เพลงฉ่อยชาววัง

วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ทำไมคุณจึง....ทะเลาะกับทุกคนที่เห็นต่าง

คุณคิดว่าที่นี่เป็นกลุ่มของใครของมันเหรอ แสดงว่าคุณไม่ได้แหกตาว่านี่มันคือเพจของชุมชน ใครหน้าไหนก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นได้แม้แต่กลุ่มเรียกร้องผลประโยชน์อย่างพวกคุณ กลุ่มของคุณก็มีแล้วเสือกเข้ามาทำไม ผมด่าได้ทุกคนที่กำลังจะขายชาติ

เพราะผมไม่มีกลุ่ม มันต่างจากพวกคุณเพราะคุณจะไม่กล้าด่าคนที่คุณรักและศรัทธาแม้ว่ามันจะเลวระยำเพียงใด นี่!!เข้าถึงเรียกว่าสาวก แต่ไม่ใช่ที่นี่ เมื่อเป็นสาวกย่อมดักดานในกมลสันดานที่คอยเกลียดชังกลุ่มอื่นๆที่เห็นต่างจากคนของพวกตน การเห่าหอนครวญครางเหมือนสุนัขกำลังจะออกลูกมันจึงออกมาเป็นคอมเม้น

ให้เพื่อนๆเขาเห็นกัน แกคือกลุ่มคนเสื้อแดงที่ยังหลงไหลในภาพลวงตาจากเศษอาหารที่ปีศาจหยิบยื่นให้ แกก็แค่กลุ่มเห็นแก่ปากท้องของตนเองแต่ไม่ใช่ประเทศชาติแน่นอน เพราะสันดานความนึกคิดของพวกแกไม่เคยนึกเฉลียวใจกันเลยว่าเมื่อปี2544มติครม.ของทักษิณ พ่อของแกเป็นคนให้ปตท.แยกออกจากกฎหมายรัฐวิสาหกิจแล้วนำมันเข้าตลาดหลักทรัพย์จนทรัพย์สินของชาติตกไปเป็นของเอกชนแล้วพ่อของแกก็โกหกว่าปตท.ยังเป็นรัฐวิสาหกิจอยู่ มิหน่ำซ้ำพ่อของแกยังบังอาจเซ็นMOU44ยกพื้นที่ทางอ่าวไทยให้เขมรซึ่งมันเต็มไปด้วยทรัพยากรก๊าซธรรมชาติมากมายที่มันจะทำให้ชีวิตของพวกแกดีขึ้น มั่งคั่งขึ้น แต่พ่อของแกเสือกไปยกให้เขมร แล้วพวกแกก็ไม่เคยโทษพ่อของแกเลย
เพราะพวกแกไม่มีชาติ มีแต่ปากท้องให้อิ่มในวงศาคณาญาติของตนเองที่สมองพวกแกคิดได้.ใช่หรือไม่?


ส่วนพ่อของกลุ่มสลิ่มกปปส ที่ยังดักดานคอยอวตารไปทุกที่เพื่อจะให้กลุ่มพ่อของมันคือปชป.กลับมาอีกครั้ง พวกแกจึงทำทุกอย่าง


ทะเลาะกับทุกคนที่เห็นต่างแม้กระทั่งเข้าไปแทรกซึมแอบไปเป็นตัวแทนภาคประชาชน ด้วยเล่ห์กลทางการเมือง ไม่ว่าคุณจะแตกตัวออกมาเป็นคปพ.ตัวแทนภาคประชาชน หรืออะไรก็ชั่งหลายปีมานี่บทเรียนที่คุณได้ทำเอาไว้กับประเทศชาติ มันดูกันออกหมดแล้ว 


ทุกครั้งที่คุณเคลื่อนไหวจะต้องมีปชป.ร่วมอยู่ด้วยเสมอ ไม่ว่าคุณจะอยู่ในนามพธม.ของนายสนธิ หรืออะไรก็ชั่ง การเข้าออกของคนปชป.มักจะเข้ามาเกี่ยวข้องกับกลุ่มของคุณอยู่เสมอ มันดูกันออกหมดแล้ว ปชป.มันจะโกงอะไร มันไม่สำคัญเท่าที่พวกแกไม่กล้าเอ่ยออกจากปากพวกแกกันเลยว่าแท้ที่จริงแล้วมันคือพรรคการเมืองที่แอบทำMOU43แล้วยัดไส้เอาหมวดกฎหมายเล็กๆแนบท้ายให้ประเทศไทยยอมรับเส้นแบ่งเขตที่เขมรร่างขึ้นให้ยอมรับเนื้อที่1ต่อ200,00 ใช่หรือไม่ ที่กลุ่มพวกแกไม่กล้าที่จะพูดถึงมัน พ่อของแกคือพรรคการเมืองแรกของประเทศชาติที่ยกดินแดนของชาติให้เขมรซึ่งพวกแกอีกล่ะไม่กล้าที่จะพูด เพราะชาติไม่ใช่สิ่งสำคัญสำหรับพวกแก แต่เป็นพรรคเก่าแก่ต่างหากที่แกไม่อยากให้มันหายไป และพวกแกทั้งหมดก็เป็นคนออกมาเป่านกหวีดตามพ่อของแก สุดท้ายพวกแกก็ได้นายกรัฐมนตรีที่มาสานงานต่อให้ทักษฺิณ พวกแกเลยอาย แต่พ่อของแกไม่อายเพราะพ่อของแกก็อยากให้มันเป็นแบบนี้อยู่แล้ว
เมื่อพวกแกมองกันดีๆ จะเห็นได้ว่าไม่ว่าจะเป็นคนกลุ่มไหน สีไหนสุดท้ายพ่อของแกก็คือคนเดียวกัน คือทักษิณนั่นเอง!! ตามบทละครของ2พรรคการเมืองเขาช่วยกันเขียนละครให้พวกแกออกแสดงกัน ทำไมนายกรัฐมนตรีทุกคนถึงต้องเอาเงินพวกแกมาใช้หนี้ให้กับทุกรัฐบาล ทำไมไม่มีใครติดคุก ทำไมต้องปล่อยให้คดีหมดอายุความ เพราะอะไร? ไม่ใช่เขาเป็นคนในครอบครัวเดียวกันเหรอ เขาร่ำรวยด้วยทรัพยากรและทรัพย์สินจากพวกแกเหรอ..


.

.แล้วสรุปผมเป็นคนกลุ่มไหน สีไหน ถึงได้กล้าเขียนบทความนี้ขึ้นมาให้พวกคุณได้อ่านกัน.
(ฮิตเลอร์)

วันเสาร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ปัญหามุสลิมโรฮีนจา เผือกร้อนในหลายประเทศ

รากเหง้าปัญหาโรฮีนจา เหตุจากอังกฤษยึดครองพม่า ปัญหาที่ไร้ทางออก
(โดย วันชัย รุจนวงศ์ อธิบดีอัยการ สำนักงานต่างประเทศ , วันเสาร์ ที่ 16 พฤษภาคม 2558)
ทำไม ทุกประเทศในแถบนี้ ไม่ยอมรับโรฮีนจาให้ขึ้นฝั่งและให้ความช่วยเหลือโดยเฉพาะโรฮีนจาที่มาจากรัฐยะไข่ในพม่า
เพราะพม่าประกาศมาตั้งแต่ได้รับเอกราชมาจากอังกฤษเมื่อ 70 ปีมาแล้ว โรฮีนจาไม่ใช่คนพม่า แม้พม่าจะประกอบด้วยชนเผ่าต่างๆ เกือบ 140 ชนเผ่า ที่รัฐบาลพม่ายอมรับว่าเป็นคนสัญชาติพม่า แต่พม่าไม่เคยยอมรับว่าชนเผ่าโรฮีนจาเป็นหนึ่งในนั้น ในกฎหมายของพม่า ชาวโรฮีนจาไม่ได้รับการนับรวมเป็นชนเผ่าในพม่า ไม่ใช่พลเมือง และไม่ให้สิทธิต่างๆ ในฐานะพลเมือง ยังถือว่าเป็นผู้อาศัยเท่านั้น และกดดันด้วยวิธีต่างๆ อันสบเนื่องมากจากเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์
ความไม่พอใจของพม่าที่มีต่อชาวโรฮีนจา มีมาตั้งแต่สงครามกับอังกฤษ รวมสามครั้ง สองครั้งแรก อังกฤษยึดพม่าตอนล่างรวมทั้งกรุงย่างกุ้งและเมืองต่างๆ บริเวณทางใต้ ครั้งที่สามอังกฤษตีเมืองมัณฑะเลย์ จับกษัตริย์พม่าและครอบครัวไปกักตัวไว้ที่เมืองรัตนคีรีในอินเดียจนตาย พร้อมทั้งยึดเอาทับทิม เพชรพลอยและสิ่งของมีค่า (ที่ราชวงศ์กษัตริย์ของพม่าสะสมไว้มากมายหลายหีบ) ไปจากพม่าเกือบหมด (พระเจ้าสีบ่อ กษัตริย์องค์สุดท้ายของพม่า เขียนจดหมายจากเมืองรัตนบุรีไปยังรัฐบาลอังกฤษหลายฉบับ เพื่อทวงคืนทับทิมและเพชรพลอยที่ถูกทหารอังกฤษแย่งเอาไป แต่ไม่ได้การตอบสนองแต่อย่างใด) และอังกฤษยึดพม่าไว้เป็นเมืองขึ้นทั้งประเทศ
ในการรบกับพม่า นอกจากทหารอังกฤษแล้ว อังกฤษยังเอาทหารกูรข่า และพวกโรฮีนจาจากอินเดีย (ปัจจุบันเป็นบังคลาเทศ) มาช่วยอังกฤษรบกับพม่า และเมื่ออังกฤษยึดครองพม่า ก็เปิดให้คนอินเดียอพยพเข้ามาทำมาหากินและค้าขายในพม่าได้สะดวก พวกโรฮีนจาที่มาช่วยรบก็ลงหลักปักฐานในพม่าและอีกจำนวนมากก็อพยพเข้ามาเพิ่มเติม จนปัจจุบันมีคนโรฮิงยาจำนวน 1.6 ถึง 2 ล้านคนในพม่า ซึ่งพม่ายังถือว่าพวกโรฮิงยาไม่ใช่พม่าเดิมและเป็นพวกศัตรู แม้โรฮีนจารุ่นแรกๆ จะล้มหายตายจากไปตามอายุขัยและลูกหลานรุ่นหลังๆ จะเกิดในพม่า แต่พม่าก็ยังถือว่าไม่มีทางที่จะเป็นคนพม่าได้ เป็นเพียงผู้อาศัยชั่วคราว ถ้าออกจากพม่าไปแล้วจะไม่ให้กลับเข้ามาอีกเด็ดขาด
แม้จะถูกกดดันจากพม่า แต่สถานการณ์ในบังคลาเทศก็ยิ่งยากจนกว่า และเป็นประเทศที่มีประชากรหนาแน่น พวกโรฮีนจาที่เกิดในพม่า เมื่อหลบหนีไปประเทศบังคลาเทศ ก็ไม่ได้รับการยอมรับว่าเป็นพลเมือง แม้จะเป็นคนเชื้อชาติเดียวกันและถือศาสนาอิสลามเหมือนกันก็ตาม มีโรฮีนจาจำนวนมากที่หนีไปบังคลาเทศ บังคลาเทศก็ไม่ให้เข้าประเทศ แต่จัดให้อยู่ในแค้มป์ผู้ลี้ภัยตามชายแดนซึ่งยากลำบากมาก และจะกลับเข้าพม่า พม่าก็ไม่ยอมให้กลับเช้ามา และทำทุกวิถีทางที่จะกำจัดคนพวกนี้ออกไปจากพม่า
ปัญหาจึงอยู่ตรงนี้ว่า คนโรฮีนจาจึงไม่เหมือนผู้ลี้ภัยกลุ่มอื่น และมีจำนวนมากเกือบสองล้านคน ที่อยู่ในความกดดันของพม่าอยู่ตลอดเวลา คนลี้ภัยหรือหนีภัยสงครามจากประเทศลาว เขมร เวียดนาม หรือพวกกะเหรียง หรือชนกลุ่มน้อยอื่น ที่เป็นผู้ลี้ภัยชั่วคราว เมื่อภัยนั้นพ้นไป ก็สามารถส่งกลับประเทศได้ เป็นการให้ที่พักพิงลี้ภัยชั่วคราว (แต่ก็เป็นภาระหนักมาก และอย่าไปหวังว่าประเทศอื่นจะเข้ามาช่วย แม้การรับพวกผู้อพยพไปประเทศที่สาม ก็ใช้เวลานานประมาณ 20 ปี โดยคัดเอาแต่คนหนุ่มสาวที่ไปเป็นกำลังแรงงานได้และมีความรู้ไป ทิ้งประชากรที่ด้อยคุณภาพไว้ให้ประเทศไทยรับเป็นภาระต่อมาจนทุกวันนี้) แต่ผู้ลี้ภัยโรฮีนจาจะเป็นผู้ลี้ภัยถาวร ไม่ว่าประเทศใดที่รับไว้ หมายความว่าต้องรับไว้ตลอดชีวิตตลอดจนลูกหลานที่จะเกิดตามมาในอนาคต ไม่มีทางที่จะส่งกลับไปได้ และ UNHCR ก็ไม่กล้าออกมาสนับสนุนเงินทุนเหมือนกรณีอื่น เพราะกรณีนี้หากมีการตั้งค่าย จะต้องเป็นค่ายถาวรไปไม่รู้ว่าจะจัดการส่งกลับต้นทางได้หรือไม่ (ดูเหมือนว่าจะไม่มีทางทำได้) และจะตั้งค่ายไปตลอดชีวิตจนถึงชั้นลูกหลานได้อย่างไร ใครจะรับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่าย ในที่สุดก็ต้องกดดันประเทศที่รับไว้ให้หาทางเลี้ยงคนพวกนี้ไปจนตายหรือยอมให้กลายเป็นพลเมือง
ด้วยเหตุนี้ ทั้งสามประเทศ คือ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย จึงไม่กล้าที่จะรับชาวโรฮีนจามาไว้ในประเทศ ที่เข้ามาแล้วก็ผลักดันกันไปด้วยวิธีการนอกระบบ ด้วยการส่งออกไปทางชายแดนพม่า แต่ทั้งสามประเทศไม่ยอมให้เข้ามาในน่านน้ำตัวเอง ได้แต่ส่งน้ำ ส่งอาหารและซ่อมเรือให้ แล้วผลักดันออกไปในเขตทะเลสากล หรือในน่านน้ำของต่างประเทศ เพราะไม่มีใครที่กล้ารับภาระที่ไม่รู้จบในขณะที่ประเทศเหล่านี้ยังมีปัญหาประชาชนที่ยากจนและเศรษฐกิจที่ย่ำแย่อยู่
ทางตะวันตกที่เคยเสียงแข็งเรื่องสิทธิมนุษยชน ก็ไม่กล้าเอ่ยปากมากนัก เพราะในยุโรปเอง อิตาลีก็ใช้วิธีกันเรือผู้อพยพไม่ให้เข้ามาในน่านน้ำ เพราะอิตาลีเองก็เจอปัญหาผู้อพยพจากอาฟริกาเข้ามาในอิตาลีจำนวนมาก และได้ร้องขอให้ชาติในยูโรช่วย แต่ก็ถูกทอดทิ้งให้รับภาระตามลำพัง
ออสเตรเลียที่มักเน้นด้านมนุษยธรรมสูง ก็เจอปัญหาผู้อพยพทางเรือเข้าออสเตรเลียมากมาย จนออสเตรเลียต้องใช้ทหารเรื่อกันไม่ให้เรือผู้อพยพเข้ามาในน่านน้ำ และใช้วิธีลากเรือผู้อพยพออกนอกเขตน่านน้ำของตนเช่นเดียวกัน หากผู้อพยพจมเรือ ก็จะเอาไปกักกันไว้ในเกาะคริสต์มาส ซึ่งออสเตรเลียถือว่าไม่ได้อยู่ในดินแดนของตน และสร้างค่ายอพยพให้คนเหล่านี้ไว้ และเมื่อไม่ถือว่าอยู่ในดินแดนของตน คนเหล่านี้จึงไม่ได้สิทธิในฐานะผู้ลี้ภัยตามอนุสัญญาว่าด้วยผู้ลี้ภัย (ที่ทั้งออสเตรเลียและอิตาลี เป็นภาคีอนุสัญญานี้ แต่ประเทศในอาเซียนทั้งหมดไม่มีใครกล้าเป็นภาคี เพราะอนุสัญญานี้ให้สิทธิผู้ลี้ภัยมากมาย และกำหนดให้รัฐบาลที่รับผู้ลี้ภัยไว้ต้องดูแลผู้ลี้ภัยดีกว่าที่ดูแลประชาชนของตัวเองเสียอีก)
ประเทศที่เคยทำตัวเป็นผู้ที่มีมนุษยธรรมสูงและชอบตำหนิประเทศอื่นว่าไม่ยอมรับผู้ลี้ภัย ในยุคที่เศรษฐกิจตกต่ำเช่นนี้ ก็ไม่กล้ามีปากเสียงออกมาอย่างเต็มที่ เพราะหากออกหน้ามาจะถูกสวนทันทีว่า ประเทศนั้นจะรับผิดชอบด้านการเงินไหม และจะรับคนพวกนี้ไปประเทศตัวเองไหม จะได้ส่งให้ทันที
UN ก็ไม่มีศักยภาพพอ เพราะมองเห็นแล้วว่าหากเข้าไปรับภาระเต็มๆ ด้วยตัว UN เอง ก็ต้องรับภาระทั้งหมด โดยเฉพาะด้านการเงิน ทั้งๆ ที UN ก็มีปัญหาด้านการเงินอยู่มากแล้ว จะหาเงินมาใช้แต่ละปีต้องรอประเทศผู้บริจาคซึ่งมีปัญหามากในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ ถ้ามารับงานนี้เต็มตัว UN จะไม่มีเงินมาจ่าย ต้องตัดเนื้อตัวเอง และจะไปไม่รอดในที่สุด
นอกจากนั้น UN เองก็ไม่มีปัญญาที่จะไปจัดการกับประเทศพม่าให้ลดการกดดันโรฮีนจา และให้รับพวกโรฮีนจากลับ หากพม่ายอมรับกลับ และอยู่ร่วมกันโดยไม่กดดันชาวโรฮีนจา ปัญหาคงจะน้อยไปกว่านี้เยอะมาก
อีกประเด็นหนึ่งที่ประเทศในแถบนี้ไม่กล้ารับโรฮีนจาไว้และดูแลตามมาตรฐานที่ UN กำหนด เพราะยังมีชาวโรฮีนจาอีกล้านกว่าคนที่รอดูอยู่ หากเห็นว่าได้รับการดูแลดี อีกล้านกว่าคน หรืออย่างน้อยหลายแสนคนพร้อมที่จะเดินทางมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของพม่าที่ต้องการไล่ชาวโรฮิงยาออกนอกประเทศอยู่แล้ว
ปัญหานี้จึงเป็นปัญหาที่ไม่มีทางออก แต่ประเทศในแถบนี้ (อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย สิงคโปร์ บรูไน) ไม่มีใครกล้ารับพวกนี้ไว้และปกป้องน่านน้ำของตนเองอย่างหนาแน่น
ปัญหาต่อไปคือคนกลุ่มนี้ คือพวกเหยื่อจากการค้ามนุษย์หรือไม่ คำตอบคือไม่ใช่ หลักๆ คือผู้ที่หลบหนีเข้าเมือง ที่ไปจ้างพวกขบวนการลักลอบพาคนเช้าเมืองให้พาเข้ามายังประเทศที่สาม ซึ่งชาวโรฮีนจาอยากไปมาเลเซียและอินโดนีเซียมากกว่าเนื่องจากเป็นประเทศมุสลิมด้วยกัน การจ้างพวกนี้พาเข้าเมืองโดยมีค่าจ้าง กรณีจึงไม่เป็นการค้ามนุษย์ แต่เป็นการลักลอบพาคนเข้าเมือง ตามข้อสัญญาและพิธีสารว่าด้วยการลักลอบพาคนเช้าเมืองของสหประชาชาติ (Smuggling of Migrants Protocol) เว้นแต่บางคนที่ถูกนำไปค้าประเวณีหรือไปบังคับใช้แรงงาน จึงจะเป็นเหยื่อจากการค้ามนุษย์ ซึ่งมีจำนวนน้อย แม้แต่การที่ถูกจับไปเรียกค่าไถ่ก็ไม่เข้าข่ายการเป็นเหยื่อในการค้ามนุษย์ แต่เป็นเหยื่ออาชญากรรมข้ามชาติ
กรณีนี้จึงอยู่ที่ความร่วมมือของทั้งสามชาติหลัก คือ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย ที่จะต้องร่วมมือกันกำจัดกลุ่มที่ร่วมเป็นเครือข่ายการลักลอบพาคนเข้าเมือง ซึ่งมีทั้ง คนพม่า คนโรฮีนจา คนไทย คนมาเลเซีย และคนอินโดนีเซียอย่างเด็ดขาด โดยใช้กฎหมายใหม่ของไทย คือ พระราชบัญญัติ ป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ อย่างเด็ดขาด เพราะคนพวกนี้เป็นต้นตอในการนำคนเหล้านี้ให้ลงทะเลข้ามมา และมาตกระกำลำบากอยู่ในเวลานี้ รัฐบาลต้องเอาจริงเอาจังในการปราบปรามและการกำจัดเจ้าหน้าที่ที่ทุจริต และเจ้าหน้าที่ต้องไม่เห็นแก่ได้ ต้องไม่รับเงิน และต้องจัดการปราบปรามอย่างจริงจัง ต้องกวาดล้างให้สิ้น เงินเล็กน้อยที่พวกนี้ได้มาจากการทุจริต แต่จะสร้างภาระให้ประเทศไทยไปชั่วลูกชั่วหลาน
กรณีนี้จึงเป็นการขัดกับความรู้สึกด้านมนุษยธรรมอย่างมาก เพราะมีชาวโรฮีนจาลอยคออยู่ แต่ไม่ประเทศไหนกล้าที่จะรับไว้ เว้นแต่ UN จะสามารถเจรจากับพม่าให้รับกลับคนเหล่านี้กลับไปอยู่ยังแผ่นดินเกิดของตนได้
วิเคราะห์แล้วก็เหนื่อยแทนครับ กับรัฐบาลคนที่ต้องแก้ปัญหาเหล่านี้ เพราะเป็นปัญหาที่ยากมาก เป็นปัญหาที่ไม่มีทางออก และเป็นปัญหาที่อังกฤษทิ้งไว้ให้เมื่อร้อยกว่าปีที่
แล้ว 

จริงๆ แล้วอังกฤษทิ้งปัญหาไว้ให้พม่าอีกหลายเรื่อง เรื่องหนึ่งที่มีผลต่อเนื่องจนเห็นได้ชัดคือเรื่องสนธิสัญญาปางหลวง ที่อังกฤษเข้ามาจัดการ จนทำให้พม่าต้องรบกับชนกลุ่มน้อยมา 70 กว่าปีแล้ว



ความเห็นของฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลเผด็จการที่ไม่ต้องการรับรู้เกี่ยวกับโรฮิงยา

ปัญหามุสลิมโรฮีนจา เผือกร้อนในหลายประเทศ ในภูมิภาค ผลพวงจากอังกฤษ ใช้ชาวโรฮีนจา เป็นทหารรับจ้าง ต่อสู้กับพม่า จนตกเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ รัฐบาลพม่าถึงได้แค้น และ ชิงชัง อีกทั้งอังกฤษ ส่งเสริมให้ชาวเบงกอล ที่อยู่ในดินแดนใกล้เคียง อพยพเข้าไปตั้งรกรากในดินแดนอาระกัน ในฐานะผู้ใช้แรงงานในฟาร์ม อังกฤษ ยกเลิกเขตแดนระหว่างเบงกอลและ อาระกัน ทำให้มีไม่ข้อจำกัด ในการอพยพระหว่างดินแดน
รัฐบาลพม่าไม่ยอมรับ ชาวโรฮีนจาเป็นประชาชนชาวพม่า โดยให้เหตุผลว่าประเทศพม่าเป็นเมืองพุทธ แต่ชาวโรฮีนจาเป็นคนอิสลาม และชาวโรฮีนจาส่วนใหญ่ ไม่ยอมใช้ภาษาพม่าในการสื่อสาร
การหนีออกจากค่ายผู้ลี้ภ้ยที่ Cox's Bazar เพราะมีการปล่อยข่าวว่า สามารถทำางานในไทยได้และทางการมาเลเซียจะให้ที่ทำกิน จึงทำให้มีการลักลอบเข้าประเทศ ทั้ง 2 มาก ที่ผ่านมามาเลเซียให้อยู่ชั่วตราว มีใบอนุญาตทำงานชั้นต่ำ ประเภท 3D or 5D jobs - “dirty, difficult and dangerous”, or with “domestic and dull” โดยหวังว่า UNHCR จะดูแลและจะออกเอกสารรับรองให้ สามารถขอผ่อนผัน ให้อยู่โดยไม่ต้องถูกจับกุม หรือส่งกลับมาตุภูมิ จนกว่าจะเดินทางไปประเทศที่สาม โดย UNHCR เป็นฝ่ายดำเนินการให้
องค์การระหว่างประเทศ ที่มีบทบาทต่อประเทศไทย ในประเด็นสิทธิมนุษยชนมากที่สุดคือ UNHCR รัฐบาลไทย ถูกกล่าวหาว่า ละเมิดสิทธิมนุษยชน ของคนไทยด้วยกัน จากกรณีเหตุการณ์ ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ จากการนำเสนอข่าว ที่บิดเบือนไปของสื่อต่างประเทศ บางสำนักในประเทศไทย
รัฐบาลไทยให้การช่วยเหลือ ชาวโรฮินจาตามหลักมนุษยธรรม แต่บนพื้นฐานหลักการ กลุ่มโรฮินจาเป็นผู้หลบหนีเข้าเมือง อย่างผิดกฎหมาย (Illegal migration) มิใช่ผู้หนีภัยจากการสู้รบ (Displaced person from fighting) และมิใช่เป็นผู้อพยพ/ลี้ภัย (Refugee) แนวทางปฏิบัติของทางการไทย จึงต้องเป็นไปตามกรอบกฎหมายของไทย ซึ่งทั้งหมด ก็จะถูกปฏิบัติเช่นเดียวกับผู้ที่ลักลอบหนีเข้าเมือง มาอย่างผิดกฎหมาย
การดำเนินการของไทย จะเป็นมาตรการสกัดกั้น ใน 2 ลักษณะ คือ กรณี ชาวโรฮินจาสามารถเข้าถึงแนวชายฝั่ง จะดำเนินการจับกุมโดยใช้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจ กองกำลังป้องกันชายแดน ทหารเรือ และตำรวจน้ำ ก่อนที่จะส่งมอบให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ดำเนินคดี และผลักดันต่อไป กรณี สามารถจับกุมได้ในขณะยังไม่ขึ้นฝั่ง จะใช้ วิธี การผลักดัน
แต่เนื่องจากการที่ชาว โรฮินจา ถูกปฏิเสธจากทางการพม่า และการส่งกลับแบบที่ เคยทำในช่วงเวลาก่อนปี 2555 ไม่ได้ถูกยอมรับจากรัฐบาลพม่า อีกต่อไปแล้ว และในปัจจุบัน การควบคุมภายใต้ ตม. นี้ ที่ทางรัฐบาลไทยได้ปฏิบัติไปนั้น ก็เพื่อรอการส่งต่อไป ยังรัฐชาติอื่น ๆ ที่ยอมรับสถานะ ของชาวมุสลิมโรฮินจา

วันพุธที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ปรากฎการณ์เรียงหน้ากระดานประจัญบานเกี่ยวกับ CP ที่คนไทยทุกคนต้องอ่าน

ปรากฎการณ์เรียงหน้ากระดานประจัญบาน..
จาก ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ เกี่ยวกับ CP ที่คนไทยทุกคนต้องอ่าน

ระบบการค้าที่ไร้จริยธรรมหวังเพียงผลกำไรนั้นจะทำลายสังคมไม่ต่างกับฝูงตั๊กแตนที่ลงกินไร่จนหมดแล้วบินจากไปกินไร่อื่นต่อ แต่ถ้าเป็นการค้าที่ไม่ได้ข้ามชาติแล้วยังใช้ระบบฝูงตั๊กแตนกินไร่ในการทำธุรกิจ ฝูงตั๊กแตนจะต้องอดตายไปพร้อมกับไร่นั้น

ซีพี ก็เช่นกัน ถ้ากินประเทศไทยจนหมดแล้วก็คงต้องตายไปพร้อมกับประเทศ เพราะ ซีพี เองเคยผันตัวเองออกไปทำธุรกิจข้ามชาติแล้วไปไม่รอด เพราะรัฐบาลประเทศนั้นๆต่างก็ดูแลไม่ให้เกิดการผูกขาดขึ้นในประเทศของตัวเอง ถ้าผิดจากแนวทางถนัดของ ซีพี ก็จะแข่งขันแบบเป็นธรรมกับใครไม่เป็น

เรื่องนี้ทำให้ผมนึกถึงประเทศแม็กซิโกและอาเจนติน่าที่โดนระบบการค้าทุนสูงเข้าถล่มอุตสาหกรรมเษตรของตัวเองจนล่มสลายมาแล้ว จนทำให้เกษตรกรกลายมาเป็นแรงงานราคาถูกไร้อนาคตจากอาชญากรรมทางเศรษฐกิจโดยอำนาจทุนที่เหนือกว่าเข้ากำหนดตลาดจนเกษตรกรรายย่อยอยู่ไม่ได้ หลายสิบปีผ่านไปทั้งชุมชนและวัฒนธรรมของประเทศเปลี่ยนไปแบบที่เรียกกลับมาเหมือนเดิมอีกไม่ได้ บ้านแตกสาแหรกขาด คนหนุ่มสาวในบ้านต้องออกไปขายแรงงานทิ้งเด็กและคนแก่ไว้ที่บ้านแทนที่จะทำการเกษตรเหมือนสมัยเก่าอยู่กันครบหน้ากับครอบครัว

มันคืออาชญากรรมทางเศรษฐกิจ โดยอำนาจทุนที่เหนือกว่าสมคบกับนักการเมืองที่ไม่ทำหน้าที่ปกป้องประชาชนของตัวเอง ทำลายรากฐานของประเทศจนสังคมดั่งเดิมของประชาชนอยู่ไม่ได้

ทุกวันนี้ประเทศไทยกับแม็กซิโกจะคล้ายกันที่สินค้าการเกษตรถูกคุมตลาดจากบริษัทที่ผูกขาด จนทำให้เกษตรกรกลายเป็นกรรมกรแรงงานบนที่ดินของตัวเอง เม็ดพันธุ์ แม่พันธุ์ ปุ๋ย อาหารสัตว์ ยาฆ่าแมลง จนถึงการบังคับทำสัญญาขายผลผลิตที่เกือบไม่เหลือเงินกำไร ขณะที่สังคมพื้นบ้านของเกษตรกรอ่อนแอลงไปทุกขณะ บริษัทผูกขาดก็กำไรมากขึ้นจนกลายเป็นบริษัทอันดับหนึ่งของประเทศที่รัฐบาลทุกรัฐบาลต้องเกรงใจ

ทั้งที่รัฐบาลเองก็สามารถออกกฎหมายผูกขาดทางการค้าออกมาใช้ปกป้องประชาชนได้ แต่ก็ไม่มีรัฐบาลไหนเลยที่ออกมาทำกฎหมายนี้เพื่อบังคับใช้เพื่อหยุดการปล้นประชาชนทั้งประเทศแบบผูกขาด

ในสังคมเมืองเองก็ใช่ว่าจะรอดพ้นจากการผูกขาดโดยบริษัทใหญ่แบบนี้ ในแม็กซิโกเองห้างสรรพสินค้าใหญ่อย่างวอลล์มาร์ทเข้าไปผูกขาดการค้าปลีกค้าส่งไปจนคลุมทั้งพื้นที่จนหมด ไม่ต่างอะไรกับที่ห้างสรรพสินค้าแคร์ฟูเข้าครองการค้าปลีกและส่งของอาเจนติน่า จนมีอำนาจผูกขาดโดยสมบูรณ์ที่สามารถกำหนดส่วนแบ่งทางกำไร 85%-15% ระหว่างห้างและเกษตรกรหรือผู้ค้าส่งสินค้าเข้าห้างจนเกษตรกรและผู้ค้ารายย่อยอยู่ไม่ได้

ทุกวันนี้สังคมเมืองของประเทศไทยก็ไม่ต่างกัน ผู้ค้ารายย่อยถึงกับต้องปิดตัวเองลงทั้งหมดเมื่อมีร้านสะดวกซื้อของ ซีพี เข้าไปตั้ง ซึ่งกินตลาดเข้าไประดับล่างจนถึงร้านอาหารที่ต้องสู้กับอาหารกล่อง ไปจนแม้แต่รถเข็นหมูปิ้งก็ยังต้องสะเทือนที่ร้านสะดวกซื้อของ ซีพี ก็ขายหมูปิ้งเช่นกัน แม้กระทั่งธุรกิจพื้นฐานแบบซักรีด ซีพี ก็เข้าไปจับตลาดในร้านสะดวกซื้ออีกแล้ว อุตสาหกรรมพื้นฐานหลายอย่างที่ส่งสินค้าเข้าไปขายก็โดนแย่งตลาดโดยมีของที่ห้างโลตัสและซีพี ผลิตติดตราของตัวเองออกมาแข่งบนหิ้งเดียวกันแต่ราคาถูกกว่า แล้วไล่สินค้ายี่ห้อดั่งเดิมออกไปวางที่หิ้งหลังร้านแท

เวลานี้ทั้ง เทสโก้โลตัส และ แม็กโคร ก็โดนซื้อจาก ซีพี ไปเรียบร้อยแล้วจะบอกว่าการค้าส่งและค้าปลีกเกือบทั้งประเทศ อยู่ในกำมือของบริษัทเดียวก็ว่าได้ การแข่งขันราคาสินค้าก็หมดไป จะตั้งราคาบวกกำไรอย่างไรก็ได้เพราะทุกอย่างอยู่ในมือหมดแล้วไม่ต่างกับแม็กซิโกและอาเจนติน่า นอกจากธุรกิจการสื่อสาร ผู้ให้บริการเครือข่า่ยโทรศัพท์นับล้านหมายเลข เคเบิลทีวีรายใหญ่ที่สุด เวลานี้ ซีพี บุกเข้าจับธุรกิจ ลอจิสติกส์ส่งของแข่งกับไปรษณีย์ไทย และกำลังจะมีธนาคารของตัวเองที่ทำธุรกรรมการเงินได้ในร้านสะดวกซื้อตลอด 24ชั่วโมง สามารถออกเครดิตการจับจ่ายได้จนถึงระดับล่าง และในเวลานี้กำลังมีความสนใจจะเข้าไปจับการลงทุนในระบบรถไฟระบบใหม่ที่กำลังจะสร้างอีก

ประเทศไทยยังเหลืออะไรอีก ตั้งแต่สังคมพื้นฐานเกษตรกรก็โดน ซีพี เข้าคุมกลไกทั้งหมดตั้งแต่ การผลิต การตลาด ทั้งซื้อและขาย จนเกษตรกรกลายเป็นกรรมกรราคาถูกรับจ้างปลูกหรือผลิตในที่ดินของตัวเอง สังคมพื้นฐานในเมืองก็โดนแทรกแซงการค้าปลีกจนไม่เหลือร้านค้าปลีกประจำถิ่นอีกต่อไปแล้ว สังคมพื้นฐานอุตสาหกรรมการผลิตรายย่อยก็โดนแทรกแซงจากการกีดกันสินค้า ลอกเลียนสินค้าออกขายแข่ง แม้กระทั่ง ถล่มราคาขายถูกกว่าทุนจนรายย่อยอยู่ไม่ได้ แล้วก็ขึ้นราคากลับสู่ปกติเมื่อไร้คู่แข่งแล้ว