศ จากสงครามกลางเมือง มันก็ทำให้เกิดโรงงานยาเสพติดเต็มไปหมด 

Related Link

https://www.youtube.com/watch?v=-y1o5tgerZY